แชร์ประสบการณ์เพื่อเตือนนักเขียนหน้าใหม่ ถ้ามีคนเข้ามาขอพิจารณาต้นฉบับ มีหลายรูปแบบทั้งบอกว่าจะเปิด สนพ เป็นความฝัน, เป็นตัวแทน, เป็น บก ฟรีแลนซ์ เราเจอมาทุกรูปแบบแล้ว ทั้งขอแล้วปฏิเสธ ไม่ได้ตีพิมพ์ สปอยล์งานตัดหน้า ขอเอาไปตีพิมพ์แต่สุดท้ายตีตัวออกห่าง
เคยพิมพ์จริงๆ เรื่องเดียวแต่หนังสือออกมาไม่ดี ให้บรีฟงานต่างๆในเล่ม สุดท้ายไม่ใส่ก็ไม่แจ้งนักเขียน งานออกมาแย่ หนังสือวางจำหน่ายไปแล้ว เราทำขายเองไม่ได้เพราะมีสัญญา เวลาจะติดต่ออะไร ติดต่อผ่าน สนพ ไม่ได้คำตอบนะคะ ทั้งเมล ทั้งเพจ เคยติดต่อไปแต่อยู่ๆ ประกาศเปลี่ยนเมลหน้าเพจ ทำเป็นว่าต้องติดต่อผ่านนักเขียนที่เข้ามาหาเราตอนแรก ถึงจะได้เรื่อง แล้วดูนักเขียนคนนี้ตั้งใจทำนิสัยให้เราไม่อยากคุยด้วยอีก อย่าให้พูดเลยค่ะ จากดีๆ มีการนินทาให้เรารู้ด้วย สรุปตอนนั้นแค่เข้ามาทำดีเพื่อของาน แย่มากๆเลยค่ะ เราตัดสินใจลบงานนั้น พอลบ สนพ เอาไปเปิดในชื่อตัวเองเฉย แสดงว่า สนพ พยายามไม่ให้เราติดต่อแต่ดูงานเราตลอด ส่วนค่าอีบุ๊คที่เหลือสัญญา เราไม่ได้ทวงตั้งแต่ปีก่อน ทุกอย่างต้องทวง สนพ ไม่ได้จัดการให้ตามกำหนด ค่าต้นฉบับก็เช่นกัน อย่างค่าอีบุ๊ค นานๆทีได้ 100-200 ทำขายเองคุ้มกว่า ถึงตอนได้ค่าต้นฉบับจะได้เป็นก้อนแต่ผลระยะยาวไม่โอเค รวมทั้งนามปากกาที่พ่วงงาน สนพ โดยที่เขาจะไม่ออกงานให้เราอีกก็ได้ แต่เวลาลงขายนิยายแบบอีบุ๊ค นามปากกาลิ้งค์ถึงกันหมด นักเขียนเสียเปรียบค่ะ ทั้งที่ยืมลิขสิทธิ์งานเราไปแค่งานเดียว เวลาทำอะไรก็ไม่เคยให้เกียรตินักเขียน แต่เราคิดซะว่าอย่างน้อยก็ได้รู้และจะไม่มีผิดพลาดวันหลังอีก
เราเจอมาเยอะจริงๆ บอกตามตรงที่ผิดหวังคือนักเขียนคนนี้ มีชื่อเสียงอยู่แต่มารู้ว่าเบื้องหลังหากินกับเด็กใหม่ๆ เรามองเขาติดลบจนคิดว่าไม่ต้องพูดอะไรกันแล้ว ถือว่าทำบุญให้เขาไปในเมื่อเขามาขอส่วนบุญ ตอนนี้เลิกหวังอะไรในวงการนิยายไปแล้วค่ะ ตัดสินใจทำงานประจำ
เป็นห่วงนักเขียนที่มาใหม่ทุกคน ถ้าใครเข้ามาขอต้นฉบับ ให้คิดดีๆก่อน เพราะหลังจากเขาได้งานเราไปแล้ว นักเขียนหมดความหมายค่ะ
ขอบคุณที่รับฟัง
แชร์ประสบการณ์เพื่อเตือนนักเขียนหน้าใหม่
เคยพิมพ์จริงๆ เรื่องเดียวแต่หนังสือออกมาไม่ดี ให้บรีฟงานต่างๆในเล่ม สุดท้ายไม่ใส่ก็ไม่แจ้งนักเขียน งานออกมาแย่ หนังสือวางจำหน่ายไปแล้ว เราทำขายเองไม่ได้เพราะมีสัญญา เวลาจะติดต่ออะไร ติดต่อผ่าน สนพ ไม่ได้คำตอบนะคะ ทั้งเมล ทั้งเพจ เคยติดต่อไปแต่อยู่ๆ ประกาศเปลี่ยนเมลหน้าเพจ ทำเป็นว่าต้องติดต่อผ่านนักเขียนที่เข้ามาหาเราตอนแรก ถึงจะได้เรื่อง แล้วดูนักเขียนคนนี้ตั้งใจทำนิสัยให้เราไม่อยากคุยด้วยอีก อย่าให้พูดเลยค่ะ จากดีๆ มีการนินทาให้เรารู้ด้วย สรุปตอนนั้นแค่เข้ามาทำดีเพื่อของาน แย่มากๆเลยค่ะ เราตัดสินใจลบงานนั้น พอลบ สนพ เอาไปเปิดในชื่อตัวเองเฉย แสดงว่า สนพ พยายามไม่ให้เราติดต่อแต่ดูงานเราตลอด ส่วนค่าอีบุ๊คที่เหลือสัญญา เราไม่ได้ทวงตั้งแต่ปีก่อน ทุกอย่างต้องทวง สนพ ไม่ได้จัดการให้ตามกำหนด ค่าต้นฉบับก็เช่นกัน อย่างค่าอีบุ๊ค นานๆทีได้ 100-200 ทำขายเองคุ้มกว่า ถึงตอนได้ค่าต้นฉบับจะได้เป็นก้อนแต่ผลระยะยาวไม่โอเค รวมทั้งนามปากกาที่พ่วงงาน สนพ โดยที่เขาจะไม่ออกงานให้เราอีกก็ได้ แต่เวลาลงขายนิยายแบบอีบุ๊ค นามปากกาลิ้งค์ถึงกันหมด นักเขียนเสียเปรียบค่ะ ทั้งที่ยืมลิขสิทธิ์งานเราไปแค่งานเดียว เวลาทำอะไรก็ไม่เคยให้เกียรตินักเขียน แต่เราคิดซะว่าอย่างน้อยก็ได้รู้และจะไม่มีผิดพลาดวันหลังอีก
เราเจอมาเยอะจริงๆ บอกตามตรงที่ผิดหวังคือนักเขียนคนนี้ มีชื่อเสียงอยู่แต่มารู้ว่าเบื้องหลังหากินกับเด็กใหม่ๆ เรามองเขาติดลบจนคิดว่าไม่ต้องพูดอะไรกันแล้ว ถือว่าทำบุญให้เขาไปในเมื่อเขามาขอส่วนบุญ ตอนนี้เลิกหวังอะไรในวงการนิยายไปแล้วค่ะ ตัดสินใจทำงานประจำ
เป็นห่วงนักเขียนที่มาใหม่ทุกคน ถ้าใครเข้ามาขอต้นฉบับ ให้คิดดีๆก่อน เพราะหลังจากเขาได้งานเราไปแล้ว นักเขียนหมดความหมายค่ะ
ขอบคุณที่รับฟัง