เรื่องจะยาวหน่อยนะคะ
บ้านที่เราอยู่เป็นบ้านที่มีญาติพี่น้องอยู่รวมกัน คือบ้านหลังนี้เกิดจากยป้าของพ่อ คือย่าของเราสร้างไว้ให้ลูกหลานอยู่ด้วยกัน
เรื่องมันมีอยู่ว่าในบ้านหลังนี้มีคนอยู่ประมาน 15 คนคือแยกเป็นห้องๆไป
เรามีสองห้องคือห้องพ่อแม่เราและห้องเรา ซึ่งอยู่ชั้นบน ชีวิตก็ดำเนินมาเรื่อยๆ จนวันนึง
ครอบครัวของลุงที่อยู่ในบ้านหลังนี้ (เป็นลูกของย่าคนที่สร้างบ้านหลังนี้มา) ลุงมีภรรยามีลูกสองคนผู้ชายทั้งคู่
ตอนนี้ลูกของลุงแต่งงานแล้วทั้งคู่ค่ะ คนโตจะแยกออกจากบ้านนี้แต่ยังกลับมานอนที่บ้านนี้บ่อยๆ ส่วนคนเล็กมีครอบครัวและอยู่ที่นี้เลยค่ะ
เราของอธิบายนะคะครอบครัวลุงจะมีห้องสามห้องคือห้องลุง ห้องของลูกชายคนโตตอนแรกอยู่ด้วยกันกับลูกชายคนเล็กแต่ตอนนี้แยกออกมาเพราะมีครอบครัวซึ่งจะอยู่ชั้นบน
จนสี่ห้าปีที่ผ่านมาลูกชายคนเล็กของลุงมีลูกสองคนผู้หญิงคนนึงผู้ชายคนนึง เด็กสองคนนี้ดื้อมากดื้อจนเราไม่ชอบค่ะ พูดอะไรไม่ฟัง ร้องไห้งอแง ทุกครั้งที่ต้องตื่นไปโรงเรียน ตอนตื่นก็ร้องร้องไม่ฟังใครบางทีตีหนึ่งตีสองเราสะดุ้งตื่น และแม่มาเล่าให้ฟังตอนเช้าว่าพ่อกับแม่นอนไม่ได้เลย ตัวเราเองก็เฉยๆกับเด็กนะแต่แบบพอเจอเด็กสองคนนี้นี้เรารับไม่ได้เลยอ่ะคะ เมื่อกี้เราบอกไปเน๊อะว่าห้องลูกชายคนเล็กของลุงอยู่ชั้นสองชั้นหนึ่งด้านล่างคือห้องของพ่อกับแม่เราค่ะ ด้วยความที่ชั้นสองเป็นไม้ทำอะไรชั้นล่างจะได้ยินหมด เด็กสองคนนี้พ่อแม่เลี้ยงแบบไม่ตีค่ะ ปู่ย่าก็จะไม่ตีเช่นเดียวกัน เวลาเดินขึ้นบ้านทั้งสองคนจะกระทืบเท้าดังมาก เราเคยลองนอนอยู่ตรงที่พ่อกับแม่แล้วฟัง โอโห้ คือถ้าจะไม่ตีลูกทำไมไม่สั่งสอนลูกว่าอะไรควรไม่ควร คนนึงอนุบาลสองอีกคนนึงอนุบาลหนึ่งค่ะ เราพูดอะไรเค้าก็จะพูดแบร่ๆ ล้อเลียนเสมอๆ แถมยังมีบางครั้งชี้หน้าแม่เราด้วยค่ะ เราเหลืออดกับเด็กสองคนนี้มากเลยค่ะทำอะไรจะไม่รู้จักเกรงใจคือไม่เกรงใจกันทั้งครอบครัวอ่ะค่ะ
มาว่ากันเรื่องภายในบ้านไฟมีกี่ดวงเปิดหมดเปิดได้นะแต่ไม่รู้ทำไมปิดไม่ได้เรางงใจ
บ้านเรามีเราสามคน แต่คือต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟเท่ากับบ้านเค้าที่มีกันอยู่ 7 คน อันนี้เราไม่ได้ติดใจอะไรค่ะเรื่องที่จ่ายเท่ากันเพราะมันบ้านของแม่ลุง แต่ทำไมไม่ช่วยกันประหยัด เสื้อผ้านี้ก็รีดทีละชุด สองชุด แล้วรีดทุกวันค่าไฟนี้ไม่ต้องพูดถึง เราเห็นอย่างงี้มาตั้งแต่เราจำความได้จนตอนนี้เรา 24 แล้วเค้าก็ยังคงทำแบบเดิม เอาจริงๆเราก็เหมือนคนอาศัย ย่าบอกเราเสมอว่าเราคือหลานนะอย่าไปคิดเป็นอื่น เราคือคนในบ้านนี้ แต่การกระทำของลูกหลานย่าทำให้เราต้องคิดไปแบบนั้นว่าเราเป็นคนอาศัย เราใช้คำว่าอดทนเสมอๆ เพราะพ่อกับแม่บอกเราว่า ถ้ายังไม่ได้ยายออกไปก็ต้องทำใจ คือเราวางแผนไว้แล้วแหละว่าจะซื้อบ้าน แต่เราคนเดียวกว่าจะกู้ผ่านก็ต้องใช้เวลา เราเลยอยากหาวิธีที่เราพ่อแม่จะอยู่อย่างสงบสุข หรือวิธีที่จะทำให้คนพวกนั้นคิดได้บ้างค่ะ
ปล1 เราไม่ใช่คนดีไม่ใช่คนเก่งแต่เรารักและหวงพ่อแม่ของเรามากคะ
ปล2 คนที่บ้านจะไม่ค่อยมีใครชอบเราค่ะเพราะเราเป็นคนที่ไม่เก็บพูดต่อหน้าและเสียงดัง จนบางทีตรงจนเค้ารับความจริงที่เราพูดไม่ได้ค่ะ
แก้ปัญหาอย่างไรหากเจอเด็กที่ไม่มีการอบรมและผู้ใหญ่ที่ไม่มีความเกรงใจ
บ้านที่เราอยู่เป็นบ้านที่มีญาติพี่น้องอยู่รวมกัน คือบ้านหลังนี้เกิดจากยป้าของพ่อ คือย่าของเราสร้างไว้ให้ลูกหลานอยู่ด้วยกัน
เรื่องมันมีอยู่ว่าในบ้านหลังนี้มีคนอยู่ประมาน 15 คนคือแยกเป็นห้องๆไป
เรามีสองห้องคือห้องพ่อแม่เราและห้องเรา ซึ่งอยู่ชั้นบน ชีวิตก็ดำเนินมาเรื่อยๆ จนวันนึง
ครอบครัวของลุงที่อยู่ในบ้านหลังนี้ (เป็นลูกของย่าคนที่สร้างบ้านหลังนี้มา) ลุงมีภรรยามีลูกสองคนผู้ชายทั้งคู่
ตอนนี้ลูกของลุงแต่งงานแล้วทั้งคู่ค่ะ คนโตจะแยกออกจากบ้านนี้แต่ยังกลับมานอนที่บ้านนี้บ่อยๆ ส่วนคนเล็กมีครอบครัวและอยู่ที่นี้เลยค่ะ
เราของอธิบายนะคะครอบครัวลุงจะมีห้องสามห้องคือห้องลุง ห้องของลูกชายคนโตตอนแรกอยู่ด้วยกันกับลูกชายคนเล็กแต่ตอนนี้แยกออกมาเพราะมีครอบครัวซึ่งจะอยู่ชั้นบน
จนสี่ห้าปีที่ผ่านมาลูกชายคนเล็กของลุงมีลูกสองคนผู้หญิงคนนึงผู้ชายคนนึง เด็กสองคนนี้ดื้อมากดื้อจนเราไม่ชอบค่ะ พูดอะไรไม่ฟัง ร้องไห้งอแง ทุกครั้งที่ต้องตื่นไปโรงเรียน ตอนตื่นก็ร้องร้องไม่ฟังใครบางทีตีหนึ่งตีสองเราสะดุ้งตื่น และแม่มาเล่าให้ฟังตอนเช้าว่าพ่อกับแม่นอนไม่ได้เลย ตัวเราเองก็เฉยๆกับเด็กนะแต่แบบพอเจอเด็กสองคนนี้นี้เรารับไม่ได้เลยอ่ะคะ เมื่อกี้เราบอกไปเน๊อะว่าห้องลูกชายคนเล็กของลุงอยู่ชั้นสองชั้นหนึ่งด้านล่างคือห้องของพ่อกับแม่เราค่ะ ด้วยความที่ชั้นสองเป็นไม้ทำอะไรชั้นล่างจะได้ยินหมด เด็กสองคนนี้พ่อแม่เลี้ยงแบบไม่ตีค่ะ ปู่ย่าก็จะไม่ตีเช่นเดียวกัน เวลาเดินขึ้นบ้านทั้งสองคนจะกระทืบเท้าดังมาก เราเคยลองนอนอยู่ตรงที่พ่อกับแม่แล้วฟัง โอโห้ คือถ้าจะไม่ตีลูกทำไมไม่สั่งสอนลูกว่าอะไรควรไม่ควร คนนึงอนุบาลสองอีกคนนึงอนุบาลหนึ่งค่ะ เราพูดอะไรเค้าก็จะพูดแบร่ๆ ล้อเลียนเสมอๆ แถมยังมีบางครั้งชี้หน้าแม่เราด้วยค่ะ เราเหลืออดกับเด็กสองคนนี้มากเลยค่ะทำอะไรจะไม่รู้จักเกรงใจคือไม่เกรงใจกันทั้งครอบครัวอ่ะค่ะ
มาว่ากันเรื่องภายในบ้านไฟมีกี่ดวงเปิดหมดเปิดได้นะแต่ไม่รู้ทำไมปิดไม่ได้เรางงใจ
บ้านเรามีเราสามคน แต่คือต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟเท่ากับบ้านเค้าที่มีกันอยู่ 7 คน อันนี้เราไม่ได้ติดใจอะไรค่ะเรื่องที่จ่ายเท่ากันเพราะมันบ้านของแม่ลุง แต่ทำไมไม่ช่วยกันประหยัด เสื้อผ้านี้ก็รีดทีละชุด สองชุด แล้วรีดทุกวันค่าไฟนี้ไม่ต้องพูดถึง เราเห็นอย่างงี้มาตั้งแต่เราจำความได้จนตอนนี้เรา 24 แล้วเค้าก็ยังคงทำแบบเดิม เอาจริงๆเราก็เหมือนคนอาศัย ย่าบอกเราเสมอว่าเราคือหลานนะอย่าไปคิดเป็นอื่น เราคือคนในบ้านนี้ แต่การกระทำของลูกหลานย่าทำให้เราต้องคิดไปแบบนั้นว่าเราเป็นคนอาศัย เราใช้คำว่าอดทนเสมอๆ เพราะพ่อกับแม่บอกเราว่า ถ้ายังไม่ได้ยายออกไปก็ต้องทำใจ คือเราวางแผนไว้แล้วแหละว่าจะซื้อบ้าน แต่เราคนเดียวกว่าจะกู้ผ่านก็ต้องใช้เวลา เราเลยอยากหาวิธีที่เราพ่อแม่จะอยู่อย่างสงบสุข หรือวิธีที่จะทำให้คนพวกนั้นคิดได้บ้างค่ะ
ปล1 เราไม่ใช่คนดีไม่ใช่คนเก่งแต่เรารักและหวงพ่อแม่ของเรามากคะ
ปล2 คนที่บ้านจะไม่ค่อยมีใครชอบเราค่ะเพราะเราเป็นคนที่ไม่เก็บพูดต่อหน้าและเสียงดัง จนบางทีตรงจนเค้ารับความจริงที่เราพูดไม่ได้ค่ะ