[CR] แบกเป้ลุยเวียดนามใต้ : มันส์ครบรส! โฮจิมินห์ ดาลัด มุยเน่ 5 วัน 4 คืน

โจทย์ในการเดินทางของเราในครั้งนี้คือ..ประเทศใกล้บ้านที่จะสนุกแบบลุยๆครบทุกรสชาติ
แล้วก็สรุปกันคือที่นี่เลย!! ‘เวียดนามใต้’ ครั้งนี้เรามีโอกาสได้ไปตะลุยกันมาถึง3เมือง
โฮจิมินห์ : เที่ยวชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่สไตล์ยุโรป เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเมืองผ่านพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ
ดาลัด : เมืองแห่งดอกไม้ และสายลมหนาว
และที่สุดท้ายที่ไม่ควรพลาดคือมุยเน่ : ที่ที่มีชายหาดและทะเลทรายที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งหมดนี้กับทริป 5 วัน 4 คืน จะสนุกครบรสขนาดไหนไปดูกันน^^
"ติดตามภาพถ่ายอื่นๆได้ที่^^
เพจ>>https://www.facebook.com/wejourneys
Instagram>> https://www.instagram.com/ou.wejourney
กระทู้อื่นๆ>> [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

Day1

เราเดินทางถึงสนามบินโฮจิมินห์ซิตี้ เตินเซินเญิ้ต (Ho Chi Minh City Tan Son Nhat International Airport)ประมาณ 17.00น. ทริปนี้เราไปกันสองคนค่ะ ที่นี่ไม่ต้องกรอกใบตม.สามารถยื่นพาสปอร์ตได้เลย เราแลกเงินดอลลาร์มาจากไทยแล้วไปแลกเป็นเงินเวียดนามที่บูธที่สนามบินค่ะ
หลังจากแลกเงินเรียบร้อยแล้วก็เดินหาซื้อซิมกันที่สนามบินเลย ที่นี่มีร้านขายซิมอยู่หลายร้านอยู่เหมือนกัน ร้านที่เราซื้อคือ Vianaphone เราซื้อซิม5gb ราคา105.000vnd
จากนั้นก็เดินมาขึ้นรถเมล์เขียวเพื่อเข้าเมืองกัน เดินตรงมาทางออกสนามบินแล้วเลี้ยวขวา จะเจอรถเมล์สาย152 จอดอยู่ ค่ารถคนละ5000vnd แต่ถ้าใครมีกระเป๋าใบใหญ่ที่ต้องวางพื้นเค้าจะเก็บเพิ่มค่ากระเป๋าอีก5000vndนะคะ
เรานั่งรถไปลงแถวถนน De tham ใช้วิธีดูGpsเอา พอใกล้ถึงแล้วก็ไปยืนรอที่ประตูหลังรถเค้าจะจอดให้เราลงเอง

จากนั้นก็เดินไปซื้อตั๋วไปดาลัดกันที่บริษัท Phuong Trang(Futa bus) เราซื้อตั๋วรอบ23.25น. เพราะคิดว่าจะได้ไม่ถึงเช้าเกินไป ค่าตั๋ว 210.000vndต่อคน และร้านข้างๆที่ขายตั๋วจะมีบริการฝากกระเป๋า ค่าฝาก20.000vnd ค่ะ
ตอนนี้ตัวเบาแระ^^เราก็เดินไปหาอะไรกินกันที่ The Cafe Apartment พอไปถึงสิ่งที่เห็นคือ!ไฟดับทั้งตึกจ้า555 กะว่าจะถ่ายด้านหน้าตึกสักหน่อยแต่ก็คิดว่ารอกันสักพักดีกว่าไหนๆก็เดินมาแล้วโชคดีที่มีช่างไฟกำลังแก้ไขอยู่
เรายืนรอกันไม่นานไฟก็มาแต่ก็มืดพอดี จากนั้นก็ขึ้นไปด้านบนดื่มน้ำชากันที่ร้าน Partea-English tearoom ร้านนี้มีคอนเซปต์ร้านน่ารักมากๆ

เข้าไปจะมีชาให้เลือกมากกว่า20ชนิด หอมทุกกลิ่นเลยค่า

พอเลือกกลิ่นชาที่ชอบแล้วหันกลับมาอีกมุมนึง ก็สามารถเลือกชุดแก้วกาแฟที่ชอบได้ด้วย! มีแบบให้เลือกเยอะมากๆ สวยน่าใช้ทุกชุดเลย หยิบได้ตามใจชอบแล้วเดินมาเลือกที่นั่ง
ทุกมุมของร้านน่ารักจริงๆ มีทั้งโซน Indoorและ Outdoor

หลังจากที่จิบชาหอมๆกันแล้ว ก็เดินไปถ่ายรูปที่ Opera houseกัน ระหว่างทางเราเดินผ่าน ศาลากลาง (City Hall) วันนี้เค้ามีงานกีฬาอะไรสักอย่างผู้คนคีกคักมาก
บริเวณนี้จะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของผู้คนและในเวลากลางคืนจะมีจัดแสดงน้ำพลุดนตรีด้วยค่ะ

จาก City hall เราเดินไปอีกหน่อยจะเจอ โรงละครโอเปร่าโฮจิมินห์ (Opera House Ho Chi Minh) เป็นโรงละครเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อ 100กว่าปีก่อน มีความสวยงามแบบสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส โรงละครแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าโรงละครแห่งเมืองโฮจิมินห์ (Municipal Theatre of Ho Chi Minh City) ปัจจุบันยังคงใช้เป็นสถานที่สำหรับชมการแสดงและคอนเสิร์ตต่างๆ ที่นี่จะมีลานน้ำพุที่เป็นจุดพักผ่อนสำหรับชาวเมืองและนักท่องเที่ยว และยังเป็นจุดถ่ายรูปโรงละครที่สวยงามอีกด้วยนะคะ
ถัดจากโรงละครเราเดินกลับมาหาอะไรกินใกล้ๆจุดที่เราจะขึ้นรถ ชื่อร้านว่า Sa Sa Cafe มีอาหารหลากหลายทั้งอิตาเลี่ยนและเวียดนาม เราสั่งอาหารเวียดนามมากินเพราะไหนๆมาถึงที่นี่แล้วก็ต้องชิมอาหารเวียดนามแหละเนอะ อาหารรสชาติใช้ได้เลย
นั่งเล่นกันสักพักใกล้เวลาออกเดินทางแล้ว เราเดินไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้แล้วไปรอขึ้นรถที่ฝั่งตรงข้ามกับที่เราซื้อตั๋วค่ะ

พอถึงเวลา 23.25น. ก็จะมีรถตู้มารับเราเพื่อไปขึ้นรถนอนอีกจุดนึง

นั่งรถมาไม่นานก็ถึงจุดจอดรถนอนที่เราต้องนั่งไปดาลัดคืนนี้ค่ะ ก่อนขึ้นรถพนักงานจะแจกถุงคนละใบเพื่อให้เราใส่รองเท้าจากนั้นก็นั่งตามที่นั่งที่จองไว้
จากโฮจิมินห์ไปดาลัดใช้เวลาประมาณ 6ชั่วโมงค่ะ

Day2

เราถึงดาลัดตอนตีห้าครึ่ง อากาศหนาวมากประมาณ15องศาทุกคนลงรถสั่นกันหมด^^

จากนั้นก็จะมีรถของบริษัทไปส่งเราที่โรงแรม เราจองที่พักผ่านAgodaไว้ ชื่อTulip Hotel Dalat ราคาคืนละ 646฿


พอถึงโรงแรมเราก็ติดต่อเช็คอินที่พักกันเลย แต่พอดียังเช็คอินไม่ได้เพราะยังมีลูกค้าอยู่ แต่พนักงานแจ้งเราว่าสามารถพักผ่อนและอาบน้ำได้ที่ห้องด้านล่างก่อนได้เลย ที่นี่บริการดีมากค่ะยิ้มแย้มแจ่มใสกันทุกคน
หลังจากที่เราอาบน้ำกินข้าวกันเรียบร้อยแล้วเพื่อไม่ให้เสียเวลา เราจองตั๋วที่จะไปมุ่ยเน่พรุ่งนี้กับทางโรงแรมเลย ค่าตั๋วคนละ 120.000vnd และก็เช่ามอเตอร์ไซต์เที่ยวดาลัดด้วย ค่าเช่ามอเตอร์ไซต์ราคา 150.000vndต่อคัน ส่วนกระเป๋าเดินทางเราสามารถฝากไว้กับที่โรงแรมได้เลยค่ะ
ที่แรกที่เราไปกันคือ น้ำตกฟงกัว(Pongour waterfall) ใช้เวลาเดินทางประมาณ1ชั่วโมงกว่า ถึงแม้จะไกลแต่ระหว่างทางได้ดูวิวข้างทางและอากาศก็ดีมากไม่ร้อนเลยถือว่าคุ้มมากค่ะ เดินทางสักพักเราก็มาถึงน้ำตก ที่นี่มีค่าเข้าคนละ10.000vnd
น้ำตกฟงกัว (Pongour waterfall) ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในดาลัดค่ะ มีความสูง 20 เมตร และกว้าง 100 เมตร เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเวียดนาม
ตัวน้ำตกจะมีสายน้ำไหลลงมาจากหน้าผาสวยงามมาก ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมความงามกันอยู่ตลอดเลย


ที่ต่อไปที่เราไปกันคือ วัดตั๊กลัม (Truc Lam Pagoda) จากน้ำตกใช้เวลาเดินทาง 1ชั่วโมงค่ะ ก็คือขี่กลับเข้าเมืองอีกครั้ง ที่วัดไม่มีค่าเข้านะคะ วัดตั๊กลัม (Truc Lam Pagoda)เป็นวัดพุทธในนิกายเซนแบบญี่ปุ่น ที่ผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมเวียดนาม
จากตัววัดเราสามารถมองวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบตังแลม Tuyen Lam Lake ได้อีกด้วย

หลังจากเดินชมวัดแล้ว เราไปนั่ง Cable Car เพื่อชมวิวเมืองดาลัดกัน จุดซื้อตั๋ว Cable Car จะอยู่ชั้นล่างของร้านอาหารตรงข้ามลานจอดรถทางเข้าวัดค่ะ ค่าตั๋วจะมีให้เลือกสองแบบคือ แบบ one way กับ return เราเลือกแบบไปกลับค่ะ คนละ 80.000vnd
ใช้เวลาในการนั่งชมวิวประมาณ 30 นาที (ไป 15นาที กลับ 15นาที) วิวสวยและเพลินมาก ๆ ค่ะ

นั่งมาสักพักก็จะมาถึงอีกฝั่งนึง ฝั่งนี้จะมีร้านอาหารแบบบุฟเฟ่ต์และร้านกาแฟให้นั่งเล่นชิลๆอีกด้วยนะ
ชื่อสินค้า:   สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ บันทึกนักเดินทาง backpack ภาพถ่าย ประเทศเวียดนาม
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่