สืบเนื่องจากกระทู้ที่แล้วที่เคยได้ตั้งไว้ สอบถามเพื่อนสมาชิกทุกท่านว่าระหว่างแอร์ Daikin Super Smart (FTKM) vs Fujitsu iSense จะเลือกตัวไหนมาประจำการแทนตัวเดิมที่ใช้มาสิบกว่าปี จนได้ข้อสรุปว่าเปลี่ยนสองห้องสองตัวเลย ซึ่ง Daikin Super Smart FTKM พึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา พยายามหารีวิวจากหลายที่ประกอบการตัดสินใจก็ไม่เจอเลย
จึงตัดสินใจทำรีวิวบ้านๆ จากผู้ใช้จริงของตัว Daikin Super Smart รุ่นใหม่ล่าสุดของปี 2018 นี้ครับ
ตัวนี้จะเป็น Daikin Super Smart FTKM-SVS2 (New Model 2018)
จัดว่าเป็นรุ่น Top สุดใน Line Product ของทาง Daikin Thailand ที่ไม่นับรวม Urusara7 กับ Ekira นะครับ
โดยในรุ่น Super Smart นี้จะแตกต่างจากรุ่นทั่วไปตรงที่มีฟังก์ชั่นเป่าลมขึ้นด้านบน (Circulation Airflow) เพื่อป้องกันการปะทะลมโดยตรง และ ระบบควมคุมความชื้นภายในห้องอัตโนมัติ (Hybrid Cooling) ซึ่งเป็นความร่วมมือในการพัฒนากันระหว่างทาง Daikin TH กับ MTEC สวทช. ในการคิดค้นขึ้นให้เหมาะกับการใช้งานของคนไทย
ทาง Daikin ได้เคลมไว้ว่าในรุ่น Super Smart ตัว FTKM09SVS2 (9,000 BTU) นั้นมีค่า SEER สูงถึง 26.05 เป็นการแสดงว่าในรุ่นนี้นั้นประหยัดไฟสูงสุดในไลน์ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Daikin ในตอนนี้ อีกทั้งยังมาพร้อมกับแผงวงจร Super PCB Pro ที่ทนทานต่อไฟตกไฟกระชาก โดยไม่เสียหายที่ภาวะไฟตก 130V และทนไฟเกินได้ 440V
ภาพนี้จะเป็นการเปรียบเทียบ Model ทั้งสามรุ่นของ Daikin ในปี 2018 นี้ครับว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร
โดยเริ่มจาก FTKM > FTKC > FTKQ
โดยทางผมได้ตัดสินใจติดทั้งสองแบรนด์พร้อมกันเลยทั้ง Daikin และ Fujitsu
ตัว Daikin นั้นจะติดที่ห้องนอนผมแทน Panasonic ตัวเก่าที่ใช้มา 13 ปี
และ Fujitsu ติดที่ห้องนอนพ่อกับแม่แทน Hitachi ที่ใช้มา 11 ปี
ปล.จริงๆ แล้วทั้งสองตัวยังสามารถใช้งานได้ปกติดีนะครับ เพียงแต่เสียงค่อนข้างดังรบกวนการนอน บวกกับอยากลองเทคโนโลยี Inverter ว่าเงียบและประหยัดค่าไฟได้มากน้อยแค่ไหน แต่จะขอรีวิวในส่วนของ Daikin ที่ห้องนอนผมเพียงอย่างเดียวเนื่องจากยังไม่เห็นรีวิวรุ่นนี้เลย
หน้าตาของ Super Smart FTKM จะแตกต่างจากรุ่นเก่าตรงที่สีของตัวเครื่องในรุ่นเก่า Smart นั้นจะเป็นพลาสติก ABS ขาวงาช้าง ผิวสัมผัสด้าน แต่ในรุ่นใหม่นี้นั้นจะเป็นผิวสัมผัสเงาวาวลื่น
ฝาหน้ามีการดีไซน์ให้เป็นโค้งขึ้นไปทางด้านบนเรียกว่าหน้ากาก Coanda เพื่อรองรับ Circulation Airflow ที่จะส่งแรงลมขึ้นไปด้านบนเพดาน แทนการปะทะตัว
ติดตั้งท่ามกลางสายฝนของกรุงเทพในวันหยุดที่ผ่านมานี้ครับ
รุ่นที่ผมติดจะเป็นตัว 9,000 BTU FTKM09SV2S
Condensing Unit หรือคอยล์ร้อนในรุ่นนี้จะเป็นรุ่นแรกๆ ของทาง Daikin สำหรับแอร์ติดผนังที่เป็น อลูมิเนียมอัลลอย ผสมสารพิเศษเพื่อป้องกันการกัดกร่อนและเพิ่มความทดทาน แทนการใช้ทองแดง โดยทาง Daikin เคลมว่าอลูมิเนียมอัลลอย ที่นำมาใช้กับคอยล์ร้อนนั้นไม่เหมือนกับคู่แข่งเจ้าอื่นที่ใช้อยู่ (หรือเปล่า)
ด้านหลังคอยล์ร้อนจะโล่งไม่มีอะไรมาปิดแบบในภาพเลยครับ และมีเซนเซอร์ตรวจจับอากาศยื่นออกมา
แต่ขนาดตัวคอยล์ร้อนค่อนข้างใหญ่พอสมควร
มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 พร้อมรายละเอียดต่างๆ ในรุ่นนี้บนคอยล์ร้อน
Inverter R32
SEER 26.05
ปริมาณการใช้ไฟ 3,773.02 บาท/ปี ตกเดือนละ 314.41 บาท หรือวันละ 10.48 บาท
เตรียมการติดตั้งโดยเจ้าหน้าที่
โดยในรุ่นนี้เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ถาดรองน้ำทิ้งสามารถถอดล้างได้นะครับ หมดปัญหาที่ Daikin เป็นอยู่แบบเมื่อก่อนแล้ว
ในรุ่นใหม่นี้นั้น ทาง Daikin ได้มีการเปลี่ยนวัสดุหน้ากากแอร์ จากในรุ่นก่อนที่จะเป็นผิวสัมผัสด้าน สีขาวงาช้าง มาเป็นแบบเงาวาว สี Pure White แทน ส่วนตัวคิดว่าพื้นผิวแบบนี้ได้ความสวยงาม แต่ดูแลรักษายาก เนื่องจากปัญหารอยขนแมวจากการเช็ดล้างทำความสะอาด เกิดขึ้นได้ง่ายกว่าและอีกจุดคือ พลาสติกหน้ากากในรุ่นใหม่นี้นั้นค่อนข้างบางมาก เมื่อเทียบกับตัวเก่า หรือ Fujitsu อีกตัวที่ผมติดอีกห้อง
และเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็น ดีไซน์หน้ากาก Coanda โค้งขึ้นไปทางด้านบนเพื่อรองรับ Circulation Airflow ที่จะส่งแรงลมขึ้นไปด้านบนเพดาน แทนการปะทะตัว
มองจากอีกด้านนึง
ในรุ่น Super Smart ตัวใหม่นี้นั้นบาดเกล็ดแนวนอนจะมีแค่บานเดียวแต่เป็นขนาดใหญ่ ซึ่งตัวเก่าจะเป็นสองบาน และจุดต่างของรุ่นนี้เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นนั้นคือการที่สามารถปรับทิศทางลมได้แบบสามมิติ (ขึ้น-ลง-ซ้าย-ขวา) ได้พร้อมกัน ปกติแล้วในแอร์ขนาดเล็ก 9,000 BTU มักไม่ค่อยมีตรงนี้มาให้ครับ
ส่วนนี้จะเป็นไฟแสดงสถานะตัวเครื่อง / ช่องสำหรับรับคลื่นจากรีโมต / Intelligent Eye ตรวจจับการเคลื่อนไหวของคนในห้องเพื่อกระจายแรงลมได้ถูกจุด และเมื่อไม่มีคนอยู่ภายในห้องเกิน 20 นาทีจะเข้าสู่ Mode ประหยัดพลังงานเองโดยอัตโนมัติ
หน้าตาของรีโมตตัวนี้นั้นจะคล้ายกับตัวก่อนหน้า มีไฟที่หน้าจอเมื่อกดสั่งงาน เพื่อให้มองเห็นได้ในที่มืด และปุ่มสั่งงานฟังก์ชั่นพื้นฐานที่ใช้ประจำจะอยู่ด้านหน้าทั้งหมด
เมื่อสไลด์ออกมาจะพบปุ่มสั่งงานเพิ่มเติมอยู่ด้านในทั้งหมด
มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 พร้อมรายละเอียดต่างๆ เหมือนกับบนคอยล์ร้อน
SEER 26.05
ปริมาณการใช้ไฟ 3,773.02 บาท/ปี ตกเดือนละ 314.41 บาท หรือวันละ 10.48 บาท
จากที่ได้ลองใช้มา 1 คืนนะครับอาจยังวัดอะไรได้ไม่มาก แต่ค่อนข้างพอใจในเรื่องของ
- ความเงียบ (เปิด 25 ลมเบอร์ 2 เงียบมากเหมือนไม่ได้เปิด)
ในส่วนของคอยล์ร้อนนี้วางไว้ตรงระเบียงแทบจะใกล้หัวนอนผมเลยยังเงียบมากไม่รบกวน
- ส่วนตัวผมเป็นคนไม่ชอบปะทะแรงลม ได้ใช้ฟังก์ชั่น Circulation Airflow ที่จะส่งแรงลมขึ้นไปด้านบนเพดาน แทนการปะทะตัว
รู้สึกห้องเย็นเหมือนหน้าหนาว โดยไม่ได้เปิดแอร์
- อาจเป็นเพราะฝนตกด้วย แต่รู้สึกว่าห้องเย็นเร็วมาก โดยที่ไม่ได้เปิด Mode Powerful เร่งการทำงานตัวเครื่องให้ห้องเย็นเร็วเลย
ยังไงต้องรอดูระยะยาวเพื่อวัดผลในส่วนอื่นๆ อีกด้วยครับ เพราะตัวแอร์นั้นส่วนตัวผมมองว่าขึ้นอยู่กับตัวสินค้า รวมถึงการติดตั้งของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้วย โดยรวมพอใจกับงานติดตั้งในครั้งนี้และหวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังมองหาแอร์ตัวใหม่นะครับ
[CR] รีวิว : แอร์ Daikin Super Smart FTKM-SV2S รุ่นใหม่ล่าสุดของปี 2018 นี้
จึงตัดสินใจทำรีวิวบ้านๆ จากผู้ใช้จริงของตัว Daikin Super Smart รุ่นใหม่ล่าสุดของปี 2018 นี้ครับ
ตัวนี้จะเป็น Daikin Super Smart FTKM-SVS2 (New Model 2018)
จัดว่าเป็นรุ่น Top สุดใน Line Product ของทาง Daikin Thailand ที่ไม่นับรวม Urusara7 กับ Ekira นะครับ
โดยในรุ่น Super Smart นี้จะแตกต่างจากรุ่นทั่วไปตรงที่มีฟังก์ชั่นเป่าลมขึ้นด้านบน (Circulation Airflow) เพื่อป้องกันการปะทะลมโดยตรง และ ระบบควมคุมความชื้นภายในห้องอัตโนมัติ (Hybrid Cooling) ซึ่งเป็นความร่วมมือในการพัฒนากันระหว่างทาง Daikin TH กับ MTEC สวทช. ในการคิดค้นขึ้นให้เหมาะกับการใช้งานของคนไทย
ทาง Daikin ได้เคลมไว้ว่าในรุ่น Super Smart ตัว FTKM09SVS2 (9,000 BTU) นั้นมีค่า SEER สูงถึง 26.05 เป็นการแสดงว่าในรุ่นนี้นั้นประหยัดไฟสูงสุดในไลน์ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Daikin ในตอนนี้ อีกทั้งยังมาพร้อมกับแผงวงจร Super PCB Pro ที่ทนทานต่อไฟตกไฟกระชาก โดยไม่เสียหายที่ภาวะไฟตก 130V และทนไฟเกินได้ 440V
ภาพนี้จะเป็นการเปรียบเทียบ Model ทั้งสามรุ่นของ Daikin ในปี 2018 นี้ครับว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร
โดยเริ่มจาก FTKM > FTKC > FTKQ
โดยทางผมได้ตัดสินใจติดทั้งสองแบรนด์พร้อมกันเลยทั้ง Daikin และ Fujitsu
ตัว Daikin นั้นจะติดที่ห้องนอนผมแทน Panasonic ตัวเก่าที่ใช้มา 13 ปี
และ Fujitsu ติดที่ห้องนอนพ่อกับแม่แทน Hitachi ที่ใช้มา 11 ปี
ปล.จริงๆ แล้วทั้งสองตัวยังสามารถใช้งานได้ปกติดีนะครับ เพียงแต่เสียงค่อนข้างดังรบกวนการนอน บวกกับอยากลองเทคโนโลยี Inverter ว่าเงียบและประหยัดค่าไฟได้มากน้อยแค่ไหน แต่จะขอรีวิวในส่วนของ Daikin ที่ห้องนอนผมเพียงอย่างเดียวเนื่องจากยังไม่เห็นรีวิวรุ่นนี้เลย
หน้าตาของ Super Smart FTKM จะแตกต่างจากรุ่นเก่าตรงที่สีของตัวเครื่องในรุ่นเก่า Smart นั้นจะเป็นพลาสติก ABS ขาวงาช้าง ผิวสัมผัสด้าน แต่ในรุ่นใหม่นี้นั้นจะเป็นผิวสัมผัสเงาวาวลื่น
ฝาหน้ามีการดีไซน์ให้เป็นโค้งขึ้นไปทางด้านบนเรียกว่าหน้ากาก Coanda เพื่อรองรับ Circulation Airflow ที่จะส่งแรงลมขึ้นไปด้านบนเพดาน แทนการปะทะตัว
ติดตั้งท่ามกลางสายฝนของกรุงเทพในวันหยุดที่ผ่านมานี้ครับ
รุ่นที่ผมติดจะเป็นตัว 9,000 BTU FTKM09SV2S
Condensing Unit หรือคอยล์ร้อนในรุ่นนี้จะเป็นรุ่นแรกๆ ของทาง Daikin สำหรับแอร์ติดผนังที่เป็น อลูมิเนียมอัลลอย ผสมสารพิเศษเพื่อป้องกันการกัดกร่อนและเพิ่มความทดทาน แทนการใช้ทองแดง โดยทาง Daikin เคลมว่าอลูมิเนียมอัลลอย ที่นำมาใช้กับคอยล์ร้อนนั้นไม่เหมือนกับคู่แข่งเจ้าอื่นที่ใช้อยู่ (หรือเปล่า)
ด้านหลังคอยล์ร้อนจะโล่งไม่มีอะไรมาปิดแบบในภาพเลยครับ และมีเซนเซอร์ตรวจจับอากาศยื่นออกมา
แต่ขนาดตัวคอยล์ร้อนค่อนข้างใหญ่พอสมควร
มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 พร้อมรายละเอียดต่างๆ ในรุ่นนี้บนคอยล์ร้อน
Inverter R32
SEER 26.05
ปริมาณการใช้ไฟ 3,773.02 บาท/ปี ตกเดือนละ 314.41 บาท หรือวันละ 10.48 บาท
เตรียมการติดตั้งโดยเจ้าหน้าที่
โดยในรุ่นนี้เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ถาดรองน้ำทิ้งสามารถถอดล้างได้นะครับ หมดปัญหาที่ Daikin เป็นอยู่แบบเมื่อก่อนแล้ว
ในรุ่นใหม่นี้นั้น ทาง Daikin ได้มีการเปลี่ยนวัสดุหน้ากากแอร์ จากในรุ่นก่อนที่จะเป็นผิวสัมผัสด้าน สีขาวงาช้าง มาเป็นแบบเงาวาว สี Pure White แทน ส่วนตัวคิดว่าพื้นผิวแบบนี้ได้ความสวยงาม แต่ดูแลรักษายาก เนื่องจากปัญหารอยขนแมวจากการเช็ดล้างทำความสะอาด เกิดขึ้นได้ง่ายกว่าและอีกจุดคือ พลาสติกหน้ากากในรุ่นใหม่นี้นั้นค่อนข้างบางมาก เมื่อเทียบกับตัวเก่า หรือ Fujitsu อีกตัวที่ผมติดอีกห้อง
และเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็น ดีไซน์หน้ากาก Coanda โค้งขึ้นไปทางด้านบนเพื่อรองรับ Circulation Airflow ที่จะส่งแรงลมขึ้นไปด้านบนเพดาน แทนการปะทะตัว
มองจากอีกด้านนึง
ในรุ่น Super Smart ตัวใหม่นี้นั้นบาดเกล็ดแนวนอนจะมีแค่บานเดียวแต่เป็นขนาดใหญ่ ซึ่งตัวเก่าจะเป็นสองบาน และจุดต่างของรุ่นนี้เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นนั้นคือการที่สามารถปรับทิศทางลมได้แบบสามมิติ (ขึ้น-ลง-ซ้าย-ขวา) ได้พร้อมกัน ปกติแล้วในแอร์ขนาดเล็ก 9,000 BTU มักไม่ค่อยมีตรงนี้มาให้ครับ
ส่วนนี้จะเป็นไฟแสดงสถานะตัวเครื่อง / ช่องสำหรับรับคลื่นจากรีโมต / Intelligent Eye ตรวจจับการเคลื่อนไหวของคนในห้องเพื่อกระจายแรงลมได้ถูกจุด และเมื่อไม่มีคนอยู่ภายในห้องเกิน 20 นาทีจะเข้าสู่ Mode ประหยัดพลังงานเองโดยอัตโนมัติ
หน้าตาของรีโมตตัวนี้นั้นจะคล้ายกับตัวก่อนหน้า มีไฟที่หน้าจอเมื่อกดสั่งงาน เพื่อให้มองเห็นได้ในที่มืด และปุ่มสั่งงานฟังก์ชั่นพื้นฐานที่ใช้ประจำจะอยู่ด้านหน้าทั้งหมด
เมื่อสไลด์ออกมาจะพบปุ่มสั่งงานเพิ่มเติมอยู่ด้านในทั้งหมด
มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 พร้อมรายละเอียดต่างๆ เหมือนกับบนคอยล์ร้อน
SEER 26.05
ปริมาณการใช้ไฟ 3,773.02 บาท/ปี ตกเดือนละ 314.41 บาท หรือวันละ 10.48 บาท
จากที่ได้ลองใช้มา 1 คืนนะครับอาจยังวัดอะไรได้ไม่มาก แต่ค่อนข้างพอใจในเรื่องของ
- ความเงียบ (เปิด 25 ลมเบอร์ 2 เงียบมากเหมือนไม่ได้เปิด)
ในส่วนของคอยล์ร้อนนี้วางไว้ตรงระเบียงแทบจะใกล้หัวนอนผมเลยยังเงียบมากไม่รบกวน
- ส่วนตัวผมเป็นคนไม่ชอบปะทะแรงลม ได้ใช้ฟังก์ชั่น Circulation Airflow ที่จะส่งแรงลมขึ้นไปด้านบนเพดาน แทนการปะทะตัว
รู้สึกห้องเย็นเหมือนหน้าหนาว โดยไม่ได้เปิดแอร์
- อาจเป็นเพราะฝนตกด้วย แต่รู้สึกว่าห้องเย็นเร็วมาก โดยที่ไม่ได้เปิด Mode Powerful เร่งการทำงานตัวเครื่องให้ห้องเย็นเร็วเลย
ยังไงต้องรอดูระยะยาวเพื่อวัดผลในส่วนอื่นๆ อีกด้วยครับ เพราะตัวแอร์นั้นส่วนตัวผมมองว่าขึ้นอยู่กับตัวสินค้า รวมถึงการติดตั้งของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้วย โดยรวมพอใจกับงานติดตั้งในครั้งนี้และหวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังมองหาแอร์ตัวใหม่นะครับ