ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ได้หยุดอยู่บ้านยาวๆ ครั้นจะออกไปนอกบ้านก็แดดแรงซะเหลือเกินเลยคิดว่าจะทำอะไรกินดีช่วงวันหยุดนี้ ได้ไอเดียนึงมาก็คือเนื้อสวรรค์ ว่าแล้วก็เค้ามาหาสูตรใน pantip ตามลิ้งค์
http://topicstock.ppantip.com/food/topicstock/2010/05/D9267727/D9267727.html
แต่ของผมมีปรับสูตรนิดหน่อยเพราะผมใช้เนื้อ 1.5 กก.
วัตถุดิบที่ใช้นะครับ
1.เนื้อวัว 1.5 กก. (ตอนซื้อผมขอให้พ่อค้าช่วยแร่เนื้อให้บางๆ)
2.น้ำตาลปี๊บ 0.5 กก. (ใครไม่ทานหวานมากก็สามารถลดปริมาณลงได้นะครับ)
3.พริกไทยป่น 2 ชต.
4.น้ำปลา 3 ชต.
5.ผงยี่หร่า 3 ชต. (ซื้อแบบสำเร็จรูปจากในห้าง)
6.ลูกผักชีตำหยาบ 3 ชต. (ซื้อแบบสำเร็จรูปจากในห้าง)
7.น้ำมันหอย 2 ชต. (อันนี้ผมเพิ่มเพราะความชอบส่วนตัวครับ)
วิธีทำ
1. ตั้งกระทะแล้วคั่วผงยี่หร่ากับลูกผักชีที่ตำหยาบแล้วในกระทะด้วยไฟอ่อนจนหอม
2. นำส่วนผสมในข้อ 1 มาใส่ภาชนะสำหรับหมักที่ใส่เนื้อ 1.5 กก. จากนั้นตามด้วยน้ำตาลปี๊บ พริกไทป่น น้ำปลา น้ำมันหอย
3. ล้างมือให้สะอาดแล้วขยำส่วนผสมทั้งหมดในข้อ 2 จนน้ำตาลปี๊บละลายดีแล้วหมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 4 ชม. (แต่ผมทิ้งไว้ข้ามคืนเลยเพราะวันหมักตอนเย็นแล้วไม่มีแดด)
4.นำเนื้อที่หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นออกมาเรียงในกระด้ง เพื่อรอตากแดด
5.คลุมผ้าขาวบางสักหน่อย เผื่อช่วงที่ตากมีแมลงวันจะมาตอม
6.เนื่องจากแดดแรงมากๆ ตากไว้ 1 ชม.เนื้อก็เริ่มแห้งแล้วจึงพลิกกลับอีกด้านมาตากไว้ต่อ เบ็ดเสร็จตากไว้รวม 3 ชม. เนื้อเริ่มแห้งกำลังดี
7.ตั้งกระทะเทน้ำมันสำหรับทอดลงไป ใช้ไฟกลาง-อ่อน รอจนน้ำมันเดือดแล้วจึงทยอยทอดเนื้อที่ตากมาแล้ว
ุ8.ทอดประมาณ 10 นาที สีเนื้อเริ่มสวย เลยขอตักออกมาชิมสักหน่อย
9.รสชาติถูกปากผมพอดีเลยจัดการนำเนื้อที่ทอดยกมาพักนำมันไว้
10.ทิ้งไว้ให้เย็นค่อยทยอยจัดใส่จาน และใส่กล่องสุญญากาศเก็บไว้ทานวันหลัง
สรุปแล้วทำไม่ยากครับ จริงๆใครชอบรสชาติแบบไหนก็สามารถปรับให้ถูกปากตัวเองได้เลย อย่างครั้งหน้าผมว่าจะลองทำให้เผ็ดขึ้นอีกนิดนึง เนื้อที่ทอดด้วยไฟปานกลาง-อ่อนก็ไม่เหนียว เคี้ยวไม่ยากแต่ก็อาจจะมีติดฟันบ้างเป็นธรรมดาครับ ส่วนเนื้อที่เก็บใส่กล่องไว้ในตู้เย็น เวลาเอามาอุ่นเวฟสัก 30 วิไฟแรงสุดก็ยังอร่อยครับ
สุดท้ายพอทำเองก็เลยเห็นชัดๆว่าเนื้อ 1.5 กก. ผมซื้อมาประมาณ 350 บาทแต่พอทำออกมาเสร็จเหลือนิดเดียว ถ้าเทียบกับราคาที่ซื้อเนื้อสวรรค์ที่ขายๆกันโลละ 600-700 บาท ก็ถือว่าซื้อเอาก็ไม่แพงมาก ไม่ต้องเสียเวลาทำ แต่ข้อดีของทำเองก็คือจะได้เนื้อที่ทำเสร็จใหม่ๆและรสชาติที่ถูกปากตัวเองไม่ค้าง stock นาน บางทีซื้อมากินรสชาติดีแต่เหนียวเหลือเกิน เคี้ยวไม่ไหวครับ
แดดแรงๆแบบนี้ทำ เนื้อสวรรค์ กินซะเลย
แต่ของผมมีปรับสูตรนิดหน่อยเพราะผมใช้เนื้อ 1.5 กก.
วัตถุดิบที่ใช้นะครับ
1.เนื้อวัว 1.5 กก. (ตอนซื้อผมขอให้พ่อค้าช่วยแร่เนื้อให้บางๆ)
2.น้ำตาลปี๊บ 0.5 กก. (ใครไม่ทานหวานมากก็สามารถลดปริมาณลงได้นะครับ)
3.พริกไทยป่น 2 ชต.
4.น้ำปลา 3 ชต.
5.ผงยี่หร่า 3 ชต. (ซื้อแบบสำเร็จรูปจากในห้าง)
6.ลูกผักชีตำหยาบ 3 ชต. (ซื้อแบบสำเร็จรูปจากในห้าง)
7.น้ำมันหอย 2 ชต. (อันนี้ผมเพิ่มเพราะความชอบส่วนตัวครับ)
วิธีทำ
1. ตั้งกระทะแล้วคั่วผงยี่หร่ากับลูกผักชีที่ตำหยาบแล้วในกระทะด้วยไฟอ่อนจนหอม
2. นำส่วนผสมในข้อ 1 มาใส่ภาชนะสำหรับหมักที่ใส่เนื้อ 1.5 กก. จากนั้นตามด้วยน้ำตาลปี๊บ พริกไทป่น น้ำปลา น้ำมันหอย
3. ล้างมือให้สะอาดแล้วขยำส่วนผสมทั้งหมดในข้อ 2 จนน้ำตาลปี๊บละลายดีแล้วหมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 4 ชม. (แต่ผมทิ้งไว้ข้ามคืนเลยเพราะวันหมักตอนเย็นแล้วไม่มีแดด)
4.นำเนื้อที่หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นออกมาเรียงในกระด้ง เพื่อรอตากแดด
5.คลุมผ้าขาวบางสักหน่อย เผื่อช่วงที่ตากมีแมลงวันจะมาตอม
6.เนื่องจากแดดแรงมากๆ ตากไว้ 1 ชม.เนื้อก็เริ่มแห้งแล้วจึงพลิกกลับอีกด้านมาตากไว้ต่อ เบ็ดเสร็จตากไว้รวม 3 ชม. เนื้อเริ่มแห้งกำลังดี
7.ตั้งกระทะเทน้ำมันสำหรับทอดลงไป ใช้ไฟกลาง-อ่อน รอจนน้ำมันเดือดแล้วจึงทยอยทอดเนื้อที่ตากมาแล้ว
ุ8.ทอดประมาณ 10 นาที สีเนื้อเริ่มสวย เลยขอตักออกมาชิมสักหน่อย
9.รสชาติถูกปากผมพอดีเลยจัดการนำเนื้อที่ทอดยกมาพักนำมันไว้
10.ทิ้งไว้ให้เย็นค่อยทยอยจัดใส่จาน และใส่กล่องสุญญากาศเก็บไว้ทานวันหลัง
สรุปแล้วทำไม่ยากครับ จริงๆใครชอบรสชาติแบบไหนก็สามารถปรับให้ถูกปากตัวเองได้เลย อย่างครั้งหน้าผมว่าจะลองทำให้เผ็ดขึ้นอีกนิดนึง เนื้อที่ทอดด้วยไฟปานกลาง-อ่อนก็ไม่เหนียว เคี้ยวไม่ยากแต่ก็อาจจะมีติดฟันบ้างเป็นธรรมดาครับ ส่วนเนื้อที่เก็บใส่กล่องไว้ในตู้เย็น เวลาเอามาอุ่นเวฟสัก 30 วิไฟแรงสุดก็ยังอร่อยครับ
สุดท้ายพอทำเองก็เลยเห็นชัดๆว่าเนื้อ 1.5 กก. ผมซื้อมาประมาณ 350 บาทแต่พอทำออกมาเสร็จเหลือนิดเดียว ถ้าเทียบกับราคาที่ซื้อเนื้อสวรรค์ที่ขายๆกันโลละ 600-700 บาท ก็ถือว่าซื้อเอาก็ไม่แพงมาก ไม่ต้องเสียเวลาทำ แต่ข้อดีของทำเองก็คือจะได้เนื้อที่ทำเสร็จใหม่ๆและรสชาติที่ถูกปากตัวเองไม่ค้าง stock นาน บางทีซื้อมากินรสชาติดีแต่เหนียวเหลือเกิน เคี้ยวไม่ไหวครับ