Review
Tonight , at Romance Theater รักเรา จะพบกัน
Score 95/100
.
“หนังบ้าอะไรก็ไม่รู้ เปลี่ยนคนที่จิตใจเข้มแข็งอย่างฉัน ให้กลายเป็นคนเพ้อฝันอ่อนไหวไบโพล่าห์บ้าไปแล้ว #อินมากกก ”
.
==================
1.
ออกมาจากโรงหนังมา คือชีพจรเต้นแบบรู้เลยว่า หัวใจเต้นแรงและความดันขึ้นมาก สงสารสมองตัวเองที่ไม่รู้จะสั่งการให้รองรับอารมณ์อะไรกันแน่ คือน้ำตาก็ไหล หัวใจก็พองโต หนังบ้าอะไรก็ไม่รู้ เปลี่ยนคนที่จิตใจเข้มแข็งอย่างฉัน ให้กลายเป็นคนเพ้อฝันอ่อนไหวไบโพล่าห์ไปแล้วค่าาา 55555555
2.
ถือเป็นหนังญี่ปุ่นที่เราไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อย คือปกติญี่ปุ่นเค้าจะมีความโรแมนติกอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้มันมีความโรแมนติกแบบแฟรี่เทลเทพนิยายเจ้าชายเจ้าหญิง ผสมความคลาสสิกลงไปได้อย่างลงตัว ประหนึ่งดูหนัง Disney Princess คือนี่ถ้าเป็นสาวๆ ที่อินกับเรื่องราวของ รัมเพลสทิลสกิน, สโนไวท์, ราพันเซล, ซินเดอเรลล่า อะไรแบบนี้จะอินกับหนังมากกก
3.
อย่าง ฮารุกะ อายาเสะ เนี่ยคือใช่เลย คาแรกเตอร์เจ้าหญิงสูงศักดิ์ ที่มีนิสัยแก่นเซี้ยวน่ารัก และอยากจะออกไปมองเห็นโลกกว้างภายนอก จนกระทั่งวันหนึ่งพรหมลิขิตก็ดลบันดาลให้มาเจอกับเจ้าชายในชีวิตจริง ผู้ที่พร้อมจะดูแลและปกป้องเจ้าหญิงตลอดไป แอร๊ยยยยยยย
4.
ซึ่งเจ้าชายคนนี้ก็คือ เคนทาโร่ ชายหนุ่มธรรมดาเป็นพนักงานต๊อกต๋อยทำงานกองถ่าย (ที่น่ารักมากเว่อ) เอนดูน้องมาก คนอะไรใช้ความหล่อสะกดจิตให้เรารู้สึกอินตาม ตาเป็นสระอิแล้วมีลักยิ้ม คือเห็นแล้วหมั่นเขี้ยวอยากเอานิ้วไปจิ้มลักยิ้มน้องง เวลาน้องยิ้มโลกก็ดูฉดฉัย เวลาน้องร้องไห้อินี่ก็ร้องตาม เวลาน้องออดอ้อนอินี่ก็กัดผ้าเช็ดหน้าครางผัวๆอยู่ในใจ ยิ่งกว่าชะนีเดือน 12 อีกจ้าา
5.
ครึ่งเรื่องแรกหนังจะเล่าออกมาให้เรารู้สึกชวนฝัน น่ารักมุ้งมิ้ง จนกระทั่งความจริงบางอย่างปรากฏนี่แหล่ะ อื้อออหืออออ ซึ้งแบบร้องไห้ตับกันเลยทีเดียว คือมันมีเรื่องราวบางอย่างที่เราเซอร์ไพรส์ ไม่คิดว่าหนังจะใช้เหตุผลที่ทำให้สาวช่างฝันอย่างอิฉันซึ้งขนาดนี้ กายหยาบนั่งร้องไห้อยู่ในโรง แต่จิตเดี้ยนคือเข้าไปสิงสู่นางเอกแล้วคร่าาาา
6.
ฉันชอบที่หนังมีความงดงาม มีรสนิยม ถ้านึกถึง Lala Land ที่มีการคารวะภาพยนตร์คลาสสิก ด้วยการใส่ภาพจำของหนังหลายๆ เรื่องลงไป Tonight , at Romance Theater ก็ไม่ต่างกัน เพราะหนังทำให้เราดื่มด่ำไปกับโปรดักชั่นที่น่าดื่มด่ำ หลายฉากเห็นได้ชัดว่าเคารพหนังคลาสิกอย่าง Cinema Paradiso(1988), Sherlock Jr.( 1924) , The Wonderful Wizard of Oz(1900) หรือ Roman Holiday (1953) ของ วู้ดดี้ อัลเลน
7.
ฉันชอบประเด็นหนังที่พูดถึงความรักในแบบที่เป็นความรักแท้ๆ ความรักจากผู้ชายคนนึงพร้อมจะดูแล และให้เกียรติ ยอมรับในเงื่อนไขทุกอย่าง พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเราที่แม้เราจะมองว่าจะสิ่งนั้นยากที่จะทำได้จริงก็ตาม “ไม่ใช่เพราะอดทน แต่เพราะเข้าใจและยอมรับที่จะมีความสุขไปกับสิ่งนั้น” “โลกจะสวยงามมากแค่ไหน...อยู่ที่เราได้เจอกับใครบนโลกใบนี้” และยิ่งผู้ชายที่แสนดีคนนั้นก็คือเคนทาโร่ ยิ่งทำให้สาวกหนุ่มนิปปอนอย่างอิฉันซึ้งจนไม่อยากให้หนังจบมาเจอกันชีวิตจริงกันเลย

8.
เพราะฉะนั้นค่ะ สาวๆขร๋าาาาา ถ้าคุณชอบความโรแมนติกแบบแฟรี่เทล ชอบประเด็นความรักที่ทำให้เราได้เห็นคุณค่าและพลังของความรักจริงๆ ชอบเห็นโปรดักชั่นที่สวยงามคลาสสิก และรักหนุ่มนิปปอนตาสระอิมีลักยิ้มที่พร้อมจะมาเติมเต็มหัวจิตหัวใจ ในวันที่ต้องการผู้ชายสมบูรณ์แบบที่โลกนี้ให้ไม่ได้ #สามีมโน …. นี่คือหนังของคุณค่ะ 3 พฤษภาคมเป็นต้นไป หลบหนังสงครามจักรวาลมาดูหนังโรแมนติกกันนะคะ

FB : แมวตัวนั้นนั่งดูหนังตรงแถวc https://www.facebook.com/cwatchthemovies/