เอพี่สาวเราทำธุรกิจล้มเหลวมาตลอดจนเหลือเงินก้อนสุดท้ายไม่มากนัก  เราจึงแนะนำว่าว่าให้มาทำธุรกิจตัวหนึ่งเป็นสายงานเดียวกับเราแต่คนละประเภท เอก็ตกลง โดยลงทุนกู้เงินมาทำ(เราค้ำประกัน) เราแบ่งคนงานไปให้
  
  ในปีแรกนั้นลูกค้ายังไม่รู้ เราลงทุนประชาสัมพันธ์ หาลูกค้า ทำโฆษณาแบบพ่วงกับธุรกิจของเรา ทุกครั้งที่รับงานให้เอนั้นเราไม่ได้อะไรเลย รับมาเท่าไหร่ก็จ่ายให้เอเท่านั้น  แต่ในปีแรกรายได้ยังน้อยเนื่องจากลูกค้ายังไม่รู้ เราซับพอร์ตให้เอทุกอย่าง ทั้งเงินกู้ ค่าแรงคนงาน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าเทอมลูก เรียกว่าทุกอย่างจริงๆ ทำให้เอติดหนี้เราจำนวนมาก
  
  พอขึ้นปีที่ 2 งานเริ่มดีขึ้น เอมีรายได้มากขึ้น เราจึงคุยกันว่ารายได้ส่วนต่างหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วเราขอหักหนี้ของเราเพราะงานที่รับต้องผ่านบริษัทเรา ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนตัวนั้นให้ประหยัดและใช้เงินของสามีเอไปก่อน (สามีเอเป็นต่างชาติมีเงินบำนานหลักหมื่นปลาย) แต่ก็มีที่เอไม่พอใช้แล้วมาขอเบิกเงินในส่วนของเขาไป ทำให้จำนวนหนี้ลดลงไม่มากนัก

  แล้ววันหนึ่งอยู่ดีๆเอไม่ทำงานให้เรา หางานเอง(ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าของเราเอง)  ด้วยเหตุผลว่าทำงานกับเราไม่ได้เงิน เราก็ตามใจแต่ขอว่าให้ใช้หนี้เราด้วย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ลูกค้าโทรหาเราเพื่อต่อว่าเรื่องงานที่เอทำ เราต้องเจรจาขอโทษนับสิบๆคน ขอโอกาสให้เอ จนกระทั่งลูกค้าบอกว่าถ้าเราไม่บริหารงานในส่วนของเอเขาจะไม่จ้างเออีกต่อไป  เราบอกเรื่องนี้กับเอ เอกลับบอกว่าเราแกล้งให้เขาไม่มีงาน

  แล้วก็มาถึงวันที่เอไปต่อไม่ได้ เอมีบ้าน 2 หลัง หลังหนึ่งเออยู่เองและใช้ชื่อน้องซื้อ ซึ่งเราก็เป็นคนขอร้องน้องให้  หลังที่ 2 เอไม่ได้อยู่ เราก็คุยว่าหนี้ที่เกิดขึ้นเราขอซื้อบ้านหลังที่2 ต่อโดยหักหนี้กันไป  หักมูลค่าที่ผ่อนไปมันพอๆกับหนี้ที่เอติดเรา ส่วนที่ยังติดธนาคารอยู่เราผ่อนต่อเอง บ้านหลังนี้เรากู้ร่วมอยู่แล้ว เอก็ได้ 2 อย่างคือปลดหนี้กับลดภาระลง แต่เอไม่ยอม ในส่วนธุกิจก็กำลังจะถูกยึด(เราเป็นคนค้ำประกัน) เราก็บอกว่างั้นยกในส่วนธุกิจมา เอไม่ยอมและบอกว่าเราต้องการยึดสมบัติเขา เราจึงปล่อยและเตรียมคุยกับทนายเรื่องผลที่จะตามมา
  หลังจากกการเจรจาผ่านมาสักระยะหนึ่งบ้านหลังที่ 1 เอไม่ผ่อนจนจะถูกยึด แต่เอผ่อนบ้านหลังที่ 2 ที่เป็นชื่อของตัว จนน้องมาคุยกับเราว่าจะทำอย่างไรดี เราผ่อนหลังนี้ต่อให้เพื่อรักษาเครดิตให้น้องและรับผิดชอบที่เป็นคนไปขอร้องเขา

   สรุปคือเอไม่จ่ายเงินคืนเรา(หลักล้าน) โดยให้เหตุผลว่าหนี้ที่เกิดขึ้นเป็นหนี้ที่เราชวนเขามาทำธุกิจ และเราไม่ดูแลเขา ทิ้งเขากลางคัน (ใครทิ้งใครกันแน่) ทำให้เขาเจ๊ง เพื่อแกล้งเขา เพราะฉนั้นแล้วเขาไม่คืน เขาประกาศตัดพี่ตัดน้อง แม่ไปช่วยคุยก็โดนด่ากลับมาแถมตัดแม่สะอีก

  นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่เอทำแบบนี้ ตอนแรกทุกคนก็เตือนเราว่าไม่เข็ดหรือ เราก็มองว่ายังไงพี่น้องกันก็ต้องช่วยกัน ครั้งแรกก็เจ็บตัวหลักล้านเช่นกัน

ทุกวันนี้ได้แต่ปลง...............