คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ตามที่ คห บนบอก - เงื่อนไขแรกที่จะมีรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ได้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามคือ จะต้องมีใบขับขี่ก่อน และเฉพาะค่าทำใบขับขึ่ก็ต้องมีเงินเตรียมไว้แล้วระหว่าง 1500 - 2200 ยูโร ขึ้นอยู่กับว่าเรียนและทำใบขับขี่ในรัฐไหน Bazern กับ Baden-Württemberg แพงสุด
เมื่อมีใบขับขี่แล้วก็มาดูเงื่อนไขที่ 2 คือ การเป็นนักศึกษาหรือนักเรียนฝึกงานที่มีรายได้น้อยกว่า 1000 ยูโร/เดือน สามารถจะกู้เงินซื้อรถยนต์ได้หรือไม่?
คำตอบคือ มีความเป็นไปได้เพียงกรณีเดียวเท่านั้นคือ จะต้องมีบุคคลที่มีรายได้หรือสินทรัพย์ที่มั่นคงแน่นอนค้ำประกันให้ ที่ทำก้นในกรณีคือ พ่อแม่ ปู้ย่า ตายาย หรือ ญาติ นั่นเอง และนั่นหมายถึงการซื้อรถใหม่ซึ่งมีข้อดีตรงที่ไม่ต้องพะวงเรื่องค่าซ่อม แต่แพงมากจนไมคุ้มสำหรับนักศึกษาที่ยังไม่มีรายได้หรือมีรายได้น้อยมาก
อีกหนทางที่ทำการโดยปกติทั่วไปคือ การซื้อรถยนต์ใช้แล้วที่ราคาระหว่าง 1500-2000 ยูโร มีหลายยี่ห้อที่มีเว๊ปไซค์แนะนำไว้ให้
แต่ที่จะเตือนให้ จขกท คิดคำนวณไว้ด้วยคือ รถยนต์ไม่ใช่มีรายจ่ายแค่ค่ำน้ำมันเพียงอย่างเดียว แต่มีค่าประกันประจำปี ภาษีประจำปี ค่าซ่อมบำรุง ค่าล้อรถยนต์สำหรับชุดที่ต้องใช้ในฤดุหนาวที่มีหิมะตกโดยเฉพาะที่เรียกว่า Winterreifen ซึ่งปัจจุบันกฏหมายกำหนดว่ารถยนต์ทุกคันต้องมี
สรุปตัวเลขค่าใช้จ่ายสำหรับการมีรถยนต์ใช้ 1 คันในเยอรมนีถ้าวิ่งระยะทาง 15,000 กม/ปี ตกที่ 2.400 - 3600 Euro ต่อปี หรือ 200 - 300 ยูโรต่อเดือน
เมื่อรู้ตัวเลขนี้แล้วก็ไปคิดคำนวณเองได้ว่าตนเองมีกำลังเงินที่จะจ่ายได้หรือไม่ ในขณะที่ระบบการขนส่งในยุโรปนั้นสะดวกมากที่รถประจำทางมาถึงตามเวลาที่กำหนดสามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้าได้โดยไม่ต้องไม่ยืนรอ และถ้าต้องการจะเดินทางไปไหนในระยะทางไกลเป็นพิเศษเป็นครั้งคราวก็สามารถเช่ารถยนต์ใช้เสียยังจะสะดวกกว่าและเสียค่าใช่จ่ายถูกกว่าอีกเยอะ
จำไว้อย่างหนึ่งว่า ในสถานะนักศึกษาหรือนักเรียนฝึกงานนั้น การมีรถยนต์ไม่ใช่เป็นการแสดงฐานะแต่เป็นการมีไว้ในกรณีที่จำเป็นจริงๆ อย่างยิ่งยวดเท่านั้น เช่น นักศึกษาครูที่เกิดว่าได้งานฝึกงานที่ระยะทางไกลจากบ้านมากๆ จนการเดินทางไปทำงานไม่สะดวก เป็นต้น
แต่ถ้าเป็นนักศึกษาที่หาเช่าบ้านในเมืองไม่ได้ในสถานะการณ์ปัจจุบัน แล้วต้องไปเช่าบ้านนอกเมือง กรณีนี้ไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์แต่ต้องเตรียมเวลาเผื่อให้ทันตารางรถประจำทางเพื่อไปเรียนให้ทัน
เมื่อมีใบขับขี่แล้วก็มาดูเงื่อนไขที่ 2 คือ การเป็นนักศึกษาหรือนักเรียนฝึกงานที่มีรายได้น้อยกว่า 1000 ยูโร/เดือน สามารถจะกู้เงินซื้อรถยนต์ได้หรือไม่?
คำตอบคือ มีความเป็นไปได้เพียงกรณีเดียวเท่านั้นคือ จะต้องมีบุคคลที่มีรายได้หรือสินทรัพย์ที่มั่นคงแน่นอนค้ำประกันให้ ที่ทำก้นในกรณีคือ พ่อแม่ ปู้ย่า ตายาย หรือ ญาติ นั่นเอง และนั่นหมายถึงการซื้อรถใหม่ซึ่งมีข้อดีตรงที่ไม่ต้องพะวงเรื่องค่าซ่อม แต่แพงมากจนไมคุ้มสำหรับนักศึกษาที่ยังไม่มีรายได้หรือมีรายได้น้อยมาก
อีกหนทางที่ทำการโดยปกติทั่วไปคือ การซื้อรถยนต์ใช้แล้วที่ราคาระหว่าง 1500-2000 ยูโร มีหลายยี่ห้อที่มีเว๊ปไซค์แนะนำไว้ให้
แต่ที่จะเตือนให้ จขกท คิดคำนวณไว้ด้วยคือ รถยนต์ไม่ใช่มีรายจ่ายแค่ค่ำน้ำมันเพียงอย่างเดียว แต่มีค่าประกันประจำปี ภาษีประจำปี ค่าซ่อมบำรุง ค่าล้อรถยนต์สำหรับชุดที่ต้องใช้ในฤดุหนาวที่มีหิมะตกโดยเฉพาะที่เรียกว่า Winterreifen ซึ่งปัจจุบันกฏหมายกำหนดว่ารถยนต์ทุกคันต้องมี
สรุปตัวเลขค่าใช้จ่ายสำหรับการมีรถยนต์ใช้ 1 คันในเยอรมนีถ้าวิ่งระยะทาง 15,000 กม/ปี ตกที่ 2.400 - 3600 Euro ต่อปี หรือ 200 - 300 ยูโรต่อเดือน
เมื่อรู้ตัวเลขนี้แล้วก็ไปคิดคำนวณเองได้ว่าตนเองมีกำลังเงินที่จะจ่ายได้หรือไม่ ในขณะที่ระบบการขนส่งในยุโรปนั้นสะดวกมากที่รถประจำทางมาถึงตามเวลาที่กำหนดสามารถวางแผนการเดินทางล่วงหน้าได้โดยไม่ต้องไม่ยืนรอ และถ้าต้องการจะเดินทางไปไหนในระยะทางไกลเป็นพิเศษเป็นครั้งคราวก็สามารถเช่ารถยนต์ใช้เสียยังจะสะดวกกว่าและเสียค่าใช่จ่ายถูกกว่าอีกเยอะ
จำไว้อย่างหนึ่งว่า ในสถานะนักศึกษาหรือนักเรียนฝึกงานนั้น การมีรถยนต์ไม่ใช่เป็นการแสดงฐานะแต่เป็นการมีไว้ในกรณีที่จำเป็นจริงๆ อย่างยิ่งยวดเท่านั้น เช่น นักศึกษาครูที่เกิดว่าได้งานฝึกงานที่ระยะทางไกลจากบ้านมากๆ จนการเดินทางไปทำงานไม่สะดวก เป็นต้น
แต่ถ้าเป็นนักศึกษาที่หาเช่าบ้านในเมืองไม่ได้ในสถานะการณ์ปัจจุบัน แล้วต้องไปเช่าบ้านนอกเมือง กรณีนี้ไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์แต่ต้องเตรียมเวลาเผื่อให้ทันตารางรถประจำทางเพื่อไปเรียนให้ทัน
แสดงความคิดเห็น
นักศึกษาซื้อรถในเยอรมนี