จขกท.เพิ่งไปเที่ยวสิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาค่ะ ก่อนไปก็หาข้อมูลในเน็ท แต่ก็มีข้อมูลบางอย่างที่หาไม่เจอ จึงตั้งใจว่าหลังจากเที่ยวเสร็จ จะกลับมาอัพเดทข้อมูลการไปเที่ยวสิงคโปร์เพิ่มค่ะ เผื่อใครที่กำลังจะไปเที่ยวและกำลังหาข้อมูลเหมือนเรา บังเอิญมาเจอกระทู้นี้
1. ตั๋วเครื่องบิน
เราเดินทางด้วยสายการบิน Scoot ค่ะ แต่สายการบินนี้ขาไป ต้อง check-in ที่เคาน์เตอร์ก่อนเวลาขึ้นเครื่อง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่สามารถ check-in online ได้นะคะ แต่ขากลับจากสิงคโปร์ สามารถ check-in online ได้ล่วงหน้า 72 ชม. ก่อนเวลาเครื่องออก ดังนั้นเที่ยวขากลับ เราจึงใช้วิธี check-in online จากที่ไทยไปเลยค่ะ พร้อมทั้งปริ้นท์บอร์ดดื้งพาสไปเลย ในวันกลับให้นำเอกสารและกระเป๋าเดินทางที่ต้องโหลดขึ้นเครื่องไปที่เคาน์เตอร์ได้เลยค่ะ จากนั้นนำเอกสารที่เราปริ้นท์ไปที่ช่อง Document Check เจ้าหน้าที่จะปริ้นท์บอร์ดดิ้งพาสของจริงออกมาให้ค่ะ
ตอนแรกเราเข้าใจว่าเราใช้บอร์ดดิ้งพาสที่เราปริ้นท์จากที่บ้านได้เลย แต่พอไปถึงหน้าทางเข้า เจ้าหน้าที่สแกนเอกสารเราไม่ได้ค่ะ ตอนนั้นเหวอมาก สุดท้ายเลยรีบไปที่ช่อง Document Check ถึงได้เข้าใจว่า อ๋อ เราต้องให้เขาปริ้นท์บอร์ดดิ้งพาสของจริงออกมาอีกทีก่อน
2. การเดินทาง
หลักๆ เราเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน MRT ซื้อบัตรเติมเงิน EZ-Link ราคา 12 SGD แยกเป็นค่าธรรมเนียมบัตร 5 SGD + เงินเดินทาง 7 SGD เติมเงินในบัตรครั้งละ 10 SGD ที่ตู้เติมเงิน ถ้าไม่มีแบงค์ย่อย ไปแลกกับเจ้าหน้าที่ในสถานีได้ค่ะ
สำหรับใครที่จะเดินทางไปเกาะ Sentosa ด้วย รถไฟ Sentosa Express สามารถใช้บัตร EZ-Link เดินทางได้เลยค่ะ ค่าโดยสาร 4 SGD แตะบัตรครั้งเดียวตอนเข้าไปในสถานีครั้งแรก ส่วนขากลับไม่ต้องแตะบัตรอีกรอบแล้ว
3. โรงแรม
เราพักที่โรงแรม The Quay Hotel ค่ะ (อ่านว่า เดอะ คีย์ โฮเทลนะคะ!) เป็นโรงแรมใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปีที่แล้ว มีผ้าขนหนู อุปกรณ์พื้นฐานในห้องน้ำ น้ำฟรีวันละ 2 ขวด ห้องที่เราพักมีรูปลั๊กแบบไทยให้ด้วยค่ะ ประตูทางเข้าโรงแรม หลัง 2 ทุ่ม ถ้าไม่มีคีย์การ์ด จะเข้าโรงแรมไม่ได้ รู้สึกปลอดภัยดีค่ะ แถมข้างโรงแรมมี 7-11 สะดวกมากๆ เลยค่ะ
4. Jumbo Seafood
เป็นร้านที่อ่านรีวิวที่ไหน ก็มีแต่คนบอกว่าต้องไปทานให้ได้ และก็ไม่ผิดหวัง อร่อยมากค่ะ!! เมนูที่ทุกโต๊ะต้องสั่ง คือ Chilli Crab เราอ่านเจอว่าให้สั่ง Mini Bun - Deep Fried (หมั่นโถวทอด) มาจิ้มกินกับซอส Chilli Crab ดีงามเลยค่ะ ;9
ส่วน Prawn w Cereal เราไม่ค่อยชอบตรงที่ต้องกินทั้งเปลือก แต่ถ้าใครชอบทานเปลือกกุ้งด้วย น่าจะชอบค่ะ
นอกจากนี้เราสั่ง Stri-fried Scallops with Broccoli มาด้วยค่ะ ในรูปนึกว่าจะจืด แต่พอเข้าปากเท่านั้นแหล่ะค่ะ หอยเชลล์สดมาก รสชาติก็กลมกล่อม เอามาทานตัดเลี่ยน Chilli Crab ได้ดี (สำหรับใครที่รู้สึกว่า Chilli Crab เลี่ยนไป)
ทางร้านจะมีถั่วใส่จานวางไว้บนโต๊ะ ถ้าใครไม่ทาน ให้พนักงานเก็บไปเลยนะคะ ไม่งั้นทางร้านจะคิดเงินค่าถั่วด้วยค่ะ
เราอ่านเจอว่าร้านคนค่อนข้างแน่น จึงเข้าไปจองโต๊ะที่เว็บนี้
https://www.jumboseafood.com.sg/en/reservations พอจองเสร็จแล้ว จะได้รับอีเมล ก็ปริ้นท์หน้าเมล วันที่ไปทาน ยื่นเอกสารให้เคาน์เตอร์หน้าร้าน รอสักพัก จะมีพนักงานพาเข้าไปที่โต๊ะค่ะ
5. Universal Studios Singapore
Express Pass ต้องไปซื้อที่เคาน์เตอร์หน้าทางเข้า USS ราคาคนละ 60 SGD จะได้เป็นตั๋วกระดาษ ถ้าเราเข้าไปเล่นอะไรแล้ว พนักงานจะใช้ปากกาขีดชื่อเครื่องเล่นนั้นออกค่ะ
6. บัตรเข้าสถานที่ต่างๆ
เราซื้อที่
https://www.facebook.com/singaporefanclub/ มี 3 สาขา Airport Link สนามบินสุวรรณภูมิ, สาขาห้างเกตเวย์ เอกมัย ชั้น B และสาขารามอินทรา ซอยลาดปลาเค้า 79
- บัตรเข้า USS >> บัตรจริงใช้เข้าได้เลย
- บัตรเข้า Flower Dome + Cloud Forest ที่ Gardens By The Bay >> บัตรจริงใช้เข้าได้เลย (ในรูปหางบัตร 2 ข้างโดนดึงไปแล้วนะคะ
- บัตรชมการแสดง Wings of Time >> เป็น Voucher ต้องนำไปแลกที่หน้า Shop ขายของ เจ้าหน้าที่จะออกบัตรจริงรอบเวลาที่เราจะดูมาให้ค่ะ (ในรูปเป็นบัตรจริงแล้วค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูป Voucher ไว้)
ข้อมูลหลักๆ ที่เราอยากอัพเดทไว้ ก็มีประมาณนี้ ถือว่าเป็นประเทศที่ไปไม่ยาก เหมาะสำหรับคนที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศแบบไม่ไกลมาก อ๊ะ! อีกเรื่องนึงที่อยากเตือนทุกคน ถ้าจะไปทานอาหารที่ร้านไหน ควรจะเช็คว่าร้านนั้นมีเว็บไซท์มั้ย พร้อมทั้งเข้าไปเช็ควันและเวลาเปิดปิดทำการด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าใครมีข้อมูลเกี่ยวกับสิงคโปร์ที่อยากเพิ่มเติม ก็คอมเม้นท์ในกระทู้นี้ได้เลยนะคะ ^^
รีวิวเที่ยวสิงคโปร์ 2018 (3 วัน 2 คืน)
1. ตั๋วเครื่องบิน
เราเดินทางด้วยสายการบิน Scoot ค่ะ แต่สายการบินนี้ขาไป ต้อง check-in ที่เคาน์เตอร์ก่อนเวลาขึ้นเครื่อง 3 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่สามารถ check-in online ได้นะคะ แต่ขากลับจากสิงคโปร์ สามารถ check-in online ได้ล่วงหน้า 72 ชม. ก่อนเวลาเครื่องออก ดังนั้นเที่ยวขากลับ เราจึงใช้วิธี check-in online จากที่ไทยไปเลยค่ะ พร้อมทั้งปริ้นท์บอร์ดดื้งพาสไปเลย ในวันกลับให้นำเอกสารและกระเป๋าเดินทางที่ต้องโหลดขึ้นเครื่องไปที่เคาน์เตอร์ได้เลยค่ะ จากนั้นนำเอกสารที่เราปริ้นท์ไปที่ช่อง Document Check เจ้าหน้าที่จะปริ้นท์บอร์ดดิ้งพาสของจริงออกมาให้ค่ะ
ตอนแรกเราเข้าใจว่าเราใช้บอร์ดดิ้งพาสที่เราปริ้นท์จากที่บ้านได้เลย แต่พอไปถึงหน้าทางเข้า เจ้าหน้าที่สแกนเอกสารเราไม่ได้ค่ะ ตอนนั้นเหวอมาก สุดท้ายเลยรีบไปที่ช่อง Document Check ถึงได้เข้าใจว่า อ๋อ เราต้องให้เขาปริ้นท์บอร์ดดิ้งพาสของจริงออกมาอีกทีก่อน
2. การเดินทาง
หลักๆ เราเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน MRT ซื้อบัตรเติมเงิน EZ-Link ราคา 12 SGD แยกเป็นค่าธรรมเนียมบัตร 5 SGD + เงินเดินทาง 7 SGD เติมเงินในบัตรครั้งละ 10 SGD ที่ตู้เติมเงิน ถ้าไม่มีแบงค์ย่อย ไปแลกกับเจ้าหน้าที่ในสถานีได้ค่ะ
สำหรับใครที่จะเดินทางไปเกาะ Sentosa ด้วย รถไฟ Sentosa Express สามารถใช้บัตร EZ-Link เดินทางได้เลยค่ะ ค่าโดยสาร 4 SGD แตะบัตรครั้งเดียวตอนเข้าไปในสถานีครั้งแรก ส่วนขากลับไม่ต้องแตะบัตรอีกรอบแล้ว
3. โรงแรม
เราพักที่โรงแรม The Quay Hotel ค่ะ (อ่านว่า เดอะ คีย์ โฮเทลนะคะ!) เป็นโรงแรมใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปีที่แล้ว มีผ้าขนหนู อุปกรณ์พื้นฐานในห้องน้ำ น้ำฟรีวันละ 2 ขวด ห้องที่เราพักมีรูปลั๊กแบบไทยให้ด้วยค่ะ ประตูทางเข้าโรงแรม หลัง 2 ทุ่ม ถ้าไม่มีคีย์การ์ด จะเข้าโรงแรมไม่ได้ รู้สึกปลอดภัยดีค่ะ แถมข้างโรงแรมมี 7-11 สะดวกมากๆ เลยค่ะ
4. Jumbo Seafood
เป็นร้านที่อ่านรีวิวที่ไหน ก็มีแต่คนบอกว่าต้องไปทานให้ได้ และก็ไม่ผิดหวัง อร่อยมากค่ะ!! เมนูที่ทุกโต๊ะต้องสั่ง คือ Chilli Crab เราอ่านเจอว่าให้สั่ง Mini Bun - Deep Fried (หมั่นโถวทอด) มาจิ้มกินกับซอส Chilli Crab ดีงามเลยค่ะ ;9
ส่วน Prawn w Cereal เราไม่ค่อยชอบตรงที่ต้องกินทั้งเปลือก แต่ถ้าใครชอบทานเปลือกกุ้งด้วย น่าจะชอบค่ะ
นอกจากนี้เราสั่ง Stri-fried Scallops with Broccoli มาด้วยค่ะ ในรูปนึกว่าจะจืด แต่พอเข้าปากเท่านั้นแหล่ะค่ะ หอยเชลล์สดมาก รสชาติก็กลมกล่อม เอามาทานตัดเลี่ยน Chilli Crab ได้ดี (สำหรับใครที่รู้สึกว่า Chilli Crab เลี่ยนไป)
ทางร้านจะมีถั่วใส่จานวางไว้บนโต๊ะ ถ้าใครไม่ทาน ให้พนักงานเก็บไปเลยนะคะ ไม่งั้นทางร้านจะคิดเงินค่าถั่วด้วยค่ะ
เราอ่านเจอว่าร้านคนค่อนข้างแน่น จึงเข้าไปจองโต๊ะที่เว็บนี้ https://www.jumboseafood.com.sg/en/reservations พอจองเสร็จแล้ว จะได้รับอีเมล ก็ปริ้นท์หน้าเมล วันที่ไปทาน ยื่นเอกสารให้เคาน์เตอร์หน้าร้าน รอสักพัก จะมีพนักงานพาเข้าไปที่โต๊ะค่ะ
5. Universal Studios Singapore
Express Pass ต้องไปซื้อที่เคาน์เตอร์หน้าทางเข้า USS ราคาคนละ 60 SGD จะได้เป็นตั๋วกระดาษ ถ้าเราเข้าไปเล่นอะไรแล้ว พนักงานจะใช้ปากกาขีดชื่อเครื่องเล่นนั้นออกค่ะ
6. บัตรเข้าสถานที่ต่างๆ
เราซื้อที่ https://www.facebook.com/singaporefanclub/ มี 3 สาขา Airport Link สนามบินสุวรรณภูมิ, สาขาห้างเกตเวย์ เอกมัย ชั้น B และสาขารามอินทรา ซอยลาดปลาเค้า 79
- บัตรเข้า USS >> บัตรจริงใช้เข้าได้เลย
- บัตรเข้า Flower Dome + Cloud Forest ที่ Gardens By The Bay >> บัตรจริงใช้เข้าได้เลย (ในรูปหางบัตร 2 ข้างโดนดึงไปแล้วนะคะ
- บัตรชมการแสดง Wings of Time >> เป็น Voucher ต้องนำไปแลกที่หน้า Shop ขายของ เจ้าหน้าที่จะออกบัตรจริงรอบเวลาที่เราจะดูมาให้ค่ะ (ในรูปเป็นบัตรจริงแล้วค่ะ ไม่ได้ถ่ายรูป Voucher ไว้)
ข้อมูลหลักๆ ที่เราอยากอัพเดทไว้ ก็มีประมาณนี้ ถือว่าเป็นประเทศที่ไปไม่ยาก เหมาะสำหรับคนที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศแบบไม่ไกลมาก อ๊ะ! อีกเรื่องนึงที่อยากเตือนทุกคน ถ้าจะไปทานอาหารที่ร้านไหน ควรจะเช็คว่าร้านนั้นมีเว็บไซท์มั้ย พร้อมทั้งเข้าไปเช็ควันและเวลาเปิดปิดทำการด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าใครมีข้อมูลเกี่ยวกับสิงคโปร์ที่อยากเพิ่มเติม ก็คอมเม้นท์ในกระทู้นี้ได้เลยนะคะ ^^