ผมมีเพื่อนสนิทคนนึง สนืทมากชนิดกอดกันได้เลยที่เดียว(อย่าคิดไปไกลครับ) นิสัยตอนเเรกๆมันกูไม่ค่อยเคร่งคิดไรมาก เพื่อนหลายๆคนชอบความเฟรนลี่มันมาก มันเป็นคนที่เฟรนลี่มากๆคนนึงเลยครับ เราเป็นพวกห้องต้นๆจะโดนห้องท้ายๆเยอะเย้ยว่าเอ๋อ ไอ้นี่เป็นคนเดียวในห้องผมที่บอกคนในห้องว่าอย่าไปมีเรื่องเลย มันเป็นคนที่มีรอยยิ้มตลอดมัน เเต่มันก็จะเบอะๆบะๆหน่อย มันสนิทกับครูด้วยหัวมันกลางๆ(เเต่ชอบได้คะเเนนสอบต่ำ) ทางบ้านมันทำงานเป็นทหารเรือหลายคนครับ มันก็เหมือนวัยรุ่นหลายๆคนครับที่ไม่ค่อยสนใจข่าวอะไรของประเทศซะเท่าไหร่ ไอ้นี่มันจะไปไหนมาไหนกับผมตลอด มันเป็นคนที่พูดมากด้วย555555 เเต่พอปิดเทอมมันบอกว่าจะไปอยู่กับลุงซักพักนึง(ตลอดปิดเทอม) จากนั้นพอเปิดเทอมนิสัยมันก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือ เป็นใต้ตีนเลย(อันนี้ไม่ขำนะครับมันเปรียบเทียบได้เเรงกว่านี้อีก) มันเริ่มเป็นคนเงียบๆไม่พูดกับใคร พอพักกลางวันมันก็หายไป(ปกติอยู่ด้วยกัน) รอยยิ้มมันก็ไม่มีมันเริ่มหน้าดุขึ้น จนมีช่วงนึงผมเเอบตามมันไปตอนพักกลางวัน ผมเห็นมันไปเเอบอ่านหนังสือเรียน ผมเลยเข้าไปถามมันทำไมไม่ไปอยู่กับเพื่อนบ้าง มันตอบผมว่า ไร้สาระทำกันอย่างงี้ไงประเทศถึงไม่ดีขึ้น กูต้องเรียนให้ดีขึ้นกูอยากช่วยประเทศ กูอยากมีอำนาจ ผมได้มันพูดอย่างงี้ผมก็เริ่มสงสัยว่าเกิดไรกับมัน ปล.ตอนนี้หัวมันมีเเต่การเมือง การทหาร เเค่2เรื่องนี้คือทั้งหมดที่มันคิดตอนนี้
เพื่อนสนิทผมโดนล้างสมองเปล่าครับ?