ตอบในฐานะคนที่ดาราที่เคยชอบจับ/ขายสินค้าแบบนี้ และดาราที่ชอบในปัจจุบันไม่ชอบ ไม่สนใจรีวิวสินค้าพวกนี้ ดีใจมากที่น้องเค้าไม่มีชื่อไปเป็น "บอส" ของใครในสายธุรกิจแบบนี้

ในเคสดาราที่โฆษณาหรือรีวิว
เอาตรง ๆ เขาไม่ผิดกฎหมายอะไร มันไม่ต่างอะไรกับโฆษณาสินค้าออกทีวี คือ คุณมีหน้าที่พูดตามสคริปต์และรับเงิน

สิ่งที่จะเอาผิดดาราเหล่านี้คือ จิตสำนึกและการสูญเสียศรัทธาจากแฟนคลับ ซึ่งมันก็แล้วแต่ว่า เจ้าตัวจะมีสำนึกรับผิดชอบแค่ไหน

ดาราไม่ใช่หน่วยงานรัฐ ไปบี้กับพวกเขามันเหมือนไปขี่ช้างจับตั๊กแตน เพราะถ้าระบบตรวจสอบของรัฐแข็งแรง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มันก็หลุดมาไม่ถึงมือดาราให้รีวิวได้หรอก

ในเคสดาราที่ตั้งตนเป็น "บอส"
อันนี้รัฐควรเข้ามาตรวจสอบเพราะมันเริ่มเยอะละ ที่สำคัญ การโฆษณาผลิตภัณฑ์ในฐานะบอส เจ้าของ ความน่าเชื่อถือจ่อแบรนด์ x2x3 แล้วแต่ความดัง ความเป็นตัว Top ตัวแม่มันการันตีโดยอ้อมแก่ผลิตภัณฑ์

อันนี้แหล่ะอันตรายเพราะเกือบทุกคนไม่ได้เข้าไปควบคุมการผลิต และมักมีลักษณะหุ้นลม มันเกี่ยวพันหลายอย่างแม้แต่ที่มาของรายได้ในการแจ้งสรรพากร

ตัดไฟต้องตัดที่ต้นลม ไม่อยากให้ประชาชนใช้สินค้าด้อยคุณภาพก็ต้องตรวจสอบที่ผู้ผลิตก่อน

ในกรณีที่ดารา รับจ้าง ควรต้องโดนบทลงโทษทางกฎหมายครับ
ยิ่งหากกรณีที่มีผู้ใช้สินค้าถึงได้รับบาดเจ็บหรือถึงแก่ความตายจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดารา รับจ้าง
ยิ่งต้องควรได้รับระวางโทษทาง แพ่งและอาญา ครับ

ผมลองเปรียบเทียบในกรณีวิชาชีพอื่นนะครับ เช่นผมเองเป็นวิศวกร
การรับรองงานทางด้านวิศวกรรมของผม มีผลกระทบกับ ประชาชนทั่วไป เป็นวงกว้าง
เช่น อาจเกิดเหตุการณ์ผู้ใช้งานวิศวกรรมของผมเกิดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
ลายเซนต์ คำแนะนำ รายงาน ทุกอย่างที่เป็นทางการที่ออกไปสู่ภายนอก
ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานวิศวกรรมที่ผมได้รับสิทธิจากสภาวิชาชีพ
ผมต้องรับรองด้วยชื่อเสียง ด้วยหลักประกันทางวิชาชีพ ตามหลักวิชาการที่ถูกต้อง
และผมต้องรับผิดชอบต่อผลที่ตามมาจากการรับรองของผม
ไม่ว่าการกระทำของผมจะเป็นการกระทำโดยพลาด บกพร่อง หรือ ไม่บกพร่องก็ตาม
ต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเสมอๆ
และหากพบว่ามีความผิด ผมต้องระวางโทษทั้งทางแพ่งและอาญา

ผมว่าในหลายวิชาชีพ เช่น วิชาชีพทางการแพทย์หลายแขนง ทนายความ ผู้พิพากษา ข้าราชการ ฯลฯ
ที่มีผลกระทบกับชีวิตของประชาชนในวงกว้าง
ก็มีกฎหมายคอยบังคับ มี code of conduct หรือสภาวิชาชีพคอยกำกับ เช่นกัน
เพื่อจุดประสงค์คือให้ประชาชนซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบ
ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายจากการประกอบวิชาชีพของคนเหล่านี้
และควบคุมให้บุคคลเหล่านี้ประกอบวิชาชีพอย่างสุจริตและสุดความสามารถ

ผมว่าวิชาชีพที่รับจ้างโฆษณา หรือ สื่อ ก็ควรเป็นหนึ่งในวิชาชีพที่ต้องได้รับการควบคุมเช่นกัน
เพราะเป็นวิชาชีพที่สามารภชักจูงประชาชนได้วงกว้างได้ มีผลกระทบแก่ประชาชนในวงกว้าง
ต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถมีความรับผิดชอบและมีความสุจริต ถึงจะเข้ามาประกอบอาชีพนี้ได้เท่านั้น
ใช่ว่าจะแค่รับแต่อามิสสินจ้าง แล้วไม่ยอมรับผิดชอบต่อผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตนที่ตามมา