บทความจาก
Chris To Go
http://christogo.blogspot.com/2018/04/truemove-h-facebook-46000.html
เมื่อ สองสามวันที่ผ่านมา ประชาชนทั่วโลกได้ดู Congressional Hearing ที่สภาของสหรัฐตั้งคำถาม กับ มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก CEO บริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ในประเด็นเรื่องการที่บริษัทอาจมีเจตนาหรือ ความประมาทเลินเล่อในการดูแลข้อมูลผู้ใช้บริการของตนอย่างเพียงพอ จนทำให้ Cambridge Analytica เอาข้อมูลผู้ใช้มากกว่า 87 ล้านราย ไปหาผลประโยชน์ทางการเมือง การไต่สวนครั้งนี้ทำถ่ายทอดสดให้คนทั่วโลกได้ชมถึงวันละ 5 ชม 2 วันเต็มๆ คือ พี่มาร์ก เจ้าของเฟซบุ้กเจอตัวแทนของประชาชนสหรัฐซักจนอ่วมอรทัยละเจ้าค่ะ
กลับมามองบ้านเรากันบ้าง หลายคนอาจมองว่า เรื่องพวกนี้ห่างไกลประเทศไทย เพราะเราไม่มีบริษัทไอทีใหญ่ๆแบบนั้น แต่เราหารู้ไม่ว่า เรามีบริษัทขนาดใหญ่ที่เก็บข้อมูลของประชาชนไปจำนวนมหาศาลเช่นกัน (บางบริษัทยังเอาข้อมูลประชาชนไปขายอีกต่างหาก ทั้งประกันเอย บัตรเครดิตเอย) เช่น ธนาคาร สถาบันการเงิน หรือแม้แต่ บริษัทโทรคมนาคมที่ให้บริการโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ต
เมื่อวานนี้เวปไซต์ข่าวดัง theregister.co.uk ลงข่าวว่า ทรูมูฟ เอช ทำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการจำพวก สำเนาประชาชนบัตรประชาชนและPassport รั่วถึง 46,000 ราย หรือประมาณ 32 GB
สิ่งที่เกิดขึ้น คือ ตัวimage scanned copy เหล่านี้ ซึ่งน่าจะเป็น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและพาสปอร์ต ของลูกค้าทรูได้ถูกอัพโหลดขึ้นไปใน Web Services S3 cloud storage bucket ของ Amazon โดยไม่แน่ชัดว่าบริษัทจงใจหรือประมาทเลินเล่อ แต่ที่แน่ชัดคือ ข้อมูลเหล่านี้สาธารณชนไม่ว่าใครก็ตามในโลกอินเตอร์เน็ตสามารถเข้าถึงได้หรือดาวโหลดมาเก็บไว้ได้ โดยข้อมูลถูกจัดเรียงอย่างเรียบร้อยมีชื่อไฟล์เป็นวันเดือนปี ชัดเจน
นี่มันเท่ากับ ทรู เอาIDคน 46,000 มาเปิดหน้าโจ๋งครึมบนโลกอินเตอร์เน็ต
ถามว่า ข้อมูลบัตรประชาชน เอาไปทำอะไรได้บ้าง (ยิ่งปัจจุบันที่เป็นsmartcard ด้วยแล้ว) ผมจะลองไล่ๆ ให้ฟัง
1.เปิดบัญชีธนาคาร
2.เปิดเบอร์โทรศัพท์มือถือ
3.ติดต่อราชการ สารพัด
4.ยืนยันตัวบุคคลรับเงินได้
5.สืบหาทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ว่า มีอะไร ตรงไหนบ้าง
6.สืบหาหนี้สินทั้งหมด โดยเชื่อมกับเครดิตบูโร
7.คนที่ได้ไปจะรู้แม้แต่ค่าน้ำ ค่าไฟค้างชำระของเจ้าของบัตร
ทั้งหมดนี้ แค่เอาบัตรไปเปิดมือถือทำOTP โอนตังก็ซวยแล้ว (ดังที่มีข่าว เมื่อสองปีที่ผ่านมา)
หายนะ! เบอร์โทร.+บัตรประชาชน ข้อมูลรั่ว เงินหายเฉียดล้านในพริบตา!!
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9590000083749
ที่มันตลกกว่านั้นคืออะไรรู้มั้ยครับ ในเรื่องนี้ มีพลเมืองดีที่ชื่อว่า ไนแอล เมอริแกน เค้าพยายามจะแจ้งไปทางทวิตเตอร์ของทรู ว่า เฮ้ยๆ ทำกระป๋องข้อมูลล่วงน่ะ
อ่านต่อ:
http://christogo.blogspot.com/2018/04/truemove-h-facebook-46000.html
TRUEMOVE H ไม่น้อยหน้า Facebook ทำข้อมูลบัตรประชาชนลูกค้ารั่ว 46,000 ราย >0<
http://christogo.blogspot.com/2018/04/truemove-h-facebook-46000.html
เมื่อ สองสามวันที่ผ่านมา ประชาชนทั่วโลกได้ดู Congressional Hearing ที่สภาของสหรัฐตั้งคำถาม กับ มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก CEO บริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ในประเด็นเรื่องการที่บริษัทอาจมีเจตนาหรือ ความประมาทเลินเล่อในการดูแลข้อมูลผู้ใช้บริการของตนอย่างเพียงพอ จนทำให้ Cambridge Analytica เอาข้อมูลผู้ใช้มากกว่า 87 ล้านราย ไปหาผลประโยชน์ทางการเมือง การไต่สวนครั้งนี้ทำถ่ายทอดสดให้คนทั่วโลกได้ชมถึงวันละ 5 ชม 2 วันเต็มๆ คือ พี่มาร์ก เจ้าของเฟซบุ้กเจอตัวแทนของประชาชนสหรัฐซักจนอ่วมอรทัยละเจ้าค่ะ
กลับมามองบ้านเรากันบ้าง หลายคนอาจมองว่า เรื่องพวกนี้ห่างไกลประเทศไทย เพราะเราไม่มีบริษัทไอทีใหญ่ๆแบบนั้น แต่เราหารู้ไม่ว่า เรามีบริษัทขนาดใหญ่ที่เก็บข้อมูลของประชาชนไปจำนวนมหาศาลเช่นกัน (บางบริษัทยังเอาข้อมูลประชาชนไปขายอีกต่างหาก ทั้งประกันเอย บัตรเครดิตเอย) เช่น ธนาคาร สถาบันการเงิน หรือแม้แต่ บริษัทโทรคมนาคมที่ให้บริการโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ต
เมื่อวานนี้เวปไซต์ข่าวดัง theregister.co.uk ลงข่าวว่า ทรูมูฟ เอช ทำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการจำพวก สำเนาประชาชนบัตรประชาชนและPassport รั่วถึง 46,000 ราย หรือประมาณ 32 GB
สิ่งที่เกิดขึ้น คือ ตัวimage scanned copy เหล่านี้ ซึ่งน่าจะเป็น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและพาสปอร์ต ของลูกค้าทรูได้ถูกอัพโหลดขึ้นไปใน Web Services S3 cloud storage bucket ของ Amazon โดยไม่แน่ชัดว่าบริษัทจงใจหรือประมาทเลินเล่อ แต่ที่แน่ชัดคือ ข้อมูลเหล่านี้สาธารณชนไม่ว่าใครก็ตามในโลกอินเตอร์เน็ตสามารถเข้าถึงได้หรือดาวโหลดมาเก็บไว้ได้ โดยข้อมูลถูกจัดเรียงอย่างเรียบร้อยมีชื่อไฟล์เป็นวันเดือนปี ชัดเจน
นี่มันเท่ากับ ทรู เอาIDคน 46,000 มาเปิดหน้าโจ๋งครึมบนโลกอินเตอร์เน็ต
ถามว่า ข้อมูลบัตรประชาชน เอาไปทำอะไรได้บ้าง (ยิ่งปัจจุบันที่เป็นsmartcard ด้วยแล้ว) ผมจะลองไล่ๆ ให้ฟัง
1.เปิดบัญชีธนาคาร
2.เปิดเบอร์โทรศัพท์มือถือ
3.ติดต่อราชการ สารพัด
4.ยืนยันตัวบุคคลรับเงินได้
5.สืบหาทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ว่า มีอะไร ตรงไหนบ้าง
6.สืบหาหนี้สินทั้งหมด โดยเชื่อมกับเครดิตบูโร
7.คนที่ได้ไปจะรู้แม้แต่ค่าน้ำ ค่าไฟค้างชำระของเจ้าของบัตร
ทั้งหมดนี้ แค่เอาบัตรไปเปิดมือถือทำOTP โอนตังก็ซวยแล้ว (ดังที่มีข่าว เมื่อสองปีที่ผ่านมา)
หายนะ! เบอร์โทร.+บัตรประชาชน ข้อมูลรั่ว เงินหายเฉียดล้านในพริบตา!!
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9590000083749
ที่มันตลกกว่านั้นคืออะไรรู้มั้ยครับ ในเรื่องนี้ มีพลเมืองดีที่ชื่อว่า ไนแอล เมอริแกน เค้าพยายามจะแจ้งไปทางทวิตเตอร์ของทรู ว่า เฮ้ยๆ ทำกระป๋องข้อมูลล่วงน่ะ
อ่านต่อ: http://christogo.blogspot.com/2018/04/truemove-h-facebook-46000.html