ฮาโหลฮายยย
จะขออนุญาตนำเสนอ เรื่องบ้านๆ เรื่องห้องๆ ห้องนอนกันนิดนึงบ้าง
ปกติเขียนแต่บลอคความสวยความงาม บลอคนี้ ขอเปลี่ยนแปลงบ้างเน้อ
ก็ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะมาแชร์นะ
กะแต่งเล่นๆ แล้วถ่ายรุปเล่นๆ ดูเอง แชร์เฟชบุคตัวเองให้เพื่อนดูมั่ง
แต่ พอทำไปทำมา ถ่ายรูปไปด้วย ตอนแต่งห้อง เออ เอามาแชร์ดีกว่า 555
การแต่งห้องนี้ทำเองคนเดียวทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มจนจบ ไม่มีใครช่วยนะเเจ๊ะ
ฉะนั้น ช่างทั้งหลาย อย่าหวังว่าจะได้เงินฉัน กิกิ
และอีกอย่างเราจะไม่เอางาน Build in เด็ดขาด เพราะ
1.แน่นอนว่ามันสวย แต่ ราคามันแพงเกินไป
2. ถ้าอนาคตต้องย้ายบ้านหรืออะไร มันเอาไปด้วยไม่ได้
ตรงนี้เราไม่เเฮปปี้
ฉันจะไม่ยอมเสียเงินเด็ดขาดกับงาน build in
และ จะไม่ใช้งานที่ต้องจ้างช่างมาทำห้อง เพราะค่าทำห้องมันจะแพงขึ้นหลายเท่าเลย
ก็เลยจะทำอะไรที่เราทำเองคนเดียวทั้งหมด
เรามาดู before กันแบบเต็มๆกันก่อนเนอะ
ก็ประมาณนี้เนอะ ก็จะเป็นห้องนอนที่เรานอนมาตั้งแต่สมัยประถม
ขนาดห้องกว้าง 4 x 3 เมตร
พวกเฟอร์นิเจอร์อาทิเช่น เตียง โต๊ะข้างเตียง โต๊ะเขียนหนังสือ ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะตั้งทีวี
ตรงนี้มีมาตั้งแต่เราอยู่ประถม ใช้มาสิบกว่าปี (นับนิ้วก่อน ..............16 ปี)
แล้วก็มีมาเพิ่มเป็นตู้สีเทาๆข้างๆโต๊ะทำงาน กับชั้นวางของข้างๆที่วางทีวี
มาเพิ่มทีหลังได้สักสองปี
ทีนี้เราก็เลยอยากจะแต่งห้องใหม่
อันที่จริงอยากแต่งใหม่นานแล้ว แต่ไม่มีตังค์ไงตอนนั้น
คือ ไม่อยากขอเงินที่บ้านมาทำห้อง เพราะเรารู้ตัวว่า เราคงไม่หมดแค่ สองสามพันแน่ๆ หุหุ
ก็เลยกะว่า ทำงานมีเงินเองเมื่อไหร่ค่อยทำเนอะ
ตอนแรกตั้งงบไว้ 20,000 บาท สำหรับทำห้องใหม่
แต่จะใช้ไปทั้งหมดเท่าไหร่ เดี๋ยวเรามาดูกัน
..................................................................................................................
ก่อนอื่นเริ่มแรกจะเป็นงานทาสีกันก่อนเลย
ซึ่งสีที่ใช้จะเป็นสีของ Beger ทั้งหมด
( เผอิญร้านก่อสร้างแถวบ้าน มันมีแต่ยี่ห้อนี้ ก็เลยต้องใช้ยี่ห้อนี้ไปโดยปริยาย
ยี่ห้ออื่นก็มีนะ แต่เค้ามีสีน้อย ไม่มีเครื่องผสมสีอ่ะ)
ก่อนแรกเลยจะเป็นสีส้ม ซื้อมาถังละประมาณ 750 บาท
ซึ่งนี่ไม่เคยซื้อสีทาบ้านมาก่อน เห็นราคาแล้วตกกะใจ เห้ย ทำไมแพงจัง 55
ซื้อถังเล็กสุดนะเหว๋ยย ตอนแรกนึกว่าจะสัก 300 - 400 ราวๆนี้
ก็ทาสีบริเวณหัวเตียง กับ ริมหน้าต่าง แค่สองมุมเท่านั้น
ทาทั้งห้องไม่ไหว เหนื่อยยยไปๆ
ต่อมารูปข้างบนนี้ มันเป็นเทคนิคส่วนตัวของเรา ที่ได้มาจากการทาอายแชโดว์
เอามาทาสีด้วย 55
คือเวลาแต่งตาสีจัดๆ ถ้าอยากให้รูปเชพตาชัดเจน
ก็เอาสกอตเทป แปะหางตาขึ้นไปถึงหางคิ้ว แล้วทาสีแชโดว์
พอทาแชโดว์เสร็จ ก็เอาสกอตเทปออก มันก็จะคมชัดไม่เลอะ
นี่ก็หลักการเดียวกันเลย
คือเวลาทาสีตรงขอบมุม มันจะเลอะมาที่อีกขอบที่เราไม่ต้องการจะให้สีมันติด
ทีนี้ เราก็เลยเอาเทปกาวมาแปะ เพื่อที่ว่าเวลาทาสีแล้วจะได้ไม่เลอะ
ไอตรงด้านที่เราไม่อยากให้สีติด
พอทาแล้วเราก็ลอกสีออก มันก็จะเรียบเนียนตรงขอบ ไม่เลอะเทอะ
วิธีนี้เอาไปใช้กับตอนทาขอบวงกบด้วยล่ะเธอ เก๋อยู่ๆ ทำให้เราทาสีง่ายมาก
*** ตอนแรกทาสีไปทีแรก แบ่บ ให้ตายเหอะ คิดถูกปะฟร่ะเนี่ย ทาสีส้ม
สีเเปร๋นเเหร๋นมาก กลัวจะไม่รอด แต่ก็ go ahead คิดว่า เออ เดี๋ยวทุกอย่างเสร็จก็น่าจะลงตัวนะ ***
ต่อมาเป็นงานเปลี่ยนสีเฟอร์นิเจอร์
ซึ่งเฟอร์นิเจอร์เราไม่อยากซื้อใหม่ทุกอย่าง มันเปลือง
โดยเฉพาะเตียงเน่าๆของเราที่นอนมาสิบกว่าปี
คือเตียงเนี่ยะ ถ้าซื้อใหม่ก็แพงนะ
ขี้หมูขี้หมาเตียงอย่างเดียวไม่รวมฟูกก็ปาไป 5,000 บาทละ
ก็เลยใช้เตียงเดิม แต่โมดิฟายใหม่โดยการเปลี่ยนสี
เราก็ใช้เป็นสติกเกอร์เปลี่ยนสีเฟอร์นิเจอร์ จากร้าน KOMONOYA ร้านญี่ปุ่น 60 บาท
เราซื้อมา 8 อัน รวมราคา 420 บาท
เดี๋ยวคนบอก คิดเลขผิดรึปล่าว . ไม่ผิดจ๊ะ เพราะเค้าซื้อ 5 ชิ้น แถม 1 ชิ้น
เราก็รวมราคาเป็น 7 ชิ้น เพราะแถมมาชิ้นนึง กิกิ
ด้านหลังสติกเกอร์จะเป็นตารางๆ คือ ง่ายดีต่อการวัดขนาดเฟอร์ว่าจะตัดตรงเส้นไหน อะไรงี้
แต่ติดยากโคตรๆ เอาไปติดเฟอร์ยากมาก มันไม่ค่อยจะเรียบนะ บอกเลย
ติดยากมาก อย่าทำคนเดียว มันยากมากแก ต้องมีคนช่วย
นี่ก็คือ ก่อนและหลัง เปลี่ยนสีเตียง กิกิ นี่แค่หัวเตียงนะ ทำเอง เล่นเอาเหนื่อยมาก มันติดยากก
นอกจากเปลี่ยนสีเตียงแล้ว เราก็เปลี่ยนสีกระจกแขวนผนังด้วยซะเลย จะได้ไม่ต้องซื้อกระจกใหม่
ต่อมาเป็นงานสว่านกันหน่อย
งานนี้เจาะเองเลยฮร่าา
เราจะมาติดชั้นวางของสวยงามกัน
เห็นถุงพลาสติกทีห้อยตรงนั้นมั้ย
คือ ไม่ได้ห้อยเล่นๆนะคะท่าน 555
คือแปะห้อยไว้ใต้บริเวณที่เราจะเจาะสว่าน
พอเจาะเเล้วมันจะมีผงอิฐผงปูนร่วงลงมา มันจะได้ลงถุง
จะได้ไม่เลอะเทอะ ไม่ต้องมากวาดพื้นทีหลัง
ชั้นก็จะเป็นแบบนี้ ซื้อมาสามอัน สีโอ้คดำ 2 อัน สีขาว 1 อัน
ซื้อมาจากโลตัส อันละ 159 บาท ซึ่งหลังจากที่เราไปซื้อมาแล้ว
ก็ไม่เห็นว่าจะมีขายอีกแล้ว ในหลายๆสาขาเลย 5555 โชคดีมากที่ไปซื้อมา
พอติดแล้วก็จะเป็นแบบนี้
จากนั้นเราก็จะติดกรอบรูปกัน
กรอบรูปขนาด 16x20 ได้มาในราคา 250 บาท
ซึ่งกรอบรูปทีแรก จะเป็นสีขาว แต่เราเอามาพ่นสีดำด้วยสีสเปรย์
- สีสเปรย์ราคา 45 บาท
- ต่อมาโคมไฟหอไอเฟล ราคา 995 บาท ซื้อจาก home pro
คือทีแรกกะจะไม่ซื้อ แต่ขอโทษนะเธอ มันสวย
ย อดใจไม่ได้ ซื้อเลยล่ะ
ต่อมา งานร้านญี่ปุ่น 60 บาท ก็มาอีกครั้ง จากร้าน KOMONOYA
เป็นกล่องใส่ของ 4 อัน วางไว้บนหัวเตียง ไว้ใส่พวกครีมทั้งหลายแหล่
รวมราคา 240 บาท
อ่ะ เริ่มจะเข้ารูปเข้ารอยไปบ้างแล้ว เรามาเปลี่ยนเตียงกันหน่อยดีกว่า
จากเตียงแบบนี้ ที่มีหมอนส้มๆ
คือปลอกหมอนสีส้ม เอาจริงทำมาจากเสื้อ
เราหาปลอกหมอนสีส้มเเปร๋นๆไม่ได้ แต่มีเสื้อสีส้มไม่ได้ใส่ เลยเอามาทำปลอกหมอน
เปลี่ยนสีผ้าปูเตียงหน่อย
ผ้าปูเตียงซื้อมาจาก Home Pro ซื้อมาพร้อมกะโคมไฟอ่า
ในราคา 1,000 บาท นางจะมาพร้อมกับ ปลอกหมอน และ ปลอกหมอนข้าง
อย่างละ 2 อัน
คือตอนซื้อมาก็ไม่รู้สึกอะไรนะ แต่พอซื้อมาแล้ว รู้สึกโง่ 5555555
แบ่บ ผ้าบ้าอะไรตั้งพันนึง แต่พอได้นอนไปแล้ว
รู้สึกคุ้มค่า ผ้านุ่มมาก นอนแล้วสบายผิวมาก สวรรค์โคตรๆ
ก็ถือว่าโอเคย์ คุ้มค่ากะที่เสียเงินไป
ต่อมา เราเปลี่ยนผ้าห่ม ซื้อหมอนซื้ออะไรเพิ่มกันอีกนิดนึง
ก็ผ้าปูเตียงสี ส้ม-ชมพู
ซื้อออนไลน์ รวมราคาส่งแล้ว 1,140 บาท
ตอนแรกเว้ยย ดูในเว็บ และถามแม่ค้า เค้าบอกสีส้ม-แดง
ซื้อมากูเป็นสีส้มชมูเฉยเลย ชิหาย อะไรวะ 5555 แต่ก็ช่างมัน เราก็เเฮปปี้กับสีชมพูอยู่
เลยไม่โวยวายไปเปลี่ยน จะว่าไปมันก็สวยดี
จะมีผ้านวม ปลอกมอน และ ปลอกหมอนข้าง มาให้ด้วย
เราก็หาหมอนมาอีกใบ มาใส่ปลอกสีชมพู
แต่ทีนี้มีหมอนสีดำด้วยอีกใบ รูปอาจจะมองไม่ค่อยเห็น เพราะมันมืดๆ
มันอยู่หลังสุด ถูกทับซ้อนกันของหมอนส้มและชมพู เพ่งกันหน่อย
ซึ่งหมอนนี่เราไปซื้อมาเพิ่ม ที่โลตัส ราคา 259 บาท จากราคา 400 บาท
คือเค้าเซลล์ไง เค้าบอกว่าเป็นหมอนเพื่อสุขภาพอะไรเนี่ย
ก็เลยอยากลอง หมอนจะบุ๋มๆแบบในรูป
แรกๆนอนเเข็งนะ นอนแล้วรู้สึกปะหลาด
แต่พอนอนจนนิ่ม เห๋ยย มันโอเคย์อ่ะแก คือทำให้เราไม่ตกหมอน แล้วก็
ปกติเรานอนเต็มที่มาก ขยับไปซ้ายไปขวา ตุ๊กตาบนเตียงพังพินาศ
พอนอนหมอนนี้ เหมือนโดนลอค ไม่ให้ขยับไปไหน ตื่นนอนมา ทุกอย่างบนเตียง
ยังอยู่ปกติสุขดี 555555+ แล้วอีกอย่างคือ นอนแล้วไม่ปวดเมื่อคือหลังตื่นนอนดีนะแก เริ่ดอยู่
ไปซื้อมานอนซะ มันดีอยู่ๆ
ต่อมาเรามาเปลี่ยนปลายเตียงกันดีกว่า
ตรงปลายเตียงนี้เป็นอะไรที่รกมาก เป็นอะไรที่ไม่น่าดูมาก ก็เลยต้องซื้อเฟอร์ใหม่
เราก็เลยไปซื้อชั้นวางทีวีมาใหม่
โอ้โหหห ดูโล่งขึ้นเยอะมากกก
(โคมไฟนั้นมาจาก ที่วางอยู่บนหัวเตียงทีแรกเริ่มเลย ย้ายมาตั้งข้างๆทีวีแทน
ทีวีขอไม่เปลี่ยนนะ ฉันชอบทีวีแบบโบราณ ภาพมันชัดดี
ทีวีแบบปัจจุบัน แบนๆ ภาพไม่ชัด แตกๆยังไงไม่รู้ ไม่ชอบเลย)
เจ้าตัวนี้ได้มาในราคา 2,200 บาท
จากร้านเฟอร์นิเจอร์บ้านๆ แถวบ้าน
ปกติราคา 2,600 บาท เผอิญพ่อรู้จักกะเจ้าของร้าน เค้าเลยลดให้ กรั่กๆๆๆ
ต่อมาโต๊ะข้างเตียง ได้มาในราคา 1,500 บาท
จากร้านเฟอร์นิเจอร์บ้านๆ อีกเช่นกัน
เราจะคลุมโทนเฟอร์นิเจอร์เป็นสีไม้โอคดำทั้งหมด ให้ไปทางเดียวกัน
ตอนแรกว่าจะสีขาว แต่เฟอร์สีขาว มันแพงงงง แพงกว่าสีนี้สัก 3 เท่าตัว ทุกอย่างทุกที่เลย
เลยไม่เอา แพงไป
ต่อมาบนโต๊ะแต่งๆเล็กน้อย ไม่แต่งมาก เพราะเน้นวางของรกๆ 555
กรอบรูปนี้ฟรีจ๊ะ ตอนแรกมาเป็นกรอบสีส้ม แต่มาพ่นสีดำ
ส่วนรูปนี้ได้มาจากโปสเตอร์ตอนซื้ออัลบั้มนาง เลยเอามาตัดใส่กรอบ
ส่วนขวดแก้วใส่ตังค์ ได้มาจากร้านไดโซะ
รวม 180 บาท
ตอนหยอดเหรียญลงขวดแล้วรู้สึกแบ่บ เหมือนทำบุญที่วัด ตอนตักบาตรสตางค์อ่ะแก
เสียงมัน กริ๊งๆ 55555
ใครเอาไปทำตามก็ได้นะ แยกตังค์ไว้ ขวดเหรียญสิบ เหรียญห้า เหรียญบาท-สองบาท
เวลาเอาตังค์มาใช้ หรือนับเงิน จะได้ไม่ปวดหัว
(แต่ตอนนี้มันเต็มแล้วหล่ะคุณพวกเธออ ฉันว่าฉันคงต้องซื้อไหมาใส่เหรียญแล้วล่ะ)
(ภาพแน่น) แต่งห้องนอนสมัยประถมใหม่ทั้งห้อง ด้วยงบพยายามประหยัด (No Build-in)
จะขออนุญาตนำเสนอ เรื่องบ้านๆ เรื่องห้องๆ ห้องนอนกันนิดนึงบ้าง
ปกติเขียนแต่บลอคความสวยความงาม บลอคนี้ ขอเปลี่ยนแปลงบ้างเน้อ
ก็ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะมาแชร์นะ
กะแต่งเล่นๆ แล้วถ่ายรุปเล่นๆ ดูเอง แชร์เฟชบุคตัวเองให้เพื่อนดูมั่ง
แต่ พอทำไปทำมา ถ่ายรูปไปด้วย ตอนแต่งห้อง เออ เอามาแชร์ดีกว่า 555
การแต่งห้องนี้ทำเองคนเดียวทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มจนจบ ไม่มีใครช่วยนะเเจ๊ะ
ฉะนั้น ช่างทั้งหลาย อย่าหวังว่าจะได้เงินฉัน กิกิ
และอีกอย่างเราจะไม่เอางาน Build in เด็ดขาด เพราะ
1.แน่นอนว่ามันสวย แต่ ราคามันแพงเกินไป
2. ถ้าอนาคตต้องย้ายบ้านหรืออะไร มันเอาไปด้วยไม่ได้
ตรงนี้เราไม่เเฮปปี้
ฉันจะไม่ยอมเสียเงินเด็ดขาดกับงาน build in
และ จะไม่ใช้งานที่ต้องจ้างช่างมาทำห้อง เพราะค่าทำห้องมันจะแพงขึ้นหลายเท่าเลย
ก็เลยจะทำอะไรที่เราทำเองคนเดียวทั้งหมด
เรามาดู before กันแบบเต็มๆกันก่อนเนอะ
ก็ประมาณนี้เนอะ ก็จะเป็นห้องนอนที่เรานอนมาตั้งแต่สมัยประถม
ขนาดห้องกว้าง 4 x 3 เมตร
พวกเฟอร์นิเจอร์อาทิเช่น เตียง โต๊ะข้างเตียง โต๊ะเขียนหนังสือ ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะตั้งทีวี
ตรงนี้มีมาตั้งแต่เราอยู่ประถม ใช้มาสิบกว่าปี (นับนิ้วก่อน ..............16 ปี)
แล้วก็มีมาเพิ่มเป็นตู้สีเทาๆข้างๆโต๊ะทำงาน กับชั้นวางของข้างๆที่วางทีวี
มาเพิ่มทีหลังได้สักสองปี
ทีนี้เราก็เลยอยากจะแต่งห้องใหม่
อันที่จริงอยากแต่งใหม่นานแล้ว แต่ไม่มีตังค์ไงตอนนั้น
คือ ไม่อยากขอเงินที่บ้านมาทำห้อง เพราะเรารู้ตัวว่า เราคงไม่หมดแค่ สองสามพันแน่ๆ หุหุ
ก็เลยกะว่า ทำงานมีเงินเองเมื่อไหร่ค่อยทำเนอะ
ตอนแรกตั้งงบไว้ 20,000 บาท สำหรับทำห้องใหม่
แต่จะใช้ไปทั้งหมดเท่าไหร่ เดี๋ยวเรามาดูกัน
..................................................................................................................
ก่อนอื่นเริ่มแรกจะเป็นงานทาสีกันก่อนเลย
ซึ่งสีที่ใช้จะเป็นสีของ Beger ทั้งหมด
( เผอิญร้านก่อสร้างแถวบ้าน มันมีแต่ยี่ห้อนี้ ก็เลยต้องใช้ยี่ห้อนี้ไปโดยปริยาย
ยี่ห้ออื่นก็มีนะ แต่เค้ามีสีน้อย ไม่มีเครื่องผสมสีอ่ะ)
ก่อนแรกเลยจะเป็นสีส้ม ซื้อมาถังละประมาณ 750 บาท
ซึ่งนี่ไม่เคยซื้อสีทาบ้านมาก่อน เห็นราคาแล้วตกกะใจ เห้ย ทำไมแพงจัง 55
ซื้อถังเล็กสุดนะเหว๋ยย ตอนแรกนึกว่าจะสัก 300 - 400 ราวๆนี้
ก็ทาสีบริเวณหัวเตียง กับ ริมหน้าต่าง แค่สองมุมเท่านั้น
ทาทั้งห้องไม่ไหว เหนื่อยยยไปๆ
ต่อมารูปข้างบนนี้ มันเป็นเทคนิคส่วนตัวของเรา ที่ได้มาจากการทาอายแชโดว์
เอามาทาสีด้วย 55
คือเวลาแต่งตาสีจัดๆ ถ้าอยากให้รูปเชพตาชัดเจน
ก็เอาสกอตเทป แปะหางตาขึ้นไปถึงหางคิ้ว แล้วทาสีแชโดว์
พอทาแชโดว์เสร็จ ก็เอาสกอตเทปออก มันก็จะคมชัดไม่เลอะ
นี่ก็หลักการเดียวกันเลย
คือเวลาทาสีตรงขอบมุม มันจะเลอะมาที่อีกขอบที่เราไม่ต้องการจะให้สีมันติด
ทีนี้ เราก็เลยเอาเทปกาวมาแปะ เพื่อที่ว่าเวลาทาสีแล้วจะได้ไม่เลอะ
ไอตรงด้านที่เราไม่อยากให้สีติด
พอทาแล้วเราก็ลอกสีออก มันก็จะเรียบเนียนตรงขอบ ไม่เลอะเทอะ
วิธีนี้เอาไปใช้กับตอนทาขอบวงกบด้วยล่ะเธอ เก๋อยู่ๆ ทำให้เราทาสีง่ายมาก
*** ตอนแรกทาสีไปทีแรก แบ่บ ให้ตายเหอะ คิดถูกปะฟร่ะเนี่ย ทาสีส้ม
สีเเปร๋นเเหร๋นมาก กลัวจะไม่รอด แต่ก็ go ahead คิดว่า เออ เดี๋ยวทุกอย่างเสร็จก็น่าจะลงตัวนะ ***
ต่อมาเป็นงานเปลี่ยนสีเฟอร์นิเจอร์
ซึ่งเฟอร์นิเจอร์เราไม่อยากซื้อใหม่ทุกอย่าง มันเปลือง
โดยเฉพาะเตียงเน่าๆของเราที่นอนมาสิบกว่าปี
คือเตียงเนี่ยะ ถ้าซื้อใหม่ก็แพงนะ
ขี้หมูขี้หมาเตียงอย่างเดียวไม่รวมฟูกก็ปาไป 5,000 บาทละ
ก็เลยใช้เตียงเดิม แต่โมดิฟายใหม่โดยการเปลี่ยนสี
เราก็ใช้เป็นสติกเกอร์เปลี่ยนสีเฟอร์นิเจอร์ จากร้าน KOMONOYA ร้านญี่ปุ่น 60 บาท
เราซื้อมา 8 อัน รวมราคา 420 บาท
เดี๋ยวคนบอก คิดเลขผิดรึปล่าว . ไม่ผิดจ๊ะ เพราะเค้าซื้อ 5 ชิ้น แถม 1 ชิ้น
เราก็รวมราคาเป็น 7 ชิ้น เพราะแถมมาชิ้นนึง กิกิ
ด้านหลังสติกเกอร์จะเป็นตารางๆ คือ ง่ายดีต่อการวัดขนาดเฟอร์ว่าจะตัดตรงเส้นไหน อะไรงี้
แต่ติดยากโคตรๆ เอาไปติดเฟอร์ยากมาก มันไม่ค่อยจะเรียบนะ บอกเลย
ติดยากมาก อย่าทำคนเดียว มันยากมากแก ต้องมีคนช่วย
นี่ก็คือ ก่อนและหลัง เปลี่ยนสีเตียง กิกิ นี่แค่หัวเตียงนะ ทำเอง เล่นเอาเหนื่อยมาก มันติดยากก
นอกจากเปลี่ยนสีเตียงแล้ว เราก็เปลี่ยนสีกระจกแขวนผนังด้วยซะเลย จะได้ไม่ต้องซื้อกระจกใหม่
ต่อมาเป็นงานสว่านกันหน่อย
งานนี้เจาะเองเลยฮร่าา
เราจะมาติดชั้นวางของสวยงามกัน
เห็นถุงพลาสติกทีห้อยตรงนั้นมั้ย
คือ ไม่ได้ห้อยเล่นๆนะคะท่าน 555
คือแปะห้อยไว้ใต้บริเวณที่เราจะเจาะสว่าน
พอเจาะเเล้วมันจะมีผงอิฐผงปูนร่วงลงมา มันจะได้ลงถุง
จะได้ไม่เลอะเทอะ ไม่ต้องมากวาดพื้นทีหลัง
ชั้นก็จะเป็นแบบนี้ ซื้อมาสามอัน สีโอ้คดำ 2 อัน สีขาว 1 อัน
ซื้อมาจากโลตัส อันละ 159 บาท ซึ่งหลังจากที่เราไปซื้อมาแล้ว
ก็ไม่เห็นว่าจะมีขายอีกแล้ว ในหลายๆสาขาเลย 5555 โชคดีมากที่ไปซื้อมา
พอติดแล้วก็จะเป็นแบบนี้
จากนั้นเราก็จะติดกรอบรูปกัน
กรอบรูปขนาด 16x20 ได้มาในราคา 250 บาท
ซึ่งกรอบรูปทีแรก จะเป็นสีขาว แต่เราเอามาพ่นสีดำด้วยสีสเปรย์
- สีสเปรย์ราคา 45 บาท
- ต่อมาโคมไฟหอไอเฟล ราคา 995 บาท ซื้อจาก home pro
คือทีแรกกะจะไม่ซื้อ แต่ขอโทษนะเธอ มันสวยย อดใจไม่ได้ ซื้อเลยล่ะ
ต่อมา งานร้านญี่ปุ่น 60 บาท ก็มาอีกครั้ง จากร้าน KOMONOYA
เป็นกล่องใส่ของ 4 อัน วางไว้บนหัวเตียง ไว้ใส่พวกครีมทั้งหลายแหล่
รวมราคา 240 บาท
อ่ะ เริ่มจะเข้ารูปเข้ารอยไปบ้างแล้ว เรามาเปลี่ยนเตียงกันหน่อยดีกว่า
จากเตียงแบบนี้ ที่มีหมอนส้มๆ
คือปลอกหมอนสีส้ม เอาจริงทำมาจากเสื้อ
เราหาปลอกหมอนสีส้มเเปร๋นๆไม่ได้ แต่มีเสื้อสีส้มไม่ได้ใส่ เลยเอามาทำปลอกหมอน
เปลี่ยนสีผ้าปูเตียงหน่อย
ผ้าปูเตียงซื้อมาจาก Home Pro ซื้อมาพร้อมกะโคมไฟอ่า
ในราคา 1,000 บาท นางจะมาพร้อมกับ ปลอกหมอน และ ปลอกหมอนข้าง
อย่างละ 2 อัน
คือตอนซื้อมาก็ไม่รู้สึกอะไรนะ แต่พอซื้อมาแล้ว รู้สึกโง่ 5555555
แบ่บ ผ้าบ้าอะไรตั้งพันนึง แต่พอได้นอนไปแล้ว
รู้สึกคุ้มค่า ผ้านุ่มมาก นอนแล้วสบายผิวมาก สวรรค์โคตรๆ
ก็ถือว่าโอเคย์ คุ้มค่ากะที่เสียเงินไป
ต่อมา เราเปลี่ยนผ้าห่ม ซื้อหมอนซื้ออะไรเพิ่มกันอีกนิดนึง
ก็ผ้าปูเตียงสี ส้ม-ชมพู
ซื้อออนไลน์ รวมราคาส่งแล้ว 1,140 บาท
ตอนแรกเว้ยย ดูในเว็บ และถามแม่ค้า เค้าบอกสีส้ม-แดง
ซื้อมากูเป็นสีส้มชมูเฉยเลย ชิหาย อะไรวะ 5555 แต่ก็ช่างมัน เราก็เเฮปปี้กับสีชมพูอยู่
เลยไม่โวยวายไปเปลี่ยน จะว่าไปมันก็สวยดี
จะมีผ้านวม ปลอกมอน และ ปลอกหมอนข้าง มาให้ด้วย
เราก็หาหมอนมาอีกใบ มาใส่ปลอกสีชมพู
แต่ทีนี้มีหมอนสีดำด้วยอีกใบ รูปอาจจะมองไม่ค่อยเห็น เพราะมันมืดๆ
มันอยู่หลังสุด ถูกทับซ้อนกันของหมอนส้มและชมพู เพ่งกันหน่อย
ซึ่งหมอนนี่เราไปซื้อมาเพิ่ม ที่โลตัส ราคา 259 บาท จากราคา 400 บาท
คือเค้าเซลล์ไง เค้าบอกว่าเป็นหมอนเพื่อสุขภาพอะไรเนี่ย
ก็เลยอยากลอง หมอนจะบุ๋มๆแบบในรูป
แรกๆนอนเเข็งนะ นอนแล้วรู้สึกปะหลาด
แต่พอนอนจนนิ่ม เห๋ยย มันโอเคย์อ่ะแก คือทำให้เราไม่ตกหมอน แล้วก็
ปกติเรานอนเต็มที่มาก ขยับไปซ้ายไปขวา ตุ๊กตาบนเตียงพังพินาศ
พอนอนหมอนนี้ เหมือนโดนลอค ไม่ให้ขยับไปไหน ตื่นนอนมา ทุกอย่างบนเตียง
ยังอยู่ปกติสุขดี 555555+ แล้วอีกอย่างคือ นอนแล้วไม่ปวดเมื่อคือหลังตื่นนอนดีนะแก เริ่ดอยู่
ไปซื้อมานอนซะ มันดีอยู่ๆ
ต่อมาเรามาเปลี่ยนปลายเตียงกันดีกว่า
ตรงปลายเตียงนี้เป็นอะไรที่รกมาก เป็นอะไรที่ไม่น่าดูมาก ก็เลยต้องซื้อเฟอร์ใหม่
เราก็เลยไปซื้อชั้นวางทีวีมาใหม่
โอ้โหหห ดูโล่งขึ้นเยอะมากกก
(โคมไฟนั้นมาจาก ที่วางอยู่บนหัวเตียงทีแรกเริ่มเลย ย้ายมาตั้งข้างๆทีวีแทน
ทีวีขอไม่เปลี่ยนนะ ฉันชอบทีวีแบบโบราณ ภาพมันชัดดี
ทีวีแบบปัจจุบัน แบนๆ ภาพไม่ชัด แตกๆยังไงไม่รู้ ไม่ชอบเลย)
เจ้าตัวนี้ได้มาในราคา 2,200 บาท
จากร้านเฟอร์นิเจอร์บ้านๆ แถวบ้าน
ปกติราคา 2,600 บาท เผอิญพ่อรู้จักกะเจ้าของร้าน เค้าเลยลดให้ กรั่กๆๆๆ
ต่อมาโต๊ะข้างเตียง ได้มาในราคา 1,500 บาท
จากร้านเฟอร์นิเจอร์บ้านๆ อีกเช่นกัน
เราจะคลุมโทนเฟอร์นิเจอร์เป็นสีไม้โอคดำทั้งหมด ให้ไปทางเดียวกัน
ตอนแรกว่าจะสีขาว แต่เฟอร์สีขาว มันแพงงงง แพงกว่าสีนี้สัก 3 เท่าตัว ทุกอย่างทุกที่เลย
เลยไม่เอา แพงไป
ต่อมาบนโต๊ะแต่งๆเล็กน้อย ไม่แต่งมาก เพราะเน้นวางของรกๆ 555
กรอบรูปนี้ฟรีจ๊ะ ตอนแรกมาเป็นกรอบสีส้ม แต่มาพ่นสีดำ
ส่วนรูปนี้ได้มาจากโปสเตอร์ตอนซื้ออัลบั้มนาง เลยเอามาตัดใส่กรอบ
ส่วนขวดแก้วใส่ตังค์ ได้มาจากร้านไดโซะ
รวม 180 บาท
ตอนหยอดเหรียญลงขวดแล้วรู้สึกแบ่บ เหมือนทำบุญที่วัด ตอนตักบาตรสตางค์อ่ะแก
เสียงมัน กริ๊งๆ 55555
ใครเอาไปทำตามก็ได้นะ แยกตังค์ไว้ ขวดเหรียญสิบ เหรียญห้า เหรียญบาท-สองบาท
เวลาเอาตังค์มาใช้ หรือนับเงิน จะได้ไม่ปวดหัว
(แต่ตอนนี้มันเต็มแล้วหล่ะคุณพวกเธออ ฉันว่าฉันคงต้องซื้อไหมาใส่เหรียญแล้วล่ะ)