วันนี้พามากันที่ ร้านกาแฟ น่ารักๆ ออกแนวศิลป์อาร์ทๆ ทันสมัย แถวข้าวสาร.... ร้าน D.E.D Thailand เป็นร้านกาแฟ ที่อยู่ในตึกเดียวกับหอสมุดกรุงเทพมหานคร ในร้านมีทางเชื่อมเข้าไปยังหอสมุดกรุงเทพฯด้วยค่ะ แต่เขาจะแยกส่วนกันขัดเจน เอาละ วันนี้มาบุกถึงที่ร้าน เราจะมีเมนูอะไรมาแนะนำบ้างมาดูกันค่ะ
ใครไปที่หอสมุดกรุงเทพมหานคร Bangkok City Library ก็จะเห็นตึกสีเหลืองๆ หน้าร้านอยู่ติดกับถนนเส้นหลักเลยค่ะ สักเกตง่ายมากๆ
บรรยากาศเมื่อเปิดประตูร้านเข้ามาก็จะเจอกับงานศิลปะชิ้นใหญ่ในร้าน ที่เป็นการเพ้นผนังถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นงานศิลปะของนักออกแบบภาพประกอบที่ชื่อ Suntur ดูจากภาพและสีแล้ว ทำให้รู้สึกสนุกสาน และทันสมัย
เมนู : ช็อคโกแลตลาวา+ไอศครีมวนิลา กับ มอคค่าเย็น เซตนี้ ไม่เข้มข้นเราไม่นอนกันเลยทีเดียว ขอโทษจริงๆที่ถ่ายรูปช่วงลาวาไหลเยิ้มมาให้ดูไม่ทันค่ะ ตอนแรกกะะไปชิวๆ พอเจอเมนูเซตแรกกลับตั้งหน้าตั้งตากินเฉยเลย
เมนู : สังขยาซ่อนแอบ (ราคา 50 .-) แอบความอร่อย สมชื่อสำหรับเมนูนี้ค่ะขนมปังนุ่มฟู ทีเด็ดที่ชอบคือเนื้อสังขยาใบเตยด้านใน หวานมันกลืนไปแล้วกลิ่นยังติดลิ้นอยู่ เมนูนี้หมดภายใน 3 นาที กินคนเดียวด้วย5555
เมนู : เด็ด เสือสิ้นลาย หมู (ราคา 99 .-) จริงๆแล้วร้าน D.E.D ย่อมาจาก Delicious Extraordinary Dough หรือ แป้งสูตรพิเศษ แสนอร่อยที่หาทานได้เฉพาะร้าน D.E.D ที่เดียวเท่านั้น
โดยแป้งขนมปังสูตรของเด็ดนี้ เป็นแป้งขนมปังที่ที่มีการผสมสูตรกันของ 2 สัญชาติคือ แป้งบิออชจาก ฝรั่งเศส กับ แป้งครัวซองต์ แล้วผสมผสานกับความเป็นไทยด้วยหน้าต่างๆ เช่น หน้ากระเพราะ มัสมั่น
เมนู : ริมฝีปากแห่งฤดูคิมหันต์ (ราคา 50 -) เครื่องดื่มนี้ชอบตั้งแต่สั่งเมนูแล้วล่ะค่ะ และรอลุ้นว่าจะออกมาแบบไหน อะไร ยังไง ผลออกมาปรากฏว่า 10 10 10 ไปเลยจ้า ตัดเลี่ยนได้ดีทีเดียว หอมเชอรี่ เปรี้ยวๆซ่าส์ๆ ใครมีโอกาสไป แนะนำสั่งมาทานคูกับขนมหวาน รับรองไม่ผิดหวัง
อย่างที่เราเห็นว่าภายในร้านเค้าตกแต่งให้ออกมาเป็นแนวสนุกสาน ผ่อนคลาย ก็มีหลายๆโซนให้เลือกนั่งค่ะ อย่างมุมนี้ส่วนมากคนก็จะมานั่งทำงานเดี่ยวๆ เงียบๆ พักสายตาด้วยการนั่งมองความเคลื่อนไหวของกรุงเทพมหานคร เพลินดีนะคะ
จุดนี้แหละค่ะที่บอกว่าเป็นทางเชื่อม สามารถเดินทางไปอ่านหนังสือ หาความรู้ได้ที่หอสมุดกรุงเทพฯได้ ผ่านทางเชื่อมตรงนี้ แต่ต้องใช้บัตรแสกนเข้าถึงจะผ่านได้นะคะ
ค่าเสียหายวันนี้เก็บบิลได้เซ็ตแรก เซ็ตเดียว หมดไปไม่ถึง 200 บาท ส่วนเมนูอื่นๆมีผู้สนับสนุนตามมาเลยไม่ได้เก็บบิลไว้ แต่ถึงยังไงเราก็ว่าราคาอาหารเหมาะสมกับค่าเสียหาย จริงๆแล้วเราไปนั่งร้านวันนี้ ได้ไอเดียงานกลับมาเยอะเหมือนกัน เพราะมันรู้สึกผ่อนคลายแบบสนุก แตกต่างกับร้านกาแฟบางแห่งที่รู้สึกผ่อนคลายแบบอยากนอนหลับ
มุมหมอนสามเหลี่ยมแห่งการผ่อนคลาย (อันนี้เราตั้งเอง55) ก็มุมนี้ปกติคนจะเต็มเลย เพราะมันผ่อนคลายและบอกอีกอย่างมุมนี้เหมาะสำหรับไปส่องต่างชาติกินขนมแบบฟินx8 ด้วยความหมอนไทย และต่างชาติมาเดินข้าวสาร พอเค้าเข้ามาเจอหมอนไทยอเมซิ่ง จึงไม่พลาดที่จะสัมผัสบรรยากาศแบบไทยๆที่มุมนี้
ปิดท้ายกันด้วยมุมของโต๊ะกลางร้าน ที่สาดเข้าไปถึงงานศิลป์บนผนัง จริงๆอยากเรารูปที่นั่งถ่ายมุมนี้มาลง แต่เกรงว่าจะโดนเม้นว่าทำภาะเสียบรรยากาศ 555 ส่วนตัวเป็นมุมที่สวยและชอบที่สุดเลยขอเอามาเป็นภาพปิดท้าย
อย่าลืมนะคะ ใครผ่านไปแถวข้าวสาร หรือใครอยู่หอสมุดกรุงเทพมหานครแล้วท้องว่างอยากทานอาหารว่างรสชาตละมุนๆ แวะไปที่นี่ได้เลยค่ะ
[CR] D.E.D Thailand นั่งทำงาน พบป่ะ พูดคุย และอิ่มท้อง
ใครไปที่หอสมุดกรุงเทพมหานคร Bangkok City Library ก็จะเห็นตึกสีเหลืองๆ หน้าร้านอยู่ติดกับถนนเส้นหลักเลยค่ะ สักเกตง่ายมากๆ
บรรยากาศเมื่อเปิดประตูร้านเข้ามาก็จะเจอกับงานศิลปะชิ้นใหญ่ในร้าน ที่เป็นการเพ้นผนังถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นงานศิลปะของนักออกแบบภาพประกอบที่ชื่อ Suntur ดูจากภาพและสีแล้ว ทำให้รู้สึกสนุกสาน และทันสมัย
เมนู : ช็อคโกแลตลาวา+ไอศครีมวนิลา กับ มอคค่าเย็น เซตนี้ ไม่เข้มข้นเราไม่นอนกันเลยทีเดียว ขอโทษจริงๆที่ถ่ายรูปช่วงลาวาไหลเยิ้มมาให้ดูไม่ทันค่ะ ตอนแรกกะะไปชิวๆ พอเจอเมนูเซตแรกกลับตั้งหน้าตั้งตากินเฉยเลย
เมนู : สังขยาซ่อนแอบ (ราคา 50 .-) แอบความอร่อย สมชื่อสำหรับเมนูนี้ค่ะขนมปังนุ่มฟู ทีเด็ดที่ชอบคือเนื้อสังขยาใบเตยด้านใน หวานมันกลืนไปแล้วกลิ่นยังติดลิ้นอยู่ เมนูนี้หมดภายใน 3 นาที กินคนเดียวด้วย5555
เมนู : เด็ด เสือสิ้นลาย หมู (ราคา 99 .-) จริงๆแล้วร้าน D.E.D ย่อมาจาก Delicious Extraordinary Dough หรือ แป้งสูตรพิเศษ แสนอร่อยที่หาทานได้เฉพาะร้าน D.E.D ที่เดียวเท่านั้น
โดยแป้งขนมปังสูตรของเด็ดนี้ เป็นแป้งขนมปังที่ที่มีการผสมสูตรกันของ 2 สัญชาติคือ แป้งบิออชจาก ฝรั่งเศส กับ แป้งครัวซองต์ แล้วผสมผสานกับความเป็นไทยด้วยหน้าต่างๆ เช่น หน้ากระเพราะ มัสมั่น
เมนู : ริมฝีปากแห่งฤดูคิมหันต์ (ราคา 50 -) เครื่องดื่มนี้ชอบตั้งแต่สั่งเมนูแล้วล่ะค่ะ และรอลุ้นว่าจะออกมาแบบไหน อะไร ยังไง ผลออกมาปรากฏว่า 10 10 10 ไปเลยจ้า ตัดเลี่ยนได้ดีทีเดียว หอมเชอรี่ เปรี้ยวๆซ่าส์ๆ ใครมีโอกาสไป แนะนำสั่งมาทานคูกับขนมหวาน รับรองไม่ผิดหวัง
อย่างที่เราเห็นว่าภายในร้านเค้าตกแต่งให้ออกมาเป็นแนวสนุกสาน ผ่อนคลาย ก็มีหลายๆโซนให้เลือกนั่งค่ะ อย่างมุมนี้ส่วนมากคนก็จะมานั่งทำงานเดี่ยวๆ เงียบๆ พักสายตาด้วยการนั่งมองความเคลื่อนไหวของกรุงเทพมหานคร เพลินดีนะคะ
จุดนี้แหละค่ะที่บอกว่าเป็นทางเชื่อม สามารถเดินทางไปอ่านหนังสือ หาความรู้ได้ที่หอสมุดกรุงเทพฯได้ ผ่านทางเชื่อมตรงนี้ แต่ต้องใช้บัตรแสกนเข้าถึงจะผ่านได้นะคะ
ค่าเสียหายวันนี้เก็บบิลได้เซ็ตแรก เซ็ตเดียว หมดไปไม่ถึง 200 บาท ส่วนเมนูอื่นๆมีผู้สนับสนุนตามมาเลยไม่ได้เก็บบิลไว้ แต่ถึงยังไงเราก็ว่าราคาอาหารเหมาะสมกับค่าเสียหาย จริงๆแล้วเราไปนั่งร้านวันนี้ ได้ไอเดียงานกลับมาเยอะเหมือนกัน เพราะมันรู้สึกผ่อนคลายแบบสนุก แตกต่างกับร้านกาแฟบางแห่งที่รู้สึกผ่อนคลายแบบอยากนอนหลับ
มุมหมอนสามเหลี่ยมแห่งการผ่อนคลาย (อันนี้เราตั้งเอง55) ก็มุมนี้ปกติคนจะเต็มเลย เพราะมันผ่อนคลายและบอกอีกอย่างมุมนี้เหมาะสำหรับไปส่องต่างชาติกินขนมแบบฟินx8 ด้วยความหมอนไทย และต่างชาติมาเดินข้าวสาร พอเค้าเข้ามาเจอหมอนไทยอเมซิ่ง จึงไม่พลาดที่จะสัมผัสบรรยากาศแบบไทยๆที่มุมนี้
ปิดท้ายกันด้วยมุมของโต๊ะกลางร้าน ที่สาดเข้าไปถึงงานศิลป์บนผนัง จริงๆอยากเรารูปที่นั่งถ่ายมุมนี้มาลง แต่เกรงว่าจะโดนเม้นว่าทำภาะเสียบรรยากาศ 555 ส่วนตัวเป็นมุมที่สวยและชอบที่สุดเลยขอเอามาเป็นภาพปิดท้าย
อย่าลืมนะคะ ใครผ่านไปแถวข้าวสาร หรือใครอยู่หอสมุดกรุงเทพมหานครแล้วท้องว่างอยากทานอาหารว่างรสชาตละมุนๆ แวะไปที่นี่ได้เลยค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น