คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ลองดูการเหน็บพระเพทราชาแบบแยบคายของ อ.ศัลยา ดูนะครับ จะรู้ว่า อ. เขากำลังสื่อถึงความขัดแย้งของฝ่ายหัวก้าวหน้ากับฝ่ายอนุรักษ์นิยม ดังนั้น คนดูที่เป็นพวกหัวก้าวหน้าจะชอบพระนารายณ์ ส่วนคนดูที่เป็นพวกอนุรักษ์นิยม ก็จะมองว่าพระเพทราชาทำถูกแล้ว บทมันสะท้อนตัวตนของผู้ดูด้วยส่วนหนึ่ง ออกแนวจิตวิทยานิดๆ
ฉากปะทะคารมระหว่างพระเพทราชากับพระนารายณ์ฉากแรก จะเห็นว่า พระเพทราชาผิดเต็มๆ ผมว่าเกินครึ่งของคนดูน่าจะคิดแบบเดียวกัน พระเพทราชาไม่ฟังอีร้าค่าอีรม คิดเองเออเอง เอาอคติเป็นที่ตั้ง ถ้าผู้เขียนบทเข้าข้างพระเพทราชาจริง ฉากนี้คงไม่ออกมาแนวนี้แน่นอน
แต่ละฉากที่พระเพทราชาเข้าปรามาสพระนารายณ์ ล้วนแต่เป็นพระเพทราชาเอง ที่เอาอคติเป็นที่ตั้ง เช่น ฉากพระปีย์เข้ารีดพวกฝรั่ง ฉากนี้ พอพระเพทราชาบ่นเสร็จแล้วเดินออกไป ผู้เขียนก็วางบทให้พระนารายณ์หันไปต่อว่าพระปีย์อีกต่อหนึ่ง ทำให้รู้ว่า พระเพทราชาคิดไปเองล้วนๆ
ประเด็นคือ ละครเรื่องนี้ ไม่ไปแตะฉากการสังหารพระญาติวงศ์คนอื่นๆ โดยพระเพทราชา บางคนเลยคิดว่าผู้เขียนเข้าข้างพระเพทราชา แต่ที่จริงไม่ใช่ คือถ้าจะจับประเด็นหรือสร้างฉากการสังหารนั้นเพิ่มขึ้นอีก เนื้อเรื่องมันก็จะจริงจังและเครียดเกินไป มันไม่ใช่โทนของละครเรื่องนี้แต่แรกนั่นเอง
ฉากปะทะคารมระหว่างพระเพทราชากับพระนารายณ์ฉากแรก จะเห็นว่า พระเพทราชาผิดเต็มๆ ผมว่าเกินครึ่งของคนดูน่าจะคิดแบบเดียวกัน พระเพทราชาไม่ฟังอีร้าค่าอีรม คิดเองเออเอง เอาอคติเป็นที่ตั้ง ถ้าผู้เขียนบทเข้าข้างพระเพทราชาจริง ฉากนี้คงไม่ออกมาแนวนี้แน่นอน
แต่ละฉากที่พระเพทราชาเข้าปรามาสพระนารายณ์ ล้วนแต่เป็นพระเพทราชาเอง ที่เอาอคติเป็นที่ตั้ง เช่น ฉากพระปีย์เข้ารีดพวกฝรั่ง ฉากนี้ พอพระเพทราชาบ่นเสร็จแล้วเดินออกไป ผู้เขียนก็วางบทให้พระนารายณ์หันไปต่อว่าพระปีย์อีกต่อหนึ่ง ทำให้รู้ว่า พระเพทราชาคิดไปเองล้วนๆ
ประเด็นคือ ละครเรื่องนี้ ไม่ไปแตะฉากการสังหารพระญาติวงศ์คนอื่นๆ โดยพระเพทราชา บางคนเลยคิดว่าผู้เขียนเข้าข้างพระเพทราชา แต่ที่จริงไม่ใช่ คือถ้าจะจับประเด็นหรือสร้างฉากการสังหารนั้นเพิ่มขึ้นอีก เนื้อเรื่องมันก็จะจริงจังและเครียดเกินไป มันไม่ใช่โทนของละครเรื่องนี้แต่แรกนั่นเอง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
หลายตอนก็แสดงออกมาให้เห็นว่าพระเพทราชาเทามากๆ นะครับ แม้กระทั่งหลวงสรศักดิ์นี่ก็ชัดเจนเลยว่าเทากว่าพระเพทราชาอีก เช่น
1. ตอนที่พระนารายณ์ย้อนถามพระเพทราชาทำนองว่าฟอลคอนโกง แล้วเอ็งไม่โกงเหรอ พระเพทก็เงียบปากไป แสดงว่าพระเพทในเรื่องก็ใช่ย่อยอยู่
2. ยืนเถียงพระเจ้าแผ่นดินแบบไม่ลดราวาศอก ไม่พอใจก็สะบัดบ๊อบใส่ จนพระนารายณ์ทรงเรียกกลับให้มาถวายบังคม
3. หน้าตาแสดงความเกรี้ยวกราดทั้งเรื่อง
4. พูดปกป้องฮอลันดาอย่างชัดเจน
5. หลวงสรศักดิ์กระโดดต่อยฟอลคอน แม้แต่พระนารายณ์ก็ทำอะไรไม่ได้
6. หลวงสรศักดิ์จะฟันฟอลคอนทิ้งทันที ไม่ยอมให้พบตองกีร์มาร์ และตะคอกโกษาปานว่าได้ดีเพราะฟอลคอน
ผมว่าบุพเพสันนิวาสแสดงให้ผู้ชมได้เห็นค่อนข้างชัดเจนว่า พระเพทราชาและพระเจ้าเสือนั้นมีความคิดเช่นไร อย่างชัดเจนครับ
ส่วนฟอลคอนนี้เทาและกลับไปกลับมาได้ชัดเจน เนื่องจากเป็นคนต่างชาติ ต้องทำทุกอย่างให้อำนาจอยู่ในมือ แต่ก็มีแง่มุมที่ดีบ้าง เช่น ฉากแฟลชแบ็คตอนแรกๆ ที่ทำงานกับท่านโกษาเหล็ก ฉากที่ไม่เอาโทษเด็กที่วิ่งไปชน และความรักที่มีต่อตองกีมาร์ แต่อย่างไรก็ดีฟอลคอนถูกวางไว้เป็นผู้ชั่วร้ายอย่างชัดเจนแบบไม่ต้องสงสัย เพราะเป็นบุคคลเดียวที่นางเอกเฉลยตรงๆ เลยว่าเป็นภัยกับสยาม โดยเปิดเผยจดหมายที่เขียนถึงบาทหลวง ซึ่งมีแต่คนโปรตุเกสเท่านั้นที่รู้ และจดหมายนี้ก็เก็บไว้ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติของฝรั่งเศส เกดสุรางค์ได้เฉลยประวัติศาสตร์ที่พบในโลกอนาคต จนเกือบทำในสิ่งที่เรียกว่า Loop แล้ว แต่สุดท้ายละครก็เฉลยจากปากพระเพทราชาทำนองว่า ไม่สนหรอกว่าจดหมายจะมีจริงหรือไม่ แต่ถ้าใครพูดว่าฟอลคอนเลว แค่นั้นก็เพียงพอที่จะกำจัดทิ้งทันทีอยู่แล้ว นั้นหมายความว่าแม้จะไม่มีการเฉลยจดหมายดังกล่าว พระเพทราชาก็คงจัดให้ฟอลคอนอยู่แล้ว
อนึ่ง ละครคือละครครับ ไม่มีใครรู้ว่าข้อเท็จจริงทางปวศ. เป็นอย่างไร
1. ตอนที่พระนารายณ์ย้อนถามพระเพทราชาทำนองว่าฟอลคอนโกง แล้วเอ็งไม่โกงเหรอ พระเพทก็เงียบปากไป แสดงว่าพระเพทในเรื่องก็ใช่ย่อยอยู่
2. ยืนเถียงพระเจ้าแผ่นดินแบบไม่ลดราวาศอก ไม่พอใจก็สะบัดบ๊อบใส่ จนพระนารายณ์ทรงเรียกกลับให้มาถวายบังคม
3. หน้าตาแสดงความเกรี้ยวกราดทั้งเรื่อง
4. พูดปกป้องฮอลันดาอย่างชัดเจน
5. หลวงสรศักดิ์กระโดดต่อยฟอลคอน แม้แต่พระนารายณ์ก็ทำอะไรไม่ได้
6. หลวงสรศักดิ์จะฟันฟอลคอนทิ้งทันที ไม่ยอมให้พบตองกีร์มาร์ และตะคอกโกษาปานว่าได้ดีเพราะฟอลคอน
ผมว่าบุพเพสันนิวาสแสดงให้ผู้ชมได้เห็นค่อนข้างชัดเจนว่า พระเพทราชาและพระเจ้าเสือนั้นมีความคิดเช่นไร อย่างชัดเจนครับ
ส่วนฟอลคอนนี้เทาและกลับไปกลับมาได้ชัดเจน เนื่องจากเป็นคนต่างชาติ ต้องทำทุกอย่างให้อำนาจอยู่ในมือ แต่ก็มีแง่มุมที่ดีบ้าง เช่น ฉากแฟลชแบ็คตอนแรกๆ ที่ทำงานกับท่านโกษาเหล็ก ฉากที่ไม่เอาโทษเด็กที่วิ่งไปชน และความรักที่มีต่อตองกีมาร์ แต่อย่างไรก็ดีฟอลคอนถูกวางไว้เป็นผู้ชั่วร้ายอย่างชัดเจนแบบไม่ต้องสงสัย เพราะเป็นบุคคลเดียวที่นางเอกเฉลยตรงๆ เลยว่าเป็นภัยกับสยาม โดยเปิดเผยจดหมายที่เขียนถึงบาทหลวง ซึ่งมีแต่คนโปรตุเกสเท่านั้นที่รู้ และจดหมายนี้ก็เก็บไว้ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติของฝรั่งเศส เกดสุรางค์ได้เฉลยประวัติศาสตร์ที่พบในโลกอนาคต จนเกือบทำในสิ่งที่เรียกว่า Loop แล้ว แต่สุดท้ายละครก็เฉลยจากปากพระเพทราชาทำนองว่า ไม่สนหรอกว่าจดหมายจะมีจริงหรือไม่ แต่ถ้าใครพูดว่าฟอลคอนเลว แค่นั้นก็เพียงพอที่จะกำจัดทิ้งทันทีอยู่แล้ว นั้นหมายความว่าแม้จะไม่มีการเฉลยจดหมายดังกล่าว พระเพทราชาก็คงจัดให้ฟอลคอนอยู่แล้ว
อนึ่ง ละครคือละครครับ ไม่มีใครรู้ว่าข้อเท็จจริงทางปวศ. เป็นอย่างไร
แสดงความคิดเห็น
บุพเพสันนิวาส เลือกข้าง เอียงจริงหรือ
ฉากทศพิธราชธรรม พระเพทราชาฟังอย่างตั้งใจ(ที่จะเป็น) ในขณะที่หลวงสรศักดิ์เหลือบมองพ่อเลี้ยงแบบชั่งใจ
ฉากเพนียด พระเพทราชากล่าวว่าต้องกำจัดฝ่ายตรงข้ามให้หมด (รวมถึงผู้มีสิทธิ์ชอบธรรมในราชสมบัติทุกคน)
ฉากหารือในโบถส์ พระเพทราชากล่าวเหตุผลยั่วยุพระสังฆราช แม้ท่านตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่พระพักตร์ถูกบังด้วยฉากและไฟ (คิดว่า ฉากไม้แทนการถูกปิดกั้น และไฟแทนความโกรธ) และเมื่อเจ้าฟ้าศรีสุพรรณและเจ้าฟ้าสุดาวดีมาร่วมด้วย ทั้งสองพระองค์มีม่านกั้น (ทั้งสองพระองค์ยังมิได้เห็นกระจ่างแจ้ง เห็นเพียงสิ่งที่พระเพทราชาอยากให้เห็นไม่ใช่ทั้งหมด ) มีเพียงพระเพทราชาและหลวงสรศักดิ์ เปิดหน้ารู้ไส้รู้พุงกัน
ฉากเรือนขุนปาน พระเพทราชาพูดจาหว่านล้อมแกมบังคับให้ขุนปานร่วมด้วย
พระโหราธิบดีถึงแก่อนิจกรรม พระเอกจำต้องพาครอบครัวให้รอด (ในนิยาย นางเอกไม่เห็นด้วย แต่โล่งใจว่าผัวเลือกถูกฝั่ง)
เท่าที่ดู พระเพทราชา ไม่ได้สีเทาน้อยไปกว่าฟอลคอนเลย ค่อนข้างจะเลือดเย็นมากกว่าด้วยซ้ำ