https://www.thairath.co.th/content/1254401
ปั่นกระแสให้เกลียดกลัว!!!
13 เม.ย. 2561 - โดย นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
ขณะนี้มีการปั่นกระแสในโซเชียลมีเดีย เพื่อให้เกิดความคิดต่อต้านศาสนาโน้นศาสนานี้
ความคิดต่อต้านอย่างนี้ล่ะครับ เคยเกิดขึ้นกับชาวยิว จนในบั้นปลายท้ายที่สุด ก็ทำให้ผู้ต่อต้านอย่างอคตินั้นพังมาแล้ว
ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ใด ถือสัญชาติใด คนยิวจะรักษาศาสนา ภาษา และวัฒนธรรมของยิวไว้ ยิวเป็นพวกที่มีวัฒนธรรมแข็งขยัน และอดทน ยิวจึงมักจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน เรื่องธุรกิจนี่ยิวจะมาเป็นอันดับ 1 เสมอ นี่เป็น 1 ในหลายสาเหตุที่ทำให้ชนชาติเจ้าของแผ่นดินเดิมอิจฉายิว และก็มักจะก่อหวอดต่อต้านชาวยิวอยู่บ่อยๆ
2 พันปีที่แล้ว ยิวตกอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิโรมัน ชาวยิวจึงกระจัดพลัดพรายแตกกระสานซ่านเซ็นจากแผ่นดินเดิมไปอยู่ในแผ่นดินอื่น ที่ไปลงหลักปักฐานกันมากก็ในทวีปยุโรป แอฟริกาตอนเหนือ และอเมริกา ไปอยู่ที่ไหน นอกจากสร้างชื่อทางธุรกิจค้าขายแล้ว ยิวยังสร้างชื่อเสียงในวิชาการด้านต่างๆ
ความคิดเรื่องต่อต้านยิวเริ่มมาแรงเมื่อนักปราชญ์ชาวฝรั่งเศสที่ชื่อ โชแซฟ แอร์เนสต์ เรอนอง คนนี้นี่แหละครับ ที่เป็นคนเอาความแตกต่างด้านภาษาศาสตร์ระหว่างกลุ่มอารยันกับกลุ่มเซมิติกมาใช้ในการแบ่งแยกเชื้อชาติ
นักเขียนที่มีใจอคติและอิจฉาริษยาในความร่ำรวยของชาวยิว ซึ่งเป็นพวกเซมิติกก็อ้างโชแซฟ แอร์เนสต์ เรอนอง เขียนโจมตียิวกันใหญ่ ถ้าเป็นสมัยนี้ก็เหมือนกับว่าปล่อยของทางโซเชียลมีเดียเพื่อเล่นกระแส ข้อเขียนแต่ละชิ้นโจมตีว่ายิวเป็นกลุ่มเชื้อชาติที่ต่ำต้อย รวยมาจากการค้าขาย ไม่เหมือนกับพวกผู้ดีจากเผ่าพันธุ์อื่นๆ ที่รวยจากมรดกตระกูล หรือมรดก ราชสำนัก
พรรคการเมืองในเยอรมนีสมัยนั้นก็หาเสียงด้วยบอกว่ายิวมีศาสนาที่แตกต่างจากคนเยอรมันทั่วไป ถ้ายังขืนปล่อยให้เข้มแข็ง ต่อไปในอนาคต คนเยอรมันของแท้จะไม่มีแผ่นดินอยู่ ยิวมีเงินก็จะซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า อนาคตของเยอรมนีจะไม่มั่นคง คนเยอรมันฟังแล้วก็เชื่อ ความคิดต่อต้านชาวยิว การต่อต้านยิวได้แพร่ขยายกระจายเข้าไปสู่จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีด้วย
ที่รัสเซียเองก็มีการต่อต้านยิวกันอย่างรุนแรง ในสมัยพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 มีคนรัสเซียรวมตัวกันเรียกตัวเองว่า Black Hundreds หรือกลุ่มร้อยทมิฬ ไล่ทำร้ายคนยิว มีคนยิวเสียชีวิตและบาดเจ็บเยอะนะครับ แค่ 4 ปี ระหว่าง ค.ศ.1905– 1909 คนยิวโดนทำร้ายจนตายและบาดเจ็บไปมากกว่า 5 หมื่น ผู้อ่านท่านลองนึกดูนะครับ ว่าสมัยนั้นยังไม่มีโซเชียลมีเดีย การปั่นกระแสรักหรือเกลียดใครยังทำได้ไม่รวดเร็วกว้างขวางเหมือนปัจจุบัน คนยังบาดเจ็บล้มตายกันมากมายขนาดนี้
ตอนที่ฮิตเลอร์ขึ้นมาเป็นผู้นำเยอรมนี แกให้สัมภาษณ์ปั่นกระแสเกลียดยิวบ่อยมาก อะไรก็ตามที่เป็นความเลวร้าย ความไม่สำเร็จ หรือข้อบกพร่องของรัฐบาล ฮิตเลอร์ก็โยนความผิดไปให้พวกยิวทั้งหมด ประโยคที่ฮิตเลอร์พูดบ่อยที่สุดก็คือ ยิวทำความเสียหายให้แก่บ้านเมือง ฮิตเลอร์จึงตรากฎหมายขึ้นมาหลายฉบับ เช่น กฎหมายนูเรมเบิร์กแห่งเดือนกันยายน ค.ศ.1935 ที่ถอนสิทธิการเป็นพลเมืองของชาวยิว ห้ามชายยิวแต่งงานกับหญิงเยอรมันเชื้อสายอารยัน พอกระแสเกลียดยิวเกิดขึ้นอย่างเต็มที่ ฮิตเลอร์ก็สั่งให้ออกกฎหมายยึดทรัพย์ชาวยิวเยอรมันในเดือนพฤศจิกายน 1938
การจะยึดทรัพย์ใคร ก็ต้องมีการปั่นกระแสให้คนทั่วไปแขยงแขงขนจนเกลียดเสียก่อน เพื่อสร้างความชอบธรรมในการยึด
การปั่นกระแสของฮิตเลอร์ทำให้คนยิวถูกจับไปขังในค่ายกักกันและตายไปมากกว่า 6 ล้านในสงครามโลกครั้งที่ 2 คนยิวจึงตั้งขบวนการเพื่อช่วยเหลือคนยิวด้วยกันให้ได้อพยพไปทำมาหากินในประเทศที่ปลอดภัย
บั้นปลายท้ายที่สุดก็เกิดขบวนการไซออนนิสม์เพื่อช่วยเหลือชาวยิวให้ไปตั้งประเทศแคว้นปาเลสไตน์และกลายเป็นประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน.
https://www.thairath.co.th/content/1254401
ปั่นกระแสให้เกลียดกลัว!!!
ปั่นกระแสให้เกลียดกลัว!!!
13 เม.ย. 2561 - โดย นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
ขณะนี้มีการปั่นกระแสในโซเชียลมีเดีย เพื่อให้เกิดความคิดต่อต้านศาสนาโน้นศาสนานี้
ความคิดต่อต้านอย่างนี้ล่ะครับ เคยเกิดขึ้นกับชาวยิว จนในบั้นปลายท้ายที่สุด ก็ทำให้ผู้ต่อต้านอย่างอคตินั้นพังมาแล้ว
ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ใด ถือสัญชาติใด คนยิวจะรักษาศาสนา ภาษา และวัฒนธรรมของยิวไว้ ยิวเป็นพวกที่มีวัฒนธรรมแข็งขยัน และอดทน ยิวจึงมักจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน เรื่องธุรกิจนี่ยิวจะมาเป็นอันดับ 1 เสมอ นี่เป็น 1 ในหลายสาเหตุที่ทำให้ชนชาติเจ้าของแผ่นดินเดิมอิจฉายิว และก็มักจะก่อหวอดต่อต้านชาวยิวอยู่บ่อยๆ
2 พันปีที่แล้ว ยิวตกอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิโรมัน ชาวยิวจึงกระจัดพลัดพรายแตกกระสานซ่านเซ็นจากแผ่นดินเดิมไปอยู่ในแผ่นดินอื่น ที่ไปลงหลักปักฐานกันมากก็ในทวีปยุโรป แอฟริกาตอนเหนือ และอเมริกา ไปอยู่ที่ไหน นอกจากสร้างชื่อทางธุรกิจค้าขายแล้ว ยิวยังสร้างชื่อเสียงในวิชาการด้านต่างๆ
ความคิดเรื่องต่อต้านยิวเริ่มมาแรงเมื่อนักปราชญ์ชาวฝรั่งเศสที่ชื่อ โชแซฟ แอร์เนสต์ เรอนอง คนนี้นี่แหละครับ ที่เป็นคนเอาความแตกต่างด้านภาษาศาสตร์ระหว่างกลุ่มอารยันกับกลุ่มเซมิติกมาใช้ในการแบ่งแยกเชื้อชาติ
นักเขียนที่มีใจอคติและอิจฉาริษยาในความร่ำรวยของชาวยิว ซึ่งเป็นพวกเซมิติกก็อ้างโชแซฟ แอร์เนสต์ เรอนอง เขียนโจมตียิวกันใหญ่ ถ้าเป็นสมัยนี้ก็เหมือนกับว่าปล่อยของทางโซเชียลมีเดียเพื่อเล่นกระแส ข้อเขียนแต่ละชิ้นโจมตีว่ายิวเป็นกลุ่มเชื้อชาติที่ต่ำต้อย รวยมาจากการค้าขาย ไม่เหมือนกับพวกผู้ดีจากเผ่าพันธุ์อื่นๆ ที่รวยจากมรดกตระกูล หรือมรดก ราชสำนัก
พรรคการเมืองในเยอรมนีสมัยนั้นก็หาเสียงด้วยบอกว่ายิวมีศาสนาที่แตกต่างจากคนเยอรมันทั่วไป ถ้ายังขืนปล่อยให้เข้มแข็ง ต่อไปในอนาคต คนเยอรมันของแท้จะไม่มีแผ่นดินอยู่ ยิวมีเงินก็จะซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า อนาคตของเยอรมนีจะไม่มั่นคง คนเยอรมันฟังแล้วก็เชื่อ ความคิดต่อต้านชาวยิว การต่อต้านยิวได้แพร่ขยายกระจายเข้าไปสู่จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีด้วย
ที่รัสเซียเองก็มีการต่อต้านยิวกันอย่างรุนแรง ในสมัยพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 มีคนรัสเซียรวมตัวกันเรียกตัวเองว่า Black Hundreds หรือกลุ่มร้อยทมิฬ ไล่ทำร้ายคนยิว มีคนยิวเสียชีวิตและบาดเจ็บเยอะนะครับ แค่ 4 ปี ระหว่าง ค.ศ.1905– 1909 คนยิวโดนทำร้ายจนตายและบาดเจ็บไปมากกว่า 5 หมื่น ผู้อ่านท่านลองนึกดูนะครับ ว่าสมัยนั้นยังไม่มีโซเชียลมีเดีย การปั่นกระแสรักหรือเกลียดใครยังทำได้ไม่รวดเร็วกว้างขวางเหมือนปัจจุบัน คนยังบาดเจ็บล้มตายกันมากมายขนาดนี้
ตอนที่ฮิตเลอร์ขึ้นมาเป็นผู้นำเยอรมนี แกให้สัมภาษณ์ปั่นกระแสเกลียดยิวบ่อยมาก อะไรก็ตามที่เป็นความเลวร้าย ความไม่สำเร็จ หรือข้อบกพร่องของรัฐบาล ฮิตเลอร์ก็โยนความผิดไปให้พวกยิวทั้งหมด ประโยคที่ฮิตเลอร์พูดบ่อยที่สุดก็คือ ยิวทำความเสียหายให้แก่บ้านเมือง ฮิตเลอร์จึงตรากฎหมายขึ้นมาหลายฉบับ เช่น กฎหมายนูเรมเบิร์กแห่งเดือนกันยายน ค.ศ.1935 ที่ถอนสิทธิการเป็นพลเมืองของชาวยิว ห้ามชายยิวแต่งงานกับหญิงเยอรมันเชื้อสายอารยัน พอกระแสเกลียดยิวเกิดขึ้นอย่างเต็มที่ ฮิตเลอร์ก็สั่งให้ออกกฎหมายยึดทรัพย์ชาวยิวเยอรมันในเดือนพฤศจิกายน 1938
การจะยึดทรัพย์ใคร ก็ต้องมีการปั่นกระแสให้คนทั่วไปแขยงแขงขนจนเกลียดเสียก่อน เพื่อสร้างความชอบธรรมในการยึด
การปั่นกระแสของฮิตเลอร์ทำให้คนยิวถูกจับไปขังในค่ายกักกันและตายไปมากกว่า 6 ล้านในสงครามโลกครั้งที่ 2 คนยิวจึงตั้งขบวนการเพื่อช่วยเหลือคนยิวด้วยกันให้ได้อพยพไปทำมาหากินในประเทศที่ปลอดภัย
บั้นปลายท้ายที่สุดก็เกิดขบวนการไซออนนิสม์เพื่อช่วยเหลือชาวยิวให้ไปตั้งประเทศแคว้นปาเลสไตน์และกลายเป็นประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน.
https://www.thairath.co.th/content/1254401