ควรโทษตัวเองหรือระบบการศึกษา? หรือเพราะใคร?

เราเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยหนึ่งค่ะ เป็นม.รัฐ แต่ค่าเทอมเกือบสี่หมื่น มหาวิทยาลัยของเราจะเป็นแบ่งเวลาทำจุลนิพนธ์เป็น สองเทอม โดยในเทอมแรก เป็นการคัดกรองหัวข้อจุลนิพนธ์ และเทอมที่สองเป็นการลงระบบและการทดสอบระบบค่ะ เราทำสื่อการเรียนรู้สอนคำศัพท์ให้เด็กประถมตอนปลายค่ะ

เราเหลือแค่ทำธีสิสจบค่ะ แต่ว่าอาจารย์ไม่ให้เราผ่าน เนื่องจากว่า เขาให้เหตุผลกับเราว่าไม่ชอบงานของเรา และเราดูไม่มีความสุขตอนทำงาน ควรไปทำงานปีหน้าดีกว่า ซึ่งเราได้ติดต่ออาจารย์หัวหน้าห้องตรวจขอโอกาสที่จะทำธีสิสต่อ แต่อาจารย์ได้พูดกับเราว่า งานของเรามันห่วยมาก ทำไปก็เสียชื่ออาจารย์ เราเลยให้เหตุผลว่าแต่งานของเราใช้งานได้จริง ทดสอบกับกลุ่มเป้าหมายแล้ว และทำงานตาม flow งานทุกอย่าง แต่อาจารย์ท่านนี้ก็ยังยืนยันว่างานของเราไม่มีคุณภาพ และห่วย และให้เหตุผลอีกว่า ต่อให้ทดสอบกับกลุ่มเป้าหมายและใช้งานได้จริง ถ้าให้เนื้องานไม่เสร็จก็คือไม่เสร็จ ไม่เสร็จคือไม่จบ ซึ่งเรางงว่า ทำไมอาจารย์ถึงไม่ให้เราให้ทำต่อเมื่อยังเหลือเวลาแก้ไขงานอีกหนึ่งเดือนก่อนพรีเซ็นต์งานจริงรอบสุดท้าย แต่รอบสุดท้ายไม่มีคะแนนให้แล้ว เป็นการเพิ่มเติมจากสิ่งที่ได้ทำมา และอาจารย์ท่านนี้ยังบอกว่า ถ้าเราจะทำธีสิสต่อให้ไปดูคะแนนจากอาจารย์ประจำคณะที่รวบรวมคะแนน เพิ่มเติมที่ไม่เสร็จเพราะมันนอกเหนือจาก flow ของเรา คืออาจารย์ในห้องให้เพิ่ม ทำตัว animation สอนระหว่างการเล่นเกม และ intro ในเกมส์ ซึ่งอาจารย์ที่ปรึกษาของเราให้ตัดออกเพราะกลัวว่าเราจะทำไม่ทัน และที่กลัวงานเราเสร็จไม่ทันเพราะอาจารย์ในห้องให้เปลี่ยนเนื้องานใหม่เกือบทั้งหมด flow เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนเกมส์

เราได้กลับไปดูหลักเกณฑ์หรือข้อบังคับต่างๆ คือ ออกแบบ : ระบบ มี 50 :50 หรือ 60:40 หรือ 40:60 ตามลำดับ และในหลักเกณฑ์ยังมีบอกอีกว่า “ผลงานที่ออกแบบและพัฒนาต้องสามารถใช้ในได้สมบูรณ์ราบรื่น รองรับการใช้งานได้จริง” ซึ่งงานตามที่อาจารย์ต้องการคือมี intro animation เข้าเกมส์ ซึ่งเรามั่นใจว่าระยะเวลาที่เหลือเราทำเสร็จแน่นอน เพราะมีแค่ 3 intro ที่ต้องทำ กับที่อาจารย์อยากให้เพิ่มเติมอีกคือ มี ไกด์ไลน์ระหว่างเล่นเกมส์ แต่เราไม่มีโอกาสได้ทำมันค่ะ และที่เรามั่นใจว่างานเรามีพอเพียงที่จะได้ทำต่อ เพราะปีที่แล้วเราเข้าดูตอนพรีเซนต์ธีสิส มีคนนึงขาดไปสามระบบ แต่อาจารย์ในห้องให้ทำต่อค่ะ ---- อันนี้ประเด็นที่หนึ่งค่ะ


ต่อมาเราได้ติดต่ออาจารย์ประจำคณะและได้ขอดูคะแนนทั้งหมดว่าคะแนนของเราพอจะสามารถทำธีสิสให้เราจบได้รึเปล่า แต่พอเราดูคะแนนจากอาจารย์ประจำคณะ ปรากฏว่าอาจารย์คนที่ให้เรามาถามคะแนน อาจารย์ท่านนี้ให้คะแนนเรา 0 ทุกช่อง แม้คะแนนเข้าพรีเซ็นต์เองอาจารย์ท่านนี้ก็ยังให้เรา 0 คะแนน เท่ากับว่าเราไม่ได้เข้าพรีเซ็นต์ทั้งที่เราเข้าพรีเซ็นต์ และเราได้ทำการเทียบคะแนนจากอาจารย์ท่านอื่น แต่อาจารย์ท่านอื่น เต็ม 5 คะแนน ก็ไม่ต่ำกว่า 2-4 คะแนนเลยในแต่ละรอบพรีเซ็นต์ที่ผ่านมา แต่อาจารย์ท่านนี้ก็ให้คะแนนเรา 0-1 คะแนนตลอดในทุกรอบ ซึ่งประเด็นนี้เราสามารถร้องเรียนหรือติดต่อกับกระทรวงไหนได้บ้างคะ ----อันนี้ประเด็นที่สองค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

จากนั้นอาจารย์ที่มาเป็น guest มาตรวจงานธีสิสในห้อง ที่ไม่ร่วมให้คะแนนในแต่ละรอบพรีเซนต์ อาจารย์ท่านนี้เป็นอาจารย์ที่สอนในมหาวิทยาลัยค่ะ อาจารย์ได้ถ่ายงานเราแต่ไปวิจารณ์ให้เชิงตัวอย่างจากวิชาที่เขาสอนใน facebook ทำให้เรารู้สึกอับอาย เราทำงานธีสิสเป็นแนวการ์ตูน 2D หรือแนว SD ค่ะ เพราะกลุ่มเป้าหมายเราคือเด็กประถมตอนปลายหรือ ป.4 - ป.6 และประเด็นที่โพสต์ใน facebook คือวิจารณ์ตัวละครของงานเราไม่มีความเหมาะสมและไม่สมจริง และมีรุ่นพี่ไปอธิบายว่าความหมายเพิ่มเติมของตัวละคร SD หรือการ์ตูน 2D คืออะไร แต่อาจารย์ท่านนี้ก็มาตอบว่า จะทำงานอะไรก็ควรจะให้มันสมจริง ซึ่งที่เขาไปวิจารณ์ใน facebook คือ เท้าของตัวละคร แล้วถ้ามีการแชร์โพสต์ไปต่อๆ เราสามารถร้องเรียนได้ไหมคะอันนี้ ----อันนี้ประเด็นที่สามค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากในรูปที่บอกว่าในห้องมี 17 คน แล้วเหลือ 6 คน แต่จบจริงจากห้องนี้คือ 4 คน ซึ่งแปลว่าไม่จบเกินครึ่งห้อง แล้วนักศึกษาที่เหลือจะทำยังไงต่อ? แล้วค่าเทอมที่เสียไปและค่าเสียโอกาส ใครจะรับผิดชอบคะ?


และอาจารย์ในห้องพรีเซนต์ไม่ให้เกียรตินักศึกษา อย่างในการพรีเซ็นต์จะมีการตอบคำถามกับอาจารย์หลังจากพรีเซนต์เสร็จ ตัวเราเองที่แม่ส่งเรียน อาจารย์ในห้องพรีเซนต์ พูดประมาณว่า "ดูรวย เรียนอีกปีไหม" ซึ่งเราไม่เข้าใจว่า ฐานะเกี่ยวอะไรกับการจบหรือไม่จบ ถึงแม่จะส่งค่าใช้จ่ายให้ แต่ค่าเทอมเราก็กู้กยศ.มาด้วย เพราะไม่อยากกวนพ่อแม่ แต่ทำไมอาจารย์ถึงพูดไม่ให้เกียรตินักศึกษาแบบนี้ และเมื่อลองคุยๆกับรุ่นพี่ รุ่นพี่ยังเคยบอกว่า มีคนต้องไปขออาจารย์เพื่อจบ นี่สังคมแบบไหนกันแน่ คนเข้าหาคือคนสมควรจบ? หรือต้องไปขอถึงจะจบ? ----อันนี้ประเด็นที่สี่ค่ะ


ที่เรามาตั้งกระทู้ไม่ได้จะว่าหรือทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ตัวเราเองก็ยังมีภาระทางบ้าน มีหน้าที่อื่นที่ต้องทำ ให้เรามาเสียเวลากับการทำงานตามใจอาจารย์ หรือบางคนก็พูดกับเราว่าอีกแค่นิดเดียว หรือบอกว่าปีหน้าทำใหม่ก็เบากว่านี้แล้ว คำพูดปลอบใจต่างๆ แต่เขาไม่ได้มาเป็นเราไม่รู้ว่าสิ่งที่เราเจอนั้นมาเกินกว่าที่เราเล่ามาทั้งหมด การทำงานทุกอย่างใช้ทั้งความขยันและตั้งใจ เหมือนเราลงทุนไปตั้งเท่าไรกับการเรียน แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้น มันทำให้หมดศรัทธากับอาจารย์ หมดศรัทษากับระบบการศึกษา ส่วนตัวเรานั้นยังศรัทธาให้มหาวิทยาลัยเหมือนเดิม รักมหาวิทยาลัยเหมือนเดิม เหตุการณ์ที่เกิดกับเรา เราเกิดคำถามว่า หน้าที่ของอาจารย์นั้นคือคนที่ผลักดันช่วยลูกศิษย์ส่งไปถึงฝั่ง หรือเป็นคนเหยียบซ้ำลูกศิษย์ให้จมลงกันแน่?

และทุกคนอาจจะคิดว่าเราปีสี่ จบห้าปีก็ไม่เป็นไร ไม่ใช่ค่ะ เราปีห้า ถ้าทำปีหน้าเท่ากับว่าเราปีหก และไม่มีอะไรประกันได้ว่าทำปีหน้าแล้วจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก แล้วเราก็ไม่ใช่คนเหลวไหลหรือติดวิชาอื่นนะคะ เราผ่านมาทุกวิชาหมดแล้วค่ะ เหลือแค่ทำธีสิสเทอมที่สองเทอมเดียวค่ะ ทำไมถึงมาทำปีนี้เพราะปีที่แล้วเราไม่สู้เองค่ะ ถอดใจไปก่อน เพราะเจออาจารย์คล้ายแบบที่เราเล่ามา แต่ว่าเราทำมาปีที่สองแล้ว เรื่องแบบนี้ก็ไม่ควรเกิดกับเราอีกด้วยซ้ำ สองปีที่เจอเรื่องแบบนี้มันก็เกินกว่าเราจะลุกขึ้นสู้ต่อแล้วค่ะ

เราคิดว่า ประเทศเราพูดเรื่องสิทธิกันมากมายของคนหลายกลุ่ม แต่ในรั้วมหาวิทยาลัยเอง เรากลับไม่สามารถตรวจสอบ เรียกร้องขอความเป็นธรรม หรือแม้กระทั่งจะหันหน้าเข้าหาใครยังไม่ได้ ทั้งที่มหาวิทยาลัยคือที่ที่ผลิตบัณฑิตและอนาคตของชาติอย่างที่เขาพูดกัน แต่หลายครั้งอนาคตเรากลับขึ้นอยู่กับกลุ่มคนบางกลุ่มที่อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมนั้นด้วยซ้ำ โดยที่เราทำได้แค่ก้มหน้ายอมรับ

อีกอย่างไม่ได้รู้สึกผิดค่ะ ก่อนจะตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ ทางครอบครัวเราก็ถอดใจและบอกให้ลาออกจากมหาวิทยาลัยนี้แล้ว นั่นแปลว่า เราไม่จบปริญญาตรี ทุกอย่างที่พยายามและร่ำเรียนมาเป็นศูนย์ และในตลาดแรงงานเราก็เป็นแค่แรงงานวุฒิการศึกษามอหก


*เมื่อประมาณวันที่ 24 มิถุนายน 2561 ได้เข้าลิ้งค์กระทู้พบว่า ลิ้งค์รูปที่แยกไปได้ถูกลบอย่างไม่ทราบสาเหตุจนขอลงรูปในกระทู้แทนนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่