สวัสดีค่ะ ทริปนี้เป็นทริปกับน้องชายเมื่อปี 2016 นะคะ เราเดินทางกลางเดือนพฤศจิกายนค่ะ
1. นั่งเครื่องบินตรงสายการบิน royal jordanian จากกรุงเทพไปยังเมืองอัมมาน(AMM airport) ค่ะ ใช้เวลาในการบินประมาณ 8-9 ชม. วีซ่านี่สามารถซื้อได้ที่สนามบินนะคะ ราคา 40 JOD ค่ะ อันนี้ราคาปี 2016 ต้องเตรียมเงินสดไปให้ครบตามจำนวนนะคะ ถ้าใครยังไม่ได้แลกเงินก็ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะเค้าเตอร์แลกเงินอยู่ตรงหน้าimmigration เลยค่ะ ค่าธรรมเนียมการแลกเงิน คือ$10 นะคะ
สกุลเงินของจอแดนคือJOD หรือ dinars ค่ะ ประเทศนี้จะนิยมเงินสดนะคะ ส่วนมากบัตรเครดิตจะไม่ค่อยรับ นอกจากโรงแรม หรือร้านอาหารใหญ่ๆ แนะนำให้แลกเงินไปให้พอค่ะ
2.ทริปนี้เราจะขับรถกันเองค่ะ เราได้เช่ารถไว้ล่วงหน้าแล้วเป็นเวลาทั้งหมด6วันด้วยกัน เราเริ่มทริปที่เมือง Jerash ค่ะ ขับรถ1.30-2 ชม. จากสนามบิน สถานที่ที่แรกที่เราไป คือ Jerash ruin ค่ะ เสียค่าเข้า 12 dinars ค่ะ ช่วงหน้าร้อนJerash ruin เปิด 7.30-7.00 นะคะ หน้าหนาว 8.00-5.00 ค่ะ
3.พอเดินทั่วJerash ruin แล้ว เราก็ขับรถต่อไปที่ Dead Sea ค่ะ
Dead Sea คืออะไร??? คือทะเลที่มีความเค็มมมมมมากกกกกก ทำให้ไม่ทีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ ลองนึกถึงการดองไข่เค็มนะคะ ถ้าน้ำมันเค็มมาก ไข่มันจะลอย เหมือนกันค่ะ ถ้าเราไปเล่นน้ำที่ Dead Sea ลอยค่ะ ไม่มีจม เวลาเล่นอย่ากระโดดลง หรือว่าพุ่งใส่น้ำแบบที่เล่นน้ำทั่วไปนะคะ การที่มีความเข้มมากของความเค็มจะทำให้น้ำมูกเลือดไหลได้ค่ะ และจะปวดหัวมากด้วย เดี่ยวจะหาว่าไม่เตือนนะคะ 😅
ขับรถถึงโรงแรมแล้วค่ะ โรงแรมมีชื่อว่า Dead Sea spa hotel ค่ะ พอไปถึงตะวันใกล้จะตกดิน เลยแวะไปลงน้ำ Dead Sea ซะหน่อย พระอาทิตย์ตกสวยมากๆ แต่พนักงานโรงแรมบอกว่า แนะนำให้มาช่วงเช้าด้วย เพราะทางโรงแรมจะมีโคลนหมักบริการที่ริมทะเลค่ะ พนักงานจะไปตักโคลนที่เกลือไม่หยาบ แล้วมาตั้งให้ลูกค้าได้พอกหน้าพอกตัวกัน
การพอกโคลนเป็นสิ่งที่ดังมากของที่นี่ เพราะโคลนมีแร่ธาตุเยอะมาก ทำให้หลังการพอกผิวจะนุ่มนิ่มและเปร่งปลั่งเหมือนดั่งไปสปามา การพอกโคลนอย่าทิ้งไว้นานเกิน 15-20 นาที เพราะจะทำให้ผิวแห้ง และอาจเป็นผื่นคันได้ค่ะ
4.เชคเอาท์เสร็จ เราสองพี่น้องก็ขับรถต่อไปที่ Wadi Mujib ค่ะ เป็นแคนยอนที่มีแม่น้ำไหลผ่าน ขับรถไป 30 นาทีจากโรงแรมค่ะ จากนั้นต้องจ่ายค่าเข้าด้วยคนละ 21 JOD อันนี้เฉพาะค่าเข้านะคะ เค้าจะมีเสื้อชูชีพให้ด้วย ถือว่าเป็นการเดินเขาแบบเปียกนั่นเอง วิวสวยๆไม่ได้หาดูง่ายๆที่นี่ 😅ต้องตะลุยน้ำเข้าไปค่ะ เตรียมรองเท้าผ้าใบให้พร้อม ไม่แนะนำรองเท้าแตะนะคะ รัดเชือกรองเท้าให้แน่น น้ำจะสูงประมาณเข่า แต่ถ้าเดินเข้าไปอีกจะอยู่ประมาณอก ถือว่าลึกอยู่ ทางสถานที่ท่องเที่ยวนี้เลยมีไกด์ให้ด้วย ถ้าจะเอาไกด์ไปด้วยก็จ่ายเพิ่ม 40 JOD ค่ะ แต่เราไม่ได้จ่ายเพราะเรามีน้องชายไปด้วย 555 ยังงัยซะน้องเราไม่ทิ้งเราแน่นอน
หลังจากการเดินเขาเปียกอันนี้ คุณจะเปียกทั้งตัวเลยนะคะ
สิ่งที่ควรนำติดตัวไป
4.1 ร้องเท้าผ้าใบ
4.2 ถุงกันน้ำสำหรับกล้องถ่ายรูปหรือโทรศัพท์ ถ้าจะเอาติดตัวไปด้วย
4.3 เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนหลังเดินเสร็จ
5. ขับรถต่อไปที่เมืองPetra ค่ะ ถนนจากจุดนี้ไปเมืองPetra ค่อนข้างลำบากนิดนึง ไม่รู้ว่าเราไปทางผิดหรือเปล่า 555 ขึ้นเขาขึ้นแล้วขึ้นอีก เชื่อใจgoogle map ก็ขับไปอย่างช้าๆ ในที่สุดก็ถึงซะที เห้ออออโล่งอก 😂 แต่คนจอแดนค่อนข้าง friendly นะคะ แต่ก็อย่าไว้ใจมาก เราอาจจะเจอคนไม่ดีก็ได้ อันนี้ขึ้นอยู่กับดวงค่ะ
ถึงโรงแรม 5.40 น. ค่ะ มืดมาก มืดแบบ สองทุ่ม พระอาทิตย์ที่นี่ตก 4.40 น. (เดือนพฤศจิกายน)
6. วันนี้ลุย Petra ค่ะ เป็นอะไรที่รอคอยมานาน ออกจากโรงแรม 8.30 น. ค่ะ แพคlunchมาด้วย แนะนำให้พกน้ำ อาหารกลางวันไปด้วยนะคะ เพราะข้างในราคาสูงอยู่ พอเดินเข้าไปซักพัก จะมีป้ายบอกค่ะว่า มี hiking อะไรบ้าง แต่ละอันใช้เวลานานเท่าไหร่ น้องชายกับเรา เลือก monastery hike ค่ะ ระยะทาง 2.5 กม. ระยะทางไปกลับ
วิวข้างบนสวยมาก ตามภาพเลยนะคะ
7. ขับรถต่อไปที่ Wadi Rum ค่ะ ซึ่งอยู่ทางใต้ของ Petra ก่อนเดินทางไป เราได้จองแคมป์ทะเลทรายไว้ค่ะ ชื่อว่า Wadi Rum Bedouin Camp ค่ะ รึจะอีเมลจองก็ได้นะคะ info@wadirumbedouincamp.com เป็นทัวร์ที่ดีมากๆค่ะ รวมอาหารเย็นด้วย วิธีการทำอาหารของเค้าก็local มาก เค้าขุดหลุมทรายแล้วเอาอาหารไปอบข้างใต้ค่ะ พอถึงเวลาก็ขุดขึ้นมา รสชาติดี เนื้อนุ่มมากค่ะ พอจองเสร็จทางแคมป์จะส่งอีเมลที่อยู่มาให้ เราก็ขับตามไปค่ะ พอไปถึง Wadi Rum Visiting Center เราต้องจอดรถแล้วไปซื้อตั๋าค่าเข้าที่เคาเตอร์ด้วยนะคะ คนละ 5 JOD อย่าซื้อตั๋วจากคนอื่นเด็ดขาด อาจจะถูกหลอกได้โดยการเอาตั๋วปลอมให้
ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ไปเที่ยวจะอากาศร้อนกลางวัน พอตกเย็นจะหนาวมาก เตรียมเสื้อผ้าหนาๆไปด้วยนะคะ ทางแคมป์มีผ้าห่มให้ แต่ก็ยังหนาวอยู่ กลางคืนนอนดูดาวสวยมากๆค่ะ ทางแคมป์ยังมีห้องอาบน้ำ ห้องน้ำให้ด้วยนะคะ มีเอ้าเลทสำหรับคนที่จะชาร์จแบตกล้องถ่ายรูป มือถือให้ด้วย
8. ตื่นเช้ามากลางทำเลทราย เป็นอะไรที่ฟินมาก 10.00 น. ขับรถต่อไปที่เมือง Madaba ค่ะ
เมืองนี้คือเมืองศาสนา ส่วนมากคนที่เดินทางมาที่นี่ จะมาชม mosaic map ของคริสจักรกรีกออร์ทอดอกซ์
9. เดินทางไปแอร์พอร์ต กลับกทม.ค่ะ
ขอบคุณสำหรับติดตามนะคะ มีคำถามอะไรสอบถามได้ ตอบได้ตอบไม่อั้นค่ะ😊
IG:Kateschwerin
FB:KateTravels
ขับรถตะลุยจอร์แดนกับน้องชาย
1. นั่งเครื่องบินตรงสายการบิน royal jordanian จากกรุงเทพไปยังเมืองอัมมาน(AMM airport) ค่ะ ใช้เวลาในการบินประมาณ 8-9 ชม. วีซ่านี่สามารถซื้อได้ที่สนามบินนะคะ ราคา 40 JOD ค่ะ อันนี้ราคาปี 2016 ต้องเตรียมเงินสดไปให้ครบตามจำนวนนะคะ ถ้าใครยังไม่ได้แลกเงินก็ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะเค้าเตอร์แลกเงินอยู่ตรงหน้าimmigration เลยค่ะ ค่าธรรมเนียมการแลกเงิน คือ$10 นะคะ
สกุลเงินของจอแดนคือJOD หรือ dinars ค่ะ ประเทศนี้จะนิยมเงินสดนะคะ ส่วนมากบัตรเครดิตจะไม่ค่อยรับ นอกจากโรงแรม หรือร้านอาหารใหญ่ๆ แนะนำให้แลกเงินไปให้พอค่ะ
2.ทริปนี้เราจะขับรถกันเองค่ะ เราได้เช่ารถไว้ล่วงหน้าแล้วเป็นเวลาทั้งหมด6วันด้วยกัน เราเริ่มทริปที่เมือง Jerash ค่ะ ขับรถ1.30-2 ชม. จากสนามบิน สถานที่ที่แรกที่เราไป คือ Jerash ruin ค่ะ เสียค่าเข้า 12 dinars ค่ะ ช่วงหน้าร้อนJerash ruin เปิด 7.30-7.00 นะคะ หน้าหนาว 8.00-5.00 ค่ะ
3.พอเดินทั่วJerash ruin แล้ว เราก็ขับรถต่อไปที่ Dead Sea ค่ะ
Dead Sea คืออะไร??? คือทะเลที่มีความเค็มมมมมมากกกกกก ทำให้ไม่ทีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ ลองนึกถึงการดองไข่เค็มนะคะ ถ้าน้ำมันเค็มมาก ไข่มันจะลอย เหมือนกันค่ะ ถ้าเราไปเล่นน้ำที่ Dead Sea ลอยค่ะ ไม่มีจม เวลาเล่นอย่ากระโดดลง หรือว่าพุ่งใส่น้ำแบบที่เล่นน้ำทั่วไปนะคะ การที่มีความเข้มมากของความเค็มจะทำให้น้ำมูกเลือดไหลได้ค่ะ และจะปวดหัวมากด้วย เดี่ยวจะหาว่าไม่เตือนนะคะ 😅
ขับรถถึงโรงแรมแล้วค่ะ โรงแรมมีชื่อว่า Dead Sea spa hotel ค่ะ พอไปถึงตะวันใกล้จะตกดิน เลยแวะไปลงน้ำ Dead Sea ซะหน่อย พระอาทิตย์ตกสวยมากๆ แต่พนักงานโรงแรมบอกว่า แนะนำให้มาช่วงเช้าด้วย เพราะทางโรงแรมจะมีโคลนหมักบริการที่ริมทะเลค่ะ พนักงานจะไปตักโคลนที่เกลือไม่หยาบ แล้วมาตั้งให้ลูกค้าได้พอกหน้าพอกตัวกัน
การพอกโคลนเป็นสิ่งที่ดังมากของที่นี่ เพราะโคลนมีแร่ธาตุเยอะมาก ทำให้หลังการพอกผิวจะนุ่มนิ่มและเปร่งปลั่งเหมือนดั่งไปสปามา การพอกโคลนอย่าทิ้งไว้นานเกิน 15-20 นาที เพราะจะทำให้ผิวแห้ง และอาจเป็นผื่นคันได้ค่ะ
4.เชคเอาท์เสร็จ เราสองพี่น้องก็ขับรถต่อไปที่ Wadi Mujib ค่ะ เป็นแคนยอนที่มีแม่น้ำไหลผ่าน ขับรถไป 30 นาทีจากโรงแรมค่ะ จากนั้นต้องจ่ายค่าเข้าด้วยคนละ 21 JOD อันนี้เฉพาะค่าเข้านะคะ เค้าจะมีเสื้อชูชีพให้ด้วย ถือว่าเป็นการเดินเขาแบบเปียกนั่นเอง วิวสวยๆไม่ได้หาดูง่ายๆที่นี่ 😅ต้องตะลุยน้ำเข้าไปค่ะ เตรียมรองเท้าผ้าใบให้พร้อม ไม่แนะนำรองเท้าแตะนะคะ รัดเชือกรองเท้าให้แน่น น้ำจะสูงประมาณเข่า แต่ถ้าเดินเข้าไปอีกจะอยู่ประมาณอก ถือว่าลึกอยู่ ทางสถานที่ท่องเที่ยวนี้เลยมีไกด์ให้ด้วย ถ้าจะเอาไกด์ไปด้วยก็จ่ายเพิ่ม 40 JOD ค่ะ แต่เราไม่ได้จ่ายเพราะเรามีน้องชายไปด้วย 555 ยังงัยซะน้องเราไม่ทิ้งเราแน่นอน
หลังจากการเดินเขาเปียกอันนี้ คุณจะเปียกทั้งตัวเลยนะคะ
สิ่งที่ควรนำติดตัวไป
4.1 ร้องเท้าผ้าใบ
4.2 ถุงกันน้ำสำหรับกล้องถ่ายรูปหรือโทรศัพท์ ถ้าจะเอาติดตัวไปด้วย
4.3 เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนหลังเดินเสร็จ
5. ขับรถต่อไปที่เมืองPetra ค่ะ ถนนจากจุดนี้ไปเมืองPetra ค่อนข้างลำบากนิดนึง ไม่รู้ว่าเราไปทางผิดหรือเปล่า 555 ขึ้นเขาขึ้นแล้วขึ้นอีก เชื่อใจgoogle map ก็ขับไปอย่างช้าๆ ในที่สุดก็ถึงซะที เห้ออออโล่งอก 😂 แต่คนจอแดนค่อนข้าง friendly นะคะ แต่ก็อย่าไว้ใจมาก เราอาจจะเจอคนไม่ดีก็ได้ อันนี้ขึ้นอยู่กับดวงค่ะ
ถึงโรงแรม 5.40 น. ค่ะ มืดมาก มืดแบบ สองทุ่ม พระอาทิตย์ที่นี่ตก 4.40 น. (เดือนพฤศจิกายน)
6. วันนี้ลุย Petra ค่ะ เป็นอะไรที่รอคอยมานาน ออกจากโรงแรม 8.30 น. ค่ะ แพคlunchมาด้วย แนะนำให้พกน้ำ อาหารกลางวันไปด้วยนะคะ เพราะข้างในราคาสูงอยู่ พอเดินเข้าไปซักพัก จะมีป้ายบอกค่ะว่า มี hiking อะไรบ้าง แต่ละอันใช้เวลานานเท่าไหร่ น้องชายกับเรา เลือก monastery hike ค่ะ ระยะทาง 2.5 กม. ระยะทางไปกลับ
วิวข้างบนสวยมาก ตามภาพเลยนะคะ
7. ขับรถต่อไปที่ Wadi Rum ค่ะ ซึ่งอยู่ทางใต้ของ Petra ก่อนเดินทางไป เราได้จองแคมป์ทะเลทรายไว้ค่ะ ชื่อว่า Wadi Rum Bedouin Camp ค่ะ รึจะอีเมลจองก็ได้นะคะ info@wadirumbedouincamp.com เป็นทัวร์ที่ดีมากๆค่ะ รวมอาหารเย็นด้วย วิธีการทำอาหารของเค้าก็local มาก เค้าขุดหลุมทรายแล้วเอาอาหารไปอบข้างใต้ค่ะ พอถึงเวลาก็ขุดขึ้นมา รสชาติดี เนื้อนุ่มมากค่ะ พอจองเสร็จทางแคมป์จะส่งอีเมลที่อยู่มาให้ เราก็ขับตามไปค่ะ พอไปถึง Wadi Rum Visiting Center เราต้องจอดรถแล้วไปซื้อตั๋าค่าเข้าที่เคาเตอร์ด้วยนะคะ คนละ 5 JOD อย่าซื้อตั๋วจากคนอื่นเด็ดขาด อาจจะถูกหลอกได้โดยการเอาตั๋วปลอมให้
ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ไปเที่ยวจะอากาศร้อนกลางวัน พอตกเย็นจะหนาวมาก เตรียมเสื้อผ้าหนาๆไปด้วยนะคะ ทางแคมป์มีผ้าห่มให้ แต่ก็ยังหนาวอยู่ กลางคืนนอนดูดาวสวยมากๆค่ะ ทางแคมป์ยังมีห้องอาบน้ำ ห้องน้ำให้ด้วยนะคะ มีเอ้าเลทสำหรับคนที่จะชาร์จแบตกล้องถ่ายรูป มือถือให้ด้วย
8. ตื่นเช้ามากลางทำเลทราย เป็นอะไรที่ฟินมาก 10.00 น. ขับรถต่อไปที่เมือง Madaba ค่ะ
เมืองนี้คือเมืองศาสนา ส่วนมากคนที่เดินทางมาที่นี่ จะมาชม mosaic map ของคริสจักรกรีกออร์ทอดอกซ์
9. เดินทางไปแอร์พอร์ต กลับกทม.ค่ะ
ขอบคุณสำหรับติดตามนะคะ มีคำถามอะไรสอบถามได้ ตอบได้ตอบไม่อั้นค่ะ😊
IG:Kateschwerin
FB:KateTravels