สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
กรุงแตกครั้งที่ 2 นี่จะว่าอยุธยาอ่อนแอลงมากก็บอกได้ไม่เต็มปากครับ อ่อนแอลงน่ะอ่อนแอแน่เพราะสมัยราชวงศ์นี้เน้นค้าขายมากกว่าสงคราม ทำให้ไพร่พลและทหารด้อยฝีมือลงไปมากส่งไปรบกับพม่ากี่ทีก็แตกกลับมาหมด แต่ปัจจัยที่ทำให้อยุธยาถึงกาลอวสานจริงๆมันคือนโยบายของอยุธยาเองต่างหาก
หลังจากพระเพทราชายึดอำนาจตั้งราชวงศ์บ้านพลูหลวงขึ้นมานั้นบรรดาหัวเมืองต่างๆก็มีการต่อต้านกันหลายรอบ ส่งผลให้พระเพทราชาต้องยกทัพไปปราบกบฎกันเกือบๆจะตลอดเวลาที่ครองราชย์เลย ด้วยเหตุนี้ราชวงศ์บ้านพลูหลวงจึงตัดสินใจออกนโยบายลดอำนาจหัวเมืองลง หัวเมืองต่างๆทำอะไรเองแทบไม่ได้เลยหากอยุธยาไม่ออกคำสั่งไป จะเกณฑ์ไพร่พลรึแม้แต่ติดต่อกับหัวเมืองอื่นเองก็ยังทำไม่ได้ต้องขออนุญาตจากอยุธยาก่อน และนี่เองคือจุดเริ่มต้นแห่งหายนะ
ดั้งเดิมอยุธยานั้นมียุทธศาสตร์ในการรับศึกคือเน้นตั้งรับในเมืองโดยจะมีปัจจัยสองอย่างมาช่วยรับศึกด้วย หนึ่งคือน้ำหลากและสองคือทัพจากหัวเมืองที่ยกมาช่วยตีศัตรู ลำพังอยุธยาเองเป็นเกาะเมืองยากที่ศัตรูจะข้ามน้ำเข้าไปตีเมืองตรงๆได้อยู่แล้ว และยิ่งเมื่อมีกองทัพจากหัวเมืองมาช่วยอยุธยาตีกระหนาบศัตรูในนอกร่วมประสานเจอแบบนี้ศัตรูก็รับศึกหนัก บวกกับน้ำหลากที่มาไล่อีกทำให้ไม่มีศัตรูรายไหนที่ล้อมอยุธยาเอาไว้ได้ยาวนานเลย แต่เมื่อราชวงศ์บ้านพลูหลวงลดอำนาจหัวเมืองลงก็ส่งผลให้หัวเมืองต่างๆเกณฑ์ไพร่พลและส่งกองทัพมาช่วยอยุธยาตีกระหนาบข้าศึกไม่ได้ ทำให้พม่าสามารถตั้งค่ายล้อมอยุธยาได้อย่างสบายใจไม่ต้องคอยระวังหลัง พม่าก็ค่อยๆบุกตีค่ายป้องกันของอยุธยาไปเรื่อยๆเด็ดกิ่งก้านไปทีละค่ายๆ จนสุดท้ายเมื่อตีค่ายทางตอนใต้ได้ก็ทำให้อยุธยาสูญเสียเส้นทางลำเลียงเสบียงและอาวุธไป เมื่ออยุธยาหายุทธปัจจัยต่างๆมาเสริมไม่ได้แล้วกองทัพพม่าก็แค่ล้อมไปเรื่อยๆรอวันที่เสบียงและกระสุนดินดำของอยุธยาร่อยหรอลง พอน้ำหลากมาก็หลบไปหาที่ดอนตั้งมั่นรอน้ำหลากหมดไป เมื่อน้ำหลากหมดไปคราวนี้ลางมรณะก็มาเยือนอยุธยาแล้วเพราะศัตรูก็ยังล้อมอยู่แถมเสบียงกับอาวุธก็ร่อยหรอ แต่อยุธยาก็ยังกัดฟันต่อต้านป้องกันพม่าเอาไว้ได้เรื่อยๆอีกหลายเดือนโดยหวังว่ารอถึงน้ำหลากครั้งต่อไปยังไงพม่าก็ต้องล่าถอย แต่กลับต้านไว้ได้ถึงแค่สงกรานต์ไม่ถึงช่วงน้ำหลากเพราะพม่าใช้กลวิธีขุดอุโมงค์มาเผารากกำแพง บวกกับประชาชนในอยุธยาเห็นท่าไม่ดีเริ่มทยอยหลบหนีออกไปจากเมืองเป็นจำนวนมากแล้วทำให้ศักยภาพของอยุธยาลดลงไปอย่างมาก เมื่อพม่าพังกำแพงเมืองเข้ามาได้ก็ถึงจุดวิกฤติทำได้แค่ต่อต้านไปเรื่อยๆและทยอยหนีออกจากเมืองไปด้วย
หลังจากพระเพทราชายึดอำนาจตั้งราชวงศ์บ้านพลูหลวงขึ้นมานั้นบรรดาหัวเมืองต่างๆก็มีการต่อต้านกันหลายรอบ ส่งผลให้พระเพทราชาต้องยกทัพไปปราบกบฎกันเกือบๆจะตลอดเวลาที่ครองราชย์เลย ด้วยเหตุนี้ราชวงศ์บ้านพลูหลวงจึงตัดสินใจออกนโยบายลดอำนาจหัวเมืองลง หัวเมืองต่างๆทำอะไรเองแทบไม่ได้เลยหากอยุธยาไม่ออกคำสั่งไป จะเกณฑ์ไพร่พลรึแม้แต่ติดต่อกับหัวเมืองอื่นเองก็ยังทำไม่ได้ต้องขออนุญาตจากอยุธยาก่อน และนี่เองคือจุดเริ่มต้นแห่งหายนะ
ดั้งเดิมอยุธยานั้นมียุทธศาสตร์ในการรับศึกคือเน้นตั้งรับในเมืองโดยจะมีปัจจัยสองอย่างมาช่วยรับศึกด้วย หนึ่งคือน้ำหลากและสองคือทัพจากหัวเมืองที่ยกมาช่วยตีศัตรู ลำพังอยุธยาเองเป็นเกาะเมืองยากที่ศัตรูจะข้ามน้ำเข้าไปตีเมืองตรงๆได้อยู่แล้ว และยิ่งเมื่อมีกองทัพจากหัวเมืองมาช่วยอยุธยาตีกระหนาบศัตรูในนอกร่วมประสานเจอแบบนี้ศัตรูก็รับศึกหนัก บวกกับน้ำหลากที่มาไล่อีกทำให้ไม่มีศัตรูรายไหนที่ล้อมอยุธยาเอาไว้ได้ยาวนานเลย แต่เมื่อราชวงศ์บ้านพลูหลวงลดอำนาจหัวเมืองลงก็ส่งผลให้หัวเมืองต่างๆเกณฑ์ไพร่พลและส่งกองทัพมาช่วยอยุธยาตีกระหนาบข้าศึกไม่ได้ ทำให้พม่าสามารถตั้งค่ายล้อมอยุธยาได้อย่างสบายใจไม่ต้องคอยระวังหลัง พม่าก็ค่อยๆบุกตีค่ายป้องกันของอยุธยาไปเรื่อยๆเด็ดกิ่งก้านไปทีละค่ายๆ จนสุดท้ายเมื่อตีค่ายทางตอนใต้ได้ก็ทำให้อยุธยาสูญเสียเส้นทางลำเลียงเสบียงและอาวุธไป เมื่ออยุธยาหายุทธปัจจัยต่างๆมาเสริมไม่ได้แล้วกองทัพพม่าก็แค่ล้อมไปเรื่อยๆรอวันที่เสบียงและกระสุนดินดำของอยุธยาร่อยหรอลง พอน้ำหลากมาก็หลบไปหาที่ดอนตั้งมั่นรอน้ำหลากหมดไป เมื่อน้ำหลากหมดไปคราวนี้ลางมรณะก็มาเยือนอยุธยาแล้วเพราะศัตรูก็ยังล้อมอยู่แถมเสบียงกับอาวุธก็ร่อยหรอ แต่อยุธยาก็ยังกัดฟันต่อต้านป้องกันพม่าเอาไว้ได้เรื่อยๆอีกหลายเดือนโดยหวังว่ารอถึงน้ำหลากครั้งต่อไปยังไงพม่าก็ต้องล่าถอย แต่กลับต้านไว้ได้ถึงแค่สงกรานต์ไม่ถึงช่วงน้ำหลากเพราะพม่าใช้กลวิธีขุดอุโมงค์มาเผารากกำแพง บวกกับประชาชนในอยุธยาเห็นท่าไม่ดีเริ่มทยอยหลบหนีออกไปจากเมืองเป็นจำนวนมากแล้วทำให้ศักยภาพของอยุธยาลดลงไปอย่างมาก เมื่อพม่าพังกำแพงเมืองเข้ามาได้ก็ถึงจุดวิกฤติทำได้แค่ต่อต้านไปเรื่อยๆและทยอยหนีออกจากเมืองไปด้วย
แสดงความคิดเห็น
นโยบายไม่เอาตะวันตกโดยเฉพาะฝรั่งเศสหลังสมัยพระนารายณ์มีผลทำให้อยุธยาอ่อนแอ มีข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เพียงใด
หากเชื่อตามละครเรื่องนี้แล้ว นโยบายไม่เอาฝรั่งหลังสมัยพระนารายณ์ส่งผลให้เกิดการเสียกรุงครั้งที่ 2
"หนึ่งด้าวฟ้าเดียว" ตีความประวัติศาสตร์ไทยอีกทาง ซึ่งตรงข้ามกับ "บุพเพสันนิวาส" เลย
อยากเห็นละครไทยเป็นเช่นนี้มานานแล้ว ซีรีย์เกาหลีก็เกาหลีเถอะ ละครทีวีไทยสู้ได้สบาย