สวัสดีค่ะพี่น้องชาวพันทิปทุกท่าน วันนี้มีเรื่องกลุ้มใจที่จะมาขอคำปรึกษาค่ะ ดิฉันเพิ่งเรียนจบปริญญาตรีมาค่ะ พอดีคุณแม่รู้จักกับผู้จัดการบริษัทสินเชื่อแห่งหนึ่ง เลยฝากงานให้ ในตำแห่งการเงินค่ะ ฝากแล้วเขียนใบสมัครก็รับเลยค่ะ รอเริ่มงาน ทีนี้ปัญหามีอยู่ว่า ต้องไปเช็คเครดิตบูโรที่ธนาคาร อันนั้นไม่มีปัญหาค่ะ ก็ไปเช็คเรียบร้อยรอเอกสารส่งถึงบ้าน ระหว่างนี้พี่ผจก.ให้หาคนค้ำค่ะ บอกว่าเอาข้าราชการครูเท่านั้น ระดับที่น่าเชื่อถือได้ ที่บ้านไม่รู้จักใครเลยค่ะ นอกจากอบต. ผญบ. นายกอบต.ไรงี้ ซึ่งไม่ได้ค่ะ ต้องเป็นข้าราชการครูเท่านั้น นึกไม่ออก เลยนึกถึงอาจารย์ที่ปรึกษาตอนเรียนมหาลัยค่ะ ท่านเป็นผศ.ดร.ค่ะ ท่านใจดี มีเมตตาตอนเรียนก็ปรึกษาท่านบ่อย บ่อยค่ะ เรื่องเรียน ท่านช่วยตลอด ก็เลยไปหาท่านที่มหาลัย ตอนนั้นยังไม่ทราบนะคะว่าต้องใช้เอกสารอะไรของท่านบ้าง ท่านยินดีช่วยค่ะ ดีใจมาก จะได้งานดี ดีทำ เงินเดือนพออยู่ได้ แบ่งเบาภาระ จุนเจือครอบครัวได้ เลยโทรไปบอกพี่ผจก. ว่าหาคนค้ำได้แล้วนะคะ เครดิตก็ไปเช็คแล้วค่ะ รอเอกสารส่งมาก็จะรีบนำไปให้พี่ทันที พี่ผจก.เลยบอกว่า ขอเอกสารของคนค้ำด้วยนะ 1สำเนาบัตรประชาชน 2.สำเนาทะเบียนบ้าน 3.สำเนาบัตรข้าราชการ 3อันนี้ก็ตุ๊บ ตุ๊บ ต่อม ต่อมละค่ะ ต่อมเกรงใจเริ่มทำงาน แต่ก็พอจะขอได้ค่ะ 4.หนังสือรับรองเงินเดือน หืมมมมม อันนี้เริ่มหวั่นใจละค่ะ ปรึกษาแม่ทันที แม่โทรคุยกับพี่ผจก.ทันที เค้าบอกว่าไม่ยาก แค่พิมพ์แล้วให้นายจ้างเซนต์รับรอง คุณพระ! อธิการบดีน่ะสิคะ เอาแล้ว ดูยุ่งยากเกินไปแล้ว มาวันนี้ ขอแผนที่บ้านอาจารย์ด้วย เพราะต้องแอบไปถ่ายรูปบ้านอาจารย์ที่เป็นคนค้ำประกันให้ มันดูเยอะไปมั้ยคะ ดูล่วงล้ำล้ำชีวิตส่วนตัวเกินไป อีกอย่างท่านเป็นอ.ที่ปรึกษาไม่ใช่ญาติผู้ใหญ่ของเรา แม่เรายังบอกเลยว่าเกินไปจริง จริง พี่น้องชาวพันทิปว่าไงคะ ขอคำปรึกษาหรือทางออกที่ดีหน่อยค่ะ อยากทำงานก็อยากทำ แต่ติดที่เกรงใจอาจารย์ท่านมาก มากเลยค่ะ เราคิดว่าอะไรที่มันรุกล้ำเกินไปคงไม่ดี ท่านเป็นถึงอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัย ถึงจะเป็นอ.ที่ปรึกษาก็เถอะค่ะ ทำไงดีคะ จะไปพูดกับท่านยังไงดี เห้อออออ งานน่าจะหาง่ายเหมือนร้านชาบูนะคะ
การขอหนังสือรับรองเงินเดือนและแผนที่บ้านของผู้ที่จะมาช่วยค้ำประกันงาน เป็นการล่วงล้ำเรื่องส่วนตัวเกินไปมั้ยคะ