สวัสดีครับ หลังจากหยุดยาวมา ทุกท่านคงได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ มีพลังงานเต็มเปี่ยมในการทำงาน (หรือเปล่า) วันนี้ผมขอนำเสนอภาพงานสงกรานต์ คนเหนือเรียก ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง หรือคนเฒ่า คนแก่ บ้านผมเรียก ปี๋ใหม่เดือนเจ็ด (เหนือ) ณ ดินแดนแห่งขุน บ้านแม่ลอยหลวง เมืองเทิง
ที่นี่เริ่มป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองด้วยการถวายทานผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนสร้างกุฎิ หรือโฮงหลวง ของวัดหลวงดอนไจย
แม่เฒ่า แม่หม่อนมาวัดแต่เช้า นั่งอยู่หน้าประตูวัด เพื่อรอผุยข้าวตอก ดอกไม้ รับเครื่องไทยทาน
การผุยข้าวตอกดอกไม้ เป็นการแสดงถึงฝนห่าแก้วที่ตกลงมาต้องรับเครื่องไทยทานนั่นเอง
ขบวนผ้าป่า และเครื่องไทยทาน เคลื่อนเข้าสู่วัด มีคณะช่างฟ้อน ฟ้อนนำเข้ามา
ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง เป็นช่วงที่ดอกเอื้องผึ้งบาน ฉะนั้นเวลานี้ ทุกคน ทุกบ้านที่มีดอกเอื้องผึ้ง จะนำมาเสียบผมไว้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของวันปี๋ใหม่ หรือคนเหนือเรียกกันจนติดปากว่า "ปี๋ใหม่เมือง เหน็บดอกเอื้องผึ้ง"
หลังจากถวายทานผ้าป่าเสร็จแล้ว มีการอัญเชิญพระพุทธรูป "พระเจ้าแสนสุข" ออกมาไว้ยังมณฑป บริเวณข่วงแก้วทั้งสาม เพื่อให้ประชาชนได้มาสรงน้ำ
จากนั้นร่วมกันขนทรายเข้าวัด โดยบางคนก็ใช้ถังน้ำ บางคนหาบกระบุงใส่ทรายขึ้นมา เพื่อสร้างเจดีย์ทรายถวายเป็นพุทธบูชา
ตำนานการถวายเจดีย์ทรายกล่าวไว้ว่า มีตุ๊กตะ (ชายผู้ยากไร้) คนหนึ่ง วันหนึ่งได้เดินผ่านยังตลิ่งแม่น้ำเห็นทรายละเอียดสีขาวนวลเป็นอย่างมาก จึงได้นำทรายนั้นมาก่อเป็นเจดีย์ทราย แล้วฉีกเอาเสื้อของตัวเองมาปักไว้เป็นช่อ จากนั้นอธิฐานไว้ว่า ขอให้ตนได้ไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อ เมื่อสิ้นอายุไขแล้วไปเกิดใหม่ จึงได้ไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้า ตามคำอธิฐาน สำหรับพระพุทธเจ้าองค์ไหนนั้น ผมก็จำไม่ได้เหมือนกันครับ แฮร่ๆๆๆๆ
มีมหรสพซอล่องน่าน สร้างความสนุกสนานแก่ผู้มาร่วมงาน
กล่าวกันว่าปีใหม่ หากใครไม่เปียกน้ำ ถือว่าไม่อยากสนุก สนานกับคนอื่น ฉะนั้น คนที่มาช่วยกันขนทราย จึงเปียกน้ำกันถ้วนหน้า สร้างความสนุก สนานเป็นอย่างมาก
[CR] ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง จุลศักราชได้ 1380 ตั๋ว ปี๋เปิกเส็ด ณ แม่ลอยโหลงบ้านเฮา
ที่นี่เริ่มป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองด้วยการถวายทานผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนสร้างกุฎิ หรือโฮงหลวง ของวัดหลวงดอนไจย
แม่เฒ่า แม่หม่อนมาวัดแต่เช้า นั่งอยู่หน้าประตูวัด เพื่อรอผุยข้าวตอก ดอกไม้ รับเครื่องไทยทาน
การผุยข้าวตอกดอกไม้ เป็นการแสดงถึงฝนห่าแก้วที่ตกลงมาต้องรับเครื่องไทยทานนั่นเอง
ขบวนผ้าป่า และเครื่องไทยทาน เคลื่อนเข้าสู่วัด มีคณะช่างฟ้อน ฟ้อนนำเข้ามา
ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง เป็นช่วงที่ดอกเอื้องผึ้งบาน ฉะนั้นเวลานี้ ทุกคน ทุกบ้านที่มีดอกเอื้องผึ้ง จะนำมาเสียบผมไว้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของวันปี๋ใหม่ หรือคนเหนือเรียกกันจนติดปากว่า "ปี๋ใหม่เมือง เหน็บดอกเอื้องผึ้ง"
หลังจากถวายทานผ้าป่าเสร็จแล้ว มีการอัญเชิญพระพุทธรูป "พระเจ้าแสนสุข" ออกมาไว้ยังมณฑป บริเวณข่วงแก้วทั้งสาม เพื่อให้ประชาชนได้มาสรงน้ำ
จากนั้นร่วมกันขนทรายเข้าวัด โดยบางคนก็ใช้ถังน้ำ บางคนหาบกระบุงใส่ทรายขึ้นมา เพื่อสร้างเจดีย์ทรายถวายเป็นพุทธบูชา
ตำนานการถวายเจดีย์ทรายกล่าวไว้ว่า มีตุ๊กตะ (ชายผู้ยากไร้) คนหนึ่ง วันหนึ่งได้เดินผ่านยังตลิ่งแม่น้ำเห็นทรายละเอียดสีขาวนวลเป็นอย่างมาก จึงได้นำทรายนั้นมาก่อเป็นเจดีย์ทราย แล้วฉีกเอาเสื้อของตัวเองมาปักไว้เป็นช่อ จากนั้นอธิฐานไว้ว่า ขอให้ตนได้ไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อ เมื่อสิ้นอายุไขแล้วไปเกิดใหม่ จึงได้ไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้า ตามคำอธิฐาน สำหรับพระพุทธเจ้าองค์ไหนนั้น ผมก็จำไม่ได้เหมือนกันครับ แฮร่ๆๆๆๆ
มีมหรสพซอล่องน่าน สร้างความสนุกสนานแก่ผู้มาร่วมงาน
กล่าวกันว่าปีใหม่ หากใครไม่เปียกน้ำ ถือว่าไม่อยากสนุก สนานกับคนอื่น ฉะนั้น คนที่มาช่วยกันขนทราย จึงเปียกน้ำกันถ้วนหน้า สร้างความสนุก สนานเป็นอย่างมาก
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น