ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะคะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก ตั้งใจเขียนขึ้นมาเพื่อแชร์ประสบการณ์ของตัวเองให้ผู้อื่นได้ตระหนักถึงสุขภาพ ทุกอย่างในแต่ละวันไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆค่ะ อาจจะยาวหน่อยคงไม่ว่ากันนะคะ
เราเป็นคนต่างจังหวัด กิจวัตรประจำวันในแต่ละวัน ไม่เคยออกกำลังกาย ไม่ทานกาแฟ เหล้า บุหรี่ไม่เคยแตะ ทุกๆวันจะมีหน้าที่รับ-ส่งเด็กๆไปโรงเรียน เย็นๆแวะซื้อกับข้าวบ้าง ทำเองบ้างแล้วแต่สะดวก ขับรถชิลล์ๆแวะร้านสะดวกซื้อ ร้านชา-กาแฟมีอยู่ทุกหัวมุมถนน วันนึง 2-3 แก้ว ติดหวาน ไม่ค่อยเน้นขนม แต่เป็นคนติดของหนัก แบบข้าว
2-3 ปีก่อนไม่สบายเป็นหวัดทั่วๆไป
ไป รพ.เอกชน หมอขอตรวจละเอียด คราวนี้แหละที่ได้โรคมาเพิ่ม อย่างความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง แต่เนื่องจาก รพ. ยังใหม่ เครื่องมือยังไม่พร้อม ถ้าจะ check up ตลอดคงไม่สะดวก คุณหมอใจดี เลยแนะนำว่าควรจะไป รพ. ใหญ่
ทุกๆ 3 เดือนเลยต้องไปนั่งรอขอใบส่งตัวจาก รพ.ประจำจังหวัด เพื่อไป รพ.ใหญ่ ดูเหมือนจะซีเรียสทุกๆที่ที่ไป เราก็แค่คิดว่าความดันสูงเอง จะอะไรหนักหนา พอกินยาเข้าไป ก็เดินไม่ไหว เข่าอ่อน ล้าไปหมด พอไม่กินยาก็สดชื่นดี (ลืมบอกไป เราความดันสูง 230/120 รับยาความดันมา 8 ตัว) มันเหมือนเป็นความเคยชิน กับความดันขนาดนี้ เลยอยู่ได้แบบไม่มีอาการปวดหัวมารบกวนชีวิตประจำวันเลย
แต่ก็ได้หาสาเหตุนู่น นี่ นั่นจนครบ มีเจอหัวใจโต ไตปกติ อย่างอื่นไม่มีอะไร ไม่หยุดแค่นั้น หมอยังหาสาเหตุต่อ โดยการ sleep test ปรากฏว่าหยุดหายใจขณะหลับ 65 ครั้ง/ชม. ก็ซื้อเครื่อง cpap มาใช้ได้ราวปีกว่าๆ check up เจาะเลือดทุกๆ 2 เดือนบ้าง 3 เดือนบ้าง ความดันก็ยังสูงอยู่ต่อเนื่อง เพราะนิสัยแย่ๆของตัวเอง ไม่ใช้ cpap มา 3 เดือนแล้ว เพราะรำคาญเวลาใช้แล้วจะคัดจมูก เป็นหวัด ก็ไม่คิดว่าจะมีอะไร
17 เมษายน 2561
ไปหาหมอเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้รู้ตัวเองเลยว่าเหนื่อยมาก เดินกลับโรงแรมไม่ไหว ต้องเรียกวิน ปวดหัวตรงท้ายทอยมาก ก็รีบอาบน้ำนอน ไม่น่าจะมีอะไร
บ่ายๆกลับบ้านมา กล่อมตัวเล็กจนหลับ กำลังจะล้มตัวลงนอน อยู่ดีดีก็เห็นภาพซ้อน หน้า แขน-ขา ด้านขวาชาทั้งหมด คิดในใจว่าซวยแล้ว (เพราะรู้มาบ้างถึงอาการเส้นเลือดสมองตีบ) ยากลางวันยังไม่ได้กินเลย รีบลุกจะไปเอายามากิน ลุกเดินไม่ได้อีก ขาไม่มีแรง ล้มลง ดีไม่ฟาดกับอะไร
มาถึง รพ. ทุกคนวุ่นวายมาก วัดความดันได้ 270/125 ทดสอบยกแขน ยกขา (ยกไม่ได้ แรงหายไปไหนหมด) เจาะน้ำเกลือ ให้ยาลดความดัน ทำ CT scan , x-ray
คืนแรกความดันยังขึ้นๆลงๆ ทำธุระบนเตียงตลอด ไม่ไหว อึดอัดตัวเอง ลองเอาขาลงมาจากเตียงปุ๊บ ก็ร่วงเลย เลือดกระจายทั้งเข็มน้ำเกลือ และเข็มให้ยา ต้องเปิดเส้นกันใหม่ทั้ง 2 เส้น ทรมาน....
คืนที่ 2 ยาลดความดันเริ่มได้ผล จากขึ้นไปพีคสุด 270 คืนนี้ลดเหลือ 110 ลืมตาไม่ได้เลย ห้องหมุนติ้วๆตลอด ได้แต่นอนอยู่บนเตียง
กลายเป็นคนเดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็นตลอด เปิดเส้นบนหลังมือ ที่แสนจะพรุน ตรวจทุกอย่างใหม่หมด ทั้ง CT scan , MRI , echo หัวใจ , อัลตร้าซาวด์ไต นอนไอซียูเผื่อต้องให้ยาลดความดัน คุณหมอให้ลิมิตความสูงไว้ 220/120 ถ้าไม่สูงเกินก็ไม่ต้องให้ยา ที่นี่หมอไม่ให้ยาลดความดัน เพราะการที่ความดันลดมากเกินไปจะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ
คุณหมอแจ้งว่ามีจุดเลือดในสมองทั้ง 2 ข้าง ทั้งซ้าย-ขวา (ที่มันทำเรื่องขึ้นมาครั้งนี้คือข้างซ้ายที่ค่อนข้างใหญ่) อาจจะเป็นไปได้ว่าเลือดวิ่งไปจากหัวใจขึ้นไปในสมอง
ในห้องไอซียู พยาบาลดูแลดีมาก อาบน้ำ ฟอกสบู่บนเตียงให้วันละ 2 รอบ
ย้ายออกจากไอซียู มาอยู่ในห้องพักฟื้น ยังใช้ชีวิตอยู่บนเตียงตลอด มีแอบหนีเดินไปห้องน้ำ พยาบาลรู้อีก รีบเดินมาห้ามอย่างไว กลัวหกล้ม มีอุบัติเหตุ กินยา plavix แล้วทำให้เลือดหยุดช้า ....
8 วันใน รพ. พยาบาลใจดีมาสระผมให้ สบายหัวขึ้นเยอะมาก ทุกๆวัน นักกายภาพจะมาฝึกกิจกรรมบำบัดและกายภาพบำบัดให้ครั้งละ 2 ชม. เดินได้เยอะขึ้นด้วยไม้เท้า จับช้อนกินข้าวไม่ได้ เขียนชื่อตัวเองไม่ได้ อาบน้ำเองไม่ได้ คุณหมอบอกว่าโอกาสเป็นซ้ำได้ตลอด
เราต้องขยันกายภาพทุกวัน ให้ได้กลับมาเหมือนเดิมไวๆ คุณหมอบอกว่านาทีทองอยู่ในช่วง 6 เดือนแรก
สุดท้ายนี้อยากให้ทุกคนหมั่นออกกำลังกาย ทุกอย่างไม่แน่นอนจริงๆ อายุน้อยก็เป็นได้นะคะ
อายุ 32 เป็นเส้นเลือดสมองตีบ
เราเป็นคนต่างจังหวัด กิจวัตรประจำวันในแต่ละวัน ไม่เคยออกกำลังกาย ไม่ทานกาแฟ เหล้า บุหรี่ไม่เคยแตะ ทุกๆวันจะมีหน้าที่รับ-ส่งเด็กๆไปโรงเรียน เย็นๆแวะซื้อกับข้าวบ้าง ทำเองบ้างแล้วแต่สะดวก ขับรถชิลล์ๆแวะร้านสะดวกซื้อ ร้านชา-กาแฟมีอยู่ทุกหัวมุมถนน วันนึง 2-3 แก้ว ติดหวาน ไม่ค่อยเน้นขนม แต่เป็นคนติดของหนัก แบบข้าว
2-3 ปีก่อนไม่สบายเป็นหวัดทั่วๆไป
ไป รพ.เอกชน หมอขอตรวจละเอียด คราวนี้แหละที่ได้โรคมาเพิ่ม อย่างความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง แต่เนื่องจาก รพ. ยังใหม่ เครื่องมือยังไม่พร้อม ถ้าจะ check up ตลอดคงไม่สะดวก คุณหมอใจดี เลยแนะนำว่าควรจะไป รพ. ใหญ่
ทุกๆ 3 เดือนเลยต้องไปนั่งรอขอใบส่งตัวจาก รพ.ประจำจังหวัด เพื่อไป รพ.ใหญ่ ดูเหมือนจะซีเรียสทุกๆที่ที่ไป เราก็แค่คิดว่าความดันสูงเอง จะอะไรหนักหนา พอกินยาเข้าไป ก็เดินไม่ไหว เข่าอ่อน ล้าไปหมด พอไม่กินยาก็สดชื่นดี (ลืมบอกไป เราความดันสูง 230/120 รับยาความดันมา 8 ตัว) มันเหมือนเป็นความเคยชิน กับความดันขนาดนี้ เลยอยู่ได้แบบไม่มีอาการปวดหัวมารบกวนชีวิตประจำวันเลย
แต่ก็ได้หาสาเหตุนู่น นี่ นั่นจนครบ มีเจอหัวใจโต ไตปกติ อย่างอื่นไม่มีอะไร ไม่หยุดแค่นั้น หมอยังหาสาเหตุต่อ โดยการ sleep test ปรากฏว่าหยุดหายใจขณะหลับ 65 ครั้ง/ชม. ก็ซื้อเครื่อง cpap มาใช้ได้ราวปีกว่าๆ check up เจาะเลือดทุกๆ 2 เดือนบ้าง 3 เดือนบ้าง ความดันก็ยังสูงอยู่ต่อเนื่อง เพราะนิสัยแย่ๆของตัวเอง ไม่ใช้ cpap มา 3 เดือนแล้ว เพราะรำคาญเวลาใช้แล้วจะคัดจมูก เป็นหวัด ก็ไม่คิดว่าจะมีอะไร
17 เมษายน 2561
ไปหาหมอเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้รู้ตัวเองเลยว่าเหนื่อยมาก เดินกลับโรงแรมไม่ไหว ต้องเรียกวิน ปวดหัวตรงท้ายทอยมาก ก็รีบอาบน้ำนอน ไม่น่าจะมีอะไร
บ่ายๆกลับบ้านมา กล่อมตัวเล็กจนหลับ กำลังจะล้มตัวลงนอน อยู่ดีดีก็เห็นภาพซ้อน หน้า แขน-ขา ด้านขวาชาทั้งหมด คิดในใจว่าซวยแล้ว (เพราะรู้มาบ้างถึงอาการเส้นเลือดสมองตีบ) ยากลางวันยังไม่ได้กินเลย รีบลุกจะไปเอายามากิน ลุกเดินไม่ได้อีก ขาไม่มีแรง ล้มลง ดีไม่ฟาดกับอะไร
มาถึง รพ. ทุกคนวุ่นวายมาก วัดความดันได้ 270/125 ทดสอบยกแขน ยกขา (ยกไม่ได้ แรงหายไปไหนหมด) เจาะน้ำเกลือ ให้ยาลดความดัน ทำ CT scan , x-ray
คืนแรกความดันยังขึ้นๆลงๆ ทำธุระบนเตียงตลอด ไม่ไหว อึดอัดตัวเอง ลองเอาขาลงมาจากเตียงปุ๊บ ก็ร่วงเลย เลือดกระจายทั้งเข็มน้ำเกลือ และเข็มให้ยา ต้องเปิดเส้นกันใหม่ทั้ง 2 เส้น ทรมาน....
คืนที่ 2 ยาลดความดันเริ่มได้ผล จากขึ้นไปพีคสุด 270 คืนนี้ลดเหลือ 110 ลืมตาไม่ได้เลย ห้องหมุนติ้วๆตลอด ได้แต่นอนอยู่บนเตียง
กลายเป็นคนเดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็นตลอด เปิดเส้นบนหลังมือ ที่แสนจะพรุน ตรวจทุกอย่างใหม่หมด ทั้ง CT scan , MRI , echo หัวใจ , อัลตร้าซาวด์ไต นอนไอซียูเผื่อต้องให้ยาลดความดัน คุณหมอให้ลิมิตความสูงไว้ 220/120 ถ้าไม่สูงเกินก็ไม่ต้องให้ยา ที่นี่หมอไม่ให้ยาลดความดัน เพราะการที่ความดันลดมากเกินไปจะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ
คุณหมอแจ้งว่ามีจุดเลือดในสมองทั้ง 2 ข้าง ทั้งซ้าย-ขวา (ที่มันทำเรื่องขึ้นมาครั้งนี้คือข้างซ้ายที่ค่อนข้างใหญ่) อาจจะเป็นไปได้ว่าเลือดวิ่งไปจากหัวใจขึ้นไปในสมอง
ในห้องไอซียู พยาบาลดูแลดีมาก อาบน้ำ ฟอกสบู่บนเตียงให้วันละ 2 รอบ
ย้ายออกจากไอซียู มาอยู่ในห้องพักฟื้น ยังใช้ชีวิตอยู่บนเตียงตลอด มีแอบหนีเดินไปห้องน้ำ พยาบาลรู้อีก รีบเดินมาห้ามอย่างไว กลัวหกล้ม มีอุบัติเหตุ กินยา plavix แล้วทำให้เลือดหยุดช้า ....
8 วันใน รพ. พยาบาลใจดีมาสระผมให้ สบายหัวขึ้นเยอะมาก ทุกๆวัน นักกายภาพจะมาฝึกกิจกรรมบำบัดและกายภาพบำบัดให้ครั้งละ 2 ชม. เดินได้เยอะขึ้นด้วยไม้เท้า จับช้อนกินข้าวไม่ได้ เขียนชื่อตัวเองไม่ได้ อาบน้ำเองไม่ได้ คุณหมอบอกว่าโอกาสเป็นซ้ำได้ตลอด
เราต้องขยันกายภาพทุกวัน ให้ได้กลับมาเหมือนเดิมไวๆ คุณหมอบอกว่านาทีทองอยู่ในช่วง 6 เดือนแรก
สุดท้ายนี้อยากให้ทุกคนหมั่นออกกำลังกาย ทุกอย่างไม่แน่นอนจริงๆ อายุน้อยก็เป็นได้นะคะ