ANTM, AsNTM
-มี Host และกรรมการในแต่ละสัปดาห์ดำเนินรายการ
-มีการ Makeover ผู้เข้าแข่งขันทุกคนซึ่งเป็นหนึ่งในการแข่งขันของรายการ
-ส่วนใหญ่เน้นถ่ายแบบ มีถ่ายโฆษณา Commercial มี Acting เดินแบบ บ้าง
-มีการเก็บตัวกันในบ้าน อยู่รวมกัน วึ่งจะเห็นนิสัยส่วนตัว ธาตุแท้ของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน
-หากทำผิดกฎในบ้าน จะโดน Host ติ หรือถูกเชิญออกจากรายการ
-ไม่มีเมนเทอร์มาโค้ด สอนในแต่ละสัปดาห์แบบถาวร ส่วนใหญ่ต้องใช้ทักษะและการเรียนรู้ ประสบการณ์ของตนเองเพื่อให้ชนะผลงานในแต่ละสัปดาห์
-ผู้เข้าแข่งชันจะต้องดิ้นรนด้วยตนเอง เพื่อที่จะชนะผลงานในแต่ละสัปดาห์และไม่ถูกคัดออก และเพื่อชิงตำแหน่งผู้ชนะใน Cycle นั้นๆ
-การแข่งขันจะมีทั้งในบ้าน และสถานที่ต่างๆแตกต่างกันออกไปในแต่ละสัปดาห์
-โจทย์และหัวข้อ จะมี Host และ Sponcer มาในการแข่งขัน ซึ่งจะ Sponcer จะแตกต่างออกไปในทุกๆสัปดาห์
-ในแต่ละการแข่งขันจะมี Call Out มีการบอกคะแนนการทำผลงานในแต่ละสัปดาห์ให้ทราบถึง Level ผลงานของตนเอง
-จะต้องมีการทำงานแบบเดี่ยว หรือแบ่งเป็นกลุ่ม หรือจับคู่แยกสลับไปมาในแต่ละผลงาน ซึ่งจะมีกรรมการเลือกให้ แล้วต้องมาปรับตัวกันร่วมกันทำผลงาน
-มีรางวัลให้กับผู้เข้าแข่งขันที่ชนะในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งจากแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับ Sponcer ของรายการ
-มี Host และกรรมการ ซึ่งแต่ละสัปดาห์จะไม่เหมือนกันมาตัดสินผลงานและชี้ชะตาผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน คนต่อคน
-การประกาศผู้ชนะผลงานในแต่ละสัปดาห์มีเพียงคนเดียว เมื่อชนะแล้วเข้าสู่รอบต่อไปแบบเดี่ยว คนต่อคน รายๆไป
คนที่อยู่ Bottom Two ไม่สามารถมาโต้เถียง หาเหตุผลที่ทำให้ตัวเองอยู่ต่อได้ จะนำคะแนนจาก Host และ กรรมการที่ให้คะแนนผลงานของตัวเองมาตัดสินว่าต้องออกหรือไม่
The Face
-มีเมนเทอร์คอยดำเนินรายการตลอดการแข่งขัน
-เมนเทอร์จะทำการคัดเด็กเพื่อเข้าทีมของตนเองเพื่อทำ Masterclass และ Campaige
-ผู้ที่ได้คัดเลือกจากเหล่าเมนเทอร์สามารถเลือกทีมและเมนเทอร์ให้ตนเองได้ หรือเมนเทอร์สามารถแย่งเด้กเพื่อเข้าทีมของตนได้
-ไม่มีการ Makeover ผู้เข้าแข่งขัน และไม่จำเป็นต้องทำ หากแต่จะมีการ Makeover ก็ขึ้นอยู่กับเมนเทอร์ของทีมตัวเอง
-การแข่งขันมีทั้ง ถ่ายแบบ เดินแบบ ถ่ายโฆษณา แอคติ้ง ปะปนกันไปในแต่ละสัปดาห์
-การแข่งขันจะมีทั้งในสตู และสถานที่ต่างๆแตกต่างกันออกไปในแต่ละสัปดาห์
-มีรางวัลให้การผู้เข้าแข่งขันที่ชนะผลงานในแต่ละสัปดาห์แตกต่างกันออกไป
-ไม่มีบ้านเก็บตัวเหล่าผู้เข้าแข่งขัน ถึงเวลาแข่งขันมาถ่ายทำและเมื่อจบการแข่งขันในแต่ละสัปดาห์ก็จะแยกย้ายไปใช้ชีวิตของตนเอง
-คนที่มาตัดสินและให้คะแนนคือเหล่ากรรมการที่แตกต่างกันที่เป็น Sponcer ในแต่ละสัปดาห์
-ผู้เข้าแข่งขันที่ชนะ Masterclass ในแต่ละวีคมีสิทธิ์เลือกลำดับการทำ Campaige ให้กับทีมตนเองและทีมอื่นได้
-เมนเทอร์สามารถโค้ช ดัน และช่วยเหลือผู้เข้าแข่งขันสุดความสามารถให้ผู้เข้าแข่งขันในทีมของตนเองชนะในแต่ละวีคให้ได้
-ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับการช่วยเหลือ ดัน โค้ช หรือ ถูกช่วยจาก Mentor ของตนให้ชนะผลงานในแต่ลัปดาห์โดยที่ผู้เข้าแข่งขันไม่ต้องพึ่งตนเองมากนัก
-การแข่งขัน แข่งขันกันระหว่าง เมนเทอร์และเด็กแต่ละทีม โดยไม่มีการสลับหรือข้ามทีมกันไปมาระหว่างการแข่งขัน
-ไม่มีกรรมการมาเลือกจับผู้เข้าแข่งขันว่า จะต้องทำผลงานกับใคร จะเดี่ยว คู่ หรือกลุ่ม ไม่สามารถจับสุ่ม หรือแบ่งแยกระหว่าง ทีม หรือ Mentor ได้
-การชนะตัดสินจากผลงาน ไม่ว่าจะ เดี่ยว คู่ หรือกลุ่ม มี Mentor ชนะได้เพียงคนเดียว และ ไม่ว่าจะแข่งกันแบบไหน จะเดี่ยว คู่ หรือกลุ่ม เมื่อมีคนในกลุ่มชนะแล้วจะชนะไปทั้งทีม
-Mentor ที่ชนะมีสิทธิ์คัดเด็กในแต่ละทีมที่แพ้ โดยให้เด็กในทีมที่แพ้เข้ามาโต้เถียง ให้เหตุผลกัน ว่าควรจะอยู่หรือออกจากการแข่งขัน สิทธิ์นั้นขึ้นอยู่กับ Mentor ที่ชนะเพียงคนเดียว
-Mentor ที่แพ้จะดูจากผลงานและใช้เหตุผลคัดเด็กแต่ละคนว่า ใครควรจะถูกคัดออก ควรจะอยู่เพื่อแข่งขันต่อ และใครสามารถชิงตำแหน่ง The Face ได้
-Mentor ในแต่ละทีมจะแข่งกันเองเพื่อให้ทีมของตนชนะไม่ว่าจะใช้ Skill ใดๆก็ตาม โดยไม่สนใจเด็กในทีมหรือ เด็กของ Mentor คนอื่น
-Mentor เป็นผู้ชี้ชะตาของเด็กในทีมตนเอง หรือเด็กต่างทีม โดยตัดสินจากผลงาน หรือเหตุผลส่วนตัวของ Mentor เอง
-จะมีการคัดผู้เข้าแข่งขันจาก Mentor ทีมของตัวเอง เพื่อไปแข่งขันรอบสุดท้าย หรือ Final Walk เพื่อชิงตำแหน่ง The Face ให้กับ ตนเอง และ Mentor ของตน
ถ้าให้เลือก เราชอบ
ASTM, AsNTM มากกว่า เพราะ ผู้เข้าแข่งต้องเดิมพันชีวิตของตนเอง ใช้ทักษะ สกิล และประสบการณ์ต่างๆเพื่อให้ได้อยู่ต่อและชนะตำแหน่งใน Cycle ของตน ไม่มีใครมาวางเกมส์ให้ตนเองต้องเดินไปในทางไหน มีเพียง Host และกรรมการเท่านั้นที่มีอำนาจตัดสินชะตาของตนว่าจะอยู่หรือจะออกไป มี Makeover อันนี้ชอบมากๆ เพราะบางคนจาก ดินเป็นดาว ชนะรายการไปเลย ไม่มีการเพิ่มกฎเข้ามาระหว่างการแข่งขัน ซึ่งจะทำให้รายการดูหมดความขลังและความเข้มข้นไป มีบ้านเก็บตัวสร้างความผูกพัน มิตรภาพ บรรยากาศการ และนิสัยส่วนตัวของผู้เข้าแข่งขัน ให้รายการเข้มขันและสนุกมากยิ่งขึ้น
ส่วน The Face ชีวิตผู้เข้าแข่งขันเหมือนต้องเดิมพันด้วย เหล่าบรรดา Mentor ซึ่งใช้เหตุผลส่วนตัวของตนเอง หรือความชอบธรรม หรือ จะทำยังไงก็ได้เพื่อให้ตัวเองชนะ The Face โดยไม่ได้มองศักยภาพ หรือโอกาสในการเป็น The Face ของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนซึ่งมีเปลี่ยนกฎ ทำนู่นทำนี่สร้างกระแส ดราม่า ในระหว่างการแข่งขันมากเกินไปจนออกสู่ทะเลมหาสมุทรมากเกินกว่าจะกลับมาเข้มขันแบบเดิมได้, เน้นขายดราม่า โดย มีดราม่ากันระหว่าง Mentor ด้วยกันเองซะส่วนใหญ่ จนเหมือนเป็น รายการเฟ้นหา Mentor มากกว่าหา The Face, ยิ่ง The Face Thailand ที่ผ่านๆมา มีขายดราม่ามากขึ้นเรื่อยๆจนเหมือนละครหลังข่าวมากกว่า รายการเฟ้นหานางแบบ, มีการขายของ นำ Sponcer ที่ไม่ได้ครอบคลุม เจาะจงเฉพาะกลุ่ม ที่ไม่ได้ทำให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนมีสิทธิ์ชนะได้, บางที นำการแข่งขันมาขายของ บางอย่างไม่เหมาะกับรายการค้นหานางแบบ ซึ่งไม่ได้ทำให้ผู้เข้าแข่งขันได้แสดงความสามารถที่ตนมีมากพอ, มี
คุณเต้ กัลย์จาฤก ซึ่งมีเปลี่ยนกฎ ทำนู่นทำนี่สร้างกระแส ดราม่า ในระหว่างการแข่งขันมากเกินไปจนออกสู่ทะเลมหาสมุทรมากเกินกว่าจะกลับมาเข้มขันแบบเดิมได้
อันนี้คือความเห็นของตัวเอง และได้มีส่วนที่ ได้ชม วิเคราะห์มา และเขียนมาเพื่อแสดงความเห็นต่อรายการ และรสนิยมการเลือกดูรายการค่ะ ผิดพลาดประการใด ขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะค้ะ
ANTM, AsNTM กับ The Face
-มี Host และกรรมการในแต่ละสัปดาห์ดำเนินรายการ
-มีการ Makeover ผู้เข้าแข่งขันทุกคนซึ่งเป็นหนึ่งในการแข่งขันของรายการ
-ส่วนใหญ่เน้นถ่ายแบบ มีถ่ายโฆษณา Commercial มี Acting เดินแบบ บ้าง
-มีการเก็บตัวกันในบ้าน อยู่รวมกัน วึ่งจะเห็นนิสัยส่วนตัว ธาตุแท้ของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน
-หากทำผิดกฎในบ้าน จะโดน Host ติ หรือถูกเชิญออกจากรายการ
-ไม่มีเมนเทอร์มาโค้ด สอนในแต่ละสัปดาห์แบบถาวร ส่วนใหญ่ต้องใช้ทักษะและการเรียนรู้ ประสบการณ์ของตนเองเพื่อให้ชนะผลงานในแต่ละสัปดาห์
-ผู้เข้าแข่งชันจะต้องดิ้นรนด้วยตนเอง เพื่อที่จะชนะผลงานในแต่ละสัปดาห์และไม่ถูกคัดออก และเพื่อชิงตำแหน่งผู้ชนะใน Cycle นั้นๆ
-การแข่งขันจะมีทั้งในบ้าน และสถานที่ต่างๆแตกต่างกันออกไปในแต่ละสัปดาห์
-โจทย์และหัวข้อ จะมี Host และ Sponcer มาในการแข่งขัน ซึ่งจะ Sponcer จะแตกต่างออกไปในทุกๆสัปดาห์
-ในแต่ละการแข่งขันจะมี Call Out มีการบอกคะแนนการทำผลงานในแต่ละสัปดาห์ให้ทราบถึง Level ผลงานของตนเอง
-จะต้องมีการทำงานแบบเดี่ยว หรือแบ่งเป็นกลุ่ม หรือจับคู่แยกสลับไปมาในแต่ละผลงาน ซึ่งจะมีกรรมการเลือกให้ แล้วต้องมาปรับตัวกันร่วมกันทำผลงาน
-มีรางวัลให้กับผู้เข้าแข่งขันที่ชนะในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งจากแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับ Sponcer ของรายการ
-มี Host และกรรมการ ซึ่งแต่ละสัปดาห์จะไม่เหมือนกันมาตัดสินผลงานและชี้ชะตาผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน คนต่อคน
-การประกาศผู้ชนะผลงานในแต่ละสัปดาห์มีเพียงคนเดียว เมื่อชนะแล้วเข้าสู่รอบต่อไปแบบเดี่ยว คนต่อคน รายๆไป
คนที่อยู่ Bottom Two ไม่สามารถมาโต้เถียง หาเหตุผลที่ทำให้ตัวเองอยู่ต่อได้ จะนำคะแนนจาก Host และ กรรมการที่ให้คะแนนผลงานของตัวเองมาตัดสินว่าต้องออกหรือไม่
The Face
-มีเมนเทอร์คอยดำเนินรายการตลอดการแข่งขัน
-เมนเทอร์จะทำการคัดเด็กเพื่อเข้าทีมของตนเองเพื่อทำ Masterclass และ Campaige
-ผู้ที่ได้คัดเลือกจากเหล่าเมนเทอร์สามารถเลือกทีมและเมนเทอร์ให้ตนเองได้ หรือเมนเทอร์สามารถแย่งเด้กเพื่อเข้าทีมของตนได้
-ไม่มีการ Makeover ผู้เข้าแข่งขัน และไม่จำเป็นต้องทำ หากแต่จะมีการ Makeover ก็ขึ้นอยู่กับเมนเทอร์ของทีมตัวเอง
-การแข่งขันมีทั้ง ถ่ายแบบ เดินแบบ ถ่ายโฆษณา แอคติ้ง ปะปนกันไปในแต่ละสัปดาห์
-การแข่งขันจะมีทั้งในสตู และสถานที่ต่างๆแตกต่างกันออกไปในแต่ละสัปดาห์
-มีรางวัลให้การผู้เข้าแข่งขันที่ชนะผลงานในแต่ละสัปดาห์แตกต่างกันออกไป
-ไม่มีบ้านเก็บตัวเหล่าผู้เข้าแข่งขัน ถึงเวลาแข่งขันมาถ่ายทำและเมื่อจบการแข่งขันในแต่ละสัปดาห์ก็จะแยกย้ายไปใช้ชีวิตของตนเอง
-คนที่มาตัดสินและให้คะแนนคือเหล่ากรรมการที่แตกต่างกันที่เป็น Sponcer ในแต่ละสัปดาห์
-ผู้เข้าแข่งขันที่ชนะ Masterclass ในแต่ละวีคมีสิทธิ์เลือกลำดับการทำ Campaige ให้กับทีมตนเองและทีมอื่นได้
-เมนเทอร์สามารถโค้ช ดัน และช่วยเหลือผู้เข้าแข่งขันสุดความสามารถให้ผู้เข้าแข่งขันในทีมของตนเองชนะในแต่ละวีคให้ได้
-ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับการช่วยเหลือ ดัน โค้ช หรือ ถูกช่วยจาก Mentor ของตนให้ชนะผลงานในแต่ลัปดาห์โดยที่ผู้เข้าแข่งขันไม่ต้องพึ่งตนเองมากนัก
-การแข่งขัน แข่งขันกันระหว่าง เมนเทอร์และเด็กแต่ละทีม โดยไม่มีการสลับหรือข้ามทีมกันไปมาระหว่างการแข่งขัน
-ไม่มีกรรมการมาเลือกจับผู้เข้าแข่งขันว่า จะต้องทำผลงานกับใคร จะเดี่ยว คู่ หรือกลุ่ม ไม่สามารถจับสุ่ม หรือแบ่งแยกระหว่าง ทีม หรือ Mentor ได้
-การชนะตัดสินจากผลงาน ไม่ว่าจะ เดี่ยว คู่ หรือกลุ่ม มี Mentor ชนะได้เพียงคนเดียว และ ไม่ว่าจะแข่งกันแบบไหน จะเดี่ยว คู่ หรือกลุ่ม เมื่อมีคนในกลุ่มชนะแล้วจะชนะไปทั้งทีม
-Mentor ที่ชนะมีสิทธิ์คัดเด็กในแต่ละทีมที่แพ้ โดยให้เด็กในทีมที่แพ้เข้ามาโต้เถียง ให้เหตุผลกัน ว่าควรจะอยู่หรือออกจากการแข่งขัน สิทธิ์นั้นขึ้นอยู่กับ Mentor ที่ชนะเพียงคนเดียว
-Mentor ที่แพ้จะดูจากผลงานและใช้เหตุผลคัดเด็กแต่ละคนว่า ใครควรจะถูกคัดออก ควรจะอยู่เพื่อแข่งขันต่อ และใครสามารถชิงตำแหน่ง The Face ได้
-Mentor ในแต่ละทีมจะแข่งกันเองเพื่อให้ทีมของตนชนะไม่ว่าจะใช้ Skill ใดๆก็ตาม โดยไม่สนใจเด็กในทีมหรือ เด็กของ Mentor คนอื่น
-Mentor เป็นผู้ชี้ชะตาของเด็กในทีมตนเอง หรือเด็กต่างทีม โดยตัดสินจากผลงาน หรือเหตุผลส่วนตัวของ Mentor เอง
-จะมีการคัดผู้เข้าแข่งขันจาก Mentor ทีมของตัวเอง เพื่อไปแข่งขันรอบสุดท้าย หรือ Final Walk เพื่อชิงตำแหน่ง The Face ให้กับ ตนเอง และ Mentor ของตน
ถ้าให้เลือก เราชอบ ASTM, AsNTM มากกว่า เพราะ ผู้เข้าแข่งต้องเดิมพันชีวิตของตนเอง ใช้ทักษะ สกิล และประสบการณ์ต่างๆเพื่อให้ได้อยู่ต่อและชนะตำแหน่งใน Cycle ของตน ไม่มีใครมาวางเกมส์ให้ตนเองต้องเดินไปในทางไหน มีเพียง Host และกรรมการเท่านั้นที่มีอำนาจตัดสินชะตาของตนว่าจะอยู่หรือจะออกไป มี Makeover อันนี้ชอบมากๆ เพราะบางคนจาก ดินเป็นดาว ชนะรายการไปเลย ไม่มีการเพิ่มกฎเข้ามาระหว่างการแข่งขัน ซึ่งจะทำให้รายการดูหมดความขลังและความเข้มข้นไป มีบ้านเก็บตัวสร้างความผูกพัน มิตรภาพ บรรยากาศการ และนิสัยส่วนตัวของผู้เข้าแข่งขัน ให้รายการเข้มขันและสนุกมากยิ่งขึ้น
ส่วน The Face ชีวิตผู้เข้าแข่งขันเหมือนต้องเดิมพันด้วย เหล่าบรรดา Mentor ซึ่งใช้เหตุผลส่วนตัวของตนเอง หรือความชอบธรรม หรือ จะทำยังไงก็ได้เพื่อให้ตัวเองชนะ The Face โดยไม่ได้มองศักยภาพ หรือโอกาสในการเป็น The Face ของผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนซึ่งมีเปลี่ยนกฎ ทำนู่นทำนี่สร้างกระแส ดราม่า ในระหว่างการแข่งขันมากเกินไปจนออกสู่ทะเลมหาสมุทรมากเกินกว่าจะกลับมาเข้มขันแบบเดิมได้, เน้นขายดราม่า โดย มีดราม่ากันระหว่าง Mentor ด้วยกันเองซะส่วนใหญ่ จนเหมือนเป็น รายการเฟ้นหา Mentor มากกว่าหา The Face, ยิ่ง The Face Thailand ที่ผ่านๆมา มีขายดราม่ามากขึ้นเรื่อยๆจนเหมือนละครหลังข่าวมากกว่า รายการเฟ้นหานางแบบ, มีการขายของ นำ Sponcer ที่ไม่ได้ครอบคลุม เจาะจงเฉพาะกลุ่ม ที่ไม่ได้ทำให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนมีสิทธิ์ชนะได้, บางที นำการแข่งขันมาขายของ บางอย่างไม่เหมาะกับรายการค้นหานางแบบ ซึ่งไม่ได้ทำให้ผู้เข้าแข่งขันได้แสดงความสามารถที่ตนมีมากพอ, มี คุณเต้ กัลย์จาฤก ซึ่งมีเปลี่ยนกฎ ทำนู่นทำนี่สร้างกระแส ดราม่า ในระหว่างการแข่งขันมากเกินไปจนออกสู่ทะเลมหาสมุทรมากเกินกว่าจะกลับมาเข้มขันแบบเดิมได้
อันนี้คือความเห็นของตัวเอง และได้มีส่วนที่ ได้ชม วิเคราะห์มา และเขียนมาเพื่อแสดงความเห็นต่อรายการ และรสนิยมการเลือกดูรายการค่ะ ผิดพลาดประการใด ขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะค้ะ