ทุกวันนี้คุณภาพชีวิตคนไทยเราแตกต่างจากคนมาเลเซียมากมั้ยครับ

ณ ปัจจุบันนี้คุณภาพชีวิตคนไทยเราทั้งในเมืองและชนบทเราแตกต่างกับคนมาเลเซียมากมั้ยครับอย่างเช่น รายได้ต่อหัว  สิทธิต่างๆของรัฐหรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆของเรากับมาเลต่างกันมากมั้ยใครดีกว่ากันอย่างปีล่าสุดค่าhdiของไทยได้0.740มาเลได้0.789ถือว่าต่างกันมากมั้ย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 36
เมื่อก่อนเป็นคนที่ไม่เชื่อเลยว่ามาเลเซียจะดีกว่าไทย เคยตอบกระทู้แนวนี้เมื่อสามสี่ปีก่อน ว่าไทยไม่ได้ห่างจากมาเลเซีย
แต่จากการไปเที่ยวมาเลเซียมา 4 ครั้ง ไปมาหลายรัฐ หลายเมือง กัวลาลัมเปอร์ ปีนัง อิโปห์ มะละกา ยะโฮร์บาห์รู คูชิง

สิ่งหนึ่งที่มาเลเซียดีกว่าไทยมาก ๆ คือผังเมือง ผังเมืองเขาดีมาก เป็นระเบียบ ทำให้ดูสบายตา จัดโซนนิ่งร้านค้าได้ดี รถดับเพลิง รถพยาบาลเช้าถึงจุดต่าง ๆ ได้ง่าย
ต่างกับเรา ที่เราแทบไม่มีการวางผังเมืองเลย ความรู้เรื่องการวางผังเมืองของไทยนี่ด้อยกว่าประเทศอื่นอย่างชัดเจน
ถึงมีการเรียนการสอนเกิดขึ้น แต่ผังเมืองเป็นสิ่งที่แก้ยากมาก ต้องรอให้เกิดลักษณะหมือนไฟไหม้ใหญ่เหมือนลอนดอนเท่านั้น ถึงจะแก้ผังเมืองได้

ของมาเลเซีย ถ้ามีการทุบตึก เขาจะสร้างตึกตามแพลนของเมือง จะเป็นชิโน-โปรตุกีส ทรงอังกฤษ ทรงอิสลาม แล้วแต่รัฐบาลท้องถิ่นกำหนด
ทำให้ตึกในมาเลเซีย ไปในทิศทางเดียวกัน ดูสวยงามมาก
ของไทย ไม่มีกฎหมายท้องถิ่นกำหนด ใครอยากสร้างอะไรก็สร้าง เราถึงเห็นตึกแถวไทย ทรงเห่ย ๆ เห็นอะไรต่อมิอะไรเกะกะสายตามาก

สายไฟ สายโทรคมนาคม มาเลเซียลงใต้ดิน
ไทยพยายามลงใต้ดิน เช่นเส้นสีลม แต่ก็มีพวกมักง่ายโยงสายขึ้นมาใหม่ อยากฝาก จนท ไปจัดการด้วยค่ะ

ออกนอกเขตเมืองหลวง ของมาเลเซียแข่งกันพัฒนาเมือง ปีนัง มะละกา อิโปห์ ยาโฮร์ มีรัฐบาลท้องถิ่น คิดแล้วทำ พัฒนาเมืองเร็วมาก
ของไทย จะขอทำอะไรที ผ่านทีละขั้น ผ่านมหาดไทย สำนักนายกฯ การคลัง
เมืองใหญ่นอกกรุงเทพ พัฒนากันตามมีตามเกิดโดยคนท้องถิ่น ชลบุรี เชียงใหม่ หาดใหญ่ อุดร ขอนแก่น โคราช จะสร้างระบบขนส่ง จะสร้างสาธารณูปโภค
ต้องขอความเมตตาจากกรุงเทพฯ สิ่งไหนกรุงเทพฯ ยังไม่มี เรื่องที่ต่างจังหวัดจะมีนั้นยาก
อย่างสายไฟ สายระโยงระยางลงดิน หาดใหญ่ เชียงใหม่ ขอนแก่น ก็หาเงินมาทำกันเอง
ระบบรถโดยสารขนส่ง ต่างจังหวัดก็ให้เอกชนเข้ามาทำ เพราะ กระทรวงคมนาคม ไม่ได้ให้งบไปทำอะไร
ขสมก. คือกินรวบ กทม ส่วนต่างจังหวัดไปจัดการกันเองตามมีตามเกิด
แต่ข้อดีอย่างคือเอกชน จะจัดการได้เร็วเพราะเป็นธุรกิจอย่างรถเมล์ขนส่งคน ตอนนี้ขอนแก่น เชียงใหม่ มีแล้ว ระบบบัตร rabbit ด้วย
กรุงเทพฯ ก็ยังมีปัญหาระบบคิดค่าโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ เสียค่าปรับค่าโง่กันบาน ตอนนี้ก็ยังใช้กระเป๋ารถเมล์แง๊บ ๆ กันอยู่

กัวลาลัมเปอร์ ปีนัง รถเมล์ดีมาก สภาพดี แอร์เย็น รถใหม่
ของไทย อยากให้เอารถเมล์ร้อนออกมาก จะบอกว่า เวลาชาติอาเซียมาทำข่าวระบบขนส่งมวลชนในไทย จะถ่ายแต่ไอ้รถเมล์ร้อนครีมแดงกับรถร่วมพัดลมนี่แหละ
ไปออกทีวีประเทศตัวเอง แล้วคนก็เข้าใจว่าประเทศไทย กทม. รถเมล์เหมือนอินเดีย ศรีลังกา เมียนมา
ทั้งที่เรามีรถเมล์ปรับอากาศ เราพยายามทำระบบรถเมล์ปรับอากาศ (แต่รถก็แย่ตั้งแต่เริ่มเลย กับ ขสมก. อีกแล้ว)

เทียบไทยกับมาเลเซีย หลายอย่างต้องยอมรับความจริงว่าเราตามหลังเขา
อย่าง PPP per capita เนี่ย อยากให้ไทยพ้น 20,000 มาก ตอนนี้ไต่อยู่ที่ 17,xxx ตามหลังแอฟริกาบางประเทศด้วยซ้ำ
มาเลเซียไปถึง 28,xxx แล้ว HDI ก็สูงกว่าไทย

เมื่อก่อนมาเลเซียมาศึกษาดูงานในไทย เอาง่าย ๆ เลยคือ คณะที่จบมา สมัยสิบห้าปีก่อน มหาลัยในมาเลเซียมาดูฝานที่จุฬา มหิดล
อันนี้เรื่องจริง ตอนนี้ อันดับโลกเขาหนีจุฬา มหิดลไปไกลมาก
รัฐบาลเขาสนับสนุนเงินมาก เอกชนอย่างปิโตรนาสก็ให้เงินวิจัยกับมหาลัยมาก ทั้งมหาลัยรัฐกับมหาลัยเอกชนของตัวเอง
ของไทย เงินเข้ามาส่วนวิจัยและพัฒนาน้อยมาก ขอไปทุกยุคทุกสมัย เทียบอัตราเงินสนับสนุนการวิจัยกับ GDP ของไทย นี่น่าสงสารคนทำงานมาก

เรื่องอายุขัยเฉลี่ย ไทยเสียตรงอุบัติเหตุบนถนน เมาแล้วขับ วินัยจราจรแย่ ขับปาด ขับเร็ว มอเตอร์ไซค์ย้อนศร สารพัด
บางทีคนทำผิดไม่ตาย แต่ทำคนดี ๆ อนาคตของชาติตายไปหรือพิการ สร้างภาระระยะยาวให้สังคมอีก
คนไทยกินเหล้าเยอะมาก กินแล้วควบคุมตัวเองไม่ได้ กินแล้วพูดตรง ๆ คือ กินแล้วเมาเป็นหมาเสียผู้เสียคนเสียการงาน บางทีกลับไปทะเลากับครอบครัวเป็นปัญหาอีก

มาเลเซียแย่ตรงการเมืองเหมือนฝุ่นใต้พรม พยายามกวาดแล้วเอาพรมปิด
อย่างนายกนาจิบ เบื้องหลังน่ากลัวมาก ไม่ได้ขาวสะอาดดูใจดีเหมือนหน้า
เรื่องกองทุน MDB นี่เหมือนมะเร็งร้ายของมาเลเซีย แต่คนทำอะไรไม่ได้ ขนาดอัยการยังถูกเผา ตายอนาถ

คนมาเลเซียเชื้อสายจีน ไม่ลงรอยกับมาเลเซียมาลายู ยิ่งเกลียดมาก ยิ่งโดนกีดกันมาก คนเชื้อสายจีนก็ยิ่งทำธุรกิจตัวเองให้เจริญก้าวหน้า
กลายเป็นแรงขับเคลื่อนภาพรวมให้มาเลเซียไปอีก
จากที่เคยไปติดต่อกับภาครัฐมาเลเซีย เขามีลักษณะคล้ายราชการไทย คือสบาย ๆ ไม่รีบร้อนอะไร
แต่คนมาติดต่อที่เป็นคนเชื้อสายจีน ก็จะบ่นมาก ว่าพวกแขกนี่ช้า ไม่ทันกิน ทำธุรกิจเสีย
คนมาเลเซียเช้อสายอินเดีย บังกลาเทศ ก็มีโซนของเขาเอง มีธุรกิจของเขาเอง อยู่กันเป็นส่วน ๆ

อีกอย่างที่มาเลเซียดีกว่าไทยคือ เป้าหมายระยะไกลเขาชัดเจนมาก คือต้องการเป็นประเทศพัฒนาแล้ว
แล้วเขาก็ทำได้ดี อย่างรายได้ต่อหัวนี่ถือว่าสูงกว่ายุโรปบางประเทศแล้วด้วย ค่า HDI ก็สูงจะถึงประเทศพัฒนาแล้ว
ดัชนีการพัฒนาประเทศ ดัชนีความสามารถทางการแข่งขัน ดัชนีโครงสร้างพื้นฐาน ดีกว่าไทยทุกอย่าง
ของไทย ค่าคะแนนโครงสร้างพื้นฐานแย่กว่าอินโดนีเซียอีก
มาเสียตรงระบบรางที่ยึก ๆ ยัก ๆ จะสร้างก็ไม่สร้างซะที

เนื้อร้ายของไทยเลยคือ การรถไฟ ขสมก. สององค์กรนี้ เหมือนประคองตัว เลี้ยงดูพนักงานไปวัน ๆ
ปัญหาหมักหมมก็ไม่แก้ ปล่อยทิ้งเรื้อรัง หรือจะทำก็ช้างุ่มง่าม ถ้าเราเป็นรัฐมนตรีคมนาคม เราจะเล่นงานสองหน่วยงานนี้ก่อน
เพราะเห็นปล่อยมาทุกรัฐบาล จะเชือดไก่ให้ลิงดู ก็จะเชือดสององค์กรนี้ก่อน
จากนั้นการบินไทยเป็นรายต่อไป การบินไทยนี่ก็ผู้ป่วยมะเร็งระยะใกล้ตาย จะเอาผู้บริหารไหนมาแก้ ก็เหมือนเอาหมอเก่ง ๆ มารักษาคนไข้มะเร็งใกล้ตาย
มันก็แค่ประคองอาการเท่านั้น แต่เนื้อในมันเน่าหมดแล้ว

ลองไปอ่านเว็บบอร์ดต่างประเทศ (โชคดีที่คนไทยไม่ค่อยไปเล่น เพราะติดปัญหาภาษาอังกฤษ เลยไม่มีเกรียนไทยไปอาละวาด)
เขาถามความคิดเห็นคนอินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไทย ว่าคิดยังไงกับประเทศที่เหลือ
ที่น่าตกใจคือ คนอินโดนีเซีย มองว่าไทยอยู่ระดับเดียวกับเขา คอมเมนต์ประเทศไทยทุกด้าน แต่เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไม่ค่อยคอมเมนต์เพราะไม่ค่อยมีข้อมูล
คนเวียดนามก็ไม่ค่อยคอมเมนต์อินโดกับฟิลิปปินส์ แต่คอมเมนต์ไทยเต็ม ๆ ว่าเป็นคู่แข่งระดับเดียวกัน
คนฟิลิปปินส์ ก็คอมเมนต์แต่ไทยเพราะมีข้อมูลเยอะ รู้จักไทยเยอะ มองว่าไทยเป็นคู่แข่งในทุกด้าน

อ่านแล้วน่าทึ่ง ทุกประเทศรู้จักไทยหมด รู้จักเรื่องการเมืองไทย การท่องเที่ยวไทย วงการบันเทิงไทย อาหารไทย กะเทยไทย
ก็คงเป็นเพราะเราดังเรื่องการท่องเที่ยวและโปรโมตประเทศ เพื่อนบ้านถึงรู้จักเยอะ
แต่สิ่งที่ตลกคือ การที่บอกว่าอยู่ระดับเดียวกับไทยและดีกว่าเราหลายอย่าง เช่น รถเมล์ (เขาคิดว่าไทยมีแตต่รถเมล์ครีมแดงเก่า ๆ)
เศรษฐกิจเขาดีกว่าไทย เพราะอัตราการเติบโตสูงกว่า อีกไม่นาน GDP เขาจะสูงกว่าไทยแน่ เพราะขของไทยเติบโตน้อยมาก

นี่คือภาพลักษณ์ที่บางคนมองไทย ซึ่งถามว่าจริงไหม ก็ไม่จริงทั้งหมด ก็เป็นพวกรู้จริงบ้างไม่จริงบ้าง
แต่เขามองว่าสิงคโปร์อยู่ไกลเกินไปที่จะไล่ทัน มาเลเซียก็ไปไกลแล้ว ถ้าสิงคโปร์อยู่ระดับ A มาเลเซีย B เขาก็ยู่ระดับ C เหมือนไทย
ซึ่งตลกมาก อย่างเวียดนาม ฟิลิปปินส์ รายได้ต่อหัว PPP ยังไม่ถึง 10,000 เลยด้วยซ้ำ

อยากให้ไทยพ้นกับดักรายได้ปานกลางมาก พอพ้นแล้ว เราจะไกลกว่านี้แน่ และเราจะไม่ใช่ระดับเดียวกับอินโด เวียดนาม ฟิลิปปินส์แน่ ๆ เรามีดีกว่านั้น
กับมาเลเซียนี่ เอาจริง ๆ ถ้าเป็นวิ่งมาราธอน ยังพอเห็นหลังมาเลเซียอยู่ลิบ ๆ เห็นป้ายตัวเลขไกล ๆ
ถ้าทุกคนช่วยกัน ช่องว่างไทยกับมาเลเซียจะลดลงแน่

ทั้งนี้ หลายคนสงสัยกับตัวเลขที่รัฐบาลมาเลเซียประกาศออกมามาก อย่างจำนวนักท่องเที่ยวก็หลอกลวง นับเอาคนมาทรานสิทหรือข้ามมาซื้อของไปด้วย
อย่างคนสิงคโปร์ข้ามมาซื้อของที่ยะโฮร์บารูห์ ก็นับเป็นนักท่องเที่ยวด้วย ทำให้ตัวเลขมันปลอม
ข้อดีคือ เอาไปประชาสัมพันธ์ได้ว่าคนมาเที่ยวประเทศเยอะ แต่ข้อเสียคือ การกำหนดนโยบายพัฒนาการท่องเที่ยวจะมีปัญหา เพราะข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นริง
การท่องเที่ยวมาเลเซียจึงมีสองข้อมูล ให้หน่วยงานใช้ข้อมูลอันสองที่นับจริง และส่วนประชาสัมพันธ์ให้นับแบบแรกที่รวมทุกอย่าง แม้แต่คนไทยไปญี่ปุ่น ทรานสิทที่กัวลาลัมเปอร์กับแอร์เอเชียหรือมาเลเซียแอร์ไลน์
ก็นับคนไทยคนนั้นเป็นนักท่องเที่ยวด้วย ทั้งที่คนไทยไม่ได้เที่ยวมาเลเซีย ไม่ได้ค้างคืน
ซึ่งผิดกับหลักการของ UNWTO ที่กำหนดนิยามว่า ต้องนับคนที่มาพักค้างคืนอย่างน้อย 1 คืน ถึงจะเป็นนักท่องเที่ยว แต่มาเลเซียก็ไม่ทำตาม
ยังคงกุตัวเลขต่อไป เพื่อประโยชน์ตัวเอง

ตัวเลข GDP กับอัตราการเติบโตท่เห็นไม่ลดลง ทั้งที่ค่าเงินผันผวน ก็ถูกตั้งข้อสังเกตจากนานาชาติ แต่ยังทำอะไรไม่ได้
ยิ่งจะประกาศการเป็นประเทศพัฒนาแล้วในปีหน้า คอยดูกันว่า ตัวเลขจะพุ่งไปเท่าไหร่
ความคิดเห็นที่ 40
ผมอยากจะให้ข้อคิดที่สำคัญอย่างหนึ่ง เกี่ยวกับการเปรียบเทียบประเทศใดกับประเทศหนึ่ง  ว่า อะไรดีกว่าอะไร โดยเอาดัชนียอดฮิตบางตัว มาวัดเช่น PPP, HDI, อะไรเทือกนี้ ในทางวิชาการจริงๆ ก่อนที่คุณจะเขียน paper ออกมาคุณต้องเอาดัชนีมาแตกว่า ประกอบไปด้วยอะไร และทำไมเราเลือกใช้ตัวนี้ อารมณ์ ประมาณ เราปรุงอาหาร อยากได้รสเค็ม ทำไมเราเลือกใช้เกลือ แทน น้ำปลา (เค็มเหมือนกัน) แต่อะไรมันเหมาะสมกว่ากัน

ตัวแปรเหล่านี้ ในทางวิชาการจริงๆ เป็นเพียงจุดเล็กๆ ในการวิเคราะห์ หรือเอามาใช้ประกอบเล็กแค่นั้น แต่ไม่ใช่ตัวตัดสินนะครับ การสำรวจดัชนีต่างๆ พื้นฐานคือการเก็บข้อมูล

ข้อมูลพวกนี้เขาเอามาจาก สำนักงานสถิติของประเทศต่างๆ แน่นอนไม่มีหน่วยงานระหว่างประเทศไหนเก็บเอง และเงื่อนไขการเข้าเกณฑ์ แต่ละประเทศไม่เท่ากันด้วย

อาทิเช่น จำนวนนักท่องเที่ยว

จำนวนนักท่องเที่ยวของประเทศไทย คือ จำนวนนักท่องเที่ยว ที่ขอ visa on arrival เข้าประเทศ คือเข้ามาท่องเที่ยวจริงๆ
จำนวนนักท่องเที่ยวของเพื่อนบ้าน    คือ จำนวนนักท่องเที่ยวที่ "ผ่านสนามบิน" คุณอาจจะแค่ transit แต่ถูกนับเป็นนักท่องเที่ยว

ส่วนตัวเลขอื่นๆ มีวิธีการคิดที่ ... ต่างกันสุดขั่ว ถามผมว่า ประเทศไทยถ้าสำรวจกันจริงๆ ตัวเลขบน factsheet มันควรเปลี่ยนไปนานแล้ว อย่างการสำรวจสำมะโนประชากร แบบที่มีข้อสอบถามเป็นหน้าๆ ผมว่าไม่ได้ยินมานานแล้ว ใช้วิธีการทางสถิติไป sample ข้อมูลและ estimate เอาข้อมูลหลายๆตัวเลยผิดเพี้ยน  และส่งไปให้ index ที่ต้องใช้ข้อมูลหลายๆ ส่วนคำนวน ผิดเพี้ยนไปด้วย เช่น HDI

ก่อนจะเริ่มต้นผมเริ่มด้วยจำนวนประชากร ประชากร เรากับมาเลย์ คือ อัตราส่วน 2 : 1  บ้านเรามากกว่าเขาสองเท่า
GPD PER CAPITA บ้านเรากับบ้านเขาอยู่ในอัตราส่วน 1:1 คือเท่ากัน

ทำไมผมต้องเริ่มด้วยสองตัวนี้ เพราะสองตัวนี้เป็นพื้นในการคำนวน index อื่นๆ ครับ ด้วยจำนวนประชากรที่น้อยกว่าสองเท่า ทำให้ตัวเลขมันสูงกว่าเกือบสองเท่าครับ เนื่องด้วย ตัว GDP ดันเท่ากัน

แต่................แต่ การคำนวน GDP ในบ้านเรา มันคำนวนจาก ผู้ที่เสียภาษีทั้งนิติบุคคล และ บุคคลธรรมดา เช่น พนักงานกินเงินเดือนทั้งภาครัฐและเอกชน อ้าว แล้วทำไมผมต้องพูดเรื่องนี้

คุณรู้ไหมครับประเทศไทยประชากรเกือบ 40% มีเงินหมุนเวียนสะพัดแต่อยู่นอกระบบเศรษฐกิจ  เช่นพ่อค้าแม่ขาย เกษตรกร ค้าขายออนไลน์ อาชีพเสริมต่างๆ พวกนี้ non vat 100% ในขณะที่มาเลเซีย พวกเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจ เขาแทบไมาค่อยมีครับ น้อยมาก ส่วนใหญ่อยู่ในระบบหมด ค้าขายยังไงเขาก็ต้องเสีย vat ลองไม่เสีย vat โทษหนัก + สิทธิบางอย่างหายไปด้วย

เท่ากับว่า ข้อมูลที่ไทยควรจะมีใน GDP nominal หายไปเกือบ 40% ลองคิดไหมถ้าข้อมูลที่ใส่ 100% ไทยจะเป็นยังไง?
เวลาคนใช้ข้อมูลพวกนี้มาใช้ ต้องมีสติดีๆ ต้องเข้าใจที่มา แล้วนำมาใช้อย่างมีเหตุผล

เอาหละเมื่อผมพูดเรื่อง index แล้วผมจะไม่นำมากล่าวนะครับ เพราะ paper เริ่องนั้มันก็มี เอาอย่างสิงคโปร มันคือ city state เมืองเล็กๆแต่เป็นประเทศ เล็กกว่า กทม. เมื่อเอา index ต่างๆมาก็บอกว่าประเทศนี้พัฒนาแล้ว ลองเทียบ กทม. ไหมครับ HDI บ้านเราดีกว่าเขา ? Bangkok HDI = 0.933 อยู่ระดับเดียวกับประเทศเยรมัน  แต่พวกคุณก็รู้ใช่ไหมว่าถ้าทั้งประเทศ ประเทศเราอยู่ 0.74 อย่างนั้น เราก็อย่าเอามาเทียบเลยครับ

มาเลย์สำหรับผม หลังจากที่เทียวไปเทียวมา หลายครั้ง บอกเลยว่าา บ้านเราในเขต metro บ้านเราไปไกลแล้วครับ ส่วนเขตอื่นๆ บ้านเราไปไกลกว่าเขานิดหน่อย ถนนระหว่างเมือง แต่ก่อนกล้าพูดๆได้ว่า ดีกว่าเรามาก แต่ตอนนี้หลายๆเส้นในบ้านเรา คุณภาพทางหลวงอยู่ในระดับ on par ส่วนระบบรถไฟยอมรับว่าระไฟระหว่างเมืองเขาดีจริงๆ แต่ในเมือง บ้านเราดีกว่าเขาเยอะครับ ค่าครองชีพ พอๆกับเรา ข้าวผัดจาน 60 พอๆกัน พวกของใช้ในชีวิตประจำวัน ของไทยคุณภาพสูงกว่าครับ (แต่ก่อนเราชอบไปซื้อขนม สบู่แชมพู มาเลย์ ที่หาดใหญ่ ตอนนี้กลับกันแล้วครับ เขาข้ามมาซื่อของบ้านเราแทน) เรื่องการแพทย์ ของไทยยังถือว่าดีกว่าครับ ถ้าคุณคิดว่า บ้านเราไม่ดี บ้านเราเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่คุณไอคอกแคก แล้วสามารถพบหมอได้ใน 1 วัน ประเทศอื่น การพบหมอนี่ ถ้าไม่ใช่มีดปักหัว การจะพบแพทย์จะต้องนัดครับ

การศึกษาไม่เถียงเขาดีกว่าเราเยอะ ดีกว่าเห็นๆ เรื่องการเงินผมว่าประเทศเราดีกว่าเขาครับ ค่าเงินบ้านเราเสถียรว่าเยอะ
เรื่องความปลอดภัย บ้านเราดีกว่าครับ โดยเฉพาะเขต metro
อิสรภาพในการแสดงความคิด บ้านเราดีกว่าครับ
เรืองการทหาร ทัพบก เราดีกว่า ทัพฟ้าเราเสมอกัน ทัพเรือ เรายังด้อยกว่าเขา
เรื่องบันเทิง บ้านเราดีกว่าเขา
เรื่องสื่อสาร internet บ้านเราดีกว่าเขาครับ (เยอะมากด้วย พูดได้เพราะเคยใช้)
ความคิดเห็นที่ 19
มองแบบเป็นกลาง ตัดอคติออกไป

มาเลเซีย บ้านเมืองเป็นระเบียบร่มรื่น สะอาดตา กว่ากทม เยอะมาก อาจเป็นเพราะผังเมืองดีจากอังกฤษ ไม่มีสายไฟบนดิน และประชากรน้อยกว่าไทยเยอะมาก

แต่ กทมจะให้ความรู้สึกที่ปลอดภัยกว่ามากๆ เวลาเดินตอนกลางคืน คนต่างชาติและคนมาเลบอกเองเลย พวกเค้ายังไม่กล้าเดินตอนกลางคืนใน KL เเต่กล้าเดินที่ กทม

คุณภาพชีวิตคนมาเลโดยรวมดีกว่าไทย ! เราต้องยอมรับทั้งเรื่องระบบการศึกษา และ ระบบการดูแลสุขภาพ

มาเลย์พยายามเลียนแบบสิงคโปร์ ในการพัฒนาการศึกษา ใช้ภาษาอังกฤษ ดึงนักเรียนต่างชาติเข้ามาและอยู่ทำงานอยู่ต่อ
และดึงแรงงานชั้นสูงและชั้นล่างจากประเทศอื่นเข้าประเทศเพื่อทดแทนคนมาเลเชื้อสายจีนที่เเห่อพยพออกจากประเทศไปสิงคโปร์ ออสเตรเลีย อังกฤษ เพราะลึกๆเเล้วรัฐบาลรู้ดีว่าคนเชื้อสายมาเลย์เเท้ๆ คุณภาพสู้เชื้อสายจีน อินเดียไม่ได้เลย

รัฐบาลมาเลย์ยังดึงดูดนักลงทุนจากจีนเข้ามามหาศาล อันนี้ค่อนข้างน่ากลัวเพราะก่อให้เกิดหนี้มหาศาล และจีนอาจมีอำนาจต่อรองขึ้นมา

ถ้าถามว่าระดับคุณภาพชีวิตประเทศไหนดีกว่ากัน ต้องบอกว่ามาเลเซีย ดีกว่าตั้งแต่สมัยอณานิคมเเล้ว

แต่ไทยก็ตีตื้นขึ้นมามาก ช่องว่างเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ
ความคิดเห็นที่ 42
ตอนอยู่เมืองไทย มานี่นานๆครั้งแค่ Business Trip รู้สึกบ้านเมืองเค้าเจริญกว่าเรามากมาย แต่พอมาอยู่ที่นี่จริงๆ ขอตอบคำถามจขกท จากประสบการณ์ส่วนตัวที่อยู่มาเลเซียมา 3 ปีนะคะ

- รายได้ต่อหัว เราว่า เค้าได้เงินเฉลี่ยต่อหัวสูงกว่าคนไทยนะคะ อาจเป็นเพราะ cost of living สูงกว่าประเทศไทย ค่าข้าวต่อมื้อ ก๋วยเตี๋ยวธรรมดานี่ก็ซัดไป 80-100 บาท แล้วที่แพงมากแบบไม่คิดว่าจะแพงได้คือ บ้านคะ บ้านที่นี่ถ้าเป็นบ้านเดี่ยว (ถึงจะไม่ได้อยู่ในเมืองนะคะ) ต้องมี 10 ล้านขึ้น ซึ่งบ้านเรากรุงเทพขอบๆหน่อย 5-6 ล้านนี่ก็ได้บ้านเดี่ยวแล้วนะคะ
- สิทธิต่างๆของรัฐ ต้องบอกเลยค่ะ ถ้าคุณเป็นมาเล มาเลย์ คุณได้สิทธิประโยชน์มากมายแน่นอน อย่างที่หลายๆ comment บอก จีนมาเลย์ นี่เหมือนเป็นพลเมืองชั้นสอง ประมาณนั้นเลย เค้าจะให้สิทธิมาเล มาเลย์ก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเข้ามหาลัยหรือใดๆ ตรงนี้ประเทศไทยชนะเลิศคะ เพราะมีแต่ “ไทย” ส่วนที่นี่เวลาคุณกรอกเอกสารนั้น คุณต้องกรอกเชื้อชาติด้วยค่ะ มาเลย์ จีน หรืออินเดีย
- สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆเราว่า แล้วแต่นะคะ บางระบบก็ดูทันสมัยกว่าบ้านเรา อาจจะเป็นเพราะตั้งแต่สมัยอังกฤษปกครอง วางมาดี แต่บางอย่างก็ล้าหลังกว่าไทยค่ะ
- ระบบการศึกษาที่นี่ อาจจะหลากหลายกว่าประเทศไทย คือ มีโรงเรียนมาเล โรงเรียนจีน โรงเรียน inter แต่ทุกโรงเรียนก็จะเน้นภาษาอังกฤษ อันนี้คือที่คิดว่าไ้ด้เปรียบกว่าบ้านเรานิดหน่อย เด็กๆที่นี่ส่วนใหญ่ก็พูดภาษาอังกฤษได้ค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะพูดได้อย่างน้อยคนละ 2 ภาษา
- ห้างที่นี่เยอะค่ะ แต่ที่ที่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว ไม่ค่อยมีคน จะร้างมาก คนจะกระจุกอยู่ตามห้างใหญ่ๆในเมืองคะ ห้างประเทศไทยชนะเลิศ มีคนตลอดเวลา เรื่อง Shopping ไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก
- เรื่องการเมือง เราว่าโกงมากกว่าคนไทยนะคะ คนไทยโกงแล้ว พอมีคนเปิดโปง social ยังเล่นข่าว คนที่โกงนี่ก็อยู่ไม่ค่อยสบายตัว แต่ที่นี่เรารู้สึกว่า โกงแบบหน้าด้านๆอะ คือโกงแล้วจะทำไม ไรงี้ พอจะสอบสวนอะไร อยู่ที่ตึกที่เก็บหลักฐานก็ไฟไหม้ซะงั้น คิดว่าละครนะเนี่ย เราว่าประชาชน เค้าก็รู้ว่าโกง แต่เหมือนไม่มีทางเลือก ดีกว่าเอาเชื้อชาติอื่นมาเป็นใหญ่
- ค่าเงินตอนนี้แย่มากกว่า รอดูหลังเลือกตั้งว่าจะดีขึ้นไหม

โดยรวมๆ ส่วนตัวเรา เราว่า ไทยคุณภาพชีวิตดีกว่านะคะ รู้สึกอยู่เมืองไทยปลอดภัยกว่า ชิวกว่า มาเลย์เนี่ย คนเก่งๆ หมายถึงคนจีนส่วนใหญ่ ที่แบบมีความสามารถ มีเงินหน่อย เค้าก็จะไม่ค่อยอยู่อะค่ะ ไม่ไปเรียนต่อ สิงคโปร์ ไต้หวัน ออสเตรเลีย ก็อังกฤษคะ แล้วก็ไม่ค่อยอยากจะกลับมาทำงานที่มาเลเซียหรอกค่ะ อารมณ์แบบไม่ค่อยสำนึกรักบ้านเกิด เทียบกับคนไทย น่าจะอยากกลับบ้านมากกว่า มาเลเซียเลย import แรงงานต่างชาติเยอะมากกกก คนพวกนี้ก็เฮ่อ คิดถึงเด็กเสริร์ฟพม่าบ้านเราเลย พูดไม่ชัด ยังรู้เรื่อง นี่แบบพูดไป 3 ภาษาแล้ว ยังไม่เข้าใจ
ความคิดเห็นที่ 80
ความจริงไอ้การเปรียบเทียบทื่อๆ แบบบัญญัติไตรยางค์ อาทิ เช่น ตึกสูง  สายไฟลงดิน  พาสปอร์ต ฯลฯ นี่มันออกจะหยาบไปสักหน่อย
ทุกประเทศมันมีสภาพแวดล้อมไม่เหมือนกัน
การก้าวไปสู่ความเจริญ อยู่ดีกินดี ศักดิ์ศรี มันเอาอะไรมาวัด  กินข้าววันละ 2มื้อ 3มื้อ 5มื้อ  ยังไม่รู้เลยไหนดีกว่า

ไทยมีชายแดนที่ต้องดูแลหนักมาก กี่ประเทศ  หนุ่มแว่น
มาเลเซียมีติดกับไทยด้านเดียว เรายังต้องต่อสู้กับความไม่สงบเลย มันผุดจากดินหรือตกจากฟ้าเสียเมื่อไร

ไทยมีรถไฟใต้ดินมา15 ปี มาเลเซียเพิ่งเปิดใช้เมื่อปีที่แล้ว แบบนี้เราจะเจริญกว่ามาเลเซีย 14 ปีหรือไม่
ไทยต้องขนคนมหาศาล จะมาทำโมโนเรลเล็กๆง่ายแบบมาเลเซีย  ขนที่ละนิดเดียวคนก็ด่ากันตาย

เอาพวกตึกใครสูงกว่า สายไฟลงดินหรือยัง เมืองยุโรปคงง่อยพัฒนาไปหมดFacepalm
เอาพาสปอร์ตเข้าอเมริกามาวัด จีนมันคงด้อยพัฒนากว่ามาเลเซียไปหมด   เพราะคนจีนเข้าอเมริกาต้องขอวีซ่า
แต่เอ๊ะ ทำไมมาเลเซียง้อเงินจีนล่ะ

การจะเอาแค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง  มาวัดว่าใครดีกว่ากันทั้งหมด  ผมว่ามันสิ้นคิด  เศร้า
ว่ากันเป็นเรื่องๆไปดีกว่า  ไม่ใช่บอกตึกสูงกว่า  ไม่เห็นสายไฟ  พาสปอร์ตเจ๋ง แล้วบอกชีวิตข้าดีกว่า

เมืองไทย มี 78 จังหวัด อุดมคติต่างกัน  
ต้องเลือกเอาพัฒนาในแนวราบให้ทั่ว  หรือพัฒนาในแนวดิ่งแบบมาเลเซีย ที่ตี กรอบเป็นที่ๆแล้วทุ่มลงไป  ประหลาดใจ

แต่เมืองไทยชาวบ้านอยู่กระจายทั่วไปหมด  นี่จึงเป็นสาเหตุใหญ่ที่เมืองไทยต้องขยายเครือข่าย คมนาคมให้ทั่วถึงก่อนเพื่อน
ลองเช็คปริมาณถนน รางรถไฟ ให้ดีว่ามันต่างกันมาก

จะเรื่องห้างความเป็นอยู่ในเมืองไทย  ก็ต้องทุ่มจนแทบจะมีทุกจังหวัด พื้นที่มันต่างกันมาก  ทรัพย์สิน เวลา และงบประมาณที่ทุ่มมาหลายสิบปีมันเยอะกว่ามาเลเซีย งานมันยากกว่า

กรุงเทพฯ จะไปด่าว่าผังเมืองแย่  แล้วบอกว่าเป็นสาเหตุของความไม่เจริญ Facepalm
แบบนี้คงต้องทิ้งให้ร้างทั้งเมือง  ไปสร้างเมืองใหม่แบบเนปิดอ จะได้อ้างว่าเจริญ แต่พม่าเจริญกว่าเมืองไทยหรือ

กรุงเทพฯ มันเป็นเมืองท่ามา 3-4 ร้อยปีแล้ว จนกระทั่งปรับเป็นศูนย์กลางเมื่อ 250 ปีที่แล้ว  จะให้มีถนนกว้างๆ ฟุตบาทกว้างๆสวยๆได้ยังไง  
ไอ้ที่มีสีสรรก็เพราะฟุตบาทเล็กนี่แหละ  มันอยู่ที่ยุทธศาสตร์ว่า  จะทำอะไรก่อนหลัง
ถ้ามัวไปฝังสายไฟ  รื้อตึก เวณคืนทำถนนใหญ่ๆ  ผมเชื่อว่าป่านนี้เมืองไทยไปไม่ถึงไหนแน่  หมดแรงก่อน   มันต้องเกลี่ยไปพร้อมกัน

เมืองไทยต้องการพัฒนาในแนวราบ  แต่ก็ละเลยพัฒนาในแนวตั้งเป็นบางเมืองไม่ได้อีก เพราะเงินมันไหลมาทางนั้น  
พอทำมากไปก็มีคนมาด่าว่าเมืองโตเดี่ยว
มันต้องเกลี่ยให้พร้อมกัน  มันยากกว่ามาเลเซียเยอะ

ถ้าถามว่าอันไหนคุณภาพชีวิตดีกว่า  ผมขอเพิ่มอยู่อย่างมีสีสรรค์ สนุกมากกว่าอีกข้อได้ไหม เท่
อยู่อย่างสนุก มีความหวัง  ยังไงผมก็ชอบเมืองไทยมากกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่