เนื่องจากเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา  เพื่อนคนหนึ่งของเราต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงด้วยโรคเส้นเลือดแดงในสมองตีบค่ะ  

จากคนที่เคยแข็งแรง ต้องกลายมาเป็นคนที่ได้แค่นอนนิ่งๆอยู่บนเตียง ทำได้เพียง กระพริบตา ยิ้ม หันหน้าได้เบาๆ  และ ขยับนิ้วได้เพียงข้างเดียว

ก็พยายามหาอุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยเพื่อนเท่าที่ทำได้ค่ะ  บางอย่างจำเป็นต้องซื้อ ก็ซื้อ เช่นที่นอนลม  บางอย่างที่ราคาสูง แต่พอที่จะดัดแปลงได้อย่างเช่น หมอนหลอด ก็ทำเองค่ะ  

เรื่องมือ เรื่องนิ้ว ก็หาลูกบอลอย่างลูกใหญ่หน่อยให้พอกางนิ้วได้ แต่ทางกายภาพ ก็แนะนำว่า ควรจะเป็นที่กางนิ้วเลยนะ  ลองหาดูก็ไปเจอค่ะ

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตค่ะ



เท่าที่เห็นราคาก็จะสูงหน่อย ก็เลยคิดว่า เราจะลองหาอย่างอื่นมาทดแทนได้มั๊ย  จะใช้อะไรดี จะเอาอะไรเจาะ ต้องวัดนิ้วมือยังไง

พอดีไปเดินหาถุงซักผ้ามาใส่หลอดทำหมอน  ตามไอเดียของท่านนึงในนี้ค่ะ   ต้องขอขอบคุณสำหรับไอเดียถุงซักผ้าด้วยค่ะ  ปกติต้องเย็บผ้าทำหมอน ก็ยังคิดอยู่ว่า จะลำบากน้องของเพื่อนมั๊ยเพราะต้องซักบ่อยๆ  พอเป็นถุงซักผ้านี่ก็ทำความสะอาดง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ

http://topicstock.ppantip.com/woman/topicstock/2010/11/Q9919610/Q9919610.html

เอามาทำแบบนี้ค่ะ  แล้วใส่ปลอกหมอนอีกที ก็ทำความสะอาดง่ายกว่าแบบเย็บเป็นถุงผ้าค่ะ



เลยไปเห็นถาด แบบนี้ มีขนาดใหญ่ดีเลย  มีช่องให้สอดเทปได้ด้วย น่าจะโปร่ง ระบายอากาศได้ดี เพราะตอนนี้มือเพื่อนเหม็นเชียวค่ะ ใบละ 20 บาทค่ะ  เลยลองเอามาดัดแปลงดูค่ะ



ก็ไม่ต้องทำอะไรมากนะคะ  ตัดขอบตั้งออก ให้ตรงเส้น ใช้ตะไบเล็บลบเหลี่ยมคมของเศษที่ติดอยู่ค่ะ  ก็จะมีความยากนิดนึงหากจะตัดให้เป็นรูปทรง เพราะมันเป็นซี่ๆ  นอกจากจะใช้ความร้อนช่วย ก็เลยทำไปเป็นสี่เหลี่ยมเลยค่ะ

ไปหาซื้อเวลโครเทปสำเร็จรูปได้มาจาก Mr.DIY ค่ะ  อันเล็กจะเอามาใช้ยึดนิ้ว  19 บาท  อันใหญ่จะเอามาใช้พันข้อมือ 23 บาท




เอาไปทดลองให้เพื่อนค่ะ ตอนแรกทำแบบแยกชิ้น  ก็จะพะรุง พะรังเล็กน้อยนะคะ เพราะยังไม่ได้ตัด  ลองดูก่อนว่ามันใช้ได้หรือเปล่า




คุณแม่ของเราไปเยี่ยมด้วยยืนดูอยู่พักเลยออกไอเดียว่า  ก็มีสายยาวๆอยู่ ทำไมไม่ใช้เส้นเดียวไปเลย ก็ลองทำดูค่ะ  ได้มาเป็นอย่างนี้




ลองรื้อข้างเดิมดูแล้วพันใหม่






ก็จะประมาณนี้ค่ะ  ข้อดีที่เห็นคือ จะระบายอากาศได้ดี ไม่อับ ไม่อบเหงื่อ  ปรับสายได้ตามลักษณะของนิ้วและมือค่ะ

ข้อเสียคือ มันอาจจะใหญ่เทอะทะไปบ้าง  และไม่สวยเอาเสียเลย  

แต่ก็ช่วยให้ประหยัดเงินได้บ้างค่ะ เพราะการที่คนคนหนึ่งต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง นอกจากจะขาดรายได้แล้ว ยังต้องมีค่าใช้จ่ายอีกเยอะแยะมากมายตามมา  อะไรประหยัดได้ก็ประหยัดกันไปก่อนค่ะ