สวัสดีครับ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2561 ผมได้มีโอกาสไปดูโคนัน เดอะมูฟวี่22 zero the enforcer ที่ญี่ปุ่นมา จึงอยากจะทำการรีวิว โดยจะแบ่งเป็น 3 พาร์ท คือ เนื้อหา/แอคชั่น, ตัวละคร(อามุโร่), และภาพรวมนะครับ  เนื่องจากว่าพึ่งเข้าโรงที่ญี่ปุ่น ยังห่างไกลจากประเทศไทยนัก แต่การรีวิวนี้เปิดเผยแบบค่อนข้างละเอียดและอาจมีผลต่อการตัดสินใจดูของท่านทั้งหลาย ใครที่ไม่อยากได้การสปอยให้กดออกหรือไม่ก็อ่านแค่ภาพรวม**ย้ำว่าใครไม่อยากได้การสปอย ให้อ่านแค่ภาพรวมนะครับ ผมจะสรุปแบบคร่าวๆให้**

1.เนื้อหา/แอคชั่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในส่วนของเนื้อหา จากtrailer ต่างๆที่ออกมา คงทราบได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือมีระเบิดที่สถานที่จัดการประชุมซัมมิท มีภาพอามุโร่ในที่เกิดเหตุและลุงโมริถูกจับ อีกฟากนึงคือดาวเทียมที่มีกำหนดการลงจอดเกิดเหตุขัดข้องทำให้จะตกที่ญี่ปุ่น นี่คือสิ่งที่trailerบอกมา ซึ่งก็ครอบคลุมทั้งหมดของเดอะมูฟวี่นี้แล้ว ถ้าไปดูในโรงก็จะเป็นการไขคดีวางระเบิด ช่วยลุงโมริและช่วยไม่ให้ดาวเทียมโหม่งญี่ปุ่น เนื้อเรื่องดำเนินเป็นเส้นตรง มีระเบิด ไขคดีดราม่า ดาวเทียมจะโหม่ง หาทางหยุด ซึ่งผมคิดว่าเดอะมูฟวี่นี้ค่อนข้างเทน้ำหนักไปทางการไขคดี ดราม่า ปูทางและเฉลยปมคนร้าย ค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับแอคชั่นที่มีแค่ตอนท้าย (กู้ดาวเทียม) เทียบได้ประมาณ 80% ต่อ 20% ได้เลยทีเดียว ทำให้ความสมเหตุสมผลของแรงจูงใจคนร้ายค่อนข้างโอเคเมื่อเทียบกับภาคอื่น (โดยเฉพาะภาคทานตะวันที่ก่อเหตุทั้งหมดเนื่องจากไม่ชอบภาพเลียนภาพแวนโก๊ะ...)  
ในส่วนของแอคชั่น จะโผล่มาตอนท้าย ตอนปัดดาวเทียมไม่ให้โหม่งญี่ปุ่นนั่นแหละ แต่จะวิธีให้ให้ไปลุ้นในโรงกันเองนะครับ ปล.ขอบอกว่ากฏฟิสิกส์ทั้งหลายใช้ไม่ได้กับเจ้าหนูโคนันนะครับ555
โดยรวมผมให้คะแนนในส่วนของเนื้อหา 7 คะแนนครับ

2.ตัวละคร (อามุโร่) **สับแหลกแหวกละเอียด แนะนำให้อ่านเมื่อดูในโรงแล้ว ค่อยมาแลกเปลี่ยนความเห็นในส่วนนี้กัน**

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เป็นที่รู้กันว่านอกจากพระเอกโคนันของเราแล้ว ตัวเอกของภาคนี้คือ อามุโร่ โทโอรุ ที่มีอีก2อวาตารคือ เซโร่/ฟุรุยะ เรย์ และเบอร์เบิ้ล โดยจากtrailer ได้ให้คำจำกัดความเขาว่า "triple face"....
.....สุดท้ายพวกชายชุดดำเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด โดยมีเบอร์เบิ้ลคอยสังเกตการณ์ เมื่อโคนันเข้ามาไขคดีจึงพยายามเกลี่ยกล่อม ดึงอามุโร่ให้มาอยู่ฝั่งตำรวจ ทำให้เซโร่ออกปฏิบัติการตลบหลังชายชุดดำแบบเนียนๆความลับไม่แตก เมื่อทุกอย่างสงบเบอร์เบิ้ลก็กลับไปอยู่กับชุดดำแต่ทำหน้าที่เป็นเซโร่ให้ตำรวจ ส่วยอามุโร่ก็มาทำงานที่ร้านปัวโรอย่างมีความสุขตลอดไป...
     นั่นคือสิ่งที่ผมคิดไว้หลังจากได้ยินคำโปรย" triple face" แต่สุดท้ายก็มีแค่เซโร่ เข้าใจว่าอยากนำเสนอบทบาทของเซโร่ในฐานะตำรวจหัวกะทิของหัวกะทิที่ในมังงะหลักแทบไม่มีข้อมูลด้านนี้เลย แต่!!เมื่อมองภาพรวมแล้วเซโร่ก็เหมือนกลายมาเป็นแค่ตัวประกอบที่ออกมาบู๊เท่ๆในส่วนของแอคชั่นตอนหลังๆที่มีแค่ 20% เผลอๆโดนโคนันแย่งซีนด้วย ในส่วนเนื้อหาสืบคดี ดราม่าทั้งหลายนั้นเราได้เห็นเซโร่โฉบไปโฉบมา คุยกับอาซามินิด ปะทะคารมกับโคนันหน่อย เพราะแน่นอนในส่วนเนื้อหาการไขคดี ช่วยลุงโมริ เป็นหน้าที่ของโคนันอยู่แล้ว ยังดีที่ให้เซโร่เป็นคนทำให้เกิดจุดเปลี่ยนใหญ่[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ช่วยคุยกับฮาดะไม่ให้ฆ่าตัวตาย แต่โดยรวมแล้วเซโร่โดนคนอื่นมากลบเยอะเลย ทำให้รู้สึกว่าถ้าเปลี่ยนเซโร่เป็นคนอื่นก็ได้ หรือตัดออกไปก็ไม่มีผลเท่าไหร่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ยกเว้นจะทำให้ฮาดะฆ่าตัวตาย จึงต้องหาอย่างอื่นมาต่อรองเพื่อแลกกับรหัสดาวเทียม เพราะหลักๆบทของเซโร่ก็แค่เป็นผู้ช่วยโคนัน และสิ่งที่ทำให้รู้สึกขัดใจไปอีกคือหลังend credit พอทุกอย่าวคลี่คลายแล้ว กลายเป็นบทของพวกชมรมนักสืบเยาวชนมาเล่นตลก(ที่ไม่ตลก) อามุโร่แห่งร้านปัวโรก็ไม่ออกมา เหมือนพวกเด็กๆจริงๆแล้วจะเด่นกว่าเซโร่อีกนะ ช่วยกู้ญี่ปุ่นด้วย
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าทางทีมงานได้โปรยโฆษณาเกินจริงไปหน่อย(จริงๆก็เยอะอยู่) ผมซึ่งคาดหวังที่จะได้เห็นมิติ " triple face " เห็นอามุโร่โชว์เล่เหลี่ยมแพรวพราวนอกจากแค่การบู๊มากกว่านี้ บอกเลยว่าค่อนข้างผิดหวังครับ ทั้งๆที่อามุโร่เป็นคนที่มีความสามารถมากระดับท็อปของหัวกะทิ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มองออกว่าอาซามิมีเครื่องดักฟังติดอยู่ และตัวเองก็ดักฟังโคนัน ได้ยินทุกอย่างที่โคนันได้ยิน แต่ก็ได้โคนันมาเฉลยคนร้ายแล้วค่อยไปดักคนร้ายอีกที ซึ่งผมหวังที่จะได้เห็นหัวกะทิทั้งสองคนช่วยกันคลายปมด้วยกันมากกว่า

บ่นมาซะยาวเลย5555 เพราะว่าผมที่เป็นแฟนคลับอามุโร่ พอได้คำโปรยหนังแบบนี้ ยิ่งเป็นหนังโรงเดี่ยวครั้งแรกของอามุโร่ เลยคาดหวังมากไปหน่อย หวังว่าถ้ามีโอกาสได้ขึ้นโรงเดี่ยวอีกอยากจะให้ทีมงานเกลี่ยบทให้ดีกว่านี้ ตัวประกอบคดีคนอื่นๆก้เด่นได้ แต่อยากให้ดึงความสามารถที่แท้จริงหรือพัฒนาการของตัวเอกแต่ละภาคออกมามากกว่าโดยเขื่อมโยงกับเหตุการณ์ด้วย) ไม่ใช่แค่อามุโร่ แต่ฝากถึงภาคต่อๆไปด้วย จะทำให้คนดูรู้สึกอินกับตัวละครและเหตุการณ์มากขึ้น (อย่างเช่น คาสึฮะกับไพ่คารุตะ ในภาคก่อน)
ในส่วนของความจำเป็นในการใส่ตัวละคร แต่ละคนก็มีหน้าที่ มีสารที่ตัวเองต้องสื่อ คนที่สำคัญกับเนื้อเรื่องก็ให้เวลาในการอธิบายและปูทางให้อย่างดี แต่ก็มีคนนึงที่หลุดมาเป็นระดับบิ๊กของเนื้อเรื่องแต่แทบไม่ทีบทพูดเลย ซึ่งตัดออกไปก็ได้ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จำชื่อไม่ได้ แต่เป็นผู้บัญชาการของสันติบาล ที่มีแผลเป็นฝั่งตาขวา
ในข้อควรปรับปรุงทั้งหลายทั้งมวลในความคิดผม ก็ต้องมีข้อดีซึ่งผมจะพูดและให้คะแนนโดยตัดอคติและความคาดหวังส่วนตัวออกไป. เซโร่ที่ออกมา แต่ละประโยคที่เค้าพูด ล้วนมีความหมายที่ทำให้เข้าใจถึงความคิด ความรู้สึกของเซโร่ ชายผู้รักความยุติธรรมและรักประเทศยิ่งชีพ ทำให้รู้ว่าเค้าก็แบกรับอะไรหลายๆอย่างไว้เหมือนกัน เรียกได้ว่าพูดน้อยแต่ต่อยหนัก เหมือนทุกคำพูดที่ออกมากลายเป็นคำคมของเซโร่ได้เลย

โดยสรุปของพาร์ทตัวละคร ให้6.5 คะแนน


3.ภาพรวมโดยสรุป
โคนัน เดอะ มูฟวี่ 22 zero the enforcer นั้น ขอแบ่งพาร์ทเนื้อหาเป็นการไขคดี (ปูปม ดราม่า คลายปม) 80% และแอคชั่น อีก20%
ในส่วนนี้ผมให้ 7 คะแนน โดยดูจากความสมเหตุสมผลของคดี การปูทางต่างๆและการเฉลยให้คนเข้าใจและเกิดอารมณ์ร่วม เป็นต้น
พาร์ทตัวละคร ผมให้ 6.5 คะแนน ดูจากการเกลี่ยบทตัวละครและความจำเป็นในการใส่ตัวละคร

คะแนนเฉลี่ย 6.75 คะแนน สำหรับผมค่อนข้างโอเค ไม่ได้แย่ ไม่ค่อยมีฉากลุ้นระทึกเท่าไหร่ บางคนน่าจะเดาทางได้ เนื้อเรื่องดำเนินเป็นเส้นตรง ปูทางและเฉลยปมได้ดีเลยเข้าใจง่าย แอคชั่นแหกฟิสิกส์เช่นเคย ความจริงผมอยากให้คะแนนเนื้ิอหา 7.5 แต่กลัวเฟ้อและคิดว่ายังพัฒนาได้อีก ถามผมว่าถ้าเข้าไทยจะไปดูอีกมั้ย บอกเลย...เจอกันครับ


ปล.1 นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้น ดังนั้นอยากให้ทุกคนลองไปดูก่อน แล้วมาแลกเปลี่ยนความเห็นกัน
ปล.2 หนังโปรดของผมอาจไม่ใช่หนังโปรดของคุณ หนังโปรดของคุณอาจไม่ใช่หนังโปรดของผม

ปล.3 สปอย โคนัน เดอะ มูฟวี่ 23
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ จอมโจรคิด
.
.
.
.
แอบสังเกตว่าช่วงend credit ตึกที่จอมโจรคิดยืนอยู่ เหมือนกับ marina bays sand มากกกก ต้องติดตามกันต่อไป