ในฐานะที่ปั่นจักรยานตลอด ปั่นไปทำงาน ปั่นออกกำลังบ้าง ไปธุระบ้าง ปั่นไปสถานที่ต่างๆ ทั้งใกล้ไกล ออกต่างจังหวัดบ้าง ปั่นเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนทั้งทริปกลางวันและกลางคืน ผมสังเกตุว่าคนที่ขับรถส่วนหนึ่งก็จะระมัดระวังคนปั่นจกย ในฐานะผู้ใช้ถนนร่วมกัน มีทั้งระวังเพราะมีจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนน หรือระวังเพราะไม่อยากจะเดือดร้อน กลัวรถยนต์ตัวเองจะเสียหาย กลัวจะต้องเสียเงินเสียทอง แต่ก็ยังดีครับ
แล้วก็จะมีคนใช้รถใช้ถนนอีกประเภทที่ไม่สนใจอะไรเลย คิดว่าจกย เป็นส่วนเกินที่ไม่ควรมาอยู่บนถนนร่วมกับรถของเค้า คิดว่าจกย ทำให้ตัวเองช้า เกะกะ เป็นทัศนอุจาดบนท้องถนนหรืออาจจะมองว่าจกย เป็นพาหนะของคนจน ไม่มีปัญญาซื้อรถเก๋งราคาแพงมาติดบนถนน

- เวลาคุณขับรถ ถ้าเป็นไปได้ในกรณีที่จำเป็นจะต้องแซงจักรยาน อยากให้แซงด้วยความระมัดระวัง ช้าๆ ไม่ต้องโชว์ออฟไม่ต้องดริฟต์ก็จะดีมากครับ อย่างน้อยคนที่ปั่นเขาจะรู้ตัวว่ามีรถกำลังผ่านไป จะได้ประคองให้รถนิ่ง มันไม่เหมือนมอเตอร์ไซค์ จะคิดว่าจกย ต้องปั่นเป็นเส้นตรงตลอดไม่ได้ ถ้าจังหวะที่คุณขับแซงอย่างรวดเร็วเป็นช่วงที่เขาเจอตะแกรง เจอร่อง เจอหลุม เขาอาจเบี่ยงรถหลบ
คนที่ปั่นจกย ไม่ได้เหมือนกันทุกคน
- อย่าบีบแตรดังๆ ใส่ ถ้าจะเตือนก็บีบแตรสั้นๆ บางคนจะตกใจเสียงแตรรถยนต์
- ควรเข้าใจธรรมชาติของคนปั่นจกย เพื่อประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า มันก็เหมือนกับคุณควรทำกับรถทุกประเภท คนปั่นบางคนก็สามารถใช้สัญญานมือ บางคนอาจจะเอี้ยวมอง หรือมองทางกระจก แต่บางคนอาจจะไม่ทำแบบนั้น คือต้องเว้นระยะปลอดภัยเสมอ
- มอเตอร์ไซค์ไม่ควรแซงซ้ายจักรยานเด็ดขาดเพราะจกย จะพยายามปั่นชิดขอบทาง ยิ่งเวลาทางแยกทางร่วม
- รถและมอเตอร์ไซค์ไม่ควรใช้ไหล่ทางเพื่อแซง หรือเปิดเป็นเลนพิเศษเวลารถติด

ที่สำคัญ ควรมีน้ำใจให้กับคนอื่น ไม่ว่าจะใช้พาหนะอะไร รวมทั้งคนเดินถนนด้วย

ผมเจอรถแท็กซี่ไม่ยอมหยุดให้ข้ามทั้งที่ผมลงจูงจกย ข้ามทางม้าลาย ไฟเขียวให้ข้าม ส่วนทางของไอ้แท็กซี่น่ะไฟแดงโร่ แต่รถมันไม่ยอมชะลอ พอถึงทางเลี้ยวก็พุ่งตรงไปเลย ผมต้องดึงรถถอยกลับมาทั้งที่จะถึงฟุตปาทอยู่แล้ว เหตุเกิดที่ทางม้าลายระหว่าง รร จิตรลดา(สำนักพระราชวัง) ข้ามมาฝั่งสวนจิตรฯ เกือบจะชนผม