😀 ได้ไปเที่ยวไกลๆซะที
ทริปนี้ที่จริงเราเริ่มต้นจากเวียนนาค่ะ ไปต่อ Ceske Budejovice แล้วเป็นปราก จากปรากนั่ง overnight train ไป Budapest ค้างสองคืนแล้วไป Bratislava ต่อ ก่อนจะกลับไปจบทริปที่เวียนนา ใช้เวลาตลอดทริป 12 วันถ้วน
มีอะไรจะเขียนเยอะไปหมดไม่รู้จะเริ่มตรงไหน
เลยขอเริ่มจากเมืองที่เขียนเก็บไว้ระหว่างทริปคือบูดาเปสต์ก่อน
ทริปนี้กล้องใช้ #NikonFM2n ตัวเดิมค่ะ ฟิล์มค่อนข้างมั่ว แต่อันไหนพอจำได้จะโน้ตบอกนะคะ ทริปนี้แดดแร๊งงงแรงกว่าที่คิดมาก ฟิลม์ที่เตรียมไปมีแต่ 400 ขึ้นไปทั้งนั้น แสงมันจะโอเวอร์เยอะมากเลย ทนดูกันหน่อยนะคะ ไม่อยากแต่งรูป ^ ^” ถือว่าดูเพลินๆเป็นภาพประกอบเฉยๆเนาะ
เรื่องรูปและกล้องฟิล์มนั้น ออกตัวก่อนว่าไม่ใช่โปรนะค๊าา ถ้าอันไหนขัดหูขัดตาก็เชิญชี้แนะได้ตามสะดวกเลย
เรามาถึงบูดาเปสด้วย overnight train จากปราก บุคตั๋วรถมาจากบ้านค่ะ เดี๋ยวมีสภาพในตู้รถไฟให้ดูเป็นคลิปถ่ายจากมือถือที่โพสต์ถัดไปนะคะ
บูดาเปสนี่เป็นเมืองชิลของจริงเลย คนละแนวกะปรากเลยในความคิดเรา คือสถาปัตยกรรมเก่าจริงๆดูเหมือนจะมีไม่มากเพราะเค้าโดนรุกรานหลายรอบ ไม่ว่าจะเป็นออสเตรีย เติร์ก สุดท้ายเป็นโซเวียต แต่ละรอบสถานที่หลักๆก็เสียหายไปและมีการซ่อมแซมใหม่หลายรอบ กลายเป็นว่าที่มีให้เห็นปัจจุบันส่วนมากเลยเป็นของใหม่แล้ว
แต่ความชิลเราว่าเป็นเพราะลักษณะภูมิประเทศค่ะ ฝั่งบูดาเป็นเมืองเก่าบนเขา มีแม่น้ำดานูบกั้นกลางแยกออกจากฝั่งเปสต์ซึ่งเป็นเมืองใหม่ บ้านนี้เค้าไม่มีชายหาด แต่คนมานั่งชิล อาบแดดกันริมแม่น้ำดานูบ บรรยากาศเหมือนถนนเลียบหาดบ้านเราเลย ช่วงที่เราไปเป็นหน้า spring ของเค้า แต่ว่าแดดแรงมาก กลางวันแดดยังกะเมืองชายหาดแต่ช่วงไม่มีแดดก็จะเย็นนิดนึง เรากะแฟนเป็นสายเดินเที่ยว เดินกันจนฝ้าขึ้นตามๆกันไป นอกจากเก็บตังมาเที่ยวแล้ว ต้องกลับไปเก็บตังรักษาฝ้าต่อ
วันแรกที่มาถึงเนื่องจากเราตัดสินใจซื้อ 24 hr pass กัน ดังนั้นนนน เพื่อความคุ้มค่าก็เลยต้องใช้ส่วนลดต่างๆและสิทธิ์เข้ามิวเซียมฟรีให้ได้มากที่สุด
พวกเราเลยมาขึ้นเรือล่องดานูบชมวิวกันค่ะ
แต่รูปที่ถ่ายจากมุมสูงนั้น เราถ่ายลงมาจากตรงรูปปั้น Citadella คือเป็นรูปปั้นที่อยู่บนจุดสูงสุดของ Gellert Hill ค่ะ เป็นจุดที่ Host แนะนำว่าถ้าเวลาน้อยอย่างน้อยปีนขึ้นมาบนนี้ก่อนแล้วกัน
เราก็เลยขึ้นมาตั้งแต่วันแรกเลย แนะนำเลยค่ะ เหนื่อยหน่อย ใช้เวลาซัก 20-30 นาที แต่เดินไม่ได้ลำบากอะไร แค่ว่าระหว่างทางไม่มีห้องน้ำนะคะ คือต้องเก็บไว้มาเข้าข้างบนเลย
กระซิบว่าที่นี่ห้องน้ำสาธารณะที่มีอยู่ตามจุดท่องเที่ยวนี่แพงจริง ที่เห็นคือประมาณ 1 ยูโรซะเป็นส่วนใหญ่ แต่เข้าตาจนก็วิ่งเข้านะ >,<
ที่พัก: เราจอง airbnb มาจากไทยค่ะ Budapest เป็นที่ๆ airbnb ดีงามมากกก แนะนำสุดๆ ราคาดีที่พักเก๋ ส่วนมากเป็นแบบ entire apartment คือตั้งแต่พัก airbnb มาเราว่าที่ Budapest นี้เวิร์คสุดเลย ในแง่ความคุ้มราคานะคะ. เพื่อนอีกคนที่เพิ่งมาบูดาเปสต์ไปเหมือนกันเมืออาทิตย์ก่อนก็พัก airbnb ก็ได้ที่พักกิ๊บเก๋ในราคาดีงามเช่นกัน
ที่พักของเราเป็นอพาร์ทเมนต์สไตล์ Loft ความจริงนอนได้น่าจะถึง 4-5 คนเลยค่ะ คือเป็นห้องชุดแบบ Duplex เพดานสูง แล้วทำเป็นบันไดขึ้นไปเป็นชั้นบนมีเตียงนอนสองด้าน (ก็คือมีเตียง 5 ฟุตสองเตียง)
มีครัว เครื่องซักผ้า ตู้เย็น อุปกรณ์จำเป็นครบ
โลเคชั่นดีคืออยู่หลัง central market เลย เดินออกมาหน่อยเดียวก็เป็นสะพาน liberty ที่ข้ามไปฝั่งบูดา เรียกว่าโลเคชั่นก็ดีมากเดินได้ทั่วถึง โฮสต์ชื่อซิลเวีย (Szilvia) น่ารักเป็นกันเอง และเป็น Superhost
แต่ข้อเสียของ airbnb คือเรื่องฝากกระเป๋านะคะ คิดว่าบางที่host ก็มีที่ให้ฝากได้แต่ต้องคุยเป็นกรณีพิเศษ อย่างของเราที่นี่เค้าไม่มีที่ให้ฝาก
แต่ที่ฝากกระเป๋าที่บูดาเปสต์เราว่าหาไม่ยากและราคาถูกค่ะ อย่างที่เราไปฝากวันที่มาถึง ชม.ละ 1 ยูโร ราคาอยู่ในเกณฑ์รับได้(ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เสียตังเพราะว่าซื้อตั๋ว pass สำหรับ 24 hr แล้วเค้ามีแถมฝากกระเป๋าให้ 4 hr ฟรี
)
วันที่สองเราเดินข้ามมาฝั่งบูดาซึ่งเป็นย่านเมืองเก่าค่ะ เดินไปดู Castle ต่อด้วย Matthias Church และ Fisherman’s Bastion ค่ะ
ระหว่างทางเจอถนนที่มีต้นซากุระยาวไปตลอดสายเลย ถ้าไม่ติดว่าแดดแรงระดับสิบนี่จะฟินมาก
ช่วงบ่ายเราก็เดินกลับมาเที่ยวฝั่งเปสต์ค่ะ.
ที่ชอบมากเลยคือแถว Jewish district คาเฟ่ ผับ น่านั่งเพียบ
ชอบพี่คนนี้ เวสป้าดูคันเล็กไปเลย
พากล้องฟิล์ม(Nikonfm2n)ไปเที่ยวยุโรป ตอนที่ 1 : ลากกระเป๋าขึ้น Overnight train ไปบูดาเปสต์
ทริปนี้ที่จริงเราเริ่มต้นจากเวียนนาค่ะ ไปต่อ Ceske Budejovice แล้วเป็นปราก จากปรากนั่ง overnight train ไป Budapest ค้างสองคืนแล้วไป Bratislava ต่อ ก่อนจะกลับไปจบทริปที่เวียนนา ใช้เวลาตลอดทริป 12 วันถ้วน
มีอะไรจะเขียนเยอะไปหมดไม่รู้จะเริ่มตรงไหน
เลยขอเริ่มจากเมืองที่เขียนเก็บไว้ระหว่างทริปคือบูดาเปสต์ก่อน
ทริปนี้กล้องใช้ #NikonFM2n ตัวเดิมค่ะ ฟิล์มค่อนข้างมั่ว แต่อันไหนพอจำได้จะโน้ตบอกนะคะ ทริปนี้แดดแร๊งงงแรงกว่าที่คิดมาก ฟิลม์ที่เตรียมไปมีแต่ 400 ขึ้นไปทั้งนั้น แสงมันจะโอเวอร์เยอะมากเลย ทนดูกันหน่อยนะคะ ไม่อยากแต่งรูป ^ ^” ถือว่าดูเพลินๆเป็นภาพประกอบเฉยๆเนาะ
เรื่องรูปและกล้องฟิล์มนั้น ออกตัวก่อนว่าไม่ใช่โปรนะค๊าา ถ้าอันไหนขัดหูขัดตาก็เชิญชี้แนะได้ตามสะดวกเลย
เรามาถึงบูดาเปสด้วย overnight train จากปราก บุคตั๋วรถมาจากบ้านค่ะ เดี๋ยวมีสภาพในตู้รถไฟให้ดูเป็นคลิปถ่ายจากมือถือที่โพสต์ถัดไปนะคะ
บูดาเปสนี่เป็นเมืองชิลของจริงเลย คนละแนวกะปรากเลยในความคิดเรา คือสถาปัตยกรรมเก่าจริงๆดูเหมือนจะมีไม่มากเพราะเค้าโดนรุกรานหลายรอบ ไม่ว่าจะเป็นออสเตรีย เติร์ก สุดท้ายเป็นโซเวียต แต่ละรอบสถานที่หลักๆก็เสียหายไปและมีการซ่อมแซมใหม่หลายรอบ กลายเป็นว่าที่มีให้เห็นปัจจุบันส่วนมากเลยเป็นของใหม่แล้ว
แต่ความชิลเราว่าเป็นเพราะลักษณะภูมิประเทศค่ะ ฝั่งบูดาเป็นเมืองเก่าบนเขา มีแม่น้ำดานูบกั้นกลางแยกออกจากฝั่งเปสต์ซึ่งเป็นเมืองใหม่ บ้านนี้เค้าไม่มีชายหาด แต่คนมานั่งชิล อาบแดดกันริมแม่น้ำดานูบ บรรยากาศเหมือนถนนเลียบหาดบ้านเราเลย ช่วงที่เราไปเป็นหน้า spring ของเค้า แต่ว่าแดดแรงมาก กลางวันแดดยังกะเมืองชายหาดแต่ช่วงไม่มีแดดก็จะเย็นนิดนึง เรากะแฟนเป็นสายเดินเที่ยว เดินกันจนฝ้าขึ้นตามๆกันไป นอกจากเก็บตังมาเที่ยวแล้ว ต้องกลับไปเก็บตังรักษาฝ้าต่อ
วันแรกที่มาถึงเนื่องจากเราตัดสินใจซื้อ 24 hr pass กัน ดังนั้นนนน เพื่อความคุ้มค่าก็เลยต้องใช้ส่วนลดต่างๆและสิทธิ์เข้ามิวเซียมฟรีให้ได้มากที่สุด
พวกเราเลยมาขึ้นเรือล่องดานูบชมวิวกันค่ะ
แต่รูปที่ถ่ายจากมุมสูงนั้น เราถ่ายลงมาจากตรงรูปปั้น Citadella คือเป็นรูปปั้นที่อยู่บนจุดสูงสุดของ Gellert Hill ค่ะ เป็นจุดที่ Host แนะนำว่าถ้าเวลาน้อยอย่างน้อยปีนขึ้นมาบนนี้ก่อนแล้วกัน
เราก็เลยขึ้นมาตั้งแต่วันแรกเลย แนะนำเลยค่ะ เหนื่อยหน่อย ใช้เวลาซัก 20-30 นาที แต่เดินไม่ได้ลำบากอะไร แค่ว่าระหว่างทางไม่มีห้องน้ำนะคะ คือต้องเก็บไว้มาเข้าข้างบนเลย
กระซิบว่าที่นี่ห้องน้ำสาธารณะที่มีอยู่ตามจุดท่องเที่ยวนี่แพงจริง ที่เห็นคือประมาณ 1 ยูโรซะเป็นส่วนใหญ่ แต่เข้าตาจนก็วิ่งเข้านะ >,<
ที่พัก: เราจอง airbnb มาจากไทยค่ะ Budapest เป็นที่ๆ airbnb ดีงามมากกก แนะนำสุดๆ ราคาดีที่พักเก๋ ส่วนมากเป็นแบบ entire apartment คือตั้งแต่พัก airbnb มาเราว่าที่ Budapest นี้เวิร์คสุดเลย ในแง่ความคุ้มราคานะคะ. เพื่อนอีกคนที่เพิ่งมาบูดาเปสต์ไปเหมือนกันเมืออาทิตย์ก่อนก็พัก airbnb ก็ได้ที่พักกิ๊บเก๋ในราคาดีงามเช่นกัน
ที่พักของเราเป็นอพาร์ทเมนต์สไตล์ Loft ความจริงนอนได้น่าจะถึง 4-5 คนเลยค่ะ คือเป็นห้องชุดแบบ Duplex เพดานสูง แล้วทำเป็นบันไดขึ้นไปเป็นชั้นบนมีเตียงนอนสองด้าน (ก็คือมีเตียง 5 ฟุตสองเตียง)
มีครัว เครื่องซักผ้า ตู้เย็น อุปกรณ์จำเป็นครบ
โลเคชั่นดีคืออยู่หลัง central market เลย เดินออกมาหน่อยเดียวก็เป็นสะพาน liberty ที่ข้ามไปฝั่งบูดา เรียกว่าโลเคชั่นก็ดีมากเดินได้ทั่วถึง โฮสต์ชื่อซิลเวีย (Szilvia) น่ารักเป็นกันเอง และเป็น Superhost
แต่ข้อเสียของ airbnb คือเรื่องฝากกระเป๋านะคะ คิดว่าบางที่host ก็มีที่ให้ฝากได้แต่ต้องคุยเป็นกรณีพิเศษ อย่างของเราที่นี่เค้าไม่มีที่ให้ฝาก
แต่ที่ฝากกระเป๋าที่บูดาเปสต์เราว่าหาไม่ยากและราคาถูกค่ะ อย่างที่เราไปฝากวันที่มาถึง ชม.ละ 1 ยูโร ราคาอยู่ในเกณฑ์รับได้(ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เสียตังเพราะว่าซื้อตั๋ว pass สำหรับ 24 hr แล้วเค้ามีแถมฝากกระเป๋าให้ 4 hr ฟรี )
วันที่สองเราเดินข้ามมาฝั่งบูดาซึ่งเป็นย่านเมืองเก่าค่ะ เดินไปดู Castle ต่อด้วย Matthias Church และ Fisherman’s Bastion ค่ะ
ระหว่างทางเจอถนนที่มีต้นซากุระยาวไปตลอดสายเลย ถ้าไม่ติดว่าแดดแรงระดับสิบนี่จะฟินมาก
ช่วงบ่ายเราก็เดินกลับมาเที่ยวฝั่งเปสต์ค่ะ.
ที่ชอบมากเลยคือแถว Jewish district คาเฟ่ ผับ น่านั่งเพียบ
ชอบพี่คนนี้ เวสป้าดูคันเล็กไปเลย