▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
นักร้องนักดนตรีชาย
วิจิตรศิลป์ (Fine Art)
ผลิตโชค อายนบุตร (เป๊ก)
นิทรรศการศิลป์
One Man Story เมื่อความรักถูกกลั่นออกมาเป็นภาพเขียน
เมื่อก้าวเข้าไปข้างในฉันก็ไปลงทะเบียนและรับสูจิบัตรของงาน สูจิบัตรสวยงามมาก มีรายละเอียดของนักวาดแต่ละคน จำนวนภาพที่แสดง และเรื่องราวต่างๆ ที่ทำการจัดการแสดงอย่างเป็นหมวดหมู่ สมกับชื่องาน One Man Story ซึ่งมีมากกว่า 80 ภาพเลยทีเดียว
เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยฉันก็เดินมาเข้าแถวเพื่อเข้าชมนิทรรศการ ผู้จัดมีการจัดการที่ค่อนข้างดีในการแบ่งรอบผู้เข้าชมไม่ให้มากจนเกินไปจนเข้าไปเบียดเสียดกัน ซึ่งถ้าไม่อยากเข้าคิวนานก็สามารถโหลดแอพพลิเคชั่นมาทำการลงคิวได้ด้วย ตอนนั้นมีคนเยอะพอสมควรแต่ฉันคิดว่ายืนเข้าแถวรอและดูบรรยากาศรอบๆ ไปเลยดีกว่า ไม่ถึง 15 นาทีฉันก็ได้เข้าไปชมงานค่ะ เรามาเริ่มเดินทางเข้าสู่เรื่องราวของผู้ชายคนนี้กันนะคะ
01 ฝึกซ้อม 02 ไม่มีใครรู้ จุดเริ่มต้นของการเป็นนักร้องของเป๊ก เริ่มจากการค้นพบว่าตัวเองอยากเป็นนักร้อง เป๊กเข้าไปฝึกซ้อมและออดิชั่นที่แกรมมีนานถึง 6 ปีกว่าจะประสบความสำเร็จ ได้มีเพลงแรกเป็นของตัวเอง คือเพลง ไม่มีใครรู้ เป็นเพลงเปิดตัวที่ทำให้ทุกคนได้รู้จักเค้า ทำให้เค้าได้ออกอัลบั้มแรกในชีวิตและได้เป็นหนึ่งในทีมนักร้องเสียงดีอย่าง เป๊ก ออฟ ไอซ์ แต่เมื่อมาถึงจุดนี้ทุกอย่างก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปค่ะ
03 ความดี 04 ก้าวย่างในทางธรรม 05 ค่ำคืนอันยาวนาน ตัวตนของเป๊ก เป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นนิสัยดี เฮฮา รักเพื่อน เป็นคนกล้าจนเข้าขั้นห่าม แต่ในอีกมุมหนึ่ง เป็นเป็นคนจิตใจดี อ่อนโยน เซนซิทีฟ และเก็บความรู้สึก ในช่วงที่กราฟชีวิตในการทำงานของเค้าเริ่มตกลง จากกระแสข่าวต่างๆ ที่จู่โจมเข้ามาและวงการเพลงที่เปลี่ยนไปสู่ยุคเฟื่องฟูของการประกวด ทำให้ความสนใจในตัวนักร้องเปลี่ยนไป ชื่อของเป๊ก ผลิตโชค ก็ค่อยๆ เลือนหายไปจากความทรงจำของใครหลายๆ คน บางคนถามว่าช่วงเวลาเหล่านั้นเป๊กหายไปไหน คำตอบก็คือ เป๊กไม่ได้หายไปไหนเลย เค้ายังคงต่อสู้ดิ้นรนเพื่อรักษาความฝันเอาไว้ แต่ก็มีถึงจุดที่เค้าตัดสินใจว่าควรจะพักก่อน
ด้วยเหตุการณ์สำคัญของบ้านเมือง นำพาให้เค้าได้หันหน้าเข้าสู่ทางธรรมจะด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจอันแรงกล้า หรือกุศลบารมีใดๆ ก็ตามกราฟชีวิตของเค้าก็เริ่มจะดีขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยหนีหายไปจากชีวิตของผู้ชายคนนี้คือความเจ็บไข้ได้ป่วย เค้าเข้าๆ ออกๆ รพ.เป็นว่าเล่นมาตั้งแต่เด็ก และเนื่องจากไม่ชอบให้ใครมาเฝ้าหลายครั้งเค้าก็นั่งเหงาๆ แล้วจบลงด้วยการไลฟ์คุยกับแฟนคลับที่มีอยู่ไม่มากนักแต่เชื่อว่าช่วงเวลานั้นมันคงจะช่วยเติมพลังชีวิตให้กับเป๊กได้มาก ทำให้เค้าสามารถลุกออกจากเตียงคนไข้ไปร้องเพลงในวันรุ่งขึ้นได้ แม้ว่าจะมีอาการวูบไปบ้างก็ตาม และแม้ว่าจะมีคนใจร้ายบางคนเอารูปตอนเจ็บป่วยของเค้าไปเขียนบิดเบือนล้อเลียนให้เป็นที่ตลกขบขับแต่เป๊กก็ไม่เคยออกมาตอบโต้หรือแก้ข่าวอะไร ยังคงเป็นผู้ชายที่เก็บงำทุกอย่างไว้กับตัวเองเหมือนเคย
06 หน้ากากจิงโจ้ 07 ผลิตห้างแตก 08 ขวัญใจมหาชน การรอคอยอันยาวนานสิ้นสุดลงเมื่อเป๊กตัดสินใจไปร่วมรายการเกิดใหม่อย่าง The Mask Singer เป๊กคงไม่คิดเหมือนกันว่ามันจะเป็นการเกิดใหม่ของตัวเค้าเองด้วย เชื่อว่านาทีนี้เกือบทุกคนรู้จักหน้ากากจิงโจ้ รู้ว่าหน้ากากจิงโจ้คือเป๊ก ผลิตโชค นักร้องคุณภาพคนหนึ่งของเมืองไทย เสน่ห์ความน่ารัก ขี้อ้อน เด๋อด๋า งงเด้ตลอดเวลา ของหน้ากากจิงโจ้ก็คือตัวตนของเป๊ก มันเลยไม่ยากที่คนที่รักหน้ากากจิงโจ้จะตามมารักเป๊ก และเมื่อได้เริ่มทำความรู้จักกันใหม่อีกครั้งก็ยิ่งตกหลุมรักเป๊กมากขึ้นไปอีก ทำให้เกิดปรากฎการณ์ผลิตห้างแตกตามมาและยังคงเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา แฟนๆ ยังคงเหนียวแน่นไม่ไปไหน และยังมีแฟนคลับใหม่ๆ เกิดขึ้นเรื่อยๆ เครื่องยืนยันถึงความรักและความเหนี่ยวแน่นที่แฟนๆ มีให้เป๊กที่เป็นรูปธรรมมากที่สุดก็คือรางวัลขวัญใจมหาชนนั่นเอง เป็นหนึ่งในภาพความทรงจำของเป๊กและแฟนคลับเป็นค่ำคืนที่ทะเลดาวสีขาวส่องแสงสวยงามมาก
09 โทษที่เอาแต่ใจ 10 สุขสันต์วันเกิด 11 คอนเสิร์ต 12 ฉันแค่เป็นตัวเอง หลังจากนั้นชีวิตการทำงานในวงการเพลงก็เริ่มเดินหน้าอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง โทษที่เอาแต่ใจ คือซิงเกิ้ลแรกหลังเปิดหน้ากากที่แฟนๆ รอกันนานพอสมควร จากนั้นซิงเกิ้ลต่อๆ ไปก็ตามมา เป๊กได้เดินเข้าห้องอัด ได้กลับไปเจอพี่ๆ ที่ทำงานเพลงที่รู้จักคุ้นเคย ชีวิตนักร้องของเค้ากลับมาเข้าที่เข้าทางเสียที ในส่วนของแฟนๆ เองนอกจากจะคอยซัพพอร์ทเป๊กในทุกๆ ด้านหรือทำเซอร์ไพรส์วันเกิดให้เป๊กในหลายๆ ที่แล้วพวกเค้ายังได้ใช้โอกาสนี้ในการทำความดีในรูปแบบต่างๆ อีกมากมาย
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ความฝันสำคัญอีกอย่างหนึ่งของเป๊กก็เป็นจริง เพราะเค้าได้มีคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเองเป็นครั้งแรก ได้มีการรวมตัวของคนรักเป๊กมากที่เป็นครั้งแรกเช่นกัน แม้ว่างานคอนเสิร์ตครั้งนี้จะจบลงแล้ว แต่ชีวิตและความฝันของการเป็นนักร้องของเป๊กยังคงต้องเดินหน้าต่อไปตามแนวทางที่เขาถนัดและเป็นตัวของตัวเองอย่างที่เป๊กพูดเสมอว่าจะทำผลงานดีๆ ออกมาให้ทุกคนภูมิใจ ซึ่งแฟนเพลงก็พร้อมจะเป็นลมใต้ปีกให้เป๊กเช่นกัน ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าเดินมาจนถึงภาพสุดท้ายแล้วก็ตอนที่ได้ยินเสียงน้องทีมงานกล่าวคนขอบคุณ
ฉันบอกขอบคุณน้องด้วยเช่นกัน ขอบคุณที่จัดงานนี้ขึ้นมา ทำให้ฉันได้ทบทวนเรื่องราวของผู้ชายคนนี้อีกครั้ง ผ่านลายเส้นอันหลากหลายที่ทำให้ฉันยิ้ม และแอบเช็ดน้ำตาในบางช่วงตลอดเวลาเกือบ 30 นาทีที่เดินชมภาพทั้งหมด เมื่อเดินออกมาฉันจึงเดินเล่นดูภาพมุมกว้างของงานบ้าง นอกจากการแสดงภาพแล้วก็ยังมีกิจกรรมอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำเวิร์คช็อปวาดภาพ speed paint ที่มีสมาชิกเรือนช่างศิลป์มารับวาดภาพด่วนให้กับเรา โดยมีกล่องให้เราได้ร่วมบริจาคตามศรัทธาเพื่อนำไปเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กที่บกพร่องทางการได้ยิน นอกจากนี้ก็ยังมีตุ๊กตา paper craft น่ารักๆ จำหน่ายเพื่อนำเงินไปช่วยน้องๆ ด้วยเช่นกัน ฉันชอบมากที่ทางเรือนช่างศิลป์จัดงานแสดงครั้งนี้โดยมีกิจกรรมร่วมกับมูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวกฯ ไม่ว่าจะเป็นการนำรายได้จากการจัดงานไปร่วมสมบททุนการศึกษา การเปิดโอกาสให้น้องๆ มาแสดงความสามารถในงาน หรือการที่มีครูมาสอนภาษามือแบบง่ายๆ ให้คนปกติอย่างเราได้เข้าใจและไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ทั้งหมดนี้คงต้องขอบคุณย้อนไปถึงเป๊กอีกเช่นกัน ที่มีแนวคิดจะใช้เพลงและท่าเต้นของตัวเองเป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับน้องๆ กลุ่มนี้
สุดท้ายเมื่อเก็บเกี่ยวทุกอย่างจนหนำใจแล้วฉันก็เดินขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อออกจากงาน จากจุดนี้ฉันยังมีโอกาสได้เห็นภาพวาดและนิทรรศการได้อย่างชัดเจน ด้วยความอ้อยอิ่ง ฉันจึงค่อยๆ เดินขึ้นไปทีละชั้น ทีละชั้นจนถึงชั้นบนสุดแล้วมองลงมา เสียงเพลง นี่แหละความรัก ที่บรรเลงด้วยเปียโน ยังคงดังคลอเบาๆ ขึ้นมาถึงชั้นบน ฉันใช้เวลาอยู่ตรงราวระเบียงอีกพักใหญ่ก่อนโบกมือลานิทรรศการที่น่ารักอบอุ่นนี้จริงๆ เสียที
หมายเหตุ: นิทรรศการ "One Man Story" by เรือนช่วงศิลป์ จัดที่ลาน Atrium 2 ชั้น G Siam Center ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. - 4 พ.ค. 61 ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย