ขอส่งสารสู่ศาลด้วยการสานคำในบทกลอน...
"เสียงร่ำไห้จากผืนป่า"
มวลแมกไม้มากมายมลายม้วย
สิ้นสลวยแสนสลดเสื่อมสดใส
ปกเป็นเปล่าป่าเป็นแปล้แปรเปลี่ยนไป
พนาไพรแพ้พ่ายภัยพาลพง
ทานทนทุกข์ทรมานถูกถากถาง
วางว่างว้างเวิ้งวังเวงวิศวง
ไล่ล้างล่าหล้าร้างร่างร่วงลง
คนครวญคงคิดครุ่นใครคุกคาม
ก่อกงเกวียนกำเกวียนเกิดกรรมกลับ
ยะย่อยยับเยินย่ำย้ำเหยียดหยาม
ตริแต่ตนตรองแต่ได้ต้องตายตาม
นิรนามมนุษย์นี้แน่นิรันดร์
จงจารึกใจแจ้งจำแจงจิต
พลั้งพลาดผิดพร้อมพลิกภาพไพรผัน
ใช่ชนชั่วชั่วชีพชั่วชีวัน
หากหวนหันหาใหม่ห่มให้เฮย
กวีวิทย์
๑๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๑
กลอนแปด: เสียงร่ำไห้จากผืนป่า
"เสียงร่ำไห้จากผืนป่า"
มวลแมกไม้มากมายมลายม้วย
สิ้นสลวยแสนสลดเสื่อมสดใส
ปกเป็นเปล่าป่าเป็นแปล้แปรเปลี่ยนไป
พนาไพรแพ้พ่ายภัยพาลพง
ทานทนทุกข์ทรมานถูกถากถาง
วางว่างว้างเวิ้งวังเวงวิศวง
ไล่ล้างล่าหล้าร้างร่างร่วงลง
คนครวญคงคิดครุ่นใครคุกคาม
ก่อกงเกวียนกำเกวียนเกิดกรรมกลับ
ยะย่อยยับเยินย่ำย้ำเหยียดหยาม
ตริแต่ตนตรองแต่ได้ต้องตายตาม
นิรนามมนุษย์นี้แน่นิรันดร์
จงจารึกใจแจ้งจำแจงจิต
พลั้งพลาดผิดพร้อมพลิกภาพไพรผัน
ใช่ชนชั่วชั่วชีพชั่วชีวัน
หากหวนหันหาใหม่ห่มให้เฮย
กวีวิทย์
๑๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๑