กระทู้นี้จะนำเสนอการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (Representative) และ สมาชิกวุฒิสภา (Senator) ของสหรัฐนะครับ
เชื่อว่าหลายๆท่านอาจทราบเกี่ยวกับขั้นตอนการเลือกตั้งประธานาธิบดีตามสื่อต่างๆได้นำเสนอ แต่ ส.ส. และ ส.ว. จะมีรายละเอียดต่างออกไป ซึ่งแต่ละรัฐก็ไม่เหมือนกันครับ
1. จำนวน ส.ส. และ ส.ว.
ส.ว. มีทั้งสิ้น 100 คน จาก 50 รัฐทั่วประเทศ รัฐละ 2 คน วาระ 6 ปี
ส.ส. มีทั้งสิ้น 435 คน จาก 50 รัฐ และ non-voting members 6 คน จาก District of Columbia, Gaum, Northern Marianas, American Samoa, Virgin Islands, Puerto Rico วาระ 2 ปี ยกเว้นจาก Puerto Rico มีวาระ 4 ปีครับ
คล้ายกับการเลือกตั้งประธานาธิบดี ดินแดนในอารักขาของสหรัฐจะมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคการเมืองได้ แต่ไม่สามารถเลือกประธานาธิบดีได้ สมาชิกในรัฐสภาจากดินแดนเหล่านั้นจะไม่สามารถโหวตผ่านร่างกฎหมายได้ สำหรับ ส.ส. จาก DC นั้นก็ไม่สามารถร่วมโหวตได้เช่นกัน ต่างจากการเลือกตั้ง ปธน. ที่คณะผู้แทนจาก DC มีสิทธิ์โหวต
ส.ส. ทั้ง 435 คน จะแบ่งตามจำนวนประชากรโดยวิธี Huntington-Hill
ซึ่งมีทั้งหมด 7 รัฐ ที่มีจำนวน ส.ส. เพียงคนเดียว ได้แก่ Alaska (AK), Delaware (DE), Montana (MT), North Dakota (ND), South Dakota (SD), Vermont (VT), Wyoming (WY) ฉะนั้น 7 รัฐนี้จะมีจำนวน ส.ว. มากกว่า ส.ส.
จำนวน ส.ส. มากที่สุดคือ California (CA) 53 คน รองลงไปคือ Texas (TX) 36 คน Florida (FL), New York (NY) 27 คน เท่ากัน
และรัฐอื่นๆ
Alabama (AL) 7, Arizona (AZ) 9, Arkansas (AR) 4,
Colorado (CO) 7, Connecticut (CT) 5, Georgia (GA) 14, Hawaii (HI) 2,
Idaho (ID) 2, Illinois (IL) 18, Indiana (IN) 9, Iowa (IA) 4,
Kansas (KS) 4, Kentucky (KY) 6, Louisiana (LA) 6, Maine (ME) 2,
Maryland (MD) 8, Massachusetts (MA) 9, Michigan (MI) 14,
Minnesota (MN) 8, Mississippi (MS) 4, Missouri (MO) 8,
Nebraska (NE) 3, Nevada (NV) 4, New Hampshire (NH) 2,
New Mexico (NM) 3, New Jersey (NJ) 12, North Carolina (NC) 13,
Ohio (OH) 16, Oklahoma (OK) 5, Oregon (OR) 5,
Pennsylvania (PA) 18, Rhode Island (RI) 2, South Carolina (SC) 7,
Tennessee (TN) 9, Utah (UT) 4, Virginia (VA) 11,
Washington (WA) 10, West Virginia (WV) 3, Wisconsin (WI) 8
ซึ่งการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ (Redistricting) จะทำทุกๆ 10 ปี ตามสำมโนประชากรที่ทำทุก 10 ปีเช่นกัน โดยอำนาจในการแบ่งเขตเลือกตั้งส่วนมากจะอยู่ที่ผู้ว่าการรัฐ โดยสภาประจำรัฐจะเป็นผู้แบ่งเขตเลือกตั้ง แต่ผู้ว่าการรัฐสามารถวีโต้ได้ แต่ในบางรัฐก็วีโต้ไม่ได้ และในบางรัฐใช้คณะกรรมการอิสระไม่สังกัดพรรคการเมืองเป็นผู้กำหนดเขตเลือกตั้ง ทำให้การเลือกตั้งรอบก่อนแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ มีความสำคัญมากๆ โดยเฉพาะ ผู้ว่าการรัฐ และสภาของรัฐ
เขตเลือกตั้งใหม่จะเริ่มใช้ในปี ค.ศ. ที่ลงท้ายด้วย 2 ซึ่งจะมีผลต่อจำนวน ส.ส. ที่แต่ละรัฐจะมี และจำนวนคณะผู้แทนสำหรับแต่ละรัฐในการเลือกตั้งประธานาธิบดี
2. ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับรัฐสภา (Congress)
ในปี 2018 นับเป็นปีที่ 2 ของรัฐสภาชุดที่ 115 ในการเลือกตั้งปี 2018 นี้จะเป็นการเลือกรัฐสภาชุดที่ 116 รัฐสภาแต่ละชุดจะเริ่มในวันที่ 3 มกราคมในปีถัดจากการมีการเลือกตั้งทั่วไป มีอายุ 2 ปี ทำให้การเลือกตั้งมีทุกๆ 2 ปีเช่นกัน ซึ่งสมาชิก 535 คน (ไม่รวม non-voting members) ไม่ได้หมดวาระพร้อมกันทุกคน โดยที่สภาผู้แทนราษฎร (House of Representative) ที่มีสมาชิก 435 คน จะมีวาระ 2 ปี จึงต้องลงเลือกตั้งทุกครั้ง แต่วุฒิสภา (Senate) จะมีสมาชิกเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น ที่ต้องลงเลือกตั้งใหม่ในแต่ละครั้ง และแต่ละครั้งในรัฐหนึ่งๆจะเลือก ส.ว. เพียงคนเดียว ส.ว. ที่ได้รับเลือกตั้งมาใหม่จะเรียกว่า Class 3 ผ่านไป 2 ปี เข้าสู่รัฐสภาชุดใหม่จะเป็น Class 2 ผ่านไปอีก 2 ปี เรียกว่า Class 1 ผ่านไปอีก 2 ปีก็หมดวาระต้องลงเลือกตั้งใหม่มาเป็น Class 3 ส.ว. ที่อายุงานมากกว่าก็จะเรียกเป็นรุ่นพี่ เช่น คุณ Richard Durbin เป็น Senior Senator จากรัฐ Illinois และคุณ Tammy Duckworth เป็น Junior Senator จากรัฐเดียวกัน นอกจากนี้ยังมี Seniority ของสมาชิกเพื่อใช้ในการจัดแจงตำแหน่งต่างๆอีกด้วย
ในกรณีที่มีการลาออกหรือเสียชีวิตของสมาชิก ก็ต้องเลือกเพื่อแทนที่ตำแหน่งนั้นๆ และจะมีวาระเท่ากับที่เหลืออยู่ของ ส.ว. หรือ ส.ส. ที่ลาออกหรือเสียชีวิตคนนั้น โดยผู้ว่าการรัฐของเจ้าของตำแหน่งเดิมจะแต่งตั้งให้มีคนไปทำหน้าที่แทน ส.ว. คนนั้นจนกว่า ส.ว. ที่ได้รับเลือกตั้งใหม่เข้ามาทำหน้าที่ แต่ในกรณี ส.ส. จะไม่มีการแต่งตั้งมาทำหน้าที่แทน ต้องรอเลือกตั้งใหม่เท่านั้น การเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างจะเรียกว่า Special Election ซึ่งในบางรัฐก็จะมีข้อกำหนดแตกต่างกันไป รูปแบบการเลือกตั้งก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนการเลือกตั้งแบบปกติ
ยกตัวอย่าง
รัฐ Minnesota คุณ Al Frankin และรัฐ Mississippi คุณ Thad Cochran ลาออกจากตำแหน่ง ผู้ว่าการรัฐทั้ง 2 แต่งตั้งสมาชิกเข้าไปทำหน้าที่แทน (Interim appointee) คุณ Tina Smith และคุณ Cindy Hyde-Smith ไปทำหน้าที่แทน ทั้งสองคนหากต้องการสมัครรับเลือกตั้งเพื่อทำหน้าที่ต่อในวาระที่เหลืออยู่จะต้องลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย
ในปี 2014 มี 33 คน (ปัจจุบัน Class 2) หมดวาระ AL, AK, AR, CO, DE, GA, ID, IL, IA, KS, KY, LA, ME, MA, MI, MN, MS, MT, NE, NH, NM, NJ, ND, NC, OK, OR, RI, SC, SD, TX, VA, WV, WY
ปี 2016 มี 34 คน (ปัจจุบัน Class 3) ที่หมดวาระ AL, AK, AZ, AR, CA, CT, CO, FL, GA, HI, ID, IL, IN, IA, KY, KS, LA, MD, MO, NV, NH, NY, NC, OH, OK, OR, PA, SC, SD, TN, UT, VT, WA, WI
และปีนี้ 2018 มี 33 คน (Class 1) ที่หมดวาระ AZ, CA, CT, DE, FL, HI, IN, ME, MD, MA, MI, MN, MS, MO, MT, NE, NV, NM, NJ, NY, ND, OH, PA, RI, TN, TX, UT, VT, VA, WA, WV, WI, WY
และวนไปเรื่อยๆ แต่ว่าปี 2018 มี ส.ว. 2 คนลาออกก่อนหมดวาระ (MN class 2, MS class 2) ทำให้ในปี 2018 จะต้องเลือก ส.ว. ทั้งสิ้น 35 คน
การเลือกตั้งเพื่อแทนตำแหน่งที่ว่างไม่จำเป็นว่าต้องเลือกในปีที่มีเลือกตั้งใหญ่เสมอไป และรูปแบบการเลือกตั้งก็อาจแตกต่างไปจากการเลือกตั้งปกติ
ตัวอย่างเช่น ปลายปีที่ผ่านมา (2017) รัฐ Alabama จัด Special election เพื่อแทนตำแหน่ง ส.ว. class 2 ของคุณ Jeff Session ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ซึ่งปกติการเลือกตั้งมักจะจัดในปีเลขคู่
อีกตัวอย่างหนึ่ง ในรัฐ Mississippi ต้องจัด Special election ซึ่งในปีเดียวกันนี้ คุณ Roger Wicker ก็หมดวาระเช่นเดียวกัน รัฐนี้จึงต้องเลือก ส.ว. 2 คน แต่การเลือกตั้งทั้ง 2 แตกต่างกัน โดยคุณ Roger Wicker จะมี primary แบบปกติ แต่ special election จะไม่มี primary ใช้แบบ Louisiana ซึ่งผมจะกล่าวในหัวข้อถัดไป
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาของประเทศสหรัฐอเมริกา
เชื่อว่าหลายๆท่านอาจทราบเกี่ยวกับขั้นตอนการเลือกตั้งประธานาธิบดีตามสื่อต่างๆได้นำเสนอ แต่ ส.ส. และ ส.ว. จะมีรายละเอียดต่างออกไป ซึ่งแต่ละรัฐก็ไม่เหมือนกันครับ
1. จำนวน ส.ส. และ ส.ว.
ส.ว. มีทั้งสิ้น 100 คน จาก 50 รัฐทั่วประเทศ รัฐละ 2 คน วาระ 6 ปี
ส.ส. มีทั้งสิ้น 435 คน จาก 50 รัฐ และ non-voting members 6 คน จาก District of Columbia, Gaum, Northern Marianas, American Samoa, Virgin Islands, Puerto Rico วาระ 2 ปี ยกเว้นจาก Puerto Rico มีวาระ 4 ปีครับ
คล้ายกับการเลือกตั้งประธานาธิบดี ดินแดนในอารักขาของสหรัฐจะมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคการเมืองได้ แต่ไม่สามารถเลือกประธานาธิบดีได้ สมาชิกในรัฐสภาจากดินแดนเหล่านั้นจะไม่สามารถโหวตผ่านร่างกฎหมายได้ สำหรับ ส.ส. จาก DC นั้นก็ไม่สามารถร่วมโหวตได้เช่นกัน ต่างจากการเลือกตั้ง ปธน. ที่คณะผู้แทนจาก DC มีสิทธิ์โหวต
ส.ส. ทั้ง 435 คน จะแบ่งตามจำนวนประชากรโดยวิธี Huntington-Hill
ซึ่งมีทั้งหมด 7 รัฐ ที่มีจำนวน ส.ส. เพียงคนเดียว ได้แก่ Alaska (AK), Delaware (DE), Montana (MT), North Dakota (ND), South Dakota (SD), Vermont (VT), Wyoming (WY) ฉะนั้น 7 รัฐนี้จะมีจำนวน ส.ว. มากกว่า ส.ส.
จำนวน ส.ส. มากที่สุดคือ California (CA) 53 คน รองลงไปคือ Texas (TX) 36 คน Florida (FL), New York (NY) 27 คน เท่ากัน
และรัฐอื่นๆ
Alabama (AL) 7, Arizona (AZ) 9, Arkansas (AR) 4,
Colorado (CO) 7, Connecticut (CT) 5, Georgia (GA) 14, Hawaii (HI) 2,
Idaho (ID) 2, Illinois (IL) 18, Indiana (IN) 9, Iowa (IA) 4,
Kansas (KS) 4, Kentucky (KY) 6, Louisiana (LA) 6, Maine (ME) 2,
Maryland (MD) 8, Massachusetts (MA) 9, Michigan (MI) 14,
Minnesota (MN) 8, Mississippi (MS) 4, Missouri (MO) 8,
Nebraska (NE) 3, Nevada (NV) 4, New Hampshire (NH) 2,
New Mexico (NM) 3, New Jersey (NJ) 12, North Carolina (NC) 13,
Ohio (OH) 16, Oklahoma (OK) 5, Oregon (OR) 5,
Pennsylvania (PA) 18, Rhode Island (RI) 2, South Carolina (SC) 7,
Tennessee (TN) 9, Utah (UT) 4, Virginia (VA) 11,
Washington (WA) 10, West Virginia (WV) 3, Wisconsin (WI) 8
ซึ่งการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ (Redistricting) จะทำทุกๆ 10 ปี ตามสำมโนประชากรที่ทำทุก 10 ปีเช่นกัน โดยอำนาจในการแบ่งเขตเลือกตั้งส่วนมากจะอยู่ที่ผู้ว่าการรัฐ โดยสภาประจำรัฐจะเป็นผู้แบ่งเขตเลือกตั้ง แต่ผู้ว่าการรัฐสามารถวีโต้ได้ แต่ในบางรัฐก็วีโต้ไม่ได้ และในบางรัฐใช้คณะกรรมการอิสระไม่สังกัดพรรคการเมืองเป็นผู้กำหนดเขตเลือกตั้ง ทำให้การเลือกตั้งรอบก่อนแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ มีความสำคัญมากๆ โดยเฉพาะ ผู้ว่าการรัฐ และสภาของรัฐ
เขตเลือกตั้งใหม่จะเริ่มใช้ในปี ค.ศ. ที่ลงท้ายด้วย 2 ซึ่งจะมีผลต่อจำนวน ส.ส. ที่แต่ละรัฐจะมี และจำนวนคณะผู้แทนสำหรับแต่ละรัฐในการเลือกตั้งประธานาธิบดี
2. ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับรัฐสภา (Congress)
ในปี 2018 นับเป็นปีที่ 2 ของรัฐสภาชุดที่ 115 ในการเลือกตั้งปี 2018 นี้จะเป็นการเลือกรัฐสภาชุดที่ 116 รัฐสภาแต่ละชุดจะเริ่มในวันที่ 3 มกราคมในปีถัดจากการมีการเลือกตั้งทั่วไป มีอายุ 2 ปี ทำให้การเลือกตั้งมีทุกๆ 2 ปีเช่นกัน ซึ่งสมาชิก 535 คน (ไม่รวม non-voting members) ไม่ได้หมดวาระพร้อมกันทุกคน โดยที่สภาผู้แทนราษฎร (House of Representative) ที่มีสมาชิก 435 คน จะมีวาระ 2 ปี จึงต้องลงเลือกตั้งทุกครั้ง แต่วุฒิสภา (Senate) จะมีสมาชิกเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น ที่ต้องลงเลือกตั้งใหม่ในแต่ละครั้ง และแต่ละครั้งในรัฐหนึ่งๆจะเลือก ส.ว. เพียงคนเดียว ส.ว. ที่ได้รับเลือกตั้งมาใหม่จะเรียกว่า Class 3 ผ่านไป 2 ปี เข้าสู่รัฐสภาชุดใหม่จะเป็น Class 2 ผ่านไปอีก 2 ปี เรียกว่า Class 1 ผ่านไปอีก 2 ปีก็หมดวาระต้องลงเลือกตั้งใหม่มาเป็น Class 3 ส.ว. ที่อายุงานมากกว่าก็จะเรียกเป็นรุ่นพี่ เช่น คุณ Richard Durbin เป็น Senior Senator จากรัฐ Illinois และคุณ Tammy Duckworth เป็น Junior Senator จากรัฐเดียวกัน นอกจากนี้ยังมี Seniority ของสมาชิกเพื่อใช้ในการจัดแจงตำแหน่งต่างๆอีกด้วย
ในกรณีที่มีการลาออกหรือเสียชีวิตของสมาชิก ก็ต้องเลือกเพื่อแทนที่ตำแหน่งนั้นๆ และจะมีวาระเท่ากับที่เหลืออยู่ของ ส.ว. หรือ ส.ส. ที่ลาออกหรือเสียชีวิตคนนั้น โดยผู้ว่าการรัฐของเจ้าของตำแหน่งเดิมจะแต่งตั้งให้มีคนไปทำหน้าที่แทน ส.ว. คนนั้นจนกว่า ส.ว. ที่ได้รับเลือกตั้งใหม่เข้ามาทำหน้าที่ แต่ในกรณี ส.ส. จะไม่มีการแต่งตั้งมาทำหน้าที่แทน ต้องรอเลือกตั้งใหม่เท่านั้น การเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างจะเรียกว่า Special Election ซึ่งในบางรัฐก็จะมีข้อกำหนดแตกต่างกันไป รูปแบบการเลือกตั้งก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนการเลือกตั้งแบบปกติ
ยกตัวอย่าง
รัฐ Minnesota คุณ Al Frankin และรัฐ Mississippi คุณ Thad Cochran ลาออกจากตำแหน่ง ผู้ว่าการรัฐทั้ง 2 แต่งตั้งสมาชิกเข้าไปทำหน้าที่แทน (Interim appointee) คุณ Tina Smith และคุณ Cindy Hyde-Smith ไปทำหน้าที่แทน ทั้งสองคนหากต้องการสมัครรับเลือกตั้งเพื่อทำหน้าที่ต่อในวาระที่เหลืออยู่จะต้องลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย
ในปี 2014 มี 33 คน (ปัจจุบัน Class 2) หมดวาระ AL, AK, AR, CO, DE, GA, ID, IL, IA, KS, KY, LA, ME, MA, MI, MN, MS, MT, NE, NH, NM, NJ, ND, NC, OK, OR, RI, SC, SD, TX, VA, WV, WY
ปี 2016 มี 34 คน (ปัจจุบัน Class 3) ที่หมดวาระ AL, AK, AZ, AR, CA, CT, CO, FL, GA, HI, ID, IL, IN, IA, KY, KS, LA, MD, MO, NV, NH, NY, NC, OH, OK, OR, PA, SC, SD, TN, UT, VT, WA, WI
และปีนี้ 2018 มี 33 คน (Class 1) ที่หมดวาระ AZ, CA, CT, DE, FL, HI, IN, ME, MD, MA, MI, MN, MS, MO, MT, NE, NV, NM, NJ, NY, ND, OH, PA, RI, TN, TX, UT, VT, VA, WA, WV, WI, WY
และวนไปเรื่อยๆ แต่ว่าปี 2018 มี ส.ว. 2 คนลาออกก่อนหมดวาระ (MN class 2, MS class 2) ทำให้ในปี 2018 จะต้องเลือก ส.ว. ทั้งสิ้น 35 คน
การเลือกตั้งเพื่อแทนตำแหน่งที่ว่างไม่จำเป็นว่าต้องเลือกในปีที่มีเลือกตั้งใหญ่เสมอไป และรูปแบบการเลือกตั้งก็อาจแตกต่างไปจากการเลือกตั้งปกติ
ตัวอย่างเช่น ปลายปีที่ผ่านมา (2017) รัฐ Alabama จัด Special election เพื่อแทนตำแหน่ง ส.ว. class 2 ของคุณ Jeff Session ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ซึ่งปกติการเลือกตั้งมักจะจัดในปีเลขคู่
อีกตัวอย่างหนึ่ง ในรัฐ Mississippi ต้องจัด Special election ซึ่งในปีเดียวกันนี้ คุณ Roger Wicker ก็หมดวาระเช่นเดียวกัน รัฐนี้จึงต้องเลือก ส.ว. 2 คน แต่การเลือกตั้งทั้ง 2 แตกต่างกัน โดยคุณ Roger Wicker จะมี primary แบบปกติ แต่ special election จะไม่มี primary ใช้แบบ Louisiana ซึ่งผมจะกล่าวในหัวข้อถัดไป