พอถึงสถานีขนส่งช้างเผือก รถแล้วเราก็ลงไปเอารถมอเตอร์ไซค์เลยเพราะว่าจองที่ร้านBikkyไว้ล่วงหน้า(ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์อยู่ใกล้) หลังจากที่ได้รถแล้วก็ขับขึ้นดอยสุเทพ ต่อด้วยวัดพระธาตุดอยคำโชคดีเจอเพื่อนแฟนที่รู้จักพาขับเที่ยวตัวเมืองเชียงใหม่ไหว้พระรอบๆตัวเมืองและเดินตลาดกลางคืนกันต่อ

(ในส่วนรูปของวันแรกผมไม่ได้ลงนะครับ ถ้ามีใครที่อยากเห็นเดียวจะมาตั้งอีกกระทู้นึงนะครับเพราะรูปก็เยอะอยู่เหมือนกัน)

วันที่2

หลังจากถ่ายรูปกันเป็นที่พอใจก็ได้ออกเดินทางกันต่อ
ระหว่างทางได้เจอร้านกาแฟฮิมน้ำ อยู่ที่ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว เลยแวะไปนั่งพักผ่อน เข้าไปครั้งแรกรู้สึกได้ถึงธรรมชาติที่แท้จริงอยากอยู่นานๆ เพราะมันสวยจริงๆ ริมน้ำสมชื่อ

ถึงจะเมื่อยล้าปวดหลัง ตากลมตากแดด แต่พอเจอวิวทั้งสองข้างทาง บวกกับคนรู้ใจที่คอยอยู่เคียงข้างกันตลอดไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข มันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ทำให้มีกำลังใจเพิ่มขึ้นพอที่จะขับรถต่อเลยครับ

พอมาถึงทางเข้าพึ่งนึกขึ้นได้ว่า "มีวัดถ้ำเชียงดาวนี่น่า" ก็เลยตัดสินใจไปวัดถ้ำเชียงดาวก่อน
แต่ ขณะขับรถอยู่นั้นระหว่างทาง...................... !! นี่มันทางที่เค้ามาถ่ายรูปกันเยอะๆนี่น่า มันอยู่ทางเข้าดอยหลวงเชียงดาวนี่เอง



หลังจากที่พอใจในการถ่ายรูปแล้ว จึงตรงไปที่วัดถ้ำเชียงดาวต่อ

ถึงแล้ววว

ภายในถ้ำผมไม่ได้ถ่ายเพราะมีบางส่วนที่มืดและโทรศัพท์ผมถ่ายไม่เห็น ถ่ายไม่สวยก็เลยถ่ายและลบ(มือไวไปหน่อย)
ออกมาจากวัดผมก็ได้เดินทางไปที่สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง เห็นเค้าว่ากันว่าที่นี่เงียบสงบมาก ใครที่จะมาปฏิบัติธรรมตัดขาดทุกอย่างแนะนำให้มาเลยครับ
ทางขึ้นเห็นเค้าบอกกันว่า 500 กว่าขั้น

ตอนแรกมีคนถอดใจครับ หายใจเฮือกใหญ่ แถมดมยาดม10กระปุกก็ไม่พอ ฮ่าๆๆ
แต่สุดท้ายก็จูงมือกันไปจนขึ้นไปไหว้องค์พระข้างบนเจดีย์ได้สำเร็จ

หลังจากที่อิ่มบุญ อิ่มเหงื่อ อิ่มลมหายใจเฮือกใหญ่กันแล้วจึงมุ่งหน้าขึ้นที่พักกันต่อ
ขึ้นเขานี่ไม่ได้ถ่ายสักรูป ถ่ายแต่คลิปเสียดายอยู่เหมือนกัน ใช้เวลาขึ้นก็นานอยู่เพราะไม่รู้เส้นทาง ขับเรื่อยๆ ทางชั่นก็ใช้เท้าช่วยดัน จนสุดท้ายพอขึ้นมาถึงที่พักก็ทำให้หาเหนื่อยไปอีก เพราะ............................................

วิวสวยมากกก ไม่รอช้าครับบรีบเข้าที่พักอาบน้ำ เตรียมตัวถ่ายรูป ช่วงที่ผมถึงประมาณ 4 โมงเย็น กว่าแล้ว แต่... แดดยังจ้าาอยู่เลยจึงได้เข้าไปนอนพักผ่อนนอนในที่พัก ที่พักไม่มีพัดลม ไฟฟ้าเปิดปิดเป็นเวลาเพราะเค้าใช้แผงโซล่าเซลล์ แต่โชคดีที่แดดไม่แรงมากแต่ก็อากาศอบอ้าวหน่อยๆ ที่พักผมที่จองไว้เป็นบ้านปูน เพราะตอนแรกจะจองเต็นท์แต่มันเต็มหมด ก็เลยต้องจำใจจอง(บ้านปูนไม่เห็นวิว ต้องเดินออกมาข้างนอก)เพราะจริงๆอยากนอนเต็นท์ตื่นมาอยากเห็นภูเขา สายหมอกเลย ช่วงที่ผมไปยังเป็นปลายฝนต้นหนาวอยู่(ไปไม่ดูฤดูกาลเล้ยย)ตอนมาก็แอบหวั่นๆ ว่าจะเจอน้ำท่วม ดินสไลด์ ดินถล่ม

พอแดดหมดเราก็มารีบจองโต๊ะริมระเบียงเลยครับเพราะห้องที่ผมพักไม่มีโต๊ะไม่มีอะไรเลย แต่คนนอนเต็นท์ยังมีโต๊ะเล็กๆหน้าเต็นท์ งั้นที่ตรงนี้ผมขอนะค้าบบ


ราคานี้รวมอาหารเย็น+เช้า ด้วยครับเติมได้ไม่อั้น

ตอนถือโทรศัพท์อยู่ไม่มีหมอก แต่พอวางโทรศัพท์กินข้าวหมอกมาทันทีเลยเสียใจมาก ฮ่าๆ ตอนเช้าเลยกะว่าจะตื่นเช้าๆ หมอกจ๋าแล้วเจอกันน

ดาวเยอะมากครับ หงายคอดูสะคอเคล็ด เห็นดาวตกด้วยยยดีใจมากอยู่กรุงเทพไม่เคยเจออะไรแบบนี้
ห้องน้ำตอนกลางคืนครับ เอ้อลืมบอกห้องน้ำรวมแยกฝั่งชายหญิงนะ

อากาศเริ่มเย็นๆครับแต่ไม่ถึงกับหนาวมาก พอ5ทุ่มก็ได้เข้าไปนอนพักผ่อน ตอนดึกไม่รู้ว่าฝนตกด้วยหรือเปล่าหลับไม่รู้เรื่องเลย


ตื่นตั้งแต่ตี 4 ครึ่งครับ(เห่อเวอร์) สุดท้ายมืดเกินมองไม่เห็นหมอก จนต้องกลับไปนอนแล้วตื่นอีกทีตี 5.40 ออกมารีบอาบน้ำแปรงฟันก่อนที่จะมีคนใช้ห้องน้ำเยอะ น้ำฝักบัวนี่หยั่งกะไหลมาจากยอดเขาทิเบต เย็นเวอร์บวกกับน้ำไหลช้า เล่นสะตาสว่างเลย หลังจากที่อาบน้ำ แปรงฟันเสร็จเรียบร้อยทั้งคู่ก็ออกมาจองโต๊ะ บรรยากาศก็ตามรูปเลยครับ




มื้อเช้ามันจะฟินหน่อยๆ



พอหมอกเริ่มจางหาย บวกกับคนเริ่มเยอะ ผมเลยบอกแฟนว่าขับรถเล่นชมวิวกันไหม แฟนพยักหน้าผมเลยพาแฟนไปลงอีกฝั่งนึงของดอยหลวงเชียงดาว ซึ่งหน้าจะเป็นหมู่บ้านเพราะ โค เยอะมาก แต่ไม่เห็นคนเลี้ยง แล้วก็ได้เจอลำธารธรรมชาติสวยมากเลยแวะลงไปถ่ายรูปสะหน่อย




ใกล้ 11โมงแล้วว เดียวกลับขึ้นที่พักไม่ทัน อยากอยู่ต่อแต่ต้องทำใจ ฮือๆ

กลับแล้วไว้เดียวมาใหม่นะ

หลังจากที่ลงจากดอยหลวงเชียงดาวก็ไปต่อที่แม่กำปอง ที่คิดไว้ตอนที่วางแผนอยู่บ้านกับตอนที่ขับรถไปนี่ไม่ไม่ง่ายยเลยย แต่วางแผนไปแล้วยังไงก็ต้องไปเลยออกเดินทางไปที่หมู่บ้านแม่กำปองต่อเลยจ้า