สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคน
วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ ลืมของไว้ที่สนามบินญี่ปุ่นแล้วได้คืนที่ไทย ครับ
เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่เจอสถานการณ์คล้ายๆกัน
ในขณะเดียวกันก็ขอชื่นชมและขอบคุณเจ้าหน้าที่ Airasia และเจ้าหน้าที่สนามบิน Kansai airport ที่เกี่ยวข้องทุกคนมากๆครับ
ทุกคนให้ความช่วยเหลือแต่ดูแลเอาใจใส่ผมเป็นอย่างดีมากเลย
ผมตั้งใจเขียนกระทู้นี้มากเพื่อที่มันจะได้สามารถถูกนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงๆ
ถ้าชอบใจช่วยดันหน่อยก็ดีนะครับ คนจะได้เห็นเยอะๆ ^^
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันนี้เอง
วันนั้นเป็นวันที่ผมขึ้นเครื่องบินกลับไทย หลังจากไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นกับเพื่อนๆมา 7 วัน เป็น flight ของ AirasiaX
ผมนำไอแพดของผมไปชาร์ทที่แท่นชาร์ทในสนามบินแล้วลืม รู้ตัวอีกทีก็อยู่บนเครื่องบิน take off ขึ้นฟ้ามุ่งหน้าไปไทยแล้ว
พอบอกเรื่องนี้ให้เพื่อนๆที่มาด้วยกันฟัง มีแต่คนบอกว่า "ทำใจเถอะ ลืมไว้ต่างประเทศไม่น่าจะได้คืนแล้ว"
ตอนแรกก็เกือบยอมแพ้แล้วทำใจไปแล้ว แต่ไอแพดเครื่องนี้มีข้อมูลที่สำคัญๆของผมอยู่มากมาย จะยอมแพ้ง่ายๆได้ไงล่ะ!
ผมตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ให้ flight attendant บนเครื่องฟังครับ
เธอแนะนำให้ไปติดต่อ counter lost and found ของ airasia ตอนถึงไทยเพราะตอนนี้ทำอะไรไม่ได้
ผ่านไป 5 ชม ก่อนลงจากเครื่องผมก็ถามตำแหน่ง counter ดังกล่าวจาก flight attendant
ถึงสนามบินดอนเมืองผมก็รีบไปหา counter ดังกล่าวทันที โดยที่สนามบินดอนเมืองมันจะอยู่แถวๆที่รับกระเป๋าครับ
0 ชั่วโมง (เวลาโดยประมาณนับตั้งแต่เริ่มติดต่อเจ้าหน้าที่ครั้งแรก)
ที่ counter เจ้าหน้าที่จะทำการสอบถามรายละเอียดของที่ลืมไว้ครับ แล้วเธอพิมจะสรุปเรื่องราวดังกล่าว
ส่งเรื่องไปที่สนามบิน Kansai พร้อมกับให้ใบ Property irregularity report มาครับ
โดยในใบที่จะมีเบอร์โทรของแผนก lost and found และ Report ID อยู่ด้วย ทุกครั้งที่โทรติดต่อเจ้าหน้าที่ต้องแจ้ง Report ID ครับ
เบอร์โทรแผนกนี้ของ Airasia คือ 02-5625869
จากนั้นเธอแจ้งว่าให้ผมรอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่
5 ชั่วโมง
เจ้าหน้า Airasia โทรเข้ามาแจ้งว่า ได้ติดต่อกับ Kansai airport แล้วพบว่าไม่มีรายงานของดังกล่าว ให้รอการติดต่อกลับอีกที
ผมนี้ใจหายเลยครับ แต่ก็คิดในใจว่า เอาวะ ไหนๆจะสู้ละขอสู้ให้มันเต็มที่ไปเลย
ผมเลยถามเจ้าหน้าที่ว่า ผมสามารถทำอะไรเพิ่มเติมได้บ้าง เขาแจ้งว่าถ้าติดต่อ Kansai airport เอง อาจจะสามารถให้ข้อมูลได้ดีกว่า
และมีโอกาสจะได้ของคืนมากขึ้น เบอร์โทรคือ 81724551620
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเล่าขั้นตอนประมาณว่า (ข้อมูลต่อไปนี้เกิดจากความเข้าใจของผมอาจไม่ถูกทั้งหมด)
โดยปกติที่สนามบินจะมีเจ้าหน้าที่คอยเก็บของที่ลืมไว้ตามที่ต่างๆในสนามบินแล้วส่งไปที่ Lost and found ของสนามบิน
สิ่งที่ Airasia จะทำคือส่งเรื่องไปที่ Lost and found ของสนามบินเพื่อหาไอแพดของผม และรับไอแพดของผมมา
จากนั้นจะฝากมันไปกับ flight ที่กลับไทย และให้ผมไปรับที่สนามบิน
การที่มันไม่มีข้อมูลหมายความว่า ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ไปเก็บส่ง lost and found หรือไม่มันก็อาจจะโดนขโมยไป
หรือ ข้อมูลที่ส่งไปอาจจะไม่ละเอียดพอที่สนามบินจะเชื่อว่ามันเป็นของเราจริงๆ
ตอนนั้นผมตัดสินใจรอไปก่อนครับ
7 ชั่วโมง
ผมตัดสินใจโทรไปที่ Kansai airport ไปเองครับ เจ้าหน้าที่ที่รับโทรศัพท์เปิดมาซัดญี่ปุ่นใส่ผมเลย ซึ่งก็ฟังไม่ออก
ผมบอกเขาเป็นภาษาอังกฤษว่าขอติดต่อ lost and found section เจ้าหน้าที่จึงโอนสายไป
ต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่อีกคนรับสายครับ คราวนี้เป็นภาษาอังกฤษสำเนียง japanese น้ำเสียงน่ารักๆแบบสาวญี่ปุ่น
ตอนแรกผมก็รัวเป็นภาษาอังกฤษยืดยาว ลืมไอแพดแบบนี้ๆๆที่นี้ๆๆเวลานี้ๆๆ ใส่เธอเลยครับ ปรากฎว่าเธอไม่เข้าใจ 5555
ผมเลยเอาใหม่บอกแค่ว่า ผมโทรมาจากไทย ลืมไอแพดที่สนามบิน แล้วเธอจะค่อยๆถามทีละคำถามเองครับ
ว่าลืมไว้ตอนไหน ลักษณะเป็นไง บลาๆๆ ถึงคุยกันรู้เรื่อง
หลังให้ข้อมูลครบ เธอบอกว่าเจอของที่มีลักษณะแบบที่ผมว่าครับ คราวนี้เธอจะเริ่มเช็คว่าเราเป็นเจ้าของจริงๆไหม
และหลักฐานที่สำคัญที่สุดคือการบอก Password ไอแพดเครื่องนั้นถูกครับ
เธอแจ้งต่อว่าทางสนามบินไม่มีนโยบายส่งของไปให้ผมที่ไทย ต้องหาคนมารับเอง
และถ้าไม่มีคนมารับภายใน 7 วันของจะถูกส่งไปที่สถานีตำรวจ และอะไรๆคงจะยากขึ้นไปอีก
ผมแจ้งเธอว่า Airasia airline สามารถไปรับของให้ผมได้ เธอจึงแจ้งให้ผมติดต่อ Airasia อีกครั้งให้ Airasia ทำเรื่องไปหาเธอ
ผมจึงโทรหา Airasia ต่อครับ ว่าตอนนี้เจอไอแพดของผมแล้ว เจ้าหน้าบอกว่าจะทำเรื่องขอรับของให้ ให้ผมรอการติดต่อกลับครับ
10 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่ Airasia แจ้งว่า ขณะนี้ Airasia ญี่ปุ่นได้ของแล้ว จะฝากของมากับเที่ยวบิน บลาๆๆ ต่อไป
20 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่ Airasia แจ้งว่าตอนนี้ไอแพดผมอยู่ที่กรุงเทพแล้ว สามารถมาติดต่อขอรับได้
แต่ตอนนั้นผมอยู่เชียงใหม่ครับ ผมเลยถามว่าสามารถรับที่เชียงใหม่ได้ไหม
เจ้าหน้าที่แจ้งว่าได้ครับ และให้ผมรอการติดต่อจาก Airasia เชียงใหม่อีกทีนึง
26 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่เชียงใหม่แจ้งว่าตอนนี้ของอยู่ที่สนามบินเชียงใหม่แล้วสามารถไปรับได้
โดยใช้บัตรประชาชน/passport และใบ Property irregularity report ที่ได้มาตอนแรกครับ
ตอนนั้นพอดีผมไม่ว่างจึงแจ้งว่าขอเข้าไปรับในวันพรุ่งนี้
40 ชั่วโมง
ผมเดินทางไปรับของที่สำนักงาน Airasia ที่สนามบินด้วยตัวเองครับ
ที่สนามบินเชียงใหม่มันจะอยู่แถวๆที่ check in ของ airasia
ไอแพดผมถูกห่อมาอย่างดีมีแผ่นกันกระแทกด้วย
เจ้าหน้าที่ให้ผมตรวจเช็คของและเซ็นรับของออกมาครับ
ที่สำคัญคือกระบวนการที่ว่ามาทั้งหมดนั้นไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นครับ
ตอนแรกนึกว่าต้องจ่ายค่าขนส่งของซะอีก
จะเห็นได้ว่ากระบวนการทั้งผมใช้เวลาแค่วันกว่าๆ ผมก็ได้ของคืนแล้วครับ น่าประทับใจมากๆ
เจ้าหน้าที่ทุกคนพูดจาดี ให้การช่วยเหลือผมเป็นอย่างดี ขอขอบคุณทุกคนอีกครั้งครับ
อยากฝากเป็นข้อคิดเล็กๆน้อยๆ
1.อย่าเพิ่งยอมแพ้ถ้ายังพยายามไม่สุดครับ ถ้าผมยอมแพ้ตั้งแต่แรกตามเพื่อนว่า ผมคงไม่ได้ของคืนแล้ว
2.ภาษาอังกฤษสำคัญมากครับ ถ้าผมพูดอังกฤษไม่ได้ ไม่ได้ลองติดต่อสนามบินเองผมอาจจะไม่ได้ของคืน
3. ข้อนี้สำคัญสุดและเป็นใจความของกระทู้นี้เลย
เกือบทุกสายการบินมีบริการแบบนี้ครับ ลืมของไว้ต่างประเทศติดต่อสายการบินที่โดยสารมาก่อนเลย อย่าเพิ่งถอดใจ
ซึ่งอันนี้เป็นความรู้ใหม่ที่ผมเพิ่งทราบตอนเจอกับตัวนี้แหละ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่เข้ามาอ่านทุกคนในอนาคตนะครับ
ถ้าเจ้าหน้าที่สายการบินผ่านมาเห็น โพสข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ในนี้ก็ดีนะครับ ของผมอาจจะไม่ถูกซักทีเดียยว
คนมาอ่านต่อๆไปจะได้ได้ประโยชน์ไปด้วย
ถ้าชอบใจช่วยกันดันหน่อยนะครับ สวัสดีครับ
รีวิวประสบการณ์ ลืมของไว้ที่สนามบินญี่ปุ่นแล้วได้คืนที่ไทย
วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ ลืมของไว้ที่สนามบินญี่ปุ่นแล้วได้คืนที่ไทย ครับ
เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่เจอสถานการณ์คล้ายๆกัน
ในขณะเดียวกันก็ขอชื่นชมและขอบคุณเจ้าหน้าที่ Airasia และเจ้าหน้าที่สนามบิน Kansai airport ที่เกี่ยวข้องทุกคนมากๆครับ
ทุกคนให้ความช่วยเหลือแต่ดูแลเอาใจใส่ผมเป็นอย่างดีมากเลย
ผมตั้งใจเขียนกระทู้นี้มากเพื่อที่มันจะได้สามารถถูกนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงๆ
ถ้าชอบใจช่วยดันหน่อยก็ดีนะครับ คนจะได้เห็นเยอะๆ ^^
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันนี้เอง
วันนั้นเป็นวันที่ผมขึ้นเครื่องบินกลับไทย หลังจากไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นกับเพื่อนๆมา 7 วัน เป็น flight ของ AirasiaX
ผมนำไอแพดของผมไปชาร์ทที่แท่นชาร์ทในสนามบินแล้วลืม รู้ตัวอีกทีก็อยู่บนเครื่องบิน take off ขึ้นฟ้ามุ่งหน้าไปไทยแล้ว
พอบอกเรื่องนี้ให้เพื่อนๆที่มาด้วยกันฟัง มีแต่คนบอกว่า "ทำใจเถอะ ลืมไว้ต่างประเทศไม่น่าจะได้คืนแล้ว"
ตอนแรกก็เกือบยอมแพ้แล้วทำใจไปแล้ว แต่ไอแพดเครื่องนี้มีข้อมูลที่สำคัญๆของผมอยู่มากมาย จะยอมแพ้ง่ายๆได้ไงล่ะ!
ผมตัดสินใจเล่าเรื่องนี้ให้ flight attendant บนเครื่องฟังครับ
เธอแนะนำให้ไปติดต่อ counter lost and found ของ airasia ตอนถึงไทยเพราะตอนนี้ทำอะไรไม่ได้
ผ่านไป 5 ชม ก่อนลงจากเครื่องผมก็ถามตำแหน่ง counter ดังกล่าวจาก flight attendant
ถึงสนามบินดอนเมืองผมก็รีบไปหา counter ดังกล่าวทันที โดยที่สนามบินดอนเมืองมันจะอยู่แถวๆที่รับกระเป๋าครับ
0 ชั่วโมง (เวลาโดยประมาณนับตั้งแต่เริ่มติดต่อเจ้าหน้าที่ครั้งแรก)
ที่ counter เจ้าหน้าที่จะทำการสอบถามรายละเอียดของที่ลืมไว้ครับ แล้วเธอพิมจะสรุปเรื่องราวดังกล่าว
ส่งเรื่องไปที่สนามบิน Kansai พร้อมกับให้ใบ Property irregularity report มาครับ
โดยในใบที่จะมีเบอร์โทรของแผนก lost and found และ Report ID อยู่ด้วย ทุกครั้งที่โทรติดต่อเจ้าหน้าที่ต้องแจ้ง Report ID ครับ
เบอร์โทรแผนกนี้ของ Airasia คือ 02-5625869
จากนั้นเธอแจ้งว่าให้ผมรอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่
5 ชั่วโมง
เจ้าหน้า Airasia โทรเข้ามาแจ้งว่า ได้ติดต่อกับ Kansai airport แล้วพบว่าไม่มีรายงานของดังกล่าว ให้รอการติดต่อกลับอีกที
ผมนี้ใจหายเลยครับ แต่ก็คิดในใจว่า เอาวะ ไหนๆจะสู้ละขอสู้ให้มันเต็มที่ไปเลย
ผมเลยถามเจ้าหน้าที่ว่า ผมสามารถทำอะไรเพิ่มเติมได้บ้าง เขาแจ้งว่าถ้าติดต่อ Kansai airport เอง อาจจะสามารถให้ข้อมูลได้ดีกว่า
และมีโอกาสจะได้ของคืนมากขึ้น เบอร์โทรคือ 81724551620
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเล่าขั้นตอนประมาณว่า (ข้อมูลต่อไปนี้เกิดจากความเข้าใจของผมอาจไม่ถูกทั้งหมด)
โดยปกติที่สนามบินจะมีเจ้าหน้าที่คอยเก็บของที่ลืมไว้ตามที่ต่างๆในสนามบินแล้วส่งไปที่ Lost and found ของสนามบิน
สิ่งที่ Airasia จะทำคือส่งเรื่องไปที่ Lost and found ของสนามบินเพื่อหาไอแพดของผม และรับไอแพดของผมมา
จากนั้นจะฝากมันไปกับ flight ที่กลับไทย และให้ผมไปรับที่สนามบิน
การที่มันไม่มีข้อมูลหมายความว่า ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ไปเก็บส่ง lost and found หรือไม่มันก็อาจจะโดนขโมยไป
หรือ ข้อมูลที่ส่งไปอาจจะไม่ละเอียดพอที่สนามบินจะเชื่อว่ามันเป็นของเราจริงๆ
ตอนนั้นผมตัดสินใจรอไปก่อนครับ
7 ชั่วโมง
ผมตัดสินใจโทรไปที่ Kansai airport ไปเองครับ เจ้าหน้าที่ที่รับโทรศัพท์เปิดมาซัดญี่ปุ่นใส่ผมเลย ซึ่งก็ฟังไม่ออก
ผมบอกเขาเป็นภาษาอังกฤษว่าขอติดต่อ lost and found section เจ้าหน้าที่จึงโอนสายไป
ต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่อีกคนรับสายครับ คราวนี้เป็นภาษาอังกฤษสำเนียง japanese น้ำเสียงน่ารักๆแบบสาวญี่ปุ่น
ตอนแรกผมก็รัวเป็นภาษาอังกฤษยืดยาว ลืมไอแพดแบบนี้ๆๆที่นี้ๆๆเวลานี้ๆๆ ใส่เธอเลยครับ ปรากฎว่าเธอไม่เข้าใจ 5555
ผมเลยเอาใหม่บอกแค่ว่า ผมโทรมาจากไทย ลืมไอแพดที่สนามบิน แล้วเธอจะค่อยๆถามทีละคำถามเองครับ
ว่าลืมไว้ตอนไหน ลักษณะเป็นไง บลาๆๆ ถึงคุยกันรู้เรื่อง
หลังให้ข้อมูลครบ เธอบอกว่าเจอของที่มีลักษณะแบบที่ผมว่าครับ คราวนี้เธอจะเริ่มเช็คว่าเราเป็นเจ้าของจริงๆไหม
และหลักฐานที่สำคัญที่สุดคือการบอก Password ไอแพดเครื่องนั้นถูกครับ
เธอแจ้งต่อว่าทางสนามบินไม่มีนโยบายส่งของไปให้ผมที่ไทย ต้องหาคนมารับเอง
และถ้าไม่มีคนมารับภายใน 7 วันของจะถูกส่งไปที่สถานีตำรวจ และอะไรๆคงจะยากขึ้นไปอีก
ผมแจ้งเธอว่า Airasia airline สามารถไปรับของให้ผมได้ เธอจึงแจ้งให้ผมติดต่อ Airasia อีกครั้งให้ Airasia ทำเรื่องไปหาเธอ
ผมจึงโทรหา Airasia ต่อครับ ว่าตอนนี้เจอไอแพดของผมแล้ว เจ้าหน้าบอกว่าจะทำเรื่องขอรับของให้ ให้ผมรอการติดต่อกลับครับ
10 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่ Airasia แจ้งว่า ขณะนี้ Airasia ญี่ปุ่นได้ของแล้ว จะฝากของมากับเที่ยวบิน บลาๆๆ ต่อไป
20 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่ Airasia แจ้งว่าตอนนี้ไอแพดผมอยู่ที่กรุงเทพแล้ว สามารถมาติดต่อขอรับได้
แต่ตอนนั้นผมอยู่เชียงใหม่ครับ ผมเลยถามว่าสามารถรับที่เชียงใหม่ได้ไหม
เจ้าหน้าที่แจ้งว่าได้ครับ และให้ผมรอการติดต่อจาก Airasia เชียงใหม่อีกทีนึง
26 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่เชียงใหม่แจ้งว่าตอนนี้ของอยู่ที่สนามบินเชียงใหม่แล้วสามารถไปรับได้
โดยใช้บัตรประชาชน/passport และใบ Property irregularity report ที่ได้มาตอนแรกครับ
ตอนนั้นพอดีผมไม่ว่างจึงแจ้งว่าขอเข้าไปรับในวันพรุ่งนี้
40 ชั่วโมง
ผมเดินทางไปรับของที่สำนักงาน Airasia ที่สนามบินด้วยตัวเองครับ
ที่สนามบินเชียงใหม่มันจะอยู่แถวๆที่ check in ของ airasia
ไอแพดผมถูกห่อมาอย่างดีมีแผ่นกันกระแทกด้วย
เจ้าหน้าที่ให้ผมตรวจเช็คของและเซ็นรับของออกมาครับ
ที่สำคัญคือกระบวนการที่ว่ามาทั้งหมดนั้นไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นครับ
ตอนแรกนึกว่าต้องจ่ายค่าขนส่งของซะอีก
จะเห็นได้ว่ากระบวนการทั้งผมใช้เวลาแค่วันกว่าๆ ผมก็ได้ของคืนแล้วครับ น่าประทับใจมากๆ
เจ้าหน้าที่ทุกคนพูดจาดี ให้การช่วยเหลือผมเป็นอย่างดี ขอขอบคุณทุกคนอีกครั้งครับ
อยากฝากเป็นข้อคิดเล็กๆน้อยๆ
1.อย่าเพิ่งยอมแพ้ถ้ายังพยายามไม่สุดครับ ถ้าผมยอมแพ้ตั้งแต่แรกตามเพื่อนว่า ผมคงไม่ได้ของคืนแล้ว
2.ภาษาอังกฤษสำคัญมากครับ ถ้าผมพูดอังกฤษไม่ได้ ไม่ได้ลองติดต่อสนามบินเองผมอาจจะไม่ได้ของคืน
3. ข้อนี้สำคัญสุดและเป็นใจความของกระทู้นี้เลย
เกือบทุกสายการบินมีบริการแบบนี้ครับ ลืมของไว้ต่างประเทศติดต่อสายการบินที่โดยสารมาก่อนเลย อย่าเพิ่งถอดใจ
ซึ่งอันนี้เป็นความรู้ใหม่ที่ผมเพิ่งทราบตอนเจอกับตัวนี้แหละ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่เข้ามาอ่านทุกคนในอนาคตนะครับ
ถ้าเจ้าหน้าที่สายการบินผ่านมาเห็น โพสข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ในนี้ก็ดีนะครับ ของผมอาจจะไม่ถูกซักทีเดียยว
คนมาอ่านต่อๆไปจะได้ได้ประโยชน์ไปด้วย
ถ้าชอบใจช่วยกันดันหน่อยนะครับ สวัสดีครับ