สวัสดีครับ วันนี้มีเรื่องเครียดๆอยากจะมาระบายครับ มันเครียดจนไม่ไหวแล้ว
ตอนนี้ผมกำลังจะได้งานใหม่ใน กทม. ครับ ซึ่งสตาร์ท 15k และรอผ่านโปร 4 เดือนจะได้ 17k ซึ่งเงินเดือนระดับนี้คงจะกลางๆสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับผมมันค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับงานเก่าที่ทำอยู่ตอนนี้ และผมลองพิจารณาดูแล้วถ้าเข้าทำงานกับบริษัทนี้น่าจะมีความก้าวหน้ากว่าทำกับบริษัทใกล้บ้านแต่เงินเดือนคงที่แค่ 11k จะได้ขึ้นเมื่อไรก็ไม่รู้ เลยทำให้ผมตัดสินใจทิ้งงานเก่าที่ทำมาปีกว่าๆและหันหน้าเข้า กทม. เพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ๆ(รวมถึงการสอบเพื่อเข้าหน่วยงานต่างๆมันสะดวกกว่าอยู่ที่บ้าน)
แต่ก็ยังมีเรื่องนึงที่ผมไม่สบายใจเอามากๆเลยครับคือการที่ผมจะต้องเข้า กทม. รอบนี้แม่ผมต้องอยู่ที่บ้านคนเดียว แม่ผมปีนี้ก็อายุย่างเข้า 64 ปีแล้วครับ แกก็ยังแข็งแรงดี มีเจ็บนู่นปวดนี่นิดหน่อยตามประสาคนแก่ สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากที่สุดคือเรื่องการเงินภายในครอบครัวครับ คือครอบครัวผมเคยมีสมบัติอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ก็หมดไปกับญาติพี่น้องคนรู้จักเพราะแม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือทุกเรื่องจนหมดตัว แม่ผมเป็นคนไม่ทันคน แกมองโลกสวยอยู่ตลอด จนทำให้ผมทะเลาะกับแม่เรื่องเงินอยู่ตลอด เพราะผมต้องการให้แกเก็บสมบัติเอาไว้บ้าง ในที่สุดที่ดินแปลงสุดท้ายที่เป็นสมบัติของย่าก็ต้องหมดไปเพราะแม่เอาไปจำนองให้น้องสะไภ้(ที่รับปากว่าจะหาเงินมาไถ่ให้แต่สุดท้ายก็ไม่มีเงินมาไถ่จนดอกงอกเป็นล้าน) ตอนนี้ก็ยังเหลือบ้านกับที่ไม่ถึงไร่ที่ปลูกอยู่จากเศษเงินที่หักลบกลบหนี้ ทุกวันนี้พอแกเริ่มมีเงินสักพันสองพันแกก็เอาไปแจกหลาน ไม่ก็เอาไปทำบุญจนหมด จนไม่มีเงินเก็บอะไรเลย พอผมบอกให้เก็บบ้างแกก็เอาแต่บ่นว่าจะเอาจากไหนมาเก็บ รายได้ก็มีนิดเดียวจากการเย็บผ้า(ที่จริงถ้าเก็บนิดประหยัดหน่อยมันก็พอมีครับ) จากพฤติกรรมที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ผมไม่สบายใจเลยครับที่จะปล่อยแกให้อยู่คนเดียว กลัวว่าแกจะอด และถ้าเกิดเหตุอะไรไม่คาดฝันขึ้นมาจะทำยังไง?
ผมควรจะทำยังไงดี ควรจะปลงดีไหม? ควรจะหาทางออกจากความไม่มั่นคงพวกนี้ยังไงดี?
เครียดกับแม่จังเลยครับ ควรจะหาทางออกยังไงดี?
ตอนนี้ผมกำลังจะได้งานใหม่ใน กทม. ครับ ซึ่งสตาร์ท 15k และรอผ่านโปร 4 เดือนจะได้ 17k ซึ่งเงินเดือนระดับนี้คงจะกลางๆสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับผมมันค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับงานเก่าที่ทำอยู่ตอนนี้ และผมลองพิจารณาดูแล้วถ้าเข้าทำงานกับบริษัทนี้น่าจะมีความก้าวหน้ากว่าทำกับบริษัทใกล้บ้านแต่เงินเดือนคงที่แค่ 11k จะได้ขึ้นเมื่อไรก็ไม่รู้ เลยทำให้ผมตัดสินใจทิ้งงานเก่าที่ทำมาปีกว่าๆและหันหน้าเข้า กทม. เพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ๆ(รวมถึงการสอบเพื่อเข้าหน่วยงานต่างๆมันสะดวกกว่าอยู่ที่บ้าน)
แต่ก็ยังมีเรื่องนึงที่ผมไม่สบายใจเอามากๆเลยครับคือการที่ผมจะต้องเข้า กทม. รอบนี้แม่ผมต้องอยู่ที่บ้านคนเดียว แม่ผมปีนี้ก็อายุย่างเข้า 64 ปีแล้วครับ แกก็ยังแข็งแรงดี มีเจ็บนู่นปวดนี่นิดหน่อยตามประสาคนแก่ สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากที่สุดคือเรื่องการเงินภายในครอบครัวครับ คือครอบครัวผมเคยมีสมบัติอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ก็หมดไปกับญาติพี่น้องคนรู้จักเพราะแม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือทุกเรื่องจนหมดตัว แม่ผมเป็นคนไม่ทันคน แกมองโลกสวยอยู่ตลอด จนทำให้ผมทะเลาะกับแม่เรื่องเงินอยู่ตลอด เพราะผมต้องการให้แกเก็บสมบัติเอาไว้บ้าง ในที่สุดที่ดินแปลงสุดท้ายที่เป็นสมบัติของย่าก็ต้องหมดไปเพราะแม่เอาไปจำนองให้น้องสะไภ้(ที่รับปากว่าจะหาเงินมาไถ่ให้แต่สุดท้ายก็ไม่มีเงินมาไถ่จนดอกงอกเป็นล้าน) ตอนนี้ก็ยังเหลือบ้านกับที่ไม่ถึงไร่ที่ปลูกอยู่จากเศษเงินที่หักลบกลบหนี้ ทุกวันนี้พอแกเริ่มมีเงินสักพันสองพันแกก็เอาไปแจกหลาน ไม่ก็เอาไปทำบุญจนหมด จนไม่มีเงินเก็บอะไรเลย พอผมบอกให้เก็บบ้างแกก็เอาแต่บ่นว่าจะเอาจากไหนมาเก็บ รายได้ก็มีนิดเดียวจากการเย็บผ้า(ที่จริงถ้าเก็บนิดประหยัดหน่อยมันก็พอมีครับ) จากพฤติกรรมที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ผมไม่สบายใจเลยครับที่จะปล่อยแกให้อยู่คนเดียว กลัวว่าแกจะอด และถ้าเกิดเหตุอะไรไม่คาดฝันขึ้นมาจะทำยังไง?
ผมควรจะทำยังไงดี ควรจะปลงดีไหม? ควรจะหาทางออกจากความไม่มั่นคงพวกนี้ยังไงดี?