[CR] The Silk Road - Gansu and Xi'An เที่ยวประเทศจีนบนเส้นทางสายไหม (11 Days)



เมื่อเอ่ยถึงชื่อ เส้นทางสายไหม หรือ Silk Road หลายๆคนคงคุ้นหูกันดี นั้นก็คือชื่อเส้นทางการค้าขายสำคัญในสมัยโบราณ ที่เชื่อมต่อโลก ตะวันออกไปโลกตะวันตก ที่มีจุดเริ่มจาก "นครฉางอัน" หรือ "ซีอาน" ในปัจจุบัน เริ่มมีการสำรวจเส้นทางนี้อย่างเป็นทางการในช่วงปี 114BC ในยุคราชวงศ์ฮั่น โดย Zhang Qian ผู้ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ออกสำรวจในแถบเอเชียกลาง เพื่อหาพันธมิตรในการช่วยต่อต้านการรุกรานจากชนเผ่า "ซ่งหนู" หรือคนเถื่อนจากทางเหนือ ที่ทำให้จีนต้องสร้างกำแพงเมืองจีนเพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าเหล่านั้น แต่สิ่งที่ Zhang Qian ได้กลับมานั้น มีค่ามากกว่าแค่เชิงการทหาร สิ่งที่ตามมามีทั้งการแลกเปลี่ยนศิลปะ ศาสนา เทคโนโลยี และสินค้าต่างๆ ที่ได้ไหลเข้ามาหลังจากคนโลกตะวันตกได้รู้จักสินค้าที่ล้ำค่าจากจีน นั้นก็คือผ้าไหม และยังมีเครื่องเทศกับเครื่องเงินจากตะวันออกกลาง ได้เข้ามาสู่จีนเช่นกัน รวมถึงพันธุ์ม้าศึกในตำนาน "อาชาเหงื่อโลหิต" (ถื่นกำเนิดมาจากแถบประเทศเติร์กเมนิสถาน) ปัจจุบันเส้นทางสายไหมได้ขึ้นทะเบียนเป็น UNESCO World Heritage Site - Silk Roads: the Routes Network of Chang'an-Tianshan ที่มีความสำคัญในเชิงวัฒนธรรม

เอาล่ะ เล่าแต่ความเป็นมาแล้วมีอะไรที่น่าสนใจในยุคที่เราไม่ได้ขี่อูฐ หรือขึ้นเรือออกทะเล เพื่อไปแลกเปลี่ยนสินค้ากันแล้ว สิ่งที่เส้นทางสายไหมได้ทิ้งให้คนปัจจุบันได้ชม นั้นมีทั้งสถานที่โบราณสำคัญต่างๆ เช่น Mogao Grotto ถ้ำที่รวมศิลปะพุทธสมัยเก่ามากมาย, ประตูเมือง Jiayu Pass ปลายสุดกำแพงเมืองจีนฝั่งตะวันตก เป็นต้น ถ้าจะตามรอยเส้นทางสายไหมให้ครบทั้งในส่วนประเทศจีน ส่วนใหญ่มักจะ เริ่มตั้งแต่ Xi'An เข้ามลฑล Gansu และต่อไปยัง เขตปกครองตนเอง Xinjiang ไปสุดที่เมือง Kashgar ก่อนที่จะออกไปสู่เอเชียกลางแถบกลุ่มประเทศ -สถาน ทั้งหลาย แต่เนื่องด้วยเวลาจำกัด ผมเลยสามารถไปสุดได้แค่ Dunhuang มลฑล Gansu เท่านั้น





การเดินทางและ VISA

คนไทยจำเป็นต้องใช้ VISA จีนเพื่อที่จะเข้าประเทศ ซึ่งการทำ VISA จีนนั้นไม่ยาก สามารถทำด้วยตัวเองหรือจะจ้างบริษัททัวร์ทำให้ ปกติจะชาร์จค่าใช้จ่ายเพิ่มประมาณ 500บาท ต่อคน ซึ่งกระทู้ที่กล่าวถึงการทำ VISA จีนนั้นมีมากมายและมีรายละเอียดครบถ้วย สามารถอ่านได้ที่ https://ppantip.com/topic/36244353

การเดินทางไปยัง Xi'An นั้นจะมีสายการบินให้เลือกมากมายราคาไม่แรง เช่น AirAsia, Thai Lion Air และ Nok Scoot เป็นต้น ราคาที่ search เจอปกติจะอยู่ราวๆ 6000-7000บาท ไปกลับ แต่ถ้าช่วงเทศกาลหยุดยาว ราคาอาจวิ่งไปถึง 1x,xxx บาท ได้ครับ ลองเช็คโปรกันดีๆ จะได้ตั๋วที่ถูกและดีได้ครับ




Roaming VS. Pocket Wifi

ปัจจุบัน internet ที่จีนมีการ block social หลักๆ เช่น Facebook, Twitter, Google ถ้าอยากจะเล่นสิ่งเหล่านั้นที่จีน อาจต้องออกกำลังภายใน VPN กันหน่อย หรือ วิธีง่ายๆก็เปิด Roaming ไปจากไทย ซึ่งตอนนี้ทางเลือกหลักๆก็มี เช่า Pocket Wifi หรือ ซื้อ SIM Travel Asia ของ True ส่วนตัวผมซื้อ Sim ไปครับ เนื่องด้วยเหตุผลตามนี้

- ราคาถูกกว่า ถ้าเทียบกับ Pocket Wifi (Pocket Wifi ราคาอยู่ที่ประมาณ 280บาท/วัน 500MB หมดแล้วโดน cap speed แต่ Sim Travel Asia ราคา 399บาท/8วัน 4GB หมดแล้วก็โดน cap speed เช่นกัน)
- ถ้าไปกันมากกว่า 1คน เวลาเดินแยกกันจะได้ไม่ต้องกังวลสัญญาณหลุด และสามารถติดต่อกันได้ตลอดเวลา ที่มีสัญญาณ
- ข้อควรระวัง 3G ประเทศจีนนั้นใช้สัญญาณ TD-SCDMA ที่ไม่เหมือนบ้านเรา เพราะฉะนั้นมือถือทั่วไปที่ซื้อในไทย จะรับได้แค่ 2G/4G เท่านั้น และแถมด้วย 4G ของ China Mobile นั้น support ความถี่ช่วง 39(1900), 40(2300), 41(2500) เท่านั้น ยังไงเช็ครุ่นมือถือให้ดีว่า support ไหม มิฉะนั้นจะเจอแต่ EDGE ตลอดทริป แล้วจะหัวร้อนเอาง่ายๆ แถบ Dunhuang ยาวไปจนกลับ Xi'An มี 4G ให้ใช้ในตัวเมืองครับ ระหว่างเมืองสัญญาณขาดๆหายๆตามระเบียบ





รถไฟจีน

การจองรถไฟจีนนั้นทำได้ไม่ยาก โดนผ่าน web ctrip.com ซึ่งรถไฟในประเทศจีนนั้น ตอนนี้ถือว่ามี Hi Speed Train Network ที่ยาวที่สุดในโลก ส่วนราคานั้น มักจะถูกกว่าบินภายในประเทศ ยกเว้นจะเจอโปรดีๆของทางสายการบินเท่านั้น ซึ่งถ้าเราจองตั๋วรถไฟผ่าน ctrip.com แล้ว เราจะต้องไปออกตั๋วรถไฟจริงอีกทีที่สถานีรถไฟ ซึ่งสามารถไปออกที่สถานีเมืองใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเมืองต้นทางเท่านั้น และสามารถไปเอาตั๋วก่อนรถไฟออกก็ยังทัน รายละเอียดการจองรถไฟนั้นมีกระทู้ที่ได้เขียนรายละเอียดไว้ดีแล้ว ตามนี้เลยครับ https://ppantip.com/topic/35064157

***ข้อควรระวัง สถานีรถไฟที่จีน บางเมืองจะมีมากกว่า 1 สถานี เพราะฉะนั้นเวลาจองโรงแรม หรือเผื่อเวลาเดินทางไปขึ้นรถไฟไว้ให้ดีๆนะครับ เดี๋ยวนึกว่าใกล้ๆ แต่จริงๆคนละทิศเลย และรถไฟที่นี่ออกตรงเวลานะครับ





Tips

- คนจีนสูบบุหรี่ไม่เลือกที่เป็นอย่างมาก แม้บางที่จะมีป้ายห้ามสูบบุหรี่ก็ตาม แต่ก็ไม่วาย สูบต่อหน้าป้ายนั้นแหละ ถ้าใครแพ้หรือไม่ชอบควันบุหรี่ แนะนำให้ติดหน้ากากหรือยาดมไปด้วย โดยเฉพาะตามรถไฟความเร็วปกติ ชอบไปสูบกันตามรอยต่อระหว่างโบกี้ เหม็นไปทั้งคันได้เลย
- Air Quality ที่จีนบางเมืองก็ไม่ค่อยดีจะเท่าไหร่ ลองเช็ค app weather ทุกๆวันและมีหน้ากากกันฝุ่นติดไว้ ไม่เสียหายครับ ไม่ต้องห่วงหล่อ ห่วงสวย คนจีนเองวันไหนอากาศแย่ๆก็เขาใส่กัน
- ห้องน้ำ แม้จะพัฒนาไปเยอะแล้ว แต่ก็แนะนำให้ติด ทิชชูเปียกไป เพื่อความสะดวกก็ดีนะครับ โดยเฉพาะคุณผู้หญิง
- สมัยนี้เรื่องภาษา เราสามารถให้ app แปลได้ ขอแนะนำ Baidu Translator อันนี้ใช้ดี โดยเฉพาะเวลาแปล Eng - Chinese หรือกลับกัน สามารถถ่ายรูปเพื่อแปลป้ายหรือเมนูต่างๆได้ ช่วยชีวิตได้เยอะครับ เวลาเขาสื่อสารกับเราเขาก็ใช้ app เหมือนกันนั้นแหละ
- แผนที่ google map นั้นไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่ในจีน แนะนำ Baidu Map อันนี้แม่นมากรายละเอียดดี สามารถบอกว่าเดินทางด้วยรถเมล์สายไหนได้ และบอกราคาด้วย แต่มีแต่ภาษาจีนล้วนๆ อาจต้องพยายามแปลทีละคำ การ search สถานที่ต้องใช้ภาษาจีนเท่านั้น สามารถเทียบ location เอาจาก google map แล้วไปปักหมุดใน Baidu เอาก็พอช่วยได้ครับ
- เรื่อง Taxi นั้นที่ไปมาเจอกดมิเตอร์ ทุกคัน ไม่เจอราคาเหมาเลย Taxi ที่จีนไม่หวังทิปครับ ทอนเงินปัดเศษลงเกือบทุกครั้ง ร้านอาหารก็ไม่หวังทิปเช่นกัน ไม่จำเป็นต้องเผื่อครับ เรื่องนิสัยคนจีนอันนี้ถ้าเทียบกับสมัยไปแถบกวางโจวถือว่าดีกว่าเยอะครับ ไม่ค่อยเสียงดัง ไม่ทำตัววุ่นวาย ขายของมีป้ายราคากำกับ แม้ว่าแซงคิวจะมีให้เห็นบ้าง แต่รวมๆถือว่าดีกว่าที่คิดเยอะครับ
- ใครจะใช้บัตรเครดิตประเภท VISA, Master Card ให้ระวังหน่อย เพราะในจีนส่วนมากถ้านอกเมืองใหญ่ จะรับเฉพาะบัตร Unionpay เท่านั้น ยังไงเตรียมเงินสดไว้ให้เพียงพอด้วย ส่วน mobile payment พวก WeChatPay หรือ Alipay นั้นแทบจะใช้ได้ทุกที่ไม่เว้นแม้แต่ร้านรถเข็น แต่คนต่างชาตินั้นสมัครยากมาก (เข้าใจว่าต้องมีบัตรหรือ bank account ของจีน) ถ้าใครมีไว้ก็ใช้จ่ายสะดวกครับ แทนเงินสดได้เกือบ 100% เลย





สำหรับทริปนี้ ผมเดินทางจากไทยไป-กลับ Xi'An รายละเอียดเส้นทางเที่ยวภายในประเทศมีรายละเอียดตามต่อไปนี้ครับ

- เครื่องบินในประเทศ Xi'An > Dunhuang (เดินทาง 2.40 ชม.)
เริ่มทริปนี้ผมปักหลักไปกลับที่ Xi'An เป็นหลักครับ ซึ่งจริงๆการเดินทางสามารถทำกลับกันได้คือ เริ่มจาก Xi'An ไปจบที่ Dunhuang แล้วบินกลับ Xi'An แต่ของผมจะเริ่มจากเมืองไกลสุดกลับมาหาใกล้สุด
สำหรับสนามบิน Xi'An สามารถเดินทางเข้าเมืองได้โดยรถบัส ราคาประมาณ 15-25หยวน มีหลายสายแล้วแต่ว่าเราพักใกล้จุดไหน สามารถสอบถามเส้นทางได้ที่ counter ซื้อตั๋วรถบัสที่สนามบินครับ สามารถพูดภาษาอังกฤษได้พอสมควร มีแผนที่โรงแรมก็โชว์สอบถามได้เลยครับ
สำหรับ Dunhuang สามารถนั่ง Taxi ไปยังสนามบินได้ไม่ยาก ราคาประมาณ 25-30หยวน
- รถไฟความเร็วปกติ Dunhuang > Jiayuguan (5 ชม.)
เนื่องจากเมือง Dunhuang ไปยัง Jiayuguan ยังไม่มีรถไฟความเร็วสูง จึงต้องเลือกรถไฟปกติไป สำหรับรอบรถต่างๆ สามารถลองเช็คได้จาก www.ctrip.com ได้เลยครับ สำหรับการเดินทางเข้าเมือง ไม่ค่อยแนะนำกลุ่มคนที่มารอเรียกหน้าสถานี เพราะไม่แน่ใจว่ากลุ่มคนเหล่านั้นเป็น taxi เถื่อนหรือไม่แนะนำให้เดินออกมาจากสถานีหน่อยแล้วค่อยโบก taxi จะดูน่าไว้ใจกว่าครับ
สำหรับที่วางกระเป๋า ถ้านั่งแบบ soft sleeper อาจจะต้องออกแรงยกหน่อย เพราะที่วางกระเป๋าจะมีสองจุดเท่านั้นคือ ใต้เตียง และเหนือประตู ถ้าหากมีคนวางของที่ใต้เตียงไปแล้ว เราจะต้องยกของขึ้นเหนือประตู ซึ่งค่อนข้างสูงมาก อาจไม่สะดวกสำหรับคนตัวไม่สูง แต่ที่ Dunhuang มักจะเป็นต้นสายรถไฟ ยังไงก็รีบๆขึ้นเพื่อจองที่วางของหน่อยล่ะกันครับ
- รถไฟความเร็วสูง Jiayuguan > Zhangye (1.30 ชม.)
- รถไฟความเร็วสูง Zhangye > Lanzhou (3.20 ชม.)
- รถไฟความเร็วสูง Lanzhou > Xi' An (3.10 ชม.)
พอเข้าเส้นทางหลักของรถความความเร็วสูงแล้วก็แนะนำให้เลือกวิธีเดินทางนี้ครับ เพราะประหยัดเวลามาก และที่นั่งสะดวกสบาย สำหรับรถไฟความเร็วสูงนั้น ที่วางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่จะอยู่ที่โซนทางเดินระหว่างโบกี้ และหลังที่นั่งแถวสุดท้ายของโบกี้ครับ ถ้ากระเป๋าขนาดไม่ใหญ่มาก ประมาณ hand luggage สามารถยกขึ้นที่วางเหนือหัวได้ครับ
ชื่อสินค้า:   CHINA
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่