King power นำผ้าไทยย้อมคราม บุกตลาดโลก !!!
ปล่อยของเด็ดอีกแล้วสำหรับ “คิงเพาเวอร์” เจ้าของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ อดีตแชมป์พรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ ได้ออกของที่ระลึกสโมสร ไม่ว่าจะเป็น เสื้อ ,หมวก ,ผ้าพันคอ ,กระเป๋า แต่ละอย่างล้วนมาจาก “ผ้าย้อมสีคราม” ซึ่งเป็นสีย้อมผ้าที่มีประวัติความเป็นมา ยาวนานกว่า 6,000 ปี โดยฝีมือคนไทย
โครงการที่เรียกว่า “ผ้าย้อมคราม” ของที่ระลึกสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ไม่ใช่ทำได้ง่าย ๆ เพราะทางคิงเพาเวอร์ ได้มอบหมายให้ทีมดีไซน์เนอร์คนไทย 3 คน ประกอบไปด้วย สิริภัทรา สมนันท์ SM PRODUCT DESIGN (LCFC) ,ดาดลิน นิ่มสมบุญ Senior Officer Product Designer (LCFC) ,ชวลิต วิรุฬห์ธนวง Senior Officer Product Designer (LCFC) เดินทางไปที่บ้านนาขาม จังหวัดสกลนคร สถานที่เป็นต้นกำเนิดสีย้อมคราม ของประเทศไทย ซึ่งในพื้นที่นี้ใส่เสื้อผ้าสีคราม กันแทบทุกคน โดยทีมดีไซเนอร์ได้เห็นผ้าคราม หลากหลายลวดลาย แต่ละผืนใช้เทคนิคการย้อมที่แตกต่างกันไป รวมถึงผ้าครามที่ผ่านการทอให้เกิดลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์
นายอำนาจ สุนาพรม อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เป็นผู้ให้รายละเอียดว่า วิธีการได้มาซึ่งสีครามนั้น นำมาจากต้นคราม ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ทั้งต้นมีแต่สีเขียว แล้วใช้น้ำฝน แช่ทิ้งไว้ 1 คืน ก็จะได้น้ำที่มีเม็ดสีออกมา จากนั้นใช้ปูนแดงให้จับโมเลกุล มาเกาะกับเม็ดสี แต่ก็ยังใช้ย้อมไม่ได้อีก เพราะตัวที่เกิดสี คือ จุลินทรีย์ ต้องเอาไปเลี้ยง เรียกว่า “การเลี้ยงคราม” โดยต้องให้อาหารของจุลินทรีย์ มีอาหารโปรดคือ น้ำฝน กล้วย และ เหล้า เมื่อดูจากภายนอกหากมีฟอง แสดงว่าได้ที่แล้ว สีที่ออกมาจะเป็นสีเหลืองสุก
ส่วนวิธีการย้อมผ้าคราม จะมีวิธีแบบโบราณ คือ การม้วน มัด จุ่ม ซึ่งแต่ละวิธีจะมีลวดลายแตกต่างกัน โดยความมหัศจรรย์ของสีคราม คือ จากน้ำสีเหลืองสุก จะกลายเป็นสีฟ้า เมื่อมันทำปฏิกิริยาเคมี (Oxidation) กับอากาศ
ขณะที่ นายเจษฏา กัลยาบาล ตัวแทนประสานงานระหว่าง คิงเพาเวอร์ กับชุมชน กล่าวว่า วิธีการเป็นผ้าที่ออกแบบสำหรับสมัยใหม่ แต่ชุมชนยังทอผ้าด้วยวิธีโบราณอยู่ มันเลยกลายเป็นความร่วมมือระหว่างคนปัจจุบันกับคนอดีตมาจอยกัน
จากภูมิปัญญาท้องถิ่นนำมาผสมผสานกับการ มาตัดเย็บที่ประณีต จึงเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสู่สายตาชาวโลก
อาจารย์ธัญญลักษณ์ ทวีกิตติพันธ์ ครูช่างศิลป์หัตกรรม ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ กล่าวว่า “โจทย์ที่คิงเพาเวอร์ให้มาท้าทายมาก เราได้ใส่ไอเดีย... ใส่ใจ... ในทุก ๆ ชิ้นงาน ก็..ภูมิใจในชิ้นงานที่ส่งไป...”
ด้าน คุณยายสำหรัด สุนาพรหม ประธานกลุ่มทอผ้าฝ้ายย้อมคราม บ้านนาขาม กล่าวด้วยรอยยิ้มส่งท้ายเป็นภาษาอีสาน ว่า “ดีใจที่สงไปถึงอังกฤษแล้วนะ คือไม่นึก ไม่ฝัน ดีใจมาก”
อ่านมาจากเพจ 1morenews
อยากทราบว่า ผ้าย้อมคราม ของ เลสเตอร์ ซิตี้ มีขายในเมืองไทยหรือไม่?
ปล่อยของเด็ดอีกแล้วสำหรับ “คิงเพาเวอร์” เจ้าของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ อดีตแชมป์พรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ ได้ออกของที่ระลึกสโมสร ไม่ว่าจะเป็น เสื้อ ,หมวก ,ผ้าพันคอ ,กระเป๋า แต่ละอย่างล้วนมาจาก “ผ้าย้อมสีคราม” ซึ่งเป็นสีย้อมผ้าที่มีประวัติความเป็นมา ยาวนานกว่า 6,000 ปี โดยฝีมือคนไทย
โครงการที่เรียกว่า “ผ้าย้อมคราม” ของที่ระลึกสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ไม่ใช่ทำได้ง่าย ๆ เพราะทางคิงเพาเวอร์ ได้มอบหมายให้ทีมดีไซน์เนอร์คนไทย 3 คน ประกอบไปด้วย สิริภัทรา สมนันท์ SM PRODUCT DESIGN (LCFC) ,ดาดลิน นิ่มสมบุญ Senior Officer Product Designer (LCFC) ,ชวลิต วิรุฬห์ธนวง Senior Officer Product Designer (LCFC) เดินทางไปที่บ้านนาขาม จังหวัดสกลนคร สถานที่เป็นต้นกำเนิดสีย้อมคราม ของประเทศไทย ซึ่งในพื้นที่นี้ใส่เสื้อผ้าสีคราม กันแทบทุกคน โดยทีมดีไซเนอร์ได้เห็นผ้าคราม หลากหลายลวดลาย แต่ละผืนใช้เทคนิคการย้อมที่แตกต่างกันไป รวมถึงผ้าครามที่ผ่านการทอให้เกิดลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์
นายอำนาจ สุนาพรม อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เป็นผู้ให้รายละเอียดว่า วิธีการได้มาซึ่งสีครามนั้น นำมาจากต้นคราม ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ทั้งต้นมีแต่สีเขียว แล้วใช้น้ำฝน แช่ทิ้งไว้ 1 คืน ก็จะได้น้ำที่มีเม็ดสีออกมา จากนั้นใช้ปูนแดงให้จับโมเลกุล มาเกาะกับเม็ดสี แต่ก็ยังใช้ย้อมไม่ได้อีก เพราะตัวที่เกิดสี คือ จุลินทรีย์ ต้องเอาไปเลี้ยง เรียกว่า “การเลี้ยงคราม” โดยต้องให้อาหารของจุลินทรีย์ มีอาหารโปรดคือ น้ำฝน กล้วย และ เหล้า เมื่อดูจากภายนอกหากมีฟอง แสดงว่าได้ที่แล้ว สีที่ออกมาจะเป็นสีเหลืองสุก
ส่วนวิธีการย้อมผ้าคราม จะมีวิธีแบบโบราณ คือ การม้วน มัด จุ่ม ซึ่งแต่ละวิธีจะมีลวดลายแตกต่างกัน โดยความมหัศจรรย์ของสีคราม คือ จากน้ำสีเหลืองสุก จะกลายเป็นสีฟ้า เมื่อมันทำปฏิกิริยาเคมี (Oxidation) กับอากาศ
ขณะที่ นายเจษฏา กัลยาบาล ตัวแทนประสานงานระหว่าง คิงเพาเวอร์ กับชุมชน กล่าวว่า วิธีการเป็นผ้าที่ออกแบบสำหรับสมัยใหม่ แต่ชุมชนยังทอผ้าด้วยวิธีโบราณอยู่ มันเลยกลายเป็นความร่วมมือระหว่างคนปัจจุบันกับคนอดีตมาจอยกัน
จากภูมิปัญญาท้องถิ่นนำมาผสมผสานกับการ มาตัดเย็บที่ประณีต จึงเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสู่สายตาชาวโลก
อาจารย์ธัญญลักษณ์ ทวีกิตติพันธ์ ครูช่างศิลป์หัตกรรม ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ กล่าวว่า “โจทย์ที่คิงเพาเวอร์ให้มาท้าทายมาก เราได้ใส่ไอเดีย... ใส่ใจ... ในทุก ๆ ชิ้นงาน ก็..ภูมิใจในชิ้นงานที่ส่งไป...”
ด้าน คุณยายสำหรัด สุนาพรหม ประธานกลุ่มทอผ้าฝ้ายย้อมคราม บ้านนาขาม กล่าวด้วยรอยยิ้มส่งท้ายเป็นภาษาอีสาน ว่า “ดีใจที่สงไปถึงอังกฤษแล้วนะ คือไม่นึก ไม่ฝัน ดีใจมาก”
อ่านมาจากเพจ 1morenews