สวัสดีค่าทุกคน หลังจากหยุดปีใหม่ไปหลายวัน ก็ได้เวลาฟื้นคืนชีพแล้ว กระทู้นี้เป็นกระทู้หัดรีวิวของเด็กมือใหม่ ผิดพลาดยังไงติชมกันด้วยนะคะ
ตารางการท่องเที่ยวคร่าวๆค่ะ
30 Dec’16 Bangkok – Hongkong flight 8.50 am. / Symphony of Light
31 Dec’16 Hongkong Disneyland / Celebrate New year 2017
1 Jan’17 Nong Ping 360 cable car/ Nong Ping Village
2 Jan’17 Time to back home flight 12.30 pm.
Day 1 City View
เริ่มกันวันแรก วันนี้ตื่นเช้ามากเลยค่ะเนื่องจากต้องขับรถจากบ้านที่อยุธยา ไปจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบินที่ HX 768 สายการบินHongkong Airline เวลา 08.50 ค่ะ อันดับแรกเมื่อมาถึงสนามบินก็นำกระเป๋ามารอโหลดเป็นอันดับแรกเลยค่ะ เนื่องจากเช็คอินออนไลน์และPrint Boarding Pass มาจากบ้านแล้ว คนค่อนข้างเยอะมาก เนื่องจากเป็นช่วงใกล้ปีใหม่พอดี หลังจากทำการโหลดกระเป๋าเสร็จก็เดินหาอะไรกินอยู่ในสนามบินก่อนขึ้นเครื่องค่ะ
พอได้เวลาขึ้นเครื่องทางแอร์โฮสเตสจะแจกเอกสารให้กรอกคล้ายๆกับเอกสารเข้าเมืองของฮ่องกงค่ะ นั่งเครื่ิองบินไปสักพัก ก็จะมีคนมาเดินแจกอาหารเช้า มีให้เลือกอยู่ 2 อย่างไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร แต่วันนั้นเลือกกินOmelette ไป เพราะง่ายสุดแล้ว หลับๆตื่นๆไปถึงสนามบินก็เกือบๆเที่ยงค่ะ เครื่องบินบินลงจอดไม่ได้ เนื่องจากมีคิวลงจอดจำนวนมาก
มาถึงฮ่องกงกันแล้วอันดับแรก ต้องส่งเอกสารเข้าเมืองก่อนค่ะ โดยนำใบที่แอร์ให้กรอกไว้ไปต่อแถวยื่นที่ช่องตม.พร้อมกับพาสปอร์ตใช้เวลานานเหมือนกันค่ะ นักท่องเที่ยวเยอะมาก หลังจากรับยื่นเอกสาร รับกระเป๋า เราก็รีบมองหาจุดซื้อบัตร Octopus กันเลยค่ะเพราะน่าจะสะดวกที่สุดแล้ว (แลกเงินไปจากที่ไทยค่ะ ประมาณ 60000 บาทไทย ตอนนั้นแลกที่สนามบินเรต 1HKD=4.83 บาทไทยค่ะ) บัตร Octopus ราคาจะอยู่ที่ 150 HKD ค่ะ จะใช้ได้จริง 100 HKD ส่วนอีก 50จะถูกเก็บไว้ในบัตรและจะแลกคืนได้ตอนขากลับ
ได้บัตรกันแล้วก็เดินไปหาจุดขึ้นรถที่ด้านนอกสนามบินค่ะ จะมีป้ายบอกว่าไปCity เราพักย่านซิมซาจุ่ย ก็เลยขึ้นรถบัสสายA21เพื่อไปลงที่นั่น เมื่อมาถึงทีพักก็บ่ายสองกว่าๆแล้วค่ะ รีบเอากระเป๋าไปเก็บแล้วออกมาหาอะไรกิน ย่านจิมซาจุ่ย เป็นย่านที่ค่อนข้างPopular ย่านนึงค่ะ มีที่พัก ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารเป็นจำนวนมาก ถือว่าเลือกที่พักได้ดีเลยทีเดียว
เราจองที่พักมาจากBooking.com ชื่อว่า USA Hostel ราคาตกคืนละ 4500 บาท ทำการเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้วก็ต้องจ่ายเงินมัดจำที่พักราวๆ 300 HKD ค่ะ จะได้รับเงินคืนตอนเช็คเอ้าท์ เก็บกระเป๋าเสร็จแล้ว เตรียมตัวไปหาอะไรกินกันค่ะ ตอนนั้นรู้สึกหนาวๆละ อากาศราวๆ 17 องศา ก็เดินลัดเลาะไปตามถนนหาของกินไปเรื่อยๆ ปรากฎว่าเพื่อนร่วมขบวนการนางอยากกินพิซซ่าค่ะ มื้อแรกที่ฮ่องกงก็เลยเป็นพิซซ่าราคารวมเซ็ตใหญ่ราวๆ 640 HKD แทบช็อคแต่ก็ต้องฝืนใจกินไปค่ะ
รับประทานอาหารกันแล้วได้เวลาไปตะลุยเมืองค่ะ วันแรกเราเลือกจะไปดูSymphony of Light ค่ะ จะมีโชว์ราวๆ 8PM.ซึ่งรอบๆบริเวณนั้นก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ เดินชมเพลินๆ ถ่ายรูประหว่างรอได้เลยค่ะ
Day 2 Hongkong Disneyland
วันที่ 2 เราจะไปฮ่องกงดิสนีย์แลนด์กันค่ะ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของการมาฮ่องกงในครั้งนี้ อากาศเย็นๆตอนเช้าๆแบบนี้ เริ่มต้นวันแรกโดยการไปหาอะไรร้อนๆกินกันก่อนเลยค่ะ ราคาจะอยู่ที่ราวๆ 48 HKD เป็นต้นไป อ่อลืมบอกไปว่า น้ำเปล่าที่นี่ราคาแพงมากๆค่ะขวดหนึ่งก็ราวๆ 15HKD เราเลยซื้อน้ำแค่ขวดเดียวแล้วเก็บขวดไว้กรอกน้ำตามจุดที่เค้าให้เติมน้ำฟรี
หลังจากกินข้าวเสร็จเราก็เดินไปที่MTR สถานีจิมซาจุ่ย เพราะอยู่ใกล้กลับที่พักที่สุดแล้วก็สะดวกมากๆค่ะ โดยสถานีปลายทางคือ Disneyland Resort ค่า MTR 23 HKD จะบอกว่าสถานีรถไฟฟ้าเค้าก็จะคล้ายๆกับบ้านเราก็เดินไปตามป้ายบอกทางเลยค่ะ รถไฟขบวนDisneyland ที่จับราวรถไฟจะมีลักษณะคล้ายๆMickey mouse น่ารักมากๆ
เย้!ถึงดิสนีย์แลนด์กันแล้วก็ลุยเลย
เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ตลอดทั้งวันเลยค่ะ เริ่มแรกก็นั่งรถไฟชมรอบๆก่อน แล้วรถไฟก็จะไปส่งจุดStart การเล่นเครื่องเล่น
มีความตื่นเต้นเป็นอย่างมากค่ะ กิจกรรมต่างๆดูได้จากรูปนะคะ
ถึงเวลาต้องกลับบ้านกันแล้ว เหนื่อยมากกกกกก
วันนี้เป็นวันที่ 31 Dec'16 เพราะฉะนั้นไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่การดูพลุไฟที่ Victoria Harbour ค่ะ แต่เสียใจมากกลับถึงที่พักช้าไปหน่อย เลยไม่สามารถเดินไปตรงนั้นได้ ก็เลยหาที่นั่งอยู่แถวๆริมถนน
ใกล้เวลาเที่ยงคืนแล้ว เอ้า!!!5 4 3 2 1
เข้าสู่ปี 2017 แล้ววว กลับห้องนอนได้ค่ะ Good Night
Day3
วันนี้ตื่นเช้าอีกเช่นเคยจะพาไปเที่ยว Nong Ping 360 cable car ค่ะ ขออนุญาตข้ามไปตอนนั่งกระเช้าเลยละกันนะคะ เนื่องจาก การเดินทางจะคล้ายๆตอนไปDisney land ค่ะ ค่าMTR 19 HKD โดยกระเช้าแบ่งออกได้เป็น 2 แบบค่ะ แบบแรกแบบธรรมดาราคาจะอยู่ประมาณ 650 บาทไทย ค่ะ แต่เราเลือกนั่งแบบคริสตัลราคาก็จะแพงกว่านิดนึง ประมาณ 900 บาทค่ะ ความพิเศษของกระเช้าคริสตัลคือเราจะสามารถมองเห็นพื้นด้านล่างอย่างทะลุปรุโปร่งค่ะ แอบหวาดเสียวเล็กๆค่ะ
นั่งกระเช้าไปประมาณ 40 นาที ที่นี่มีทั้ง Nong Ping Village แล้วก็ Big Buddha ที่นี่ด้วยค่ะ
มาที่นี่ไม่ต้องกลัวที่จะอดเลยค่ะ เพราะมีอาหารทุกแบรนด์ที่เราชื่นชอบ รวมไปถึงStarbuck ด้วยค่ะ
ขนมยอดฮิตที่นี่ยกให้นี่เลยค่ะ เจ้าวาฟเฟิลหน้าตากลมๆ แบบนี้ อร่อยดีน้าา
จริงๆที่นี่ คนส่วนใหญ่นิยมมาไหว้พระใหญ่กันค่ะ เพราะเห็นกลุ่มคนจำนวนมากเหมือนยืนอธิษฐานกันครู่ใหญ่เลยทีเดียว
ได้เวลากลับบ้านแล้ว
เหนื่อยกันมาทั้งวันได้เวลากลับที่พัก
ทีเด็ดคืนนี้ไม่มีอะไรมากนอกจากช้อปปิ้ง เดินดูไฟริมถนน
Adidas Sale!! เยอะจนแทบหมดตัวเลยค่ะ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย ช้อปปิ้งเสร็จกลับไปเก็บของเตรียมตัวกลับบ้านค่า
Day 4
วันสุดท้ายแล้วไวจัง ตื่นมาก็รีบไปเช็คเอ้าท์-รับเงินมัดจำคืนค่ะ ตอนขามาเรานั่งรถบัสและรู้สึกว่ามันช้า ขากลับเลยจะลองเปลี่ยนไปขึ้น Air-Express ไปสนามบินแทนค่ะ เร็วกว่า แต่ราคาจะอยู่ที่ 100HKD แพงพอสมควรค่ะ นั่งจนมาถึงสนามบินแต่ลืมแลกบัตรOctopus คืน เจ็บใจอย่างแรง แต่โชคยังดีที่เราเอาไปซื้อของกินในสนามบินได้ Flight ของเรา 12.30 ค่ะ ยังพอมีเวลาให้กินข้าวและเดินซื้อของฝาก
ได้เวลาบินแล้ว กลับบ้านกันค่า
Bye Bye Hong Kong
**จบแล้วรีวิว ฮ่องกง 4 วัน 3 คืน รวบรัดไปนิดนะคะ เนื่องจากรายละเอียดเยอะมาก
สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ
ค่าโรงแรมคืนละ 4500*3 คืน = 13500 บาท
ค่าอาหารการกิน ราวๆ 5000 บาท
ค่าเดินทาง (MTR,bus) 1500 บาท
ค่าเครื่องบิน 9600 บาท
ค่าshopping ***** ละไว้ในฐานที่เข้าใจนะคะ แฮ่ๆๆ
รวมแล้ว 29600 บาท
***ขอบคุณที่อ่านนะคะ Bye Bye ทุกคน
[CR] เที่ยวฮ่องกง 4 วัน 3 คืน มือใหม่หัดเที่ยว (30 Dec’16-2 Jan’17)
ตารางการท่องเที่ยวคร่าวๆค่ะ
30 Dec’16 Bangkok – Hongkong flight 8.50 am. / Symphony of Light
31 Dec’16 Hongkong Disneyland / Celebrate New year 2017
1 Jan’17 Nong Ping 360 cable car/ Nong Ping Village
2 Jan’17 Time to back home flight 12.30 pm.
Day 1 City View
เริ่มกันวันแรก วันนี้ตื่นเช้ามากเลยค่ะเนื่องจากต้องขับรถจากบ้านที่อยุธยา ไปจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ เที่ยวบินที่ HX 768 สายการบินHongkong Airline เวลา 08.50 ค่ะ อันดับแรกเมื่อมาถึงสนามบินก็นำกระเป๋ามารอโหลดเป็นอันดับแรกเลยค่ะ เนื่องจากเช็คอินออนไลน์และPrint Boarding Pass มาจากบ้านแล้ว คนค่อนข้างเยอะมาก เนื่องจากเป็นช่วงใกล้ปีใหม่พอดี หลังจากทำการโหลดกระเป๋าเสร็จก็เดินหาอะไรกินอยู่ในสนามบินก่อนขึ้นเครื่องค่ะ
พอได้เวลาขึ้นเครื่องทางแอร์โฮสเตสจะแจกเอกสารให้กรอกคล้ายๆกับเอกสารเข้าเมืองของฮ่องกงค่ะ นั่งเครื่ิองบินไปสักพัก ก็จะมีคนมาเดินแจกอาหารเช้า มีให้เลือกอยู่ 2 อย่างไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร แต่วันนั้นเลือกกินOmelette ไป เพราะง่ายสุดแล้ว หลับๆตื่นๆไปถึงสนามบินก็เกือบๆเที่ยงค่ะ เครื่องบินบินลงจอดไม่ได้ เนื่องจากมีคิวลงจอดจำนวนมาก
มาถึงฮ่องกงกันแล้วอันดับแรก ต้องส่งเอกสารเข้าเมืองก่อนค่ะ โดยนำใบที่แอร์ให้กรอกไว้ไปต่อแถวยื่นที่ช่องตม.พร้อมกับพาสปอร์ตใช้เวลานานเหมือนกันค่ะ นักท่องเที่ยวเยอะมาก หลังจากรับยื่นเอกสาร รับกระเป๋า เราก็รีบมองหาจุดซื้อบัตร Octopus กันเลยค่ะเพราะน่าจะสะดวกที่สุดแล้ว (แลกเงินไปจากที่ไทยค่ะ ประมาณ 60000 บาทไทย ตอนนั้นแลกที่สนามบินเรต 1HKD=4.83 บาทไทยค่ะ) บัตร Octopus ราคาจะอยู่ที่ 150 HKD ค่ะ จะใช้ได้จริง 100 HKD ส่วนอีก 50จะถูกเก็บไว้ในบัตรและจะแลกคืนได้ตอนขากลับ
ได้บัตรกันแล้วก็เดินไปหาจุดขึ้นรถที่ด้านนอกสนามบินค่ะ จะมีป้ายบอกว่าไปCity เราพักย่านซิมซาจุ่ย ก็เลยขึ้นรถบัสสายA21เพื่อไปลงที่นั่น เมื่อมาถึงทีพักก็บ่ายสองกว่าๆแล้วค่ะ รีบเอากระเป๋าไปเก็บแล้วออกมาหาอะไรกิน ย่านจิมซาจุ่ย เป็นย่านที่ค่อนข้างPopular ย่านนึงค่ะ มีที่พัก ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารเป็นจำนวนมาก ถือว่าเลือกที่พักได้ดีเลยทีเดียวเราจองที่พักมาจากBooking.com ชื่อว่า USA Hostel ราคาตกคืนละ 4500 บาท ทำการเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้วก็ต้องจ่ายเงินมัดจำที่พักราวๆ 300 HKD ค่ะ จะได้รับเงินคืนตอนเช็คเอ้าท์ เก็บกระเป๋าเสร็จแล้ว เตรียมตัวไปหาอะไรกินกันค่ะ ตอนนั้นรู้สึกหนาวๆละ อากาศราวๆ 17 องศา ก็เดินลัดเลาะไปตามถนนหาของกินไปเรื่อยๆ ปรากฎว่าเพื่อนร่วมขบวนการนางอยากกินพิซซ่าค่ะ มื้อแรกที่ฮ่องกงก็เลยเป็นพิซซ่าราคารวมเซ็ตใหญ่ราวๆ 640 HKD แทบช็อคแต่ก็ต้องฝืนใจกินไปค่ะ
รับประทานอาหารกันแล้วได้เวลาไปตะลุยเมืองค่ะ วันแรกเราเลือกจะไปดูSymphony of Light ค่ะ จะมีโชว์ราวๆ 8PM.ซึ่งรอบๆบริเวณนั้นก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ เดินชมเพลินๆ ถ่ายรูประหว่างรอได้เลยค่ะ
Day 2 Hongkong Disneyland
วันที่ 2 เราจะไปฮ่องกงดิสนีย์แลนด์กันค่ะ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของการมาฮ่องกงในครั้งนี้ อากาศเย็นๆตอนเช้าๆแบบนี้ เริ่มต้นวันแรกโดยการไปหาอะไรร้อนๆกินกันก่อนเลยค่ะ ราคาจะอยู่ที่ราวๆ 48 HKD เป็นต้นไป อ่อลืมบอกไปว่า น้ำเปล่าที่นี่ราคาแพงมากๆค่ะขวดหนึ่งก็ราวๆ 15HKD เราเลยซื้อน้ำแค่ขวดเดียวแล้วเก็บขวดไว้กรอกน้ำตามจุดที่เค้าให้เติมน้ำฟรี
หลังจากกินข้าวเสร็จเราก็เดินไปที่MTR สถานีจิมซาจุ่ย เพราะอยู่ใกล้กลับที่พักที่สุดแล้วก็สะดวกมากๆค่ะ โดยสถานีปลายทางคือ Disneyland Resort ค่า MTR 23 HKD จะบอกว่าสถานีรถไฟฟ้าเค้าก็จะคล้ายๆกับบ้านเราก็เดินไปตามป้ายบอกทางเลยค่ะ รถไฟขบวนDisneyland ที่จับราวรถไฟจะมีลักษณะคล้ายๆMickey mouse น่ารักมากๆ
เย้!ถึงดิสนีย์แลนด์กันแล้วก็ลุยเลย
เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ตลอดทั้งวันเลยค่ะ เริ่มแรกก็นั่งรถไฟชมรอบๆก่อน แล้วรถไฟก็จะไปส่งจุดStart การเล่นเครื่องเล่น
มีความตื่นเต้นเป็นอย่างมากค่ะ กิจกรรมต่างๆดูได้จากรูปนะคะ
ถึงเวลาต้องกลับบ้านกันแล้ว เหนื่อยมากกกกกก
วันนี้เป็นวันที่ 31 Dec'16 เพราะฉะนั้นไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่การดูพลุไฟที่ Victoria Harbour ค่ะ แต่เสียใจมากกลับถึงที่พักช้าไปหน่อย เลยไม่สามารถเดินไปตรงนั้นได้ ก็เลยหาที่นั่งอยู่แถวๆริมถนน
ใกล้เวลาเที่ยงคืนแล้ว เอ้า!!!5 4 3 2 1
เข้าสู่ปี 2017 แล้ววว กลับห้องนอนได้ค่ะ Good Night
Day3
วันนี้ตื่นเช้าอีกเช่นเคยจะพาไปเที่ยว Nong Ping 360 cable car ค่ะ ขออนุญาตข้ามไปตอนนั่งกระเช้าเลยละกันนะคะ เนื่องจาก การเดินทางจะคล้ายๆตอนไปDisney land ค่ะ ค่าMTR 19 HKD โดยกระเช้าแบ่งออกได้เป็น 2 แบบค่ะ แบบแรกแบบธรรมดาราคาจะอยู่ประมาณ 650 บาทไทย ค่ะ แต่เราเลือกนั่งแบบคริสตัลราคาก็จะแพงกว่านิดนึง ประมาณ 900 บาทค่ะ ความพิเศษของกระเช้าคริสตัลคือเราจะสามารถมองเห็นพื้นด้านล่างอย่างทะลุปรุโปร่งค่ะ แอบหวาดเสียวเล็กๆค่ะนั่งกระเช้าไปประมาณ 40 นาที ที่นี่มีทั้ง Nong Ping Village แล้วก็ Big Buddha ที่นี่ด้วยค่ะ
มาที่นี่ไม่ต้องกลัวที่จะอดเลยค่ะ เพราะมีอาหารทุกแบรนด์ที่เราชื่นชอบ รวมไปถึงStarbuck ด้วยค่ะ
ขนมยอดฮิตที่นี่ยกให้นี่เลยค่ะ เจ้าวาฟเฟิลหน้าตากลมๆ แบบนี้ อร่อยดีน้าา
จริงๆที่นี่ คนส่วนใหญ่นิยมมาไหว้พระใหญ่กันค่ะ เพราะเห็นกลุ่มคนจำนวนมากเหมือนยืนอธิษฐานกันครู่ใหญ่เลยทีเดียว
ได้เวลากลับบ้านแล้วเหนื่อยกันมาทั้งวันได้เวลากลับที่พัก
ทีเด็ดคืนนี้ไม่มีอะไรมากนอกจากช้อปปิ้ง เดินดูไฟริมถนน
Adidas Sale!! เยอะจนแทบหมดตัวเลยค่ะ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย ช้อปปิ้งเสร็จกลับไปเก็บของเตรียมตัวกลับบ้านค่า
Day 4
วันสุดท้ายแล้วไวจัง ตื่นมาก็รีบไปเช็คเอ้าท์-รับเงินมัดจำคืนค่ะ ตอนขามาเรานั่งรถบัสและรู้สึกว่ามันช้า ขากลับเลยจะลองเปลี่ยนไปขึ้น Air-Express ไปสนามบินแทนค่ะ เร็วกว่า แต่ราคาจะอยู่ที่ 100HKD แพงพอสมควรค่ะ นั่งจนมาถึงสนามบินแต่ลืมแลกบัตรOctopus คืน เจ็บใจอย่างแรง แต่โชคยังดีที่เราเอาไปซื้อของกินในสนามบินได้ Flight ของเรา 12.30 ค่ะ ยังพอมีเวลาให้กินข้าวและเดินซื้อของฝาก
ได้เวลาบินแล้ว กลับบ้านกันค่า
Bye Bye Hong Kong
**จบแล้วรีวิว ฮ่องกง 4 วัน 3 คืน รวบรัดไปนิดนะคะ เนื่องจากรายละเอียดเยอะมาก
สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ
ค่าโรงแรมคืนละ 4500*3 คืน = 13500 บาท
ค่าอาหารการกิน ราวๆ 5000 บาท
ค่าเดินทาง (MTR,bus) 1500 บาท
ค่าเครื่องบิน 9600 บาท
ค่าshopping ***** ละไว้ในฐานที่เข้าใจนะคะ แฮ่ๆๆ
รวมแล้ว 29600 บาท
***ขอบคุณที่อ่านนะคะ Bye Bye ทุกคน