สุธี สุขสมกิจ : เอเชียน คัพ กับ 12 ปีที่รอคอย

“มันเหมือนกับน้องๆ ฟุตบอลโลก ศักดิ์ศรีพอๆกับยูโร ถือเป็นเกียรติสูงสุดที่ได้ลงเล่นในรายการนี้ เพราะนี่คือการขับเคี่ยวกันเพื่อหาแชมป์ของทวีปเอเชีย และที่สนุกก็คือมีออสเตรเลียมาร่วมแข่งด้วย” สุธีกล่าวถึงความยิ่งใหญ่ของรายการนี้

“ครั้งล่าสุดที่เราได้เล่นรอบสุดท้ายเมื่อปี 2007 ซึ่งปีนั้นเวียดนามได้เข้ารอบน็อคเอ้าท์ ผมรู้สึกเจ็บใจมาก เพราะ 3 สมัยที่ได้เข้าไปเล่น ครั้งแรกก็เกือบจะได้เข้า เฉียดไปแค่ 1-2 แต้ม และพอมาที่จีนปี 2004 ก็อยู่สายเดียวกับญี่ปุ่น ส่วนปีล่าสุดที่เป็นเจ้าภาพ นัดสุดท้ายเราโดนออสเตรเลียยิงไป 4 ลูก ทำให้ประตูได้เสียเราสู้ไม่ได้แม้จะมีแต้มเท่ากันก็ตาม”

“ตอนไปเราอาศัยใจสู้ คือช่วงปี 2000 ปีเตอร์ วิธ เป็นโค้ช ปีนั้นไม่มีพี่ซิโก้ (เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง) ที่อยู่ฮัดเดอร์สฟิลด์ ผมก็ยืนคู่กับพี่โย่ง (วรวุธ ศรีมะฆะ) ยืนกับพี่เจมส์ (เศกสรรค์ ปิตุรัตน์) บ้าง”

“แล้วตอนนั้นกองกลางกับกองหลังเราฟูลทีม มีพี่นิเวศน์ (ศิริวงศ์), มีพี่จั๊บ (สุรชัย จิระศิริโชติ), พี่ง้วน (สุรชัย จตุรภัทรพงษ์), พี่แบน (ธชตวัน (ศรีปาน), พี่โอ่ง (ดุสิต เฉลิมแสน), พี่ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล มันก็สู้ได้”
“ช่วงนั้น มาร์ค วิดูก้า, ทิม เคฮิลล์, แฮร์รี่ คีเวลล์ กำลังพีคมาก เคฮิลล์อยู่เอฟเวอร์ตัน ส่วนคีเวลล์เล่นให้ลิเวอร์พูล ญี่ปุ่นตอนนั้นก็มี ชุนสุเกะ นากามูระ ส่วนเราไม่มีอะไรจะเสีย ก็ต้องสู้เต็มที่อย่างเดียว ไม่มีอะไรต้องไปกลัว”
“ยิ่งตอนที่ผมลากเข้าไปยิงผ่านมือ (โยชิคัตสึ) คาวางูจิ นายทวารญี่ปุ่นที่ไปเล่นฟุตบอลโลกมาแล้วนะ บรรยากาศมันสุดยอดจริงๆ  ให้ความรู้สึกที่สะใจมาก แฟนบอลก็เชียร์กันถึงใจ สนุกสุดๆ ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดเราจะแพ้ 1-4 ก็ตามที”

ฝากถึงทีมชุดปัจจุบัน
“ผมอยากฝากน้องๆ ว่ารายการเอเชียน คัพ มันเป็นรายการที่ใหญ่มากๆ อยากให้โฟกัสว่าก่อนจะถึงทัวร์นาเม้นต์ คุณจะต้องเตรียมความพร้อมยังไง เพราะมันเป็นเวทีระดับนานาชาติ อยากให้ได้โชว์ฟอร์มเด่นกันทุกคน เพราะมันคือบทพิสูจน์ว่าคุณสามารถเล่นในเกมระดับสูงได้ ถึงตรงนั้นการเล่นไปต่างแดนก็เป็นเรื่องไม่ไกลเกินตัว”

“แล้วถ้าเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย เข้ารอบรองฯได้ โมเมนตัมจะมาเลย เหมือนอย่างกรีซตอนยูโร 2004 เพราะถึงตอนนั้นทุกอย่างมันเท่ากันแล้ว และถ้าเกิดไม่มีใครเจ็บหรือติดโทษแบน อะไรก็เกิดขึ้นได้ จากใจ สุธี สุขสมกิจ เลยครับ” อดีตหัวหอกช้างศึกวัย 39 ปีกล่าวทิ้งท้าย


ที่มาฉบับเต็ม http://fathailand.org/news/2179

ปล.ผมเอามาบาง่ส่วนผิดพลาดอันใดขออภัยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่