หวัดดีจ้ะ
ขออนุญาตจ้ะ
ตามนี้นะจ๊ะ
'กสิกรไทย' เสียบแทน 'เอไอเอส' ร่วมลงขันถ่ายฟุตบอลโลก
ขอขอบคุณที่มาจ้ะ - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (Th)
Friday, April 13, 2018 08:01
“กสิกรไทย” เซอร์ไพรส์ เข้าโค้งสุดท้าย เสียบแทน ”เอไอเอส” โดดร่วมลงขัน ถ่ายทอดฟุตบอลโลก นัดแถลงข่าวร่วม 7 ราย 19 เม.ย. หวังเป็นของขวัญให้ชาวไทย “คิง เพาเวอร์” ตัวกลางเจรจาลิขสิทธิ์ ระบุ มี 4 ช่องทีวีได้รับโอกาสถ่ายทอด
สำหรับความคืบหน้า การซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย ล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงบริษัทที่จะร่วมลงขันและเซอร์ไพรส์พอสมควร เมื่อธนาคารกสิกรไทย โดยเข้าร่วมลงขันถ่ายทอดสดครั้งนี้ด้วย โดยเข้าเสียบแทน บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) โดยยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนว่าการถอนตัวของ เอไอเอส เกิดจากสาเหตุอะไร เพราะช่องทางในการถ่ายทอดของ เอไอเอส ผ่านมือถือ มีประสิทธิ์ภาพมากพอที่จะ ตอกย้ำเบรนด์เนื้อหาด้านกีฬาและสร้างรายได้ อย่างดี หลังจากที่ทำการตลาดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ของอังกฤษมาแล้ว
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการดึง 7 บริษัทเข้ามาร่วมลงขันเพื่อให้คนไทยได้ชมฟุตบอลโลก โดยมีการเริ่มเจรจากันตั้งแต่เดือนม.ค.2561 โดย 7 บริษัทแรกที่ตกลงประกอบด้วย ประกอบด้วย 1.บริษัท คิง เพาเวอร์ 2.กลุ่มบริษัทเจริญโภคภัณฑ์3.บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) 4.บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอส) 5. บริษัท กัลฟ์ อิเลคทริก จำกัด (มหาชน) หรือ GULF 6.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ 7.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ในการประชุม เมื่อ 2 มี.ค. มีการหารือกันว่าเพื่อไม่ให้ถูกกล่าวหา ว่า มีการนำภาษีประชาชน มาใช้ในการถ่ายทอดฟุตบอลโลก จึงให้ถอน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ออกไป และให้หาเอกชนรายอื่นเข้ามาเสียบแทน ซึ่งในที่สุดได้ บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอไอเอส เข้ามาเสียบแทน แต่ล่าสุด เป็นธนาคารกสิกรไทย เข้ามาแทน เอไอเอส โดยยังไม่ทราบสาเหตุการถอนตัวของบริษัทมือถืออันดับหนึ่งของไทย
ดังนั้น 7 บริษัทล่าสุด ที่ตกลงร่วมลงขันและคาดว่าจะลงตัวแล้ว ประกอบด้วย 1.บริษัท คิง เพาเวอร์ 2.กลุ่มบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ 3.บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) 4.บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอส) 5. บริษัท กัลฟ์ อิเลคทริก จำกัด (มหาชน) หรือ GULF 6.บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)และ ธนาคารกสิกรไทย โดยแต่ละบริษัทจะลงขันบริษัทละ 200 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกจากฟีฟ่าซึ่งมีมูลค่า 1,400 ล้านบาท และจะมีการแถลงข่าวความชัดเจนทั้งหมดและช่องทางการถ่ายทอดสด ในวันที่ 19 เม.ย.นี้
“ผมยังไม่ทราบว่ารายใดเข้าออกบ้าง แต่ไม่มีปัญหาใครออกก็มีรายอื่นแทน แต่ที่ยืนยัน 100% และผมดีใจมาก คือคนไทยได้ดูการถ่ายทอดฟุตบอลโลก ทั้ง 64 นัดแน่นอน ส่วนทีวี ที่จะมีการถ่ายทอด ไม่น่าจะเกิน 4 ช่อง เพราะหากมากกว่านี้ แต่ละช่องจะเหลือให้ถ่ายไม่กี่คู่ เพราะ 4 ช่องเฉลี่ยได้ถ่าย 10 กว่าคู่เท่านั้น" นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) กล่าว
รายงานข่าวระบุว่า ทีวี 4ช่องที่คาดว่าจะได้รับโอกาสครั้งนี้ น่าจะมาจาก ทีวี ที่กลุ่มบริษัทลงขันถือหุ้นอยู่ ประกอบด้วย ช่อง TNN24 และ True4You ในเครือ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ และอีก 2ช่อง คือ AmarinTV และ GMM25 ในเครือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ
?
ขอขอบคุณที่มาจ้ะ: www.bangkokbiznews.com
ไปแล้วนะจ๊ะ
สุขสันต์วันสงกรานต์จ้ะ
บายจ้ะ
แจ้งข่าวจ้ะ โผช่องทีวีสำหรับถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 และผู้สนับสนุนการถ่ายทอดสดอย่างไม่เป็นทางการจ้ะ
ขออนุญาตจ้ะ
ตามนี้นะจ๊ะ
'กสิกรไทย' เสียบแทน 'เอไอเอส' ร่วมลงขันถ่ายฟุตบอลโลก
ขอขอบคุณที่มาจ้ะ - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (Th)
Friday, April 13, 2018 08:01
“กสิกรไทย” เซอร์ไพรส์ เข้าโค้งสุดท้าย เสียบแทน ”เอไอเอส” โดดร่วมลงขัน ถ่ายทอดฟุตบอลโลก นัดแถลงข่าวร่วม 7 ราย 19 เม.ย. หวังเป็นของขวัญให้ชาวไทย “คิง เพาเวอร์” ตัวกลางเจรจาลิขสิทธิ์ ระบุ มี 4 ช่องทีวีได้รับโอกาสถ่ายทอด
สำหรับความคืบหน้า การซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย ล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงบริษัทที่จะร่วมลงขันและเซอร์ไพรส์พอสมควร เมื่อธนาคารกสิกรไทย โดยเข้าร่วมลงขันถ่ายทอดสดครั้งนี้ด้วย โดยเข้าเสียบแทน บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) โดยยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนว่าการถอนตัวของ เอไอเอส เกิดจากสาเหตุอะไร เพราะช่องทางในการถ่ายทอดของ เอไอเอส ผ่านมือถือ มีประสิทธิ์ภาพมากพอที่จะ ตอกย้ำเบรนด์เนื้อหาด้านกีฬาและสร้างรายได้ อย่างดี หลังจากที่ทำการตลาดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ของอังกฤษมาแล้ว
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการดึง 7 บริษัทเข้ามาร่วมลงขันเพื่อให้คนไทยได้ชมฟุตบอลโลก โดยมีการเริ่มเจรจากันตั้งแต่เดือนม.ค.2561 โดย 7 บริษัทแรกที่ตกลงประกอบด้วย ประกอบด้วย 1.บริษัท คิง เพาเวอร์ 2.กลุ่มบริษัทเจริญโภคภัณฑ์3.บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) 4.บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอส) 5. บริษัท กัลฟ์ อิเลคทริก จำกัด (มหาชน) หรือ GULF 6.บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ 7.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ในการประชุม เมื่อ 2 มี.ค. มีการหารือกันว่าเพื่อไม่ให้ถูกกล่าวหา ว่า มีการนำภาษีประชาชน มาใช้ในการถ่ายทอดฟุตบอลโลก จึงให้ถอน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ออกไป และให้หาเอกชนรายอื่นเข้ามาเสียบแทน ซึ่งในที่สุดได้ บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอไอเอส เข้ามาเสียบแทน แต่ล่าสุด เป็นธนาคารกสิกรไทย เข้ามาแทน เอไอเอส โดยยังไม่ทราบสาเหตุการถอนตัวของบริษัทมือถืออันดับหนึ่งของไทย
ดังนั้น 7 บริษัทล่าสุด ที่ตกลงร่วมลงขันและคาดว่าจะลงตัวแล้ว ประกอบด้วย 1.บริษัท คิง เพาเวอร์ 2.กลุ่มบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ 3.บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) 4.บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอส) 5. บริษัท กัลฟ์ อิเลคทริก จำกัด (มหาชน) หรือ GULF 6.บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)และ ธนาคารกสิกรไทย โดยแต่ละบริษัทจะลงขันบริษัทละ 200 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกจากฟีฟ่าซึ่งมีมูลค่า 1,400 ล้านบาท และจะมีการแถลงข่าวความชัดเจนทั้งหมดและช่องทางการถ่ายทอดสด ในวันที่ 19 เม.ย.นี้
“ผมยังไม่ทราบว่ารายใดเข้าออกบ้าง แต่ไม่มีปัญหาใครออกก็มีรายอื่นแทน แต่ที่ยืนยัน 100% และผมดีใจมาก คือคนไทยได้ดูการถ่ายทอดฟุตบอลโลก ทั้ง 64 นัดแน่นอน ส่วนทีวี ที่จะมีการถ่ายทอด ไม่น่าจะเกิน 4 ช่อง เพราะหากมากกว่านี้ แต่ละช่องจะเหลือให้ถ่ายไม่กี่คู่ เพราะ 4 ช่องเฉลี่ยได้ถ่าย 10 กว่าคู่เท่านั้น" นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) กล่าว
รายงานข่าวระบุว่า ทีวี 4ช่องที่คาดว่าจะได้รับโอกาสครั้งนี้ น่าจะมาจาก ทีวี ที่กลุ่มบริษัทลงขันถือหุ้นอยู่ ประกอบด้วย ช่อง TNN24 และ True4You ในเครือ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ และอีก 2ช่อง คือ AmarinTV และ GMM25 ในเครือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ
?
ขอขอบคุณที่มาจ้ะ: www.bangkokbiznews.com
ไปแล้วนะจ๊ะ
สุขสันต์วันสงกรานต์จ้ะ
บายจ้ะ