ตระกูลมาลีนนท์ ถึงจุดเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง ในยุครุ่นที่ 2 รุ่นลูกทั้ง 8 คนของ วิชัย มาลีนนท์ ผู้สร้างบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด หรือสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ที่ต่อมาขยับขยายมาเป็น บริษัท บีอีซี เวิลด์ ที่ดูเหมือนว่าจะแตกหัก กันอย่างชัดเจนแล้ว
จากข้อมูลผู้ถือหุ้นรายใหญ่บริษัท บีอีซี เวิลด์ หรือ BEC ที่แจ้งไว้ที่ของตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา พบว่า ในบรรดาชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ไม่มีรายชื่อของครอบครัว “ประวิทย์ มาลีนนท์” ถือหุ้นใหญ่อีกต่อไปแล้ว
ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 กลุ่มครอบครัวประวิทย์ ถือหุ้นรวมทั้งหมด 5.88% ถือโดยลูกสาวและลูกชายทั้งหมด 4 คนได้แก่, อรอุมา , วัลลิภา , วรวรรธน์ และชฎิล ถือหุ้นคนละ 1.47% ในขณะนั้นประวิทย์ได้ลาออกจากตำแหน่งบริหารใน BEC และบริษัทในกลุ่มช่อง 3 ทั้งหมดตั้งแต่ 19 พฤศจิกายน 2559 โดยส่งไม้ต่อให้น้องชายคนเล็ก “ประชุม มาลีนนท์” เข้ามาบริหารแทนตั้งแต่ 21 มีนาคม 2560
หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มครอบครัวประวิทย์ก็เริ่มขายหุ้นออก เริ่มจากนายวรวรรธน์ มาลีนนท์ ลูกชายประวิทย์ ขายออกเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ จำนวน 29.393 ล้านหุ้น โดยแจ้งผ่านสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ทำให้กลุ่มของประวิทย์ เหลือหุ้นอยู่ใน BEC ทั้งหมดในสัดส่วน 4.41 % เท่านั้น จากเดิมที่มีอยู่ 5.88%
จนข้อมูลล่าสุดที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ก็ไม่ปรากฏชื่อทั้ง อรอุมา , วัลลิภา ,และชฎิล ลูกสาวและลูกชายของประวิทย์ ที่เคยถือหุ้นคนละ 1.47% อีกต่อไป ซึ่งมีรายงานข่าวว่า ทั้ง 3 คนได้ขายหุ้นทั้งหมดออกไปอย่างเงียบๆไปได้พักใหญ่แล้ว โดยไม่มีรายงานว่าขายไปเมื่อไร และราคาเท่าไร แต่คาดว่าเป็นการขายในช่วงหลังจากวันที่ 27 กุมภาพันธ์ จนถึง 23 มีนาคมที่ผ่านมา
สำหรับราคาหุ้นของ BEC ปิดเมื่อปลายปี 2560 ในวันที่ 29 ธันวาคม 2560 ที่ราคา 13.10 บาท เมื่อเปิดตลาดปี 2561 วันที่ 3 มกราคม 2561 ลดลงมาอยู่ที่ 13 บาท และยังลดลงเรื่อยๆ จากสถานการณ์เรตติ้งตก รายได้ลด จากการแข่งขันสูงในตลาดทีวีดิจิทัล โดยมีราคาต่ำสุดของปีนี้อยู่ที่ 10.10 บาท ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ และเริ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาอยู่สูงสุดที่ 13.80 บาท ในวันที่ 14 มีนาคม ในช่วงที่สถานการณ์ของช่อง 3 กำลังฟื้นกลับคืนมาจากกระแสความดังของละคร “บุพเพสันนิวาส” โดยในวันที่ 23 มีนาคม ราคาปิดตลาดหุ้น BEC ยังอยู่ที่ราคา 13.00 บาท
7 พี่น้อง ตระกูลมาลีนนท์ ถือหุ้นรวมเหลือ 40.25%
ข้อมูลที่ได้ตรวจสอบจากทั้งตลาดหลักทรัพย์ และกลต. ล่าสุดวันที่ 10 เมษายน พบว่า จาก 8 พี่น้องตระกูลมาลีนนท์ เหลือเพียงกลุ่มผู้ถือหุ้นจาก 7 พี่น้องมาลีนนท์ ถือหุ้นรวมกันทั้งหมด 40.25% ลดลงจากเดิม 44.56%
กลุ่มที่ถือหุ้นมากที่สุดคือ กลุ่ม 4 พี่น้องฝ่ายหญิงทั้งหมด รัตนา มาลีนนท์ ถือหุ้นทั้งหมด 8.98% รองลงมาคือ อัมพร และนิภา ถือหุ้นคนละ 6.46% และ ครอบครัวของรัชนี (มาลีนนท์) นิพัทธกุศล ถือหุ้น 5.88% ที่รวมกันแล้ว ถือหุ้นทั้งหมด 27.78%
ในกลุ่มผู้ชาย ครอบครัวของประสาร (เสียชีวิตแล้ว) ถือหุ้นผ่านลูกๆ ทั้ง 5 คน คนละ 1.18% รวมเป็น 5.90%
รองลงมาคือ กลุ่มครอบครัวประชุม ที่ประชุมค่อยๆขยับสัดส่วนขึ้นมาอยู่ที่ 1.5% และลูกอีก 3 คนคนละ 0.85% รวมทั้งหมด 4.05% สุดท้ายคือกลุ่มของครอบครัวประชา ที่ถือผ่านลูกสาว 3 คนรวม 2.52%
ที่มา :
https://positioningmag.com/1165960
“ประวิทย์ มาลีนนท์” ทิ้งหุ้นช่อง 3 ขายหมดเกลี้ยงพอร์ต เหลือ 7 พี่น้อง
จากข้อมูลผู้ถือหุ้นรายใหญ่บริษัท บีอีซี เวิลด์ หรือ BEC ที่แจ้งไว้ที่ของตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา พบว่า ในบรรดาชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ไม่มีรายชื่อของครอบครัว “ประวิทย์ มาลีนนท์” ถือหุ้นใหญ่อีกต่อไปแล้ว
ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 กลุ่มครอบครัวประวิทย์ ถือหุ้นรวมทั้งหมด 5.88% ถือโดยลูกสาวและลูกชายทั้งหมด 4 คนได้แก่, อรอุมา , วัลลิภา , วรวรรธน์ และชฎิล ถือหุ้นคนละ 1.47% ในขณะนั้นประวิทย์ได้ลาออกจากตำแหน่งบริหารใน BEC และบริษัทในกลุ่มช่อง 3 ทั้งหมดตั้งแต่ 19 พฤศจิกายน 2559 โดยส่งไม้ต่อให้น้องชายคนเล็ก “ประชุม มาลีนนท์” เข้ามาบริหารแทนตั้งแต่ 21 มีนาคม 2560
หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มครอบครัวประวิทย์ก็เริ่มขายหุ้นออก เริ่มจากนายวรวรรธน์ มาลีนนท์ ลูกชายประวิทย์ ขายออกเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ จำนวน 29.393 ล้านหุ้น โดยแจ้งผ่านสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ทำให้กลุ่มของประวิทย์ เหลือหุ้นอยู่ใน BEC ทั้งหมดในสัดส่วน 4.41 % เท่านั้น จากเดิมที่มีอยู่ 5.88%
จนข้อมูลล่าสุดที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ก็ไม่ปรากฏชื่อทั้ง อรอุมา , วัลลิภา ,และชฎิล ลูกสาวและลูกชายของประวิทย์ ที่เคยถือหุ้นคนละ 1.47% อีกต่อไป ซึ่งมีรายงานข่าวว่า ทั้ง 3 คนได้ขายหุ้นทั้งหมดออกไปอย่างเงียบๆไปได้พักใหญ่แล้ว โดยไม่มีรายงานว่าขายไปเมื่อไร และราคาเท่าไร แต่คาดว่าเป็นการขายในช่วงหลังจากวันที่ 27 กุมภาพันธ์ จนถึง 23 มีนาคมที่ผ่านมา
สำหรับราคาหุ้นของ BEC ปิดเมื่อปลายปี 2560 ในวันที่ 29 ธันวาคม 2560 ที่ราคา 13.10 บาท เมื่อเปิดตลาดปี 2561 วันที่ 3 มกราคม 2561 ลดลงมาอยู่ที่ 13 บาท และยังลดลงเรื่อยๆ จากสถานการณ์เรตติ้งตก รายได้ลด จากการแข่งขันสูงในตลาดทีวีดิจิทัล โดยมีราคาต่ำสุดของปีนี้อยู่ที่ 10.10 บาท ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ และเริ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาอยู่สูงสุดที่ 13.80 บาท ในวันที่ 14 มีนาคม ในช่วงที่สถานการณ์ของช่อง 3 กำลังฟื้นกลับคืนมาจากกระแสความดังของละคร “บุพเพสันนิวาส” โดยในวันที่ 23 มีนาคม ราคาปิดตลาดหุ้น BEC ยังอยู่ที่ราคา 13.00 บาท
7 พี่น้อง ตระกูลมาลีนนท์ ถือหุ้นรวมเหลือ 40.25%
ข้อมูลที่ได้ตรวจสอบจากทั้งตลาดหลักทรัพย์ และกลต. ล่าสุดวันที่ 10 เมษายน พบว่า จาก 8 พี่น้องตระกูลมาลีนนท์ เหลือเพียงกลุ่มผู้ถือหุ้นจาก 7 พี่น้องมาลีนนท์ ถือหุ้นรวมกันทั้งหมด 40.25% ลดลงจากเดิม 44.56%
กลุ่มที่ถือหุ้นมากที่สุดคือ กลุ่ม 4 พี่น้องฝ่ายหญิงทั้งหมด รัตนา มาลีนนท์ ถือหุ้นทั้งหมด 8.98% รองลงมาคือ อัมพร และนิภา ถือหุ้นคนละ 6.46% และ ครอบครัวของรัชนี (มาลีนนท์) นิพัทธกุศล ถือหุ้น 5.88% ที่รวมกันแล้ว ถือหุ้นทั้งหมด 27.78%
ในกลุ่มผู้ชาย ครอบครัวของประสาร (เสียชีวิตแล้ว) ถือหุ้นผ่านลูกๆ ทั้ง 5 คน คนละ 1.18% รวมเป็น 5.90%
รองลงมาคือ กลุ่มครอบครัวประชุม ที่ประชุมค่อยๆขยับสัดส่วนขึ้นมาอยู่ที่ 1.5% และลูกอีก 3 คนคนละ 0.85% รวมทั้งหมด 4.05% สุดท้ายคือกลุ่มของครอบครัวประชา ที่ถือผ่านลูกสาว 3 คนรวม 2.52%
ที่มา : https://positioningmag.com/1165960