ต้องชงดื่มเอง ถ้ารสชาดยังเหมือนเดิม ก็ดื่มได้

เรามีชา กาแฟ ผงโกโก้ ผงช็อคโกแล็ต ในครอบครอง เยอะมาก (หลายอย่างรวมกัน น่าจะเกิน 50-60 ชนิด และ มีเก็บทิ้งเอาไว้ที่หลายที่พัก
ในหลายเมืองเก็บเอาไว้แต่ละที่ราวๆ นี้แหละ 50-60 อย่าง มีเป็นตู้เลย ☺️ เพราะเดินทาง อยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง จึงมีโอกาสได้ลอง ได้ชิม
ได้ซื้อของแปลกๆ ใหม่ๆ อยู่เสมอ)

บางครั้ง เราดื่มไม่ทัน ก็ไม่ทิ้ง ก็ยังดื่มอยู่ โดยที่ไม่ได้สนใจวันที่ ตรง Best Before คือ ถ้าเป็น เบสท์ บีฟอร์เนี่ย
ถ้าเกินวันแล้ว มันยังใช้ได้อยู่ แล้วหลายๆ อย่าง รสไม่เพี้ยน กลิ่น สี ก็ไม่เพี้ยน ก็ดื่มต่อหน่ะ

//

เรื่องของเครื่องดื่ม ชา กาแฟ ช็อคโกแลต(แบบชง) อันนี้แนะนำกันไม่ได้หรอก ต้องลองดื่มเอง ชอบอันไหนก็ดื่มอันนั้น
คนเราชอบรสชาติ กลิ่น สี ไม่เหมือนกัน ความเข้มความอ่อนของชากาแฟ คนเราก็ชอบไม่เหมือนกัน

หรือ อย่างผงช็อคโกแลตชงดื่ม ก็มีหลายระดับ ตั้งแต่เข้มมาก ไม่ผสมอะไรเลย จนกระทั่งผสมน้ำตาล ผสมรสอย่างอื่นๆ เป็นต้น

ก็ต้องลองเอง เอาที่ชอบที่ชอบ

________

กาแฟ กับ ชา ที่อร่อยที่สุด เท่าที่เราเคยดื่มมา คือ ของ ปท เอธิโอเปีย
บ้านๆ ออร์แกนิค แต่สุดยอดมาก

กาแฟที่คิวบาก็สุดยอด หายากมาก ยี่ห้อเดียวกับซิการ์ คือ ยี่ห้อโคฮิบา

หรือ กาแฟจากทางภาคเหนือของไทย

ไหนจะกาแฟเวียตนาม กาแฟฟิลิปปินส์ กาแฟจีน (จากแถบยูนาน) กาแฟออสเตรเลีย (จากแถบควีนส์แลนด์)
กาแฟอินเดีย (จากแถบตอนใต้ แถวๆ เกรละ ทมิฬนาดู อะไรแถบๆ นั้น) มีกาแฟดีๆ ทั้งนั้น


//

ถ้าอยากดื่มชาดีๆ ก็ต้องพวกยี่ห้อ ฟอร์ทนั่มฯ ของอังกฤษ, แฮร์ร็อดส์, จิงที, ชาของดีนแอนด์เดลูก้าก็ดี, ทไวนิ่งส์, มาร์ริยาจแฟร์ส, ทีดับเบิ้ลยูจี,
ที แอนด์ โค, มาร์ค แอนด์ สเปนเซ่อร์ เป็นต้น

ชาของอิหร่าน อินเดีย ศรีลังกา จีน ใต้หวัน ลาว พม่า นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น ไทย ดีงามหมด

เรื่องชา เป็นเรื่องของวัฒนธรรม แล้วยังแยกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้อีก เช่น ชาดำ ชาเขียว ชาขาว แล้วยังแยกกรรมวิธีการตากใบชา หรือ คั่วใบชา
หรือ อบใบชา หรือ การรมควันใบชาอีก

ไหนจะเป็นเรื่องของการเบลนด์กลิ่นอีก เช่น กลิ่นผลไม้ ดอกไม้ สมุนไพร แล้วก็พวกเครื่องเทศ

ชาแบบไทยๆ พวกตะไคร้แห้ง ใบเตยแห้ง มะตูมแห้ง เราก็มีหมด ดื่มแล้วชื่นใจมาก

//

ส่วนเมล็ดกาแฟก็ต้องซื้อตามร้านดีๆ ร้านที่ขายเมล็ดกาแฟโดยเฉพาะ

หรือ อย่างของสตาร์บัคส์ก็มีเมล็ดกาแฟดีๆ หลายตัว โดยเฉพาะพวกแบล็คแอพพร่อน หรือพวกกาแฟลิมิเต็ดเอดิชั่น

หรือ เมล็ดกาแฟของไทย ที่สุดยอด ก็ของโครงการหลวง, ของดอยตุงแม่ฟ้าหลวง, ของร้านภูฟ้า เป็นต้น

ถ้าของเวียตนามก็เมล็ดกาแฟยี่ห้อไฮแลนด์

ของลาวก็เมล็ดกาแฟดาว สีทอง

กาแฟสตาร์บั๊คส์ แบบอิริกามิก็เลิศมาก เราพกเดินทางด้วยตลอด แล้วออริกามิของสตาร์บั๊คส์ไม่ได้มีวางขายในทุกประเทศ
เวลาเจอต้องตุนเอาไว้

แล้วกาแฟที่มาจากแต่ละแหล่งก็มีกลิ่น สี รส ไม่เหมือนกัน เนื่องจากดินฟ้าอากาศความสูงจากระดับน้ำทะเลแตกต่าง


//


สรุปว่า เราดื่มชา กาแฟ ที่เลยวัน Best Before มาแล้วเป็นประจำ หลายๆ ครั้งเกินเป็นปี ก็ไม่มีผลเสียอะไรนะ  
ดื่มได้

//

หรือ ถ้าคุณไปคุยกับพนักงานของร้าน Nespresso เขาจะบอกคุณเลยว่า กาแฟ ไม่มีวันหมดอายุ (โดยเฉพาะกาแฟ
ในแค็พซูลของเขา_ เพราะเราชอบซื้อกาแฟลิมิเต็ดเอดิชั่นของเนสเพรสโซ่มาตุนเอาไว้ด้วย เพราะของพวกนี้
จะมีขายเป็นซีซั่นเท่านั้น ถ้าหมดแล้วก็หมดเลย หาซื้ออีกไม่ได้แล้ว)


//


*- ตรงนี้มา Edit ขอบคุณคุณ จขกท สำหรับ คห 4-1

ส่วนที่ท้าย คห 5 คุณ จขกท บอกว่า ......

" ไม่รู้ว่ากาแฟมันจะเกิดปฏิกิริยาอะไรรึเปล่า แต่ก็น่าจะปลอดภัยนะคะ กินโลดดด  "

^^^
^^^
55 ไม่ทราบสิ เราเองก็ดื่มไปหลายถ้วยแล้ว ประเภทที่เกินวัน Best Before ไปแล้วเนี่ย แต่ยังอยู่เป็นปกติดี ☺️☕️


_________


//เอามาฝาก ให้อ่านเล่นๆ กระทู้หัวเรื่อง " อยากทราบวิธีชงชาแบบประเทศอังกฤษค่ะ "


เราเคยไปตอบเอาไว้ที่ คห 7 ตามลิ่งค์นี้  >>>   https://ppantip.com/topic/35309352/comment7