งานเขียนชิ้นนี้เป็นการหวีดนักร้องแบบนักเขียนสไตล์
เหมาะสำหรับคนรักผลิตโชค คนไม่รักผลิตโชค คนอยากรู้จักผลิตโชค เป็นบันทึกรักผลิตโชคฉบับโรส ๆ
อัปเป็นตอน ๆ ไปเรื่อย ๆ มีเวลาก็มาอ่านกันนะคะ
รักผลิตหนักมาก
โรส
๑
แรกรู้จัก
ฉันได้ยินชื่อ
เป๊ก ผลิตโชค ครั้งแรกในรายการหน้ากากนักร้อง ด้วยความที่เป็นคนไม่ติดตามวงการบันเทิง และไม่ได้อยู่เมืองไทย ทำให้ไม่รู้จักดารานักร้องไทยเลย แต่เพราะฉันฝังตัวอยู่ในเฟซบุ๊กตลอดเวลา จึงทำให้เห็นคลิปวีดีโอเพลงที่ร้องโดยหน้ากากต่าง ๆ อยู่เสมอ ซึ่งตอนแรกก็ไม่รู้ว่า 'หน้ากากนักร้อง' คืออะไร แต่เห็นบ่อยเข้าก็อดไม่ได้ ในที่สุดก็กดลิงก์ youtube ไปดูรายการ ซึ่งคลิปนั้นเป็นการแข่งรอบ Semi-final group D และเป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักหน้ากากจิงโจ้
วันนั้นหน้ากากจิงโจ้แข่งกับหน้ากากอาหมวย และเพียงแค่ประโยคแรกขึ้นมา I could hardly believe it... ฉันก็ตกหลุมรักจิงโจ้อย่างจัง!
ฉันหลงใหลในน้ำเสียงอันนุ่มละมุนและเซ็กซี่ของเขา หลงหนักมากจนไม่มีสายตามองใครอีก ไม่ว่าใครที่ไหนจะร้องเพลงอะไร ก็ไม่มีใครเทียบชั้นหน้ากากจิงโจ้ในความรู้สึกของฉันได้เลย ทำให้เมื่อดูคลิปนั้นจบ ฉันก็ดูคลิปในสัปดาห์ต่อไปทันที โชคดีว่าเป็นการดูย้อนหลังทำให้ได้ดูของสัปดาห์ต่อมาได้ทันทีโดยไม่ต้องรอถึงหนึ่งสัปดาห์
ในรอบ final นี้ หน้ากากจิงโจ้ทำฉันหลงหนักเข้าไปอีกในความเท่ของเขาตอนแรป featuring กับหน้ากากปลาหมึก เขาเป็นผู้ชายที่เท่มาก ความมีเสน่ห์ของเขาทะลุหน้ากาก ทำให้คนตกหลุมรักได้โดยไม่ต้องเห็นหน้า อย่างที่พี่ตั๊กว่า "ไม่สามารถละสายตาจากเขาได้เลย" ส่วนตัวฉันเองนั้น นอกจากเสียงร้องและท่วงท่าการเคลื่อนไหวของเขาแล้ว ยังรู้สึกหลงรัก 'ลูกกระเดือก' ของเขาด้วย เห็นลูกกระเดือกของเขาทีไร อดใจสั่นไม่ได้ทีนั้นสิน่า
ฉันโชคดีอีกแล้วที่หลังจากดูคลิปการแข่งขันระหว่างจิงโจ้และปลาหมึกเสร็จ คืนนั้นก็เป็นคืนที่จิงโจ้จะแข่งกับทุเรียนพอดี ฉันเลยตั้งตารอดูสด ๆ พร้อม ๆ กับคนที่เมืองไทย ที่แม้ว่าเวลาในประเทศที่ฉันอยู่จะเร็วกว่าเวลาที่ไทยถึงสามชั่วโมงแต่ฉันก็บ่ยั่น นอนดึกก็นอน อยากลุ้นจิงโจ้ไปด้วยกันกับคนทางเมืองไทย
ในตอนที่จิงโจ้ร้อง Happy กับทุเรียนนั้นฉันมีความรู้สึก 'happy' ตามไปด้วย เพลงจังหวะสนุกสนาน เสียงร้องที่เข้ากันดีระหว่างสองหน้ากาก แต่จิงโจ้ก็ยังได้ใจฉันมากกว่าอยู่ดีกับท่าเต้นที่สุดแสนจะเท่ของเขา เขาเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มากจริง ๆ นะ
นอกจากเสียงและท่าทางของเขาแล้ว สิ่งที่ทำให้ฉันชื่นชอบที่ออกไปในแง่ชื่นชมหน้ากากจิงโจ้ก็คือความสุภาพของเขา ที่แม้ว่าเขาจะพยายามแสดงความแบดออกมามากแค่ไหน แต่ก็กลบความเป็นตัวตนอันสุภาพอ่อนน้อมของเขาไม่ได้ ในขณะที่หลาย ๆ หน้ากากเวลาตอบคำถามบางทีดูลามปาม ที่รู้แน่ ๆ ว่าในชีวิตจริงจะไม่มีใครกล้าทำแบบนี้ แต่หน้ากากจิงโจ้จะพูดเพราะ สุภาพ อ่อนน้อมกับกรรมการที่เป็นผู้ใหญ่ และเล่นกับกรรมการเด็กที่เขาเห็นว่าเขาสามารถเล่นด้วยได้ในชีวิตจริง อย่างการพูดเสียงอ่อนเสียงหวานกับครูอ้วน "คุณครูอยากดูหรือครับ" ฉันประทับใจมากพอ ๆ กับ "ไม่
![ยิ้ม ยิ้ม](https://ptcdn.info/emoticons/emoticon-smile.png)
" ที่พูดกับดีเจนุ้ย เขาดูเป็นคนรู้กาลเทศะ รู้ควรไม่ควร รวมกับการที่เอะอะไหว้ เอะอะไหว้ ยิ่งทำให้ฉันประทับใจ และเชียร์หน้ากากจิงโจ้ให้ชนะหน้ากากทุเรียนให้ได้
เมื่อจิงโจ้แพ้ฉันรู้สึกเสียดาย อยากเห็นหน้ากากจิงโจ้เป็นแชมป์ของรายการ แต่ในขณะเดียวกันก็ดีใจ ที่จะได้เห็นหน้าตาของผู้ชายคนนี้เสียที อยากรู้มาก ๆ ว่าเป็นใคร จะใช่ชิน ชินวุฒิ อย่างที่กรรมการว่าไหม อยากรู้มากขนาดส่งข้อความถามเพื่อนที่เป็นครูสอนร้องเพลงว่าใช่ชินอย่างที่กรรมการว่าหรือเปล่า แต่เพื่อนตอบกลับมาว่า "นี่คือ เป๊ก ผลิตโชค ล้านเปอร์เซ็นต์"
ฉันไม่รู้จักเป๊ก ผลิตโชค เมื่อได้ยินคำตอบว่า หน้ากากจิงโจ้คือเป๊ก ผลิตโชค ฉันก็ถามกลับไปว่า "เขาชื่อเป๊ก นามสกุลผลิตโชคหรือ" ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนได้ แหม...ก็ผลิตโชคมันเหมือนชื่อที่ไหนเล่า ใครจะไปคิดว่าจะมีคนตั้งชื่อลูกว่า 'ผลิตโชค' (ฮ่า ๆ)
ในที่สุดเวลาที่รอคอยก็มาถึง หลังจากที่พิธีกรบอกให้หน้ากากจิงโจ้ถอดหน้ากาก หลังจากที่มีการหันหน้าหันหลังแกล้งคนอยากรู้อีกนิดหน่อย หน้ากากจิงโจ้ก็ถอดหน้ากากแล้วปล่อยลงพื้น ก่อนที่จะหมุนตัวกลับมา บนใบหน้าประดับรอยยิ้มเขิน ๆ คล้ายกับไม่มั่นใจอะไรบางอย่าง และคำพูด “ใส่กลับเหมือนเดิมได้ไหม”
ในตอนนั้นฉันคิดเพียงแค่...หน้าตาแบบนี้เองหรอกหรือ เป๊ก ผลิตโชค
กาลครั้งหนึ่งในชีวิต...เมื่อฉันติดนักร้อง
เหมาะสำหรับคนรักผลิตโชค คนไม่รักผลิตโชค คนอยากรู้จักผลิตโชค เป็นบันทึกรักผลิตโชคฉบับโรส ๆ
อัปเป็นตอน ๆ ไปเรื่อย ๆ มีเวลาก็มาอ่านกันนะคะ
รักผลิตหนักมาก
โรส
แรกรู้จัก
ฉันได้ยินชื่อ เป๊ก ผลิตโชค ครั้งแรกในรายการหน้ากากนักร้อง ด้วยความที่เป็นคนไม่ติดตามวงการบันเทิง และไม่ได้อยู่เมืองไทย ทำให้ไม่รู้จักดารานักร้องไทยเลย แต่เพราะฉันฝังตัวอยู่ในเฟซบุ๊กตลอดเวลา จึงทำให้เห็นคลิปวีดีโอเพลงที่ร้องโดยหน้ากากต่าง ๆ อยู่เสมอ ซึ่งตอนแรกก็ไม่รู้ว่า 'หน้ากากนักร้อง' คืออะไร แต่เห็นบ่อยเข้าก็อดไม่ได้ ในที่สุดก็กดลิงก์ youtube ไปดูรายการ ซึ่งคลิปนั้นเป็นการแข่งรอบ Semi-final group D และเป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักหน้ากากจิงโจ้
วันนั้นหน้ากากจิงโจ้แข่งกับหน้ากากอาหมวย และเพียงแค่ประโยคแรกขึ้นมา I could hardly believe it... ฉันก็ตกหลุมรักจิงโจ้อย่างจัง!
ฉันหลงใหลในน้ำเสียงอันนุ่มละมุนและเซ็กซี่ของเขา หลงหนักมากจนไม่มีสายตามองใครอีก ไม่ว่าใครที่ไหนจะร้องเพลงอะไร ก็ไม่มีใครเทียบชั้นหน้ากากจิงโจ้ในความรู้สึกของฉันได้เลย ทำให้เมื่อดูคลิปนั้นจบ ฉันก็ดูคลิปในสัปดาห์ต่อไปทันที โชคดีว่าเป็นการดูย้อนหลังทำให้ได้ดูของสัปดาห์ต่อมาได้ทันทีโดยไม่ต้องรอถึงหนึ่งสัปดาห์
ในรอบ final นี้ หน้ากากจิงโจ้ทำฉันหลงหนักเข้าไปอีกในความเท่ของเขาตอนแรป featuring กับหน้ากากปลาหมึก เขาเป็นผู้ชายที่เท่มาก ความมีเสน่ห์ของเขาทะลุหน้ากาก ทำให้คนตกหลุมรักได้โดยไม่ต้องเห็นหน้า อย่างที่พี่ตั๊กว่า "ไม่สามารถละสายตาจากเขาได้เลย" ส่วนตัวฉันเองนั้น นอกจากเสียงร้องและท่วงท่าการเคลื่อนไหวของเขาแล้ว ยังรู้สึกหลงรัก 'ลูกกระเดือก' ของเขาด้วย เห็นลูกกระเดือกของเขาทีไร อดใจสั่นไม่ได้ทีนั้นสิน่า
ฉันโชคดีอีกแล้วที่หลังจากดูคลิปการแข่งขันระหว่างจิงโจ้และปลาหมึกเสร็จ คืนนั้นก็เป็นคืนที่จิงโจ้จะแข่งกับทุเรียนพอดี ฉันเลยตั้งตารอดูสด ๆ พร้อม ๆ กับคนที่เมืองไทย ที่แม้ว่าเวลาในประเทศที่ฉันอยู่จะเร็วกว่าเวลาที่ไทยถึงสามชั่วโมงแต่ฉันก็บ่ยั่น นอนดึกก็นอน อยากลุ้นจิงโจ้ไปด้วยกันกับคนทางเมืองไทย
ในตอนที่จิงโจ้ร้อง Happy กับทุเรียนนั้นฉันมีความรู้สึก 'happy' ตามไปด้วย เพลงจังหวะสนุกสนาน เสียงร้องที่เข้ากันดีระหว่างสองหน้ากาก แต่จิงโจ้ก็ยังได้ใจฉันมากกว่าอยู่ดีกับท่าเต้นที่สุดแสนจะเท่ของเขา เขาเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มากจริง ๆ นะ
นอกจากเสียงและท่าทางของเขาแล้ว สิ่งที่ทำให้ฉันชื่นชอบที่ออกไปในแง่ชื่นชมหน้ากากจิงโจ้ก็คือความสุภาพของเขา ที่แม้ว่าเขาจะพยายามแสดงความแบดออกมามากแค่ไหน แต่ก็กลบความเป็นตัวตนอันสุภาพอ่อนน้อมของเขาไม่ได้ ในขณะที่หลาย ๆ หน้ากากเวลาตอบคำถามบางทีดูลามปาม ที่รู้แน่ ๆ ว่าในชีวิตจริงจะไม่มีใครกล้าทำแบบนี้ แต่หน้ากากจิงโจ้จะพูดเพราะ สุภาพ อ่อนน้อมกับกรรมการที่เป็นผู้ใหญ่ และเล่นกับกรรมการเด็กที่เขาเห็นว่าเขาสามารถเล่นด้วยได้ในชีวิตจริง อย่างการพูดเสียงอ่อนเสียงหวานกับครูอ้วน "คุณครูอยากดูหรือครับ" ฉันประทับใจมากพอ ๆ กับ "ไม่
เมื่อจิงโจ้แพ้ฉันรู้สึกเสียดาย อยากเห็นหน้ากากจิงโจ้เป็นแชมป์ของรายการ แต่ในขณะเดียวกันก็ดีใจ ที่จะได้เห็นหน้าตาของผู้ชายคนนี้เสียที อยากรู้มาก ๆ ว่าเป็นใคร จะใช่ชิน ชินวุฒิ อย่างที่กรรมการว่าไหม อยากรู้มากขนาดส่งข้อความถามเพื่อนที่เป็นครูสอนร้องเพลงว่าใช่ชินอย่างที่กรรมการว่าหรือเปล่า แต่เพื่อนตอบกลับมาว่า "นี่คือ เป๊ก ผลิตโชค ล้านเปอร์เซ็นต์"
ฉันไม่รู้จักเป๊ก ผลิตโชค เมื่อได้ยินคำตอบว่า หน้ากากจิงโจ้คือเป๊ก ผลิตโชค ฉันก็ถามกลับไปว่า "เขาชื่อเป๊ก นามสกุลผลิตโชคหรือ" ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนได้ แหม...ก็ผลิตโชคมันเหมือนชื่อที่ไหนเล่า ใครจะไปคิดว่าจะมีคนตั้งชื่อลูกว่า 'ผลิตโชค' (ฮ่า ๆ)
ในที่สุดเวลาที่รอคอยก็มาถึง หลังจากที่พิธีกรบอกให้หน้ากากจิงโจ้ถอดหน้ากาก หลังจากที่มีการหันหน้าหันหลังแกล้งคนอยากรู้อีกนิดหน่อย หน้ากากจิงโจ้ก็ถอดหน้ากากแล้วปล่อยลงพื้น ก่อนที่จะหมุนตัวกลับมา บนใบหน้าประดับรอยยิ้มเขิน ๆ คล้ายกับไม่มั่นใจอะไรบางอย่าง และคำพูด “ใส่กลับเหมือนเดิมได้ไหม”
ในตอนนั้นฉันคิดเพียงแค่...หน้าตาแบบนี้เองหรอกหรือ เป๊ก ผลิตโชค