คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
1. ไม่ต้องเรียน พวกนี้ใช้ประสบการณ์เลือกเครื่องมือที่ถนัด ดีกว่า รู้หมดแต่ใช้ไม่ถูกกาล
2. ถ้าไม่ได้จะต้องทำ Product เอง หรือ ลงทุนใน structure product มากมาย ไม่ต้อง (เอาให้ผ่านพอ)
3. เรียนและทำความเข้าใจ ทำ short note ไว้เลย เพราะถ้าเป็น Equity จริงๆ คุณจะไม่ได้กลับไปศึกษามันอีก แต่จำเป็นต้องใช้ทำความเข้าใจ ในการประยุกต์การเปลี่ยนแปลงฝั่งตราสารหนี้มาประกอบการลงทุนตราสารทุน
4. ในไทยไม่คิดว่าจะได้ทำเป็นสาระสำคัญ นอกจากยุคใหม่ นิยาม private equity จะขยายไปมากกว่านี้
5. โปรแกรมมิ่ง ถ้าไม่ตั้งใจ ไม่ใส่เต็ม ไม่มีประโยชน์ เพราะกว่าคุณจะได้ใช้เพื่อสร้างความแตกต่าง มันต้องมากกว่า Basic (ซึ่งให้เดกที่ไหนมาทำก็ได้)
6. ได้ อยู่แล้ว ถ้าไม่ขี้เกียจ
ฝากข้อคิด - อย่าจำกัดตัวเองด้วยคำว่า Fund Manager Equity หรือ Fixed ต้องเป็นแบบไหน มันอยู่ที่เราชอบ "การลงทุน" หรือเปล่า ทำเงินให้งอกเงยได้ไหม การแบ่งสายเพื่อใหัคนเห็นชัดมากขึ้นมากกว่าว่า การลงทุนที่อยู่ตรงหน้า จะโตด้วยขั้นตอน/วิธีแบบไหน แต่สุดท้ายแก่น ไม่ได้มีแบบไหนดีกว่ากัน แต่คุณ(และลูกค้าเจ้าของเงิน) เหมาะกับแบบไหนมากกว่า
วางการลงทุนมีเสน่ห์อยู่อย่างนึง คือ ทุกๆ วันคุณมีสิทธิ์ขึ้นมาเป็นแถวหน้าได้เสมอ ถ้าคุณขยันและสม่ำเสมอ
ขอให้โชคดีและกลับมาอ่านกระทู้ตัวเอง เพื่อให้รักษาความตั้งใจ ณ ตอนนี้ไว้ให้ได้
2. ถ้าไม่ได้จะต้องทำ Product เอง หรือ ลงทุนใน structure product มากมาย ไม่ต้อง (เอาให้ผ่านพอ)
3. เรียนและทำความเข้าใจ ทำ short note ไว้เลย เพราะถ้าเป็น Equity จริงๆ คุณจะไม่ได้กลับไปศึกษามันอีก แต่จำเป็นต้องใช้ทำความเข้าใจ ในการประยุกต์การเปลี่ยนแปลงฝั่งตราสารหนี้มาประกอบการลงทุนตราสารทุน
4. ในไทยไม่คิดว่าจะได้ทำเป็นสาระสำคัญ นอกจากยุคใหม่ นิยาม private equity จะขยายไปมากกว่านี้
5. โปรแกรมมิ่ง ถ้าไม่ตั้งใจ ไม่ใส่เต็ม ไม่มีประโยชน์ เพราะกว่าคุณจะได้ใช้เพื่อสร้างความแตกต่าง มันต้องมากกว่า Basic (ซึ่งให้เดกที่ไหนมาทำก็ได้)
6. ได้ อยู่แล้ว ถ้าไม่ขี้เกียจ
ฝากข้อคิด - อย่าจำกัดตัวเองด้วยคำว่า Fund Manager Equity หรือ Fixed ต้องเป็นแบบไหน มันอยู่ที่เราชอบ "การลงทุน" หรือเปล่า ทำเงินให้งอกเงยได้ไหม การแบ่งสายเพื่อใหัคนเห็นชัดมากขึ้นมากกว่าว่า การลงทุนที่อยู่ตรงหน้า จะโตด้วยขั้นตอน/วิธีแบบไหน แต่สุดท้ายแก่น ไม่ได้มีแบบไหนดีกว่ากัน แต่คุณ(และลูกค้าเจ้าของเงิน) เหมาะกับแบบไหนมากกว่า
วางการลงทุนมีเสน่ห์อยู่อย่างนึง คือ ทุกๆ วันคุณมีสิทธิ์ขึ้นมาเป็นแถวหน้าได้เสมอ ถ้าคุณขยันและสม่ำเสมอ
ขอให้โชคดีและกลับมาอ่านกระทู้ตัวเอง เพื่อให้รักษาความตั้งใจ ณ ตอนนี้ไว้ให้ได้
แสดงความคิดเห็น
ความรู้ในการเป็น Fund manager และการเรียนต่อ
พอดีกำลังจะเรียนต่อปโท แล้วลังเลกับโปรแกรมและวิชาเลือกที่ต้องเลือกอยู่ครับ มีข้อสงสัยกับอาชีพสาย Fund manager ผมเข้าใจว่า Fund manager มีหลายประเภท เช่น สาย Fundamental, Hedge fund, Technic, Private equity, bond,... คงต้องใช้ความรู้เช่น Valuation, top down, macro economic, statement analyst, asset allocation
คำถามคือ
1. พวก Technic นี่จำเป็นมากไหมครับในการประกอบอาชีพนี้ตามที่ผมเข้าใจบางกองทุนพวกสาย VI พอทำงาจริงต้องใช้ความรู้ทาง Technic ด้วยไหม ถ้าไม่ได้เรียนมาจะเป็นปัญหาไหมครับ เขาจะมีเทรนให้ไหม (แล้วกองทุนประเภทไหนที่ใข้ Technic เยอะๆ)
2. Derivative นี่ถ้าผมเรียนแค่วิธีใช้ไม่ได้เรียนลึกพวก pricing, Greek letter, Black shoal model จะมีปัญหาไหมครับ อาชีพ Equity analyst ใช้ Derivative เยอะไหมและลึกไหมครับ พอดีโปรแกรมที่ผมจะไปเรียนต่อสอนแค่ใช้ hedge interest และ exchange rate risk ไม่ได้สอนพวก Valuation derivative
3. Fixed income นี่ถ้าเป็นผู้จัดการกองทุน Equity ก็ไม่จำเป็นต้องเรียนลึกๆก็ได้ปะครับ
4. Private equity นี่น่าเรียนไหมครับ ไม่ทราบว่าในไทยเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้และอนาคต
5. พวกเขียนโปรแกรม C++, Python พวกนี้ในอนาคตจำเป็นต้องใช้ไหมครับ เห็นพวก Hedge fund ชอบใช้แต่ผมไม่ได้ศึกษาละเอียด (โปรแกรมที่ผมไปเรียนไม่ได้สอนพวก Programming ถ้าจำเป็นจะได้ลองอ่านๆไว้ครับ)
6. ถ้าคนทำงาน IB สักพักแล้วอยากย้ายไปเป็น FM นี่พอได้ไหมครับ
ถามลึกและค่อนข้างละเอียดเลยถ้าใครทราบเป็นข้อๆก็ตอบผมได้นะครับ ไม่ต้องทราบหมดก็ได้เพราะค่อนข้างลึก
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาตอบนะครับ
ปล. ที่ผมบอกว่า Fund manager ผมหมายถึงสายนี้นะครับผมเข้าใจอยู่แล้วว่าจบมาเป็นเลยไม่ได้แค่หมายถึงงานในสายนี้ Analyst, Asst fund, Fund