สวีดัสสวัสดี welcome to ROXKED review EP.1
  เกริ่นก่อนว่านี่เป็นกระทู้แรกในการรีวิว ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครัช แล้วอีกอย่างทริปนี้ไม่ได้แบ็คแพ็คไปเองหรือไปกับแฟน เพราะมีครอบครัวและญาติผู้ใหญ่ของแฟนไปด้วย(เป็นการพบปะญาติผู้ใหญ่ครั้งแรกด้วยซินะ ตื่นเต้วๆ) เลยค่อนข้างได้รูปสถานที่มาไม่ค่อยครบเท่าไหร่ (อย่าว่าแต่รูปเลยครับสถานที่ทยังไม่ค่อยครบเลย) แต่ก็อย่างว่าแหละเนอะ มีญาติผู้ใหญ่ไปด้วยนี่นา เค้าอยากไปเที่ยวไหนเราก็ได้แต่ตามๆ เค้าไปเนอะ ตามมารยาทของผู้น้อยเค้าว่าไงเราก็ต้องว่างั้น ถ้ามีหืออือเค้าก็คงจะไม่ปลื้มสักเท่าไหร่ 555
  ทริปนี้จริงๆแล้วจะว่าไปมันคือ ทริปกาญจนบุรี มากกว่าเพราะจริงๆแล้วเราไปเที่ยวหลายที่มาก แต่ จขกท อยากจะเขียนทำเป็นทริปปิล่อก เพราะรู้สึกประทับใจมากๆ ถึงมากที่สุดในสถานที่แห่งนี้ จะว่าไปแล้วชักช้าอยู่ใย เรามาเริ่ม review กันเลยดีกว่า ก่อนที่ จขกท จะพร่ำไปมากกว่านี้ ๕๕๕+ Let's go. . .
***หมายเหตุ รูปภาพส่วนใหญ่ จขกท ใช้แอพ Pomelo ใน smartphone แต่ง โดยใช้ฟิตเตอร์ Pola 669 นะครับ เผื่อใครสนใจ

  การเดินทางครั้งนี้เราเดินทางไปด้วยรถส่วนตัว แต่ตอนที่ จขกท นั่งเขียนอยู่จำรุ่นรถไม่ได้นี่สิ เอิ่มมมม ขออภัยด้วยครัช จขกท สมองปลาทองอย่าว่ากันเลยนะ (ใจจริงแล้ว จขกท อยากขับมอเตอร์ไซต์ไปมากกว่า เพราะส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบขับมอเตอร์ไซต์มากกว่า แต่สถานการณ์ที่มีญาติผู้ใหญ่มันไม่ค่อยเอื้ออำนวยสักเท่าไหร่)โดยออกจากกรุงเทพ เขตบางเขน ใช้เวลาถึงหมู่บ้านปิล่อกรวมๆแล้วก็ประมาณ 4-6 ชม น่าจะได้มั้ง ตอนนั่งไปไม่ได้ดูเวลาเลย เอาแต่หลับตลอด way 5555 แต่ที่จำได้คือเจ้าบ้านอีต่องเนี่ยมันอยู่ในอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี หากใครที่เมารถควรเตรียมใจเตรียมถุงไปด้วยก็ดีนะครัช เพราะกว่าจะถึงนีก็ผ่านกว่า 399 โค้งกันเลยทีเดียว อาจจะดูไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้เวียนหัวได้พอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งจริงๆก็ไม่รู้ว่ามันถึง 399 โค้ง รึเปล่านะ แต่ป้ายหน้าบ้านอีต่องมันเขียนไว้เงี้ย ก็เชื่อๆเค้าไปเถอะ อิอิ จริงๆก็อยากลงไปถ่ายภาพมาให้นะกลัวจะไม่เชื่อกัน แต่อย่างที่เกริ่นไปในขั้นต้น ไม่ได้ไปเองนี่ซิ แอบเศร้า TT
ก่อนสิ่งอื่นใด เมื่อเดินทางมาถึงบ้านอีต่อง ก็ต้องหาที่พักกันก่อนเลย เนื่องจากการไปเที่ยวครั้งนี้ไม่ได้มีการจองห้องพักไปล่วงหน้า ก็ต้องไปลุ้นเอาว่าจะมีห้องพักเรามั้ย ซึ่งก็ต้องไปเดินหาเอา ที่พักที่นี่โดยส่วนใหญ่จะราคาห้องละ 1,000 บาท เป็นห้องพัดลม ไม่มีแอร์ ตอนแรกไอเราก็สงสัยแล้วถามพี่ๆ เจ้าของพื้นที่ไปว่าทำไมไม่มี เค้าก็ตอบกลับมาสั้นๆว่า ' เดี๋ยวก็รู้เอง ' ปรากฎว่า ตกดึกมานี่ หนาวไข่สั่นกันเลยทีเดียวครับ สำหรับคนขี้หนาวควรเตรียมเสื้อผ้าหนาๆ ไปด้วยนะครับ อากาศก็ประมาณ 16 องศาประมาณนี้ พี่ๆคนที่ในท้องที่เค้าบอกว่าอากาศมันก็จะประมาณนี้ตลอดปี ก็ใช่แหละเนอะ เมืองกลางหุบเขานี่นาาา หลังจากที่เราได้ที่พักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็รับประทานอาหารกันที่ร้านครัวไมนิ่ง ซึ้งจะอยู่หน้าที่พักเราพอดีเลย เดี๋ยว จขกท จะแปะรูปไว้ให้ตอนท้ายนะครับ เพราะมันเป็นที่เดียวกับที่เราทานอาหารเช้าสำหรับห้องพักเลย หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเราก็เลยถามเจ้าของร้านไปว่ามีที่ไหนแนะนำให้ไปเที่ยวบ้าง เรามาเริ่มกันจากที่แรกเลยละกัน
แท่นแท๊นนนนน ที่แรกก็คือตามภาพเลยครับ จุดสิ้นสุดแดนประเทศไทย ซึ่งจะเชื่อมกับเขตของประเทศเมียนม่า เพื่อนบ้านที่น่ารักของเรานั่นเอง ซึ่งจุดนี้วิวสวยมากๆ สวยจริงๆเราจะได้เห็นทิวทัสน์ของประเทศเพื่อนบ้านในอีกมุมนึงที่หลายคนอาจไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่ง จขกท ก็เสียดายอีกครั้งที่ไม่ได้ถ่ายรูปมา อยากจิหล่องไห้จริงๆ
หลังจากที่เราได้ถ่ายรูปและดื่มด่ำบรรยากาศกับการชมวิวทิวทัศน์ของเพื่อนบ้านสักพักนึง เราก็ได้ออกเดินทางย้อนกลับจากบ้านอีต่องเพื่อไปเล่นน้ำตก ที่มีชื่อว่า ' จ๊อกกระดิ่น ' เป็นน้ำตกที่สวยมว๊ากกกก น่าจะเหมาะสำหรับนักถ่ายภาพเป็นที่สุด เนื่องจากผมคิดว่าเป็นสถานที่ที่ถ้าได้การครีเอตดีๆจากตากล้อง รูปที่ถ่ายออกมามันจะสวยและเจ๋งมากๆ มีทั้งสะพาน ขวดหิน แล้วก็สายน้ำตก แถมน้ำตกก็ใสจนมองเห็นปลาที่แหวกว่ายไปมา แถมเย็นสบายยมากๆด้วย เหมาะแก่การหนีอากาศร้อนๆจากควันท่อไอเสียในเมืองกรุงเพื่อไปเล่นน้ำอย่างยิ่ง แต่ขอบอกก่อนนะ ผมเองไม่ได้ลงไปหรอก เพราะน้ำมันเย็นเกินไป เย็นจนเกินจะรับไหว แค่เอาเท้าลงไปแตะ ขนก็ลุกซู่แล้ววว ทำไงได้เนอะ ก็เรามันคนขี้หนาววนี่นาาา ได้แต่นั่งให้ลมพัดอากาศเย็นมาโดนตัว แค่นี้ก็สบายแล้ววว อิอิ
หลังจากที่ได้แต่นั่งทำตาปริบๆดูคนอื่นเล่นน้ำตกได้ไม่นาน ก็ตกเย็นแล้ว เราก็เลยไปตามคำแนะนำสถานที่ที่ 3 ที่พี่เจ้าของร้านเค้าแนะนำ นั่นก็คือจุดชมวิว ฐานปฎิบัติการช้างศึก ซึ่งก็เป็นสถานที่ชมวิวที่ประทับใจอีกเช่นเคย มองลงมาจากข้างบนเราจะเห็นวิวที่รายล้อมไปด้วยภูเขาในของจังหวัดกาญน๊ะจ๊ะบุรี เอ้ยย !! กาญจนบุรี ตึ่งๆ โป๊ะ 555 (เล่นไปเรื่อย) นอกจากจะเห็นภูเขาแล้วเรายังสามารถมองเห็นบ้านปิล็อกได้อีกด้วย แถมยังได้ดูพระอาทิตย์ตกที่แสนโรแมนติกมากกกกก อากาศข้างบนก็เย็นสบาย ยิ่งพอใกล้ค่ำอากาศก็เริ่มหนาวหน่อยๆ ต้องรีบหาเสื้อแขนยาวมาสวมใส่กันเลยทีเดียวเชียววว >< อ๋อแล้วยังมีอนุสรณ์สถานไว้รำลึกถึงพลเอกตะวัน เรืองศรี ในเหตุการณ์แบ็คฮอร์คตกอีกด้วยนะครับ ซึ่งหลายๆคนคงรู้จักกันดีอยู่แล้วว่าท่านเป็นใครมีความเป็นมายังไงคงไม่ต้องอิบายเพิ่มเติมเนาะ

_________________________________________________________________________________________________________
แงมๆ เขียนมาตั้งยาวละ จขกท เริ่มปวดตา แถมง่วงนอนอีกด้วย ขอพักก่อนละกันนะครับ เดี๋ยวจะมาต่อในพาร์ท 1.1 ใต้กะทู้นี้แหละ พาร์ทหลังนี่จะเป็นส่วนของบ้านอีต่องเต็มๆละ อย่างที่เกริ่นในขั้น้นเนอะ กะทู้แรก หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยเด้อออ TT ตอนนี้ขอตัวไปนอนก่อนละค้าบบ