เป้าหมายในทริปแรกปีนี้ 2018 เราเลือกจาก ระยะทางไม่ไกล (มาก) อยากชิมติ่มซำ อยากเดินดูของช๊อป. ไหว้พระชื่อดัง.
พยายามนั่งนึกถึงหนังฮ่องกงสมัยเด็ก. ที่เป็นที่คุ้นหู คือ จิมซาจุ่ย หม่งก๊ก. เหยาหม่าเต้ย. ก็ไม่รอช้าจัดการจองสายการบิน Air Asia สายการบินแห่งเอเซีย.
โปรแกรมสำหรับ ทริปนี้
เริ่มจาก ย่านที่เราพักคือ จิมซาจุ่ย. เป็นย่านที่เหมาะหลายๆอย่างด้วยประการทั้งปวง
เราเลือกพักโรงแรม imperial ชื่อค่อนข้างหรู. ราคาหรู. แต่ห้องพักธรรมดา.
เราวางแผนที่จะเที่ยวฮ่องกง 3 คืนและมาเก๊า 1 คืน.
และพักที่มาเก๊าที่ Old London Hotel แถวใกล้ๆกับซากโบสถ์เซ้นต์ปอล์ล
จากนั้นเราวางโปรแกรม
15/3. ออกจากดอนเมือง บ่าย 3 ถึง 1 ทุ่มใช้เวลาเดินทาง 2 ชม นิดๆ บวกกับเวลาฮ่องกงเร็วกว่าไทย 1 ชม.
16/3
- เยือนนองปิง. ไหว้พระใหญ่เทียนถาน
- มาวัดหวังต้าเซียน คิดจะบวก วัดแชกงเมี้ยว
( ยังกะโปรแกรมทัวร์มาตรฐานเลย )
17/3 ยังงง อยู่ว่าจะไปไหน
18/3 เดินทางไปมาเก๊า. เที่ยว เวเนเซีย. เยือนในยามค่ำซากโบสถ์เซ็นต์ปอล
19/3. มาวัดอาม่า. แล้วกลับ ฮ่องกง
20/3. เก็บตก. และเดินทางกลับตอน 4 ทุ่ม
15/3/2018
เราออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองมาลงที่สนามบิน เช็คแลปก๊อก. ใช้เวลาเดินทาง. 2:00 กว่า ๆ
สนามบินเช็คแล๊ปก๊อก เป็นสนามบินที่สร้างจากการถมทะเลบริเวณฝั่งเกาลูน. เปิดใช้งานเมื่อปี 2541
เป็นสนามบินค่อนข้างทันสมัยมี 2 เทอร์มินัล. เชื่อมต่อกันด้วยรถไฟฟ้า ในความเห็นของผม สนามบินแห่งนี้น่าจะเป็นยุทธศาสตร์การบินแรกๆของภูมิภาคนี้เลย และน่าจะเป็นต้นแบบของสนามบินชางยี สิงค์โปร์
การผ่านตรวจคนเข้าเมืองก็รวดเร็ว. ไม่ชักช้า นักท่องเที่ยวคนไหนมีปัญหาก็มีทีมงาน support
หลังจากผ่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว. ก็มาขึ้นรถเข้าเมือง เราเลือกเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน ราคา 210 HKD คิดเป็นเงินไทย 900บาท ถือว่าแพงมาก ใช้เวลา 30 นาทีโดยประมาณ. ผมขอแนะนำท่านที่ไม่รีบมาก ใช้รถเมล์ดีกว่า ถ้าจะมา จิมซาจุ่ย ก็ขึ้น A21 สะดวกสบาย.เหมือนรถโค๊ช. แต่ถ้าท่านที่มามากกว่า 2คนขึ้นไป ไม่อยากนั่งรถเมล์ แนะนำแท๊กซี่ ราคาประมาณ 300-400HKD ถ้ามากัน 3 คนก็คนละ 100 HKD.
เรานั่งรถไฟมาสุดที่สถานี Hongkong ต้องเปลี่ยนมาขึ้นสายสีแดง. ไปจิมซาจุ่ย. ถึงแม้จะมีทางเดินเชื่อมสะดวกแต่ก็ไกลพอดู.
เราใช้บัตรอเนกประสงค์ Octopus ซื้อได้ที่สถานีรถไฟใต้ดินหรือ 7-11 ผ่านขึ้นรถไฟใต้ดินซึ่งถ้าใครไปวันธรรมดาตอนเย็น คนจะแน่นมาก. เรานั่งมาลง สถานี จิมซาจุ่ย เดินหาโรงแรมไปมา สุดท้ายอยู่ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟนี่เอง.
เราจัดการเข้าที่พัก ชื่อหรู Imperial Hotel. ราคาก็สุดหรูแต่. ตัวโรงแรมกว้างเท่ากับห้องแถว 2ห้อง. ลึกเข้าไป. ก็เข้าใจได้ที่มันแพง. ห้องพักก็สุดธรรมดาเหมือนราคา 950 ใน กทม แต่ก็เอาเถอะครับ. โรงแรมที่ห้องพักดีในย่านนี้ค่อนข้างแพงมีไม่กี่โรงแรม. ถ้ามีเวลาจองนานๆก็แนะนำ BP international Hotel ราคากลางๆห้องพักดี.
จัดการอะไรอะไรเรียบร้อยแล้วด้วยเวลา 3ทุ่ม แล้วเราออกไปย่ำราตรีหาของกินกัน. เราเลือกที่จะเดินย้อนขึ้นไปทางหม่งก๊ก จบที่สถานีรถไฟฟ้า จอร์แดนซึ่งเป็นสถานีก่อนถึงสถานีจิมซาจุ่ย 1 สถานี.
ตลาดกลางคืนที่นี่ค่อนข้างคึกคัก นักท่องเที่ยวจีน ไทย มากมาย. มื้อแรกของเราที่ฮ่องกงคือ ผัดหมี่ซีอิ้วแบบปีนังเลย. Cha Keawteaw ปลาเก๋านึ่งซีอิ้ว. (ม่ายค่อยสุก) และก็ผัดผัก. จบด้วยราคา 300กว่า HKD แต่อย่กบอกว่า ปลาเก๋าสดจริงๆ. เนื้อหวาน.
เราเดินย่อย แอบชิม ขนมครกฮ่องกง. แล้วกลับที่พักอาบน้ำนอน. ตอนนั้นก็ปาไป ตี1กว่าๆ
16/3/2018
ตื่นเช้าตาทแบบโปรแกรมทัวร์ 6-7-8 แต่ของเรา 7-8-9 คือ 7 ลืมตา 8 ขยับตัว. อาบน้ำ 9 ออกไปกินข้าว. อาหารมื้อที่ 2 เราเลือกชิมโจ๊กฮ่องกงที่ใครๆมา จิมซาจุ่ย ต้องรีวิว. มาถึงที่ร้าน 1 ห้องแถวเก่าๆ คน(ไทย)เต็มร้านเลย และน่าจะรุ่งเรืองได้เพราะขายมห้กะคนไทย. จนเจ้าของร้านพูดภาษาไทยได้คล่อง เราสั่ง โจ๊กมา 3 ถ้วย มีแบบใส่เป๋าฮื้อ หมู และ ทะเล กับปาท่องโก๊ 2ตัว.
โจ๊กร้านนี้บอกได้คำเดียว. หม่าม่ายแหลก เจี๊ยบ่อเลาะ. โจ๊กค่อนข้างใส เนื้อข้าวแทบไม่เป็นเนื้อข้าวเลย เหมือนน้ำข้าวมากกว่า. ปาท่องโก๊ก็ยอกได้คำเดียว มันชิบเลย. โจ๊กมัลลิกาอร่อยกว่า. สนนราคาค่ารีวิวไป 180 HKD ก็ 500กว่าบาท. แม่รู้ตีตายเลย.
เรากินกันเสร็จก็เดินทางไปNong Ping 360องศา จากสถานีรถไฟฟ้า จิมซาจุ่ย สายสีแดง ไปต่อสายสีเขียวที่สถานี Lai king(8 สถานีมั้ง ) ต่อสายสีส้มจนถึงสถานี Tungchun . (คนเยอะเพราะเป็นเส้นทางเดียวกันกับไป Disney land Hongkong
จุดขายของที่นี่คือกระเช้าแบบพื้นกระจก. เราก็ไม่พลาด และเพื่อไม่ให้เสียเวลา เราจองมาก่อนเดินทางด้วยราคา. 290 HKD สุดเหลือจะแพง.
แต่วิวที่เห็นก็พอได้นะครับ.
ภาพไกลๆที่เราจะเห็นคือพระพุทธรูปเทียนถาน. ทำให้นึกถึงหนังเรื่องไซอิ้ว ตีลังกาบนเมฆเพื่อมาเฝ้าพระยูไล.
เรานั่งกระเช้ามาประมาณ 30 นาที ก็ถึงหมู่บ้าน Nong Ping จริงๆแล้วก็มีเส้นทางเดินเขาเพื่อไป Nong Ping สำหรับคนที่ชอบแบบ adventure และมีเวลาพอ. วันที่เราไปก็ยังมีทีม. Runing trail วิ่งมา
พระพุทธรูปเทียนถานเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ สูง 34 ฟุต ที่ฐานพระพุทธรูปเป็นที่เก็บป้ายวิญญาณคนตาย. มีหลายคนมาก. เข้าใจว่าต้องจ่ายเงินค่อนข้างแพง.
จบจากสักการะแล้วเราเดินมาที่วัดโปหลิน เป็นวัดที่อยู่ในNnong Ping ฝั่งตรงข้ามกับพระพุทธรูปเทียนถาน.
เราเข้าไปสักการะพระพุทธรูป 3 องค์ พระโคตมพระพุทธเจ้า พระอมิตาภพุทธะ และ พระไภษัชยคุรุพุทธะ. ( เค้าไม่ให้ถ่ายภายในอุโบสถ)
เราเดินย้อนกลับมาทางกระเช้าลอยฟ้า. ได้เวลาเที่ยงเราเลือกที่จะไปกินข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารเสฉวนใกล้วัดหวังไท้ซิน.
รสชาติก็แปลกๆดี. แต่สู้ร้านหย่งเหอที่ สีลม แยกนราธิวาสไม่ได้. อร่อยกว่าเยอะ
จากนั้นเราเดินไปอีกซัก 400 เมตรก็จะถึงวัดหวังไท้ซี.
ฮ่องกง มาเก๊า. มีเรา มีเธอ.
พยายามนั่งนึกถึงหนังฮ่องกงสมัยเด็ก. ที่เป็นที่คุ้นหู คือ จิมซาจุ่ย หม่งก๊ก. เหยาหม่าเต้ย. ก็ไม่รอช้าจัดการจองสายการบิน Air Asia สายการบินแห่งเอเซีย.
โปรแกรมสำหรับ ทริปนี้
เริ่มจาก ย่านที่เราพักคือ จิมซาจุ่ย. เป็นย่านที่เหมาะหลายๆอย่างด้วยประการทั้งปวง
เราเลือกพักโรงแรม imperial ชื่อค่อนข้างหรู. ราคาหรู. แต่ห้องพักธรรมดา.
เราวางแผนที่จะเที่ยวฮ่องกง 3 คืนและมาเก๊า 1 คืน.
และพักที่มาเก๊าที่ Old London Hotel แถวใกล้ๆกับซากโบสถ์เซ้นต์ปอล์ล
จากนั้นเราวางโปรแกรม
15/3. ออกจากดอนเมือง บ่าย 3 ถึง 1 ทุ่มใช้เวลาเดินทาง 2 ชม นิดๆ บวกกับเวลาฮ่องกงเร็วกว่าไทย 1 ชม.
16/3
- เยือนนองปิง. ไหว้พระใหญ่เทียนถาน
- มาวัดหวังต้าเซียน คิดจะบวก วัดแชกงเมี้ยว
( ยังกะโปรแกรมทัวร์มาตรฐานเลย )
17/3 ยังงง อยู่ว่าจะไปไหน
18/3 เดินทางไปมาเก๊า. เที่ยว เวเนเซีย. เยือนในยามค่ำซากโบสถ์เซ็นต์ปอล
19/3. มาวัดอาม่า. แล้วกลับ ฮ่องกง
20/3. เก็บตก. และเดินทางกลับตอน 4 ทุ่ม
15/3/2018
เราออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองมาลงที่สนามบิน เช็คแลปก๊อก. ใช้เวลาเดินทาง. 2:00 กว่า ๆ
สนามบินเช็คแล๊ปก๊อก เป็นสนามบินที่สร้างจากการถมทะเลบริเวณฝั่งเกาลูน. เปิดใช้งานเมื่อปี 2541
เป็นสนามบินค่อนข้างทันสมัยมี 2 เทอร์มินัล. เชื่อมต่อกันด้วยรถไฟฟ้า ในความเห็นของผม สนามบินแห่งนี้น่าจะเป็นยุทธศาสตร์การบินแรกๆของภูมิภาคนี้เลย และน่าจะเป็นต้นแบบของสนามบินชางยี สิงค์โปร์
การผ่านตรวจคนเข้าเมืองก็รวดเร็ว. ไม่ชักช้า นักท่องเที่ยวคนไหนมีปัญหาก็มีทีมงาน support
หลังจากผ่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว. ก็มาขึ้นรถเข้าเมือง เราเลือกเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน ราคา 210 HKD คิดเป็นเงินไทย 900บาท ถือว่าแพงมาก ใช้เวลา 30 นาทีโดยประมาณ. ผมขอแนะนำท่านที่ไม่รีบมาก ใช้รถเมล์ดีกว่า ถ้าจะมา จิมซาจุ่ย ก็ขึ้น A21 สะดวกสบาย.เหมือนรถโค๊ช. แต่ถ้าท่านที่มามากกว่า 2คนขึ้นไป ไม่อยากนั่งรถเมล์ แนะนำแท๊กซี่ ราคาประมาณ 300-400HKD ถ้ามากัน 3 คนก็คนละ 100 HKD.
เรานั่งรถไฟมาสุดที่สถานี Hongkong ต้องเปลี่ยนมาขึ้นสายสีแดง. ไปจิมซาจุ่ย. ถึงแม้จะมีทางเดินเชื่อมสะดวกแต่ก็ไกลพอดู.
เราใช้บัตรอเนกประสงค์ Octopus ซื้อได้ที่สถานีรถไฟใต้ดินหรือ 7-11 ผ่านขึ้นรถไฟใต้ดินซึ่งถ้าใครไปวันธรรมดาตอนเย็น คนจะแน่นมาก. เรานั่งมาลง สถานี จิมซาจุ่ย เดินหาโรงแรมไปมา สุดท้ายอยู่ฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟนี่เอง.
เราจัดการเข้าที่พัก ชื่อหรู Imperial Hotel. ราคาก็สุดหรูแต่. ตัวโรงแรมกว้างเท่ากับห้องแถว 2ห้อง. ลึกเข้าไป. ก็เข้าใจได้ที่มันแพง. ห้องพักก็สุดธรรมดาเหมือนราคา 950 ใน กทม แต่ก็เอาเถอะครับ. โรงแรมที่ห้องพักดีในย่านนี้ค่อนข้างแพงมีไม่กี่โรงแรม. ถ้ามีเวลาจองนานๆก็แนะนำ BP international Hotel ราคากลางๆห้องพักดี.
จัดการอะไรอะไรเรียบร้อยแล้วด้วยเวลา 3ทุ่ม แล้วเราออกไปย่ำราตรีหาของกินกัน. เราเลือกที่จะเดินย้อนขึ้นไปทางหม่งก๊ก จบที่สถานีรถไฟฟ้า จอร์แดนซึ่งเป็นสถานีก่อนถึงสถานีจิมซาจุ่ย 1 สถานี.
ตลาดกลางคืนที่นี่ค่อนข้างคึกคัก นักท่องเที่ยวจีน ไทย มากมาย. มื้อแรกของเราที่ฮ่องกงคือ ผัดหมี่ซีอิ้วแบบปีนังเลย. Cha Keawteaw ปลาเก๋านึ่งซีอิ้ว. (ม่ายค่อยสุก) และก็ผัดผัก. จบด้วยราคา 300กว่า HKD แต่อย่กบอกว่า ปลาเก๋าสดจริงๆ. เนื้อหวาน.
เราเดินย่อย แอบชิม ขนมครกฮ่องกง. แล้วกลับที่พักอาบน้ำนอน. ตอนนั้นก็ปาไป ตี1กว่าๆ
16/3/2018
ตื่นเช้าตาทแบบโปรแกรมทัวร์ 6-7-8 แต่ของเรา 7-8-9 คือ 7 ลืมตา 8 ขยับตัว. อาบน้ำ 9 ออกไปกินข้าว. อาหารมื้อที่ 2 เราเลือกชิมโจ๊กฮ่องกงที่ใครๆมา จิมซาจุ่ย ต้องรีวิว. มาถึงที่ร้าน 1 ห้องแถวเก่าๆ คน(ไทย)เต็มร้านเลย และน่าจะรุ่งเรืองได้เพราะขายมห้กะคนไทย. จนเจ้าของร้านพูดภาษาไทยได้คล่อง เราสั่ง โจ๊กมา 3 ถ้วย มีแบบใส่เป๋าฮื้อ หมู และ ทะเล กับปาท่องโก๊ 2ตัว.
โจ๊กร้านนี้บอกได้คำเดียว. หม่าม่ายแหลก เจี๊ยบ่อเลาะ. โจ๊กค่อนข้างใส เนื้อข้าวแทบไม่เป็นเนื้อข้าวเลย เหมือนน้ำข้าวมากกว่า. ปาท่องโก๊ก็ยอกได้คำเดียว มันชิบเลย. โจ๊กมัลลิกาอร่อยกว่า. สนนราคาค่ารีวิวไป 180 HKD ก็ 500กว่าบาท. แม่รู้ตีตายเลย.
เรากินกันเสร็จก็เดินทางไปNong Ping 360องศา จากสถานีรถไฟฟ้า จิมซาจุ่ย สายสีแดง ไปต่อสายสีเขียวที่สถานี Lai king(8 สถานีมั้ง ) ต่อสายสีส้มจนถึงสถานี Tungchun . (คนเยอะเพราะเป็นเส้นทางเดียวกันกับไป Disney land Hongkong
จุดขายของที่นี่คือกระเช้าแบบพื้นกระจก. เราก็ไม่พลาด และเพื่อไม่ให้เสียเวลา เราจองมาก่อนเดินทางด้วยราคา. 290 HKD สุดเหลือจะแพง.
แต่วิวที่เห็นก็พอได้นะครับ.
ภาพไกลๆที่เราจะเห็นคือพระพุทธรูปเทียนถาน. ทำให้นึกถึงหนังเรื่องไซอิ้ว ตีลังกาบนเมฆเพื่อมาเฝ้าพระยูไล.
เรานั่งกระเช้ามาประมาณ 30 นาที ก็ถึงหมู่บ้าน Nong Ping จริงๆแล้วก็มีเส้นทางเดินเขาเพื่อไป Nong Ping สำหรับคนที่ชอบแบบ adventure และมีเวลาพอ. วันที่เราไปก็ยังมีทีม. Runing trail วิ่งมา
พระพุทธรูปเทียนถานเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ สูง 34 ฟุต ที่ฐานพระพุทธรูปเป็นที่เก็บป้ายวิญญาณคนตาย. มีหลายคนมาก. เข้าใจว่าต้องจ่ายเงินค่อนข้างแพง.
จบจากสักการะแล้วเราเดินมาที่วัดโปหลิน เป็นวัดที่อยู่ในNnong Ping ฝั่งตรงข้ามกับพระพุทธรูปเทียนถาน.
เราเข้าไปสักการะพระพุทธรูป 3 องค์ พระโคตมพระพุทธเจ้า พระอมิตาภพุทธะ และ พระไภษัชยคุรุพุทธะ. ( เค้าไม่ให้ถ่ายภายในอุโบสถ)
เราเดินย้อนกลับมาทางกระเช้าลอยฟ้า. ได้เวลาเที่ยงเราเลือกที่จะไปกินข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารเสฉวนใกล้วัดหวังไท้ซิน.
รสชาติก็แปลกๆดี. แต่สู้ร้านหย่งเหอที่ สีลม แยกนราธิวาสไม่ได้. อร่อยกว่าเยอะ
จากนั้นเราเดินไปอีกซัก 400 เมตรก็จะถึงวัดหวังไท้ซี.