สวัสดีชาวโลกทั้งชายหญิง สมัคร pantip มาก็นานแล้ว ไม่ได้มีโอกาสเขียนอะไรสักเท่าไหร่ เอาเป็นว่าที่เริ่มมาเขียนเพราะ อยากมาแชร์เรื่องราวดีๆ ที่ผมได้รับมาทุกวันจากการใช้ชีวิต มาเล่าสู่กันฟังละกันนะฮะ
เริ่มละนะ!! เด๋็กๆ คุณเคยมะ เคยมีความฝันที่อยากเป็นโน้น เป็นนี่ อยากเป็นตำรวจ ทหาร ยันหมอ ผมเป็นคนนึงเลยนะ ที่ไม่เคยอยากเป็นอะไรเลยยัน อายุ 20 คือ ใครบอกอะไรดี ก็ทำตาม ไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือ การใช้ชีวิต ที่บ้านก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะให้ทำอะไร ให้เอาตัวรอดให้ได้พอ ผมเป็นคน คิดไวทำไว ชอบริเริ่มสร้างสรรค์แต่หาทางจบไม่ค่อยได้ เอาว่าช่วงชีวิต มัธยมยันมหาลัย ก็ใช้ชีวิตตามเพื่อน ตามครอบครัวนั่นละ
พอโตขึ้น มันจะเริ่มวุ่นวายละสิ ต้องเลือกเอง เรียนก็ไม่เก่ง เป้าหมายก็ไม่มี โตขึ้นเป็นไรดีว่ะ เรียนก็ย้ายคณะย้ายมหาลัย จนมาตายรังที่การโรงแรม มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งภาคอินเตอร์ และจบผ่านมาได้ ขอวาร์ปชีวิตช่วงมหาลัยไปเลยละกัน ไว้มาเล่าวันหลัง เอาเป็นว่า ตอนนี้ผมมีร้านขนมเป็นของตัวเอง 1ร้านถ้วน
ผมเปิดร้านกับหุ้นส่วน2คน การเปิดร้านขนมหวานๆนี่เป็นความฝันของสาวๆหลายคนเลยนะ อารมณ์ Slow life ประมาณนั้น จะมีสักกี่คนที่ตื่นมามานั่งทำขนมสวยๆใสๆ รอลูกค้าเข้าร้านและพูดว่ายินดีต้อนรับค่าาา บอกเลยชีวิตผมเป็นแบบที่ว่าแค่ครึ่งเดียว ที่เหลือนี่
ไม่slowเลย
the fast มาก วันไหนลูกค้าเยอะ หน้าที่หลักผมคือล้างจาน วันไหนไม่มีลูกค้า ต้องนั่งทำป้ายโฆษณา ทำ marketing ต่อสู้ กับพี่มาร์คทุกวัน ไม่เข้าใจว่ามันจะปรับระบบการโฆษณาไปถึงไหน
ขอดีของการเป็นเชฟและเจ้าของร้านขนมในเวลาเดียวกัน คือ ทำขนมอะไรก็ได้ ตอนไหนก็ได้ แค่นั้น ข้อเดียว ที่เหลือ คือ ความทุกข์รทม กับการเป็นผู้ชายตัวเล็กๆที่ต้องต่อสู้กับขนมเพียงลำพัง เวลาเจอเพื่อนหรือลูกค้าจะเจอประโยคซ้ำจำเจตลอดเวลาคือ โชคดีจังเลยได้กินขนมทุกวัน หึ หึ หึ หึ... ถ้าอยากรู้ว่า ความรู้สึกผมเป็นยังไงเวลาเจอประโยคนี้ คุณลอง กระโดด ลงถังช็อคโกแลตแหวกว่าย มันสักระยะ จากความอร่อย จะกลับกลายเป็นความ เอียน และเอียน และเอียน..... เอาเป็นว่า คนเป็นเชฟไม่ได้ชอบกินตลอดเวลานะฮะ...
ชีวิตสายหวานใช้ง่ายมาก จงทำของหวานให้อย่าหวานมาก ชาวโลกเค้าไม่ทานหวานกันมาก.... นัก มั้ง รึป่าววะ..... นอกจากการเปิดร้านขนมภายในร้านขนมผมยังรับจัดงานวันเกิดด้วยนะ โง้ววววววววววววววววววววว!! เดือนนึงก็ไม่ตำกว่า15 งาน สุดปะละ.... รวมไปถึงการขอแต่งงาน จากสถิติ จัดไปแล้ว 4 ยังไม่หย่าสักราย^^ นั่นหมายความว่า ผมจะเจอเรื่องราวหวานแหวว ตอกย้ำความเป็นสายหวานเข้าไปอีก ยังไม่พอบางเดือนยังสอนทำขนมอีก เราจะเป็นเทพสายหวานต้องจัดให้หมด ลูกโป่งก็ยังรับทำ เครื่องปั่นสายไหมก็ยั้งมี้ เอาซี้!!!! ที่สุดของสายหวานจริง...
เห็นมะการเป็นผู้ชายสายหวานนี่มันง่ายเหมือน justin bieber เดิน moonwalk บนดาวอังคาร เลยนะ นึกภาพว่าจะต้องระวังโรคเบาหวานแล้ว ยังต้องศึกษา Marketing แถมยังต้องเป็น organizer ด้วย life ที่เคย slow วันไหน slow life เมื่อไหร่วันนั้นบันเทิงแน่นอน เรื่องราวของผู้ชายสาวหวานมีเยอะมากกก ไว้จะทยอยเล่าให้ฟังในครั้งต่อไปๆ หลังเขียนเสร็จ ต้องไปต่อสู้กับพี่ มาร์คต่อ ไปละ แล้วเจอกันใหม่นะฮะ บาย
เรื่องนี้บอกให้รู้เล่าให้รู้ว่า : เรื่องจริงไม่มี stand in และแอบขายของบางเวลา 555 จบนะ บายยย
ไหนๆ ขายของไปนิดนึงละ ฝาก fb ร้านนิดนึงละกัน :
https://www.facebook.com/pg/Thesweetenerspty แล้วพบกันใหม่
ผู้ชายสายหวาน
เริ่มละนะ!! เด๋็กๆ คุณเคยมะ เคยมีความฝันที่อยากเป็นโน้น เป็นนี่ อยากเป็นตำรวจ ทหาร ยันหมอ ผมเป็นคนนึงเลยนะ ที่ไม่เคยอยากเป็นอะไรเลยยัน อายุ 20 คือ ใครบอกอะไรดี ก็ทำตาม ไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือ การใช้ชีวิต ที่บ้านก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะให้ทำอะไร ให้เอาตัวรอดให้ได้พอ ผมเป็นคน คิดไวทำไว ชอบริเริ่มสร้างสรรค์แต่หาทางจบไม่ค่อยได้ เอาว่าช่วงชีวิต มัธยมยันมหาลัย ก็ใช้ชีวิตตามเพื่อน ตามครอบครัวนั่นละ
พอโตขึ้น มันจะเริ่มวุ่นวายละสิ ต้องเลือกเอง เรียนก็ไม่เก่ง เป้าหมายก็ไม่มี โตขึ้นเป็นไรดีว่ะ เรียนก็ย้ายคณะย้ายมหาลัย จนมาตายรังที่การโรงแรม มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งภาคอินเตอร์ และจบผ่านมาได้ ขอวาร์ปชีวิตช่วงมหาลัยไปเลยละกัน ไว้มาเล่าวันหลัง เอาเป็นว่า ตอนนี้ผมมีร้านขนมเป็นของตัวเอง 1ร้านถ้วน
ผมเปิดร้านกับหุ้นส่วน2คน การเปิดร้านขนมหวานๆนี่เป็นความฝันของสาวๆหลายคนเลยนะ อารมณ์ Slow life ประมาณนั้น จะมีสักกี่คนที่ตื่นมามานั่งทำขนมสวยๆใสๆ รอลูกค้าเข้าร้านและพูดว่ายินดีต้อนรับค่าาา บอกเลยชีวิตผมเป็นแบบที่ว่าแค่ครึ่งเดียว ที่เหลือนี่ไม่slowเลย the fast มาก วันไหนลูกค้าเยอะ หน้าที่หลักผมคือล้างจาน วันไหนไม่มีลูกค้า ต้องนั่งทำป้ายโฆษณา ทำ marketing ต่อสู้ กับพี่มาร์คทุกวัน ไม่เข้าใจว่ามันจะปรับระบบการโฆษณาไปถึงไหน
ขอดีของการเป็นเชฟและเจ้าของร้านขนมในเวลาเดียวกัน คือ ทำขนมอะไรก็ได้ ตอนไหนก็ได้ แค่นั้น ข้อเดียว ที่เหลือ คือ ความทุกข์รทม กับการเป็นผู้ชายตัวเล็กๆที่ต้องต่อสู้กับขนมเพียงลำพัง เวลาเจอเพื่อนหรือลูกค้าจะเจอประโยคซ้ำจำเจตลอดเวลาคือ โชคดีจังเลยได้กินขนมทุกวัน หึ หึ หึ หึ... ถ้าอยากรู้ว่า ความรู้สึกผมเป็นยังไงเวลาเจอประโยคนี้ คุณลอง กระโดด ลงถังช็อคโกแลตแหวกว่าย มันสักระยะ จากความอร่อย จะกลับกลายเป็นความ เอียน และเอียน และเอียน..... เอาเป็นว่า คนเป็นเชฟไม่ได้ชอบกินตลอดเวลานะฮะ...
ชีวิตสายหวานใช้ง่ายมาก จงทำของหวานให้อย่าหวานมาก ชาวโลกเค้าไม่ทานหวานกันมาก.... นัก มั้ง รึป่าววะ..... นอกจากการเปิดร้านขนมภายในร้านขนมผมยังรับจัดงานวันเกิดด้วยนะ โง้ววววววววววววววววววววว!! เดือนนึงก็ไม่ตำกว่า15 งาน สุดปะละ.... รวมไปถึงการขอแต่งงาน จากสถิติ จัดไปแล้ว 4 ยังไม่หย่าสักราย^^ นั่นหมายความว่า ผมจะเจอเรื่องราวหวานแหวว ตอกย้ำความเป็นสายหวานเข้าไปอีก ยังไม่พอบางเดือนยังสอนทำขนมอีก เราจะเป็นเทพสายหวานต้องจัดให้หมด ลูกโป่งก็ยังรับทำ เครื่องปั่นสายไหมก็ยั้งมี้ เอาซี้!!!! ที่สุดของสายหวานจริง...
เห็นมะการเป็นผู้ชายสายหวานนี่มันง่ายเหมือน justin bieber เดิน moonwalk บนดาวอังคาร เลยนะ นึกภาพว่าจะต้องระวังโรคเบาหวานแล้ว ยังต้องศึกษา Marketing แถมยังต้องเป็น organizer ด้วย life ที่เคย slow วันไหน slow life เมื่อไหร่วันนั้นบันเทิงแน่นอน เรื่องราวของผู้ชายสาวหวานมีเยอะมากกก ไว้จะทยอยเล่าให้ฟังในครั้งต่อไปๆ หลังเขียนเสร็จ ต้องไปต่อสู้กับพี่ มาร์คต่อ ไปละ แล้วเจอกันใหม่นะฮะ บาย
เรื่องนี้บอกให้รู้เล่าให้รู้ว่า : เรื่องจริงไม่มี stand in และแอบขายของบางเวลา 555 จบนะ บายยย
ไหนๆ ขายของไปนิดนึงละ ฝาก fb ร้านนิดนึงละกัน : https://www.facebook.com/pg/Thesweetenerspty แล้วพบกันใหม่