เช้าวันนี้ผมออกเดินทางจากบ้านที่ จ.อ่างทอง ราว ๆ 8.00 น. ใช้ถนนสายเอเชีย ต่อด้วยถนนหมายเลข 7 และ 9 กับระยะทาง 240 ก.ม.
ก่อน 11.00 น. ผมก็เดินทางมาถึงพัทยา ครั้งนี้ออกจากพิเศษกว่าทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมาคือ การเก็บค่าผ่านทางแบบใหม่ที่แพงขึ้น
จากเดิมด่านสุดท้าย หากรับบัตรมาจากด่านลาดกระบังเราจะเสียค่าผ่านทาง 60 บ.
แต่วันนี้ด่านสุดท้ายเลื่อนมาเก็บที่ถนนตัดใหม่ก่อนเข้าตัวเมืองพัทยา ต้องจ่ายเพิ่มเป็น 105 บ.
ระหว่างทางขอเพิ่มพลังหน่อยนะครับ
โรงแรมการ์เด้น คลิฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นรีสอร์ทขนาดกลาง ตั้งอยู่บนหาดวงพระจันทร์
บริเวณช่วงพัทยาเหนือ – นาเกลือ
การเดินทาง หากมาถึงพัทยาแล้ว ก็ให้ใช้ถนนพัทยาเหนือ แล้ววนขวาที่วงเวียนปลาโลมา
เข้าสู่ถนนพัทยา – เกลือ จากนั้นเลี้ยวเข้าซอยนาเกลือ 16 ขับตรงเข้ามาไม่กี่มากน้อยก็จะพบกับโรงแรมนะครับ
เมื่อเข้ามาถึงตัวโรงแรมจะพบกับม้านิลมังกรและสุดสาคร
ตัวละครเอกจากวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี คอยต้อนรับอยู่ด้านหน้าล็อบบี้
ล็อบบี้เป็นแบบโอเพ่นแอร์ มีเครื่องดื่มต้อนรับเป็นน้ำองุ่นด้วย แต่ผมลืมถ่ายภาพมา แหะ แหะ
จุดเด่นเลยคือเราสามารถมองเห็นวิวทะเลจากตัวล๊อบบี้ได้เลยนะครับ
ตอนกลางคืน จะมีนักดนตรีมาบรรเลงกีต้าร์พร้อมกับแบ็คกิ้งแทร็คดนตรีแนวแจ๊สให้ฟังเพลิน ๆ ด้วย
นั่งรอห้องพักอยู่ชั่วครู่ เนื่องจากผมมาเช็คอินก่อนเวลา คุณพนักงานก็เดินมาบอกว่าห้องเรียบร้อยแล้ว
ห้องพักของผมในครั้งนี้เป็นแบบพรีเมี่ยม ดีลักซ์
โชคดีได้ห้องแรกอยู่หน้าสุดของตึกเลย
ทำให้สามารถชมวิวทะเลได้ทั้ง 2 ด้าน คือด้านปลายเตียงและด้านซ้ายมือนะครับ
ถูกใจคนชอบนอนมองทะเลจากห้องพักแบบผมยิ่งนัก
ห้องน้ำมีขนาดกำลังดี พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ และมีการแยกส่วนเปียก ส่วนแห้งอย่างชัดเจน
เสียดาย ไม่มีฝักบัวฝนตกของโปรดของผม แต่ก็มีสายชำระให้ โอเค หยวน ๆ
นอนแช่น้ำไปพร้อมชมวิวทะเลไป มันจะมีความสุขนะครับ แหะ แหะ
ออกมารับลมทะเลที่ระเบียงห้องกันบ้าง เห็นท่าเรือแหลมฉบังที่อยู่ไกล ๆ ไหมครับ
หาดทรายของโรงแรม และปราสาทสัจธรรมอยู่ด้านขวามือ
ลงมาสำรวจสระว่ายน้ำกันบ้าง
แบ่งออกเป็น 3 สระด้วยกัน คือสระว่ายน้ำหลักของโรงแรม สระด้านหน้าริมหาด และสระเด็กครับ
สระว่ายน้ำแห่งนี้เป็นสระว่ายน้ำหลักของโรงแรม
มองเห็นวิวทะเลด้วย เมื่อลงไปว่ายแล้ว ทำให้มีความรู้สึกเหมือนกับว่า กำลังว่ายน้ำอยู่ในทะเลเลย
สระเด็กสำหรับคุณหนูตัวน้อยที่มีความลึกไม่มากนัก
พร้อมกับคุณพระอภัยมณีนั่งเป่าปี่คอยเป็นไลฟ์การ์ดให้
ด้านขวามือจะเป็นห้องพักแบบพูล แอ็คเซส
เปิดประตูห้องออกมานอกระเบียงแล้วกระโดดลงน้ำได้เลยนะครับ
แต่ในช่วงเที่ยงแดดร้อน ๆ แบบนี้ เห็นทีคงจะมีแต่ชาวต่างชาติเท่านั้นที่สู้ไม่ถอย
คนไทยอย่างเราคงอาศัยเล่นน้ำอยู่ตามเงาร่มของตึก
สาวเจ้า 2 คน โดนผมจับมาเป็นนางแบบเลย
สระสุดท้ายเป็น สระว่ายน้ำริมหาด
อยู่ติดกันกับชายหาดเทียมของโรงแรม
คงเน้นให้มาแช่ตัวเล่นมากกว่าที่จะมาว่ายแบบจริงจัง
หาดทรายเทียมของโรงแรม ทรายขาว เม็ดละเอียด นิ่มเท้าดีจังครับ
ห้องอาหารชมทะเล ห้องอาหารบรรยากาศดี สดใส ที่สามารถชมวิวทะเลได้ 180 องศา
มื้อกลางวันผมสั่งพิซซ่าหน้าเบคอนอะไรซักอย่างนี่แหละมาทาน ก็อร่อยดีนะครับ
สนนราคาก็ 290 บาท รวมน้ำด้วยเช็คบิลล์มา 350 บาท ก็โอเคนะครับ ไม่แพงมาก รับได้
เสียดายด้วยความหิว ผมไม่ได้ทันถ่ายภาพไว้ พิซซ่าก็เลยเสร็จฮูหยินของผมไปก่อนน่ะครับ
เริ่มจะค่ำแล้วแสงทไวไลท์มาแล้วล่ะ ผมขอตัวไปถ่ายภาพก่อนนะครับ
ลองมองย้อนกลับเข้าไปในตัวโรงแรมบ้าง
ห้องดีลักซ์ แบบพูลแอ็คเซส
ใกล้กันกับล็อบบี้ จะมีบาร์เล็ก ๆ และร้านเบเกอรี่สำหรับนั่งทานเครื่องดื่มเล่น ๆ
มีโปรโมชั่นช่วงเวลา 17.00 น. - 22.00 น. ทางโรงแรมจะลดราคาขนมเค๊กลงครึ่งนึงจากราคาเต็ม
โปรโมชั่นแบบนี้มีหรือที่ฮูหยินผมจะพลาด ขนมเค๊กทั้ง 2 ชิ้นนี้ ราคารวม 125 บาทครับ
ขนมเค๊กท็อปปิ้งด้วยลูกเชอร์รี่และวิปครีมของผม
เค๊กรสวนิลาท็อปปิ้งด้วยโอริโอ้และสตอเบอรี่ของสาวเจ้า
เดอะคลิฟ ห้องอาหารเช้า ที่ผมตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อลงมาถ่ายภาพ
หากลงมาสายเกรงจะเป็นการรบกวนแขกท่านอื่นน่ะครับ
อาหารเช้าก็มีความหลากหลายปกติตามมาตรฐานโรงแรมเกรดดีทั่วไป แต่ไม่ได้อลังการมากนะครับ
เปิดให้บริการตั้งแต่เช้าจนถึง 10,30 น.
อาหารเช้าของฮูหยินผม น่าทานไหมครับ
โรงแรมการ์เด้น คลิฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นรีสอร์ทขนาดกลาง
มีห้องพักทั้งหมดราว ๆ 230 ห้อง ตกแต่งในแบบไทยร่วมสมัย
ตั้งอยู่บนหาดวงพระจันทร์ บริเวณช่วงพัทยาเหนือ – นาเกลือ จุดเด่นเลยก็คือตัวโรงแรมกับทะเลจะไม่มีถนนกั้น
ต่างจากพัทยาเหนือ กลาง และใต้ อีกทั้งตอนกลางคืนยังสามารถมองเห็นแสงไฟจากท่าเรือแหลมฉบังได้อีกด้วยนะครับ
ตัวโรงแรมในความรู้สึกของผม แม้จะดูเก่าไปนิด เนื่องจากคงจะสร้างมานานแล้ว
แต่โดยรวมทุกส่วนของโรงแรมก็ยังคงสภาพที่ดีอยู่ ตัวห้องพักก็สะอาดสะอ้าน พนักงานทุกท่านตั้งแต่พี่ยาม
พนักงานต้อนรับ พนักงานห้องอาหาร ไปจนถึงแม่บ้าน ก็บริการดี ยิ้มแย้มแจ่มใส
เมื่อแรกผมก็คิดว่าเพราะผมเป็น SR หรือเปล่า แต่เท่าที่ลอบสังเกตุดูพนักงานก็ปฏิบัติกับแขกท่านอื่นเช่นเดียวกันกับผม
ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงนะครับ กับโรงแรมพัทยาแถบนาเกลือ คงจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบแสงสี ความวุ่นวาย ที่ย่านพัทยา เหนือ กลาง และใต้
อยากมาพักผ่อน ชมทะเลที่เงียบสงบ
+ + + ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นโรงแรมออกให้เฉพาะในส่วนของห้องพักและอาหารเช้า
ส่วนอาหารมื้ออื่น ๆ และค่าเดินทางผมจ่ายเอง และไม่มีการจัดฉากอะไรให้เกินจริงนะครับ + + +
เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปพูดคุยกันหรือชมภาพโรงแรมต่าง ๆ ที่ผมเคยไปพักได้
ในเฟสบุ๊คเพจ :
https://www.facebook.com/Travel.Hotel.Resort/
เฟสบุ๊คส่วนตัวของผม Burachat Rengtean Naphattalung
หรือในเว็บบล็อก
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=lifeistravel
ขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมรีวิวนี้ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ผมขออภัยมา ณ โอกาสนี้ สวัสดีครับ
[SR] + + + Review โรงแรม Garden Cliff Resort & Spa Pattaya + + +
ก่อน 11.00 น. ผมก็เดินทางมาถึงพัทยา ครั้งนี้ออกจากพิเศษกว่าทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมาคือ การเก็บค่าผ่านทางแบบใหม่ที่แพงขึ้น
จากเดิมด่านสุดท้าย หากรับบัตรมาจากด่านลาดกระบังเราจะเสียค่าผ่านทาง 60 บ.
แต่วันนี้ด่านสุดท้ายเลื่อนมาเก็บที่ถนนตัดใหม่ก่อนเข้าตัวเมืองพัทยา ต้องจ่ายเพิ่มเป็น 105 บ.
ระหว่างทางขอเพิ่มพลังหน่อยนะครับ
โรงแรมการ์เด้น คลิฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นรีสอร์ทขนาดกลาง ตั้งอยู่บนหาดวงพระจันทร์
บริเวณช่วงพัทยาเหนือ – นาเกลือ
การเดินทาง หากมาถึงพัทยาแล้ว ก็ให้ใช้ถนนพัทยาเหนือ แล้ววนขวาที่วงเวียนปลาโลมา
เข้าสู่ถนนพัทยา – เกลือ จากนั้นเลี้ยวเข้าซอยนาเกลือ 16 ขับตรงเข้ามาไม่กี่มากน้อยก็จะพบกับโรงแรมนะครับ
เมื่อเข้ามาถึงตัวโรงแรมจะพบกับม้านิลมังกรและสุดสาคร
ตัวละครเอกจากวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี คอยต้อนรับอยู่ด้านหน้าล็อบบี้
ล็อบบี้เป็นแบบโอเพ่นแอร์ มีเครื่องดื่มต้อนรับเป็นน้ำองุ่นด้วย แต่ผมลืมถ่ายภาพมา แหะ แหะ
จุดเด่นเลยคือเราสามารถมองเห็นวิวทะเลจากตัวล๊อบบี้ได้เลยนะครับ
ตอนกลางคืน จะมีนักดนตรีมาบรรเลงกีต้าร์พร้อมกับแบ็คกิ้งแทร็คดนตรีแนวแจ๊สให้ฟังเพลิน ๆ ด้วย
นั่งรอห้องพักอยู่ชั่วครู่ เนื่องจากผมมาเช็คอินก่อนเวลา คุณพนักงานก็เดินมาบอกว่าห้องเรียบร้อยแล้ว
ห้องพักของผมในครั้งนี้เป็นแบบพรีเมี่ยม ดีลักซ์
โชคดีได้ห้องแรกอยู่หน้าสุดของตึกเลย
ทำให้สามารถชมวิวทะเลได้ทั้ง 2 ด้าน คือด้านปลายเตียงและด้านซ้ายมือนะครับ
ถูกใจคนชอบนอนมองทะเลจากห้องพักแบบผมยิ่งนัก
ห้องน้ำมีขนาดกำลังดี พร้อมกระจกเงาบานใหญ่ และมีการแยกส่วนเปียก ส่วนแห้งอย่างชัดเจน
เสียดาย ไม่มีฝักบัวฝนตกของโปรดของผม แต่ก็มีสายชำระให้ โอเค หยวน ๆ
นอนแช่น้ำไปพร้อมชมวิวทะเลไป มันจะมีความสุขนะครับ แหะ แหะ
ออกมารับลมทะเลที่ระเบียงห้องกันบ้าง เห็นท่าเรือแหลมฉบังที่อยู่ไกล ๆ ไหมครับ
หาดทรายของโรงแรม และปราสาทสัจธรรมอยู่ด้านขวามือ
ลงมาสำรวจสระว่ายน้ำกันบ้าง
แบ่งออกเป็น 3 สระด้วยกัน คือสระว่ายน้ำหลักของโรงแรม สระด้านหน้าริมหาด และสระเด็กครับ
สระว่ายน้ำแห่งนี้เป็นสระว่ายน้ำหลักของโรงแรม
มองเห็นวิวทะเลด้วย เมื่อลงไปว่ายแล้ว ทำให้มีความรู้สึกเหมือนกับว่า กำลังว่ายน้ำอยู่ในทะเลเลย
สระเด็กสำหรับคุณหนูตัวน้อยที่มีความลึกไม่มากนัก
พร้อมกับคุณพระอภัยมณีนั่งเป่าปี่คอยเป็นไลฟ์การ์ดให้
ด้านขวามือจะเป็นห้องพักแบบพูล แอ็คเซส
เปิดประตูห้องออกมานอกระเบียงแล้วกระโดดลงน้ำได้เลยนะครับ
แต่ในช่วงเที่ยงแดดร้อน ๆ แบบนี้ เห็นทีคงจะมีแต่ชาวต่างชาติเท่านั้นที่สู้ไม่ถอย
คนไทยอย่างเราคงอาศัยเล่นน้ำอยู่ตามเงาร่มของตึก
สาวเจ้า 2 คน โดนผมจับมาเป็นนางแบบเลย
สระสุดท้ายเป็น สระว่ายน้ำริมหาด
อยู่ติดกันกับชายหาดเทียมของโรงแรม
คงเน้นให้มาแช่ตัวเล่นมากกว่าที่จะมาว่ายแบบจริงจัง
หาดทรายเทียมของโรงแรม ทรายขาว เม็ดละเอียด นิ่มเท้าดีจังครับ
ห้องอาหารชมทะเล ห้องอาหารบรรยากาศดี สดใส ที่สามารถชมวิวทะเลได้ 180 องศา
มื้อกลางวันผมสั่งพิซซ่าหน้าเบคอนอะไรซักอย่างนี่แหละมาทาน ก็อร่อยดีนะครับ
สนนราคาก็ 290 บาท รวมน้ำด้วยเช็คบิลล์มา 350 บาท ก็โอเคนะครับ ไม่แพงมาก รับได้
เสียดายด้วยความหิว ผมไม่ได้ทันถ่ายภาพไว้ พิซซ่าก็เลยเสร็จฮูหยินของผมไปก่อนน่ะครับ
เริ่มจะค่ำแล้วแสงทไวไลท์มาแล้วล่ะ ผมขอตัวไปถ่ายภาพก่อนนะครับ
ลองมองย้อนกลับเข้าไปในตัวโรงแรมบ้าง
ห้องดีลักซ์ แบบพูลแอ็คเซส
ใกล้กันกับล็อบบี้ จะมีบาร์เล็ก ๆ และร้านเบเกอรี่สำหรับนั่งทานเครื่องดื่มเล่น ๆ
มีโปรโมชั่นช่วงเวลา 17.00 น. - 22.00 น. ทางโรงแรมจะลดราคาขนมเค๊กลงครึ่งนึงจากราคาเต็ม
โปรโมชั่นแบบนี้มีหรือที่ฮูหยินผมจะพลาด ขนมเค๊กทั้ง 2 ชิ้นนี้ ราคารวม 125 บาทครับ
ขนมเค๊กท็อปปิ้งด้วยลูกเชอร์รี่และวิปครีมของผม
เค๊กรสวนิลาท็อปปิ้งด้วยโอริโอ้และสตอเบอรี่ของสาวเจ้า
เดอะคลิฟ ห้องอาหารเช้า ที่ผมตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อลงมาถ่ายภาพ
หากลงมาสายเกรงจะเป็นการรบกวนแขกท่านอื่นน่ะครับ
อาหารเช้าก็มีความหลากหลายปกติตามมาตรฐานโรงแรมเกรดดีทั่วไป แต่ไม่ได้อลังการมากนะครับ
เปิดให้บริการตั้งแต่เช้าจนถึง 10,30 น.
อาหารเช้าของฮูหยินผม น่าทานไหมครับ
โรงแรมการ์เด้น คลิฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นรีสอร์ทขนาดกลาง
มีห้องพักทั้งหมดราว ๆ 230 ห้อง ตกแต่งในแบบไทยร่วมสมัย
ตั้งอยู่บนหาดวงพระจันทร์ บริเวณช่วงพัทยาเหนือ – นาเกลือ จุดเด่นเลยก็คือตัวโรงแรมกับทะเลจะไม่มีถนนกั้น
ต่างจากพัทยาเหนือ กลาง และใต้ อีกทั้งตอนกลางคืนยังสามารถมองเห็นแสงไฟจากท่าเรือแหลมฉบังได้อีกด้วยนะครับ
ตัวโรงแรมในความรู้สึกของผม แม้จะดูเก่าไปนิด เนื่องจากคงจะสร้างมานานแล้ว
แต่โดยรวมทุกส่วนของโรงแรมก็ยังคงสภาพที่ดีอยู่ ตัวห้องพักก็สะอาดสะอ้าน พนักงานทุกท่านตั้งแต่พี่ยาม
พนักงานต้อนรับ พนักงานห้องอาหาร ไปจนถึงแม่บ้าน ก็บริการดี ยิ้มแย้มแจ่มใส
เมื่อแรกผมก็คิดว่าเพราะผมเป็น SR หรือเปล่า แต่เท่าที่ลอบสังเกตุดูพนักงานก็ปฏิบัติกับแขกท่านอื่นเช่นเดียวกันกับผม
ก็เป็นอีกตัวเลือกนึงนะครับ กับโรงแรมพัทยาแถบนาเกลือ คงจะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบแสงสี ความวุ่นวาย ที่ย่านพัทยา เหนือ กลาง และใต้
อยากมาพักผ่อน ชมทะเลที่เงียบสงบ
+ + + ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นโรงแรมออกให้เฉพาะในส่วนของห้องพักและอาหารเช้า
ส่วนอาหารมื้ออื่น ๆ และค่าเดินทางผมจ่ายเอง และไม่มีการจัดฉากอะไรให้เกินจริงนะครับ + + +
เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปพูดคุยกันหรือชมภาพโรงแรมต่าง ๆ ที่ผมเคยไปพักได้
ในเฟสบุ๊คเพจ : https://www.facebook.com/Travel.Hotel.Resort/
เฟสบุ๊คส่วนตัวของผม Burachat Rengtean Naphattalung
หรือในเว็บบล็อก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=lifeistravel
ขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมรีวิวนี้ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ผมขออภัยมา ณ โอกาสนี้ สวัสดีครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น