เที่ยวอิตาลีคนเดียว สนุกแบบเหงาๆ ตอนที่ 2 : One day trip ปอมเปอี (Pompeii) นาโปลี (Naples) ด้วยรถไฟ Italo

กระทู้สนทนา

ประเทศอิตาลี เที่ยวยุโรป สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ บันทึกนักเดินทาง เที่ยวต่างประเทศ

ตอนที่ 1 : กรุงโรม และนครรัฐวาติกัน : https://ppantip.com/topic/37610179javascript:void(0);
ตอนที่ 2 : One day trip ปอมเปอี (Pompeii) นาโปลี (Naples) ด้วยรถไฟ Italo : https://ppantip.com/topic/37612742
ตอนที่ 3 : สองวันในแคว้น Tuscany เที่ยว Florence, Pisa, Siena : https://ppantip.com/topic/37614501
ตอนที่ 4 : Venice ในวันฟ้าหม่นและวันฟ้าใส : https://ppantip.com/topic/37620762
ตอนที่ 5 : เที่ยว Milan เลยไป Lake Como : https://ppantip.com/topic/37634646
---

วันนี้เป็นวันที่ 4 ของทริปแล้ว ซึ่งผมจะเดินทางไปเที่ยวปอมเปอีกับนาโปลีแบบไปเช้าเย็นกลับ ซึ่งก่อนเดินทางก็ต้องจัดการกับอาการเป็นหวัดน้ำมูกไหลก่อนครับ อากาศที่โรมช่วงสงกรานต์ของเมืองไทย ตอนเช้าหนาว พอตอนบ่ายร้อน หนาวๆร้อนก็เลยมีอาการน้ำมูกไหลมาตั้งแต่เดินทางมาถึงได้สามวัน วันนี้เลยเดินเข้าร้านขายยาที่ Roma Termini เพื่อซื้อยาลดน้ำมูล ซึ่งผมก็เซอไพรซ์มากที่เภสัชกรยื่นยา Actifed มาให้ ซึ่งสมัยก่อนคนไทยเราใช้เป็นยาแก้หวัดลดน้ำมูกมาช้านาน แต่รัฐบาลไทยประกาศห้ามขายเนื่องจากตัวยามี Pseudoephedrine ซึ่งเป็นสารตั้งต้นยาเสพติด ผมก็ไม่แน่ใจว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องหรือไม่ครับ สำหรับทริปนี้โชคดีที่อิตาลีมีขาย กินแค่เม็ดเดียวหายเลย

เริ่มเดินทางเลยละกันครับ การเดินทางจาก Rome ไป Pompeii วิธีที่นิยมและง่ายที่สุดคืนนั่งรถไฟไปลง Napoli Central แล้วต่อรถไฟท้องถิ่น Circumvesuviana ไปลงสถานี Pompeii Scavi Station ครับ ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะใช้บริการรถไฟ Trenitalia ซึ่งเป็นของรัฐบาล มีทั้งแบบรถไปธรรมดาและรถไฟความเร็วสูง หรือจะใช้รถไฟความเร็วสูงของเอกชน Italo ซึ่งการเดินทางของผม ผมเลือกใช้บริการของรถไฟ Italo ซึ่งมักจะมีโปรเริ่มต้นที่ 9.90 ยูโร ซื้อได้ทางออนไลน์ครับ (https://www.italotreno.it/en) ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้นั่นก็คือรถไฟ italo นั้น เป็นรถไฟความเร็วสูงเอกชนก่อตั้งโดย Luca Cordero di Montezemolo ซึ่งเป็น Chairman ของ Ferrari ดังนั้นรถไฟ italo จึงมีเอกลักษณ์ที่เป็นรถไฟสีแดงเช่นเดียวกับ Ferrari และมีจุดขายที่ขบวนรถไฟความเร็วสูงของยี่ห้อ Alstom รุ่น AGV ที่สามารถให้บริการด้วยความเร็วสูงสุดถึง 360 Km/H

ซึ่งการใช้รถไฟในอิตาลีก็แสนง่ายครับ เริ่มต้นจากเดินทางมาถึงสถานีก่อนเวลารถออกสัก 15 นาทีก็พอครับ วันนี้เดินทางออกจาก Roma Termini

จากนั้นก็ดูที่ป้าย Departure (Partenze) ว่าเลขขบวนรถ (Treno) ของเราอยู่ชานชลาไหน โดยป้ายจะแสดงชื่อสถานีปลายทางของขบวนนั้น แต่จะมีตัววิ่งตรง Information ว่าจอดที่สถานีไหนบ้าง นอกจากนั้นโชว์ว่าให้เข้าชานชลาที่ Gate อะไร และ แต่ละ Class อยู่ส่วนไหนของขบวนรถเช่น “Smart ambiance in coda” หมายถึง class “Smart” อยู่ท้ายขบวน หรือ “in Testa” หมายถึงอยู่หัวขบวน

เอาตั๋วให้เจ้าหน้าที่ดูที่หน้า Gate ก่อนเข้าไปชานชลา ซึ่งถ้าซื้อออนไลน์สามารถยื่นมือถือให้เจ้าหน้าที่ดูได้

ถ้าซื้อ Class Club หรือ Executive (ประมาณ First และ Business Class) ก็สามารถเข้าช่อง Fast Track ได้ครับ

ถึงชานชลาแล้วเราในตั๋วเราว่าเราอยู่ตู้หรือ Coach ไหน ซึ่งหน้าประตูของรถไฟจะมีป้ายไฟแสดงหมายเลข Coach ชื่ออยู่ ถ้าใช่ของเราก็ขึ้นไปเลย แล้วก็ตามหาเลขที่นั่งของเราครับ