สวัสดี !! จากกระทู้ที่แล้วเราไปไทเปมา ก็กินตัวแตก
มาครั้งนี้เราไปหาโอปป้าที่เกาหลี ก็ตัวแตกเช่นเคย
ตามสไตล์ คือไม่ได้เน้นเที่ยวเท่าไหร่เล้ยยยย เน้นกิน กิน กิน อย่างเดียว!!!
เพราะการกิน คือการเที่ยวของเรา 55555+
เริ่มเลยนะ วันแรก !!
.
.
.
ทริปนี้เราไปตั้งแต่วันที่ 16-20 มีนาคม (ช่วงอากาศกำลังหนาววววววเลย) 5 วันก็จริง แต่ได้เที่ยวจริงๆแค่ 3 วัน
เดินทางไปกลับก็ล่อไป 2 วันละ วันแรกเราไปถึงประมาณบ่ายสาม กว่าจะนั่นโน้นนี่ มาถึงที่พักก็เย็นละ ทุ่มนึง
โชว์อาหารบนเครื่องนิดนึง สั่งล่วงหน้า 150 บาท ไก่เทอริยากิ ภาพไม่ตรงปกนิดหน่อย แต่รสชาติพอไปได้ ไม่ได้เริ่ดหรู แต่ก็พอได้
**เริ่มแรกจากการผ่าน ตม อันมีชื่อเสียงแสนโหดร้ายกัน
ด้วยความที่อ่านรีวิวมาเยอะมาก ก็เลยเตรียมเอกสารไปเยอะมากสำหรับการผ่านตม.โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นแผนการท่องเที่ยวในแต่ละวัน ใบรับรองการทำงาน สำเนาตั๋วเครื่องบินไปกลับ สำเนาเอกสารจองที่พัก ถ้าจะให้มากกว่าคงต้องสำเนาทะเบียนบ้านเกิดที่บ้านนอกแล้วล่ะ 555
โอเคตื่นเต้นใจเต้นตุ๊บๆ กลัวไม่ผ่าน ถ้าไม่ผ่านจะทำไงวะ กลับไทยเหรอ อับอายขายขี้หน้าประชาชีหมด พยายามทำหน้าตาให้ดูชิลที่สุด
โอเคถึงคิวละ เดินเข้าไปอย่างมุ่งมั่นและหน้าตาเป็นมิตรเบอร์สิบ ตุ๊ดๆๆๆๆๆติ๊ดๆๆๆๆ พิมพ์ด็อกแด็ก ก้มๆเงยๆมองๆ
และผ่านเฉย ไม่ถามไรเลย 5555 อ้าวๆๆๆๆ ทำไมบทจะง่ายก็ง่ายดาย นี่อิพกเอกสารมาเยอะมาก คือถ้าเจาะกระดูกงูมานึกว่าวิทยานิพนต์ ไม่ขอดูซักอย่าง หน้าตาคงแบบ Tourist จริงๆ นั่นแหละ
จากที่เราดูอะนะ ใครจะไปคือ อย่าแต่งตัวเวอร์วัง แต่งชิวๆ สบายๆ อย่าประโคมเยอะ กระเป๋าก็ธรรมดา อย่าแบรนด์เนมเยอะ จนแบบผิดสังเกต ทำสีหน้าสบายๆ เราไปแบบถูกต้อง อย่าไปกลัว สบตาอย่าหลบตา ถามอะไรก็ตอบไป มากี่คนก็บอกไป เค้าถามเพื่อนอยู่ไหนก็ชี้ไป เข้าไปถึงชิงพูดภาษาอังกฤษใส่เลยว่าแบบ เหยยย ไม่ไก่กานะเหวยยย แล้วยิ้มมมมมม (แต่นางก็จะหน้านิ่งๆหน่อยแบบ เหมือนโกรธอะไรฉัน) อย่าไปสน ยิ้มไปเพื่อความโปร่งสบาย
และคุณก็จะผ่านมาได้อย่างโปร่งสบายเหมือนไม่ได้ใส่อะไรเช่นกัน 5555+
อ่ะเข้ามาละ ก้ไปขึ้นรถไฟกันเพื่อเข้าเมือง เราซื้อบัตรรถไฟแบบนี้
ซื้อได้ตามMart ทั่วไป คือ .... จำราคาไม่ได้ คิดว่าประมาณ 4000 วอน ประมาณ 120 บาท เป็นค่าบัตร ละต้องไปเติมบัตรอีก ก็มีให้เลือกแบบ 1000 วอน 5000 วอน 10000 วอน ไรงี้ ก็เติมไปเลย 10000 วอน เพราะได้ใช้แน่นอน
เรานั่งรถไฟแบบที่จอดทุกสถานีอะ เดี๋ยวจะหารูปมาลงให้ คือเราพักที่ Hongik University Station ก็ยืนยาวๆไป ประมาณเกือบชั่วโมงเหมือนกันนะ
ไม่แน่ใจว่ารูปถูกรึเปล่า แต่ประมาณนี้แหละ ถ้าใครจะไปลง Seoul Station ก็จะมีแบบไม่จอดทุกสถานี แต่ไป Seoul Station ทีเดียวก็มี
คนเยอะมาก ไม่มีที่นั่ง ยืนไปยาวๆ ข้าวของพะรุงพะรัง หอบมาแต่เสื้อผ้า คงมีแต่คนไทยนี่แหละมั้งที่ซื้อเสื้อผ้าเพื่อไปถ่ายรูปต่างประเทศ เห็นฝรั่งมีแต่แบบเออตีกระเป๋าเปล่ามา ซื้อเสื้อผ้าในไทย "ฉันรักประเทศไทย" "ฉันรักถนนข้าวสาร" เพื่อใส่ในไทย 5555555
พอถึง Hongik ก็ขึ้นไปด้านบน หนาวมว๊ากกกกกกกกกก อ๊ากกก จากดินแดนอากาศร่วมเกือบ 40 มาเจอ 9 องศา นี่หนาวไปไม่ถูกเลยค่ะ กะเหรี่ยงตัวแข็ง
เดินหาที่พักกัน เดินวนไปวนมา กระเป๋าก็หนัก หลงอีก กว่าจะถึงร่วม 40 นาที แต่มาพบว่าคือมันไม่ได้ไกลจากสถานีรถไฟเลย วันอื่นแบบเดินชิวเลย วันแรกโคตรโง่ 5555555
เออเราไม่ได้ถ่ายรูปที่พักไว้เลยอะ ถ่ายได้แต่วีดีโอ Vlog คือที่พักที่เราไปพักชื่อว่า LEE & NO GUEST HOUSE
อยู่แถวสถานีรถไฟเลย ใกล้มหาลัย เดินนิดหน่อยชิวๆ ไปกัน 4 คน นอน 4 คืน หารกันตกคนละประมาณ 2906 บาท ซึ่งถือว่าไม่แพงเลย (เฉลี่ยคืนละ 727 บาท/คน เอง) ที่พักก็จะมี 2 ห้องนอน 1 ห้องโถงเล็กๆ มีโต๊ะ มีอ่างล้างจาน มีเครื่องทำน้ำดื่ม มีห้องน้ำ มีไดร์เป่าผม มีไมโครเวฟ มีตู้เย็น ก็ดูดีเชียวนะ เออละก็มีอาหารเช้าด้วย แบบลงมาทำกินกันเอง พวกปิ้งหนมปัง ทอดไข่ ไรงี้
กะเหรี่ยงเข้าที่พักก็เก็บของ แล้วรีบออกมาหาอะไรกิน เพราะหิวมากกกกกกกก
ร้านแรกที่เราจะไปกันเราเล็งไว้ตั้งแต่อยู่ไทย เห็นว่ามันเลื่องลือเหลือเกินนั่นคือ แกงกิมจิ "แซมาอึล ชิกตัง(새마을식당)"
ร้านอยู่ตรงย่านนั้นเลย ตรงพวกที่นักศึกษาเดินกันเยอะๆ ร้านอาหารเยอะๆ เยื้องๆตรงข้ามกับร้าน James Cheese ออกจาก Hongik University exit 8 ตรงมาเรื่อยๆๆๆๆตามถนน เจอวงเวียนเล็กๆ ละก็เลี้ยวซ้าย ร้านจะมีป้ายสีเหลืองๆใหญ่ๆ เมนูไฮไลท์คือหมูย่างหมักเนื้อนุ่มกับซุปกิมจิต้ม7นาที เสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ เจ้าแกงกิมจิดูเละๆนัวๆหน่อย แต่อร่อยเชียวนะ กินกับพวกหมูย่าง กับข้าว ตามด้วยผักดองต่างๆ (เค้าให้ตักผักได้เรื่อยๆด้วยนะ)
ละก็มีเสิร์ฟเหมือนแกงอะไรไม่รู้ แต่แบบเสิร์ฟเย็นอ้ะ เส้นเหมือนเส้นขนมจีน รสชาติก็เปรี้ยวๆเหมือนกิมจิซุป แต่เย็นๆนะมีน้ำแข็งลอยๆ ก็สดชื่นดีนะ ถ้ากินหน้าร้อนคงแบบคลายร้อนได้ดีเชียว
เบ็ดเสร็จแล้วมื้อนี้ตกคนละประมาณ 400 บาท (มื้ออาหารส่วนมากของเกาหลีจะตกราคาประมาณนี้) คือถ้าไป 4 คน เราต้องสั่งอาหารเซ็ทที่เพียงพอสำหรับ 4 คนนะ แบบจะมาสั่งเอาเซ็ทเดียวแบ่งกันกินไม่ได้
ท้องอิ่มแล้ว เดินช้อปปิ้งดีกว่า ที่เลือกพักตรงนี้เพราะมันเป็นย่านนักศึกษา มีของขายของกินเพียบ อีกอย่างเปิดดึกด้วย แบบ 5ทุ่มเที่ยงคืนยังคนเยอะอยู่เลย เดินไปเรื่อยๆ อาหารตาก็กรุบกริบ 55555 (ปล. อากาศหนาวสุดๆแม่คุณเอ้ยยยยยยย น่าจะแบบ5 องศาแล้วอ้ะตอนกลางคืน)
แว๊บมาเจอร้านนี้เป็น ชูโรส เป็นปาท่องโก๋สเปน สอดใส้ครีมต่างๆ ราคาก็ 2500-4000 วอน ก็ไม่แพงหรอก กินกรุบกริบ
เดินมาเจอร้านที่อยู่ในลิสเหมือนกัน นั่นคือร้าน O'sulloc Tea House สาขาฮงแด คือเป็นร้านที่ถ้าใครชอบชาเขียวไม่ควรพลาด!!! และเราก็ชอบชาเขียวมาก ก็เลยไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง 55555 (หาเรื่องกินนั่นเอง)
ช่องทางเข้าก็จะเล็กๆกิ่วๆหน่อย ขึ้นบันไดมาด้านบน เป็นร้านกระจกใหญ่ๆมองเห็นคนเดินตลาดด้านล่าง ชิวดีนะนี่นะ
เข้าไปก็สั่งเมนูที่เค้าแนะนำกันเล้ยยยยยยยยย น้ำแข็งใสชาเขียวใส่ถั่วแดงและโมจิ(ซึ่งหนาวมากแต่กินน้ำแข็งใส 5555) และแยมโรลชาเขียว
ส่วนตัวชอบน้ำแข็งใสมากกกกกกกกกกกก กอไก่อีกแปดล้านตัว คือแบบ ชาเขียวหอมมากๆๆๆๆ ไม่ขม ไม่หวานมาก คือดีอ้ะ ไม่รู้จะพูดอะไร กินได้เรื่อยๆไม่เลี่ยนเลย แต่ส่วนของแยมโรล ยังไม่ได้ขนาดนั้น แป้งมันแข็งไปหน่อยไม่ค่อยนิ่ม เรยแบบกินไปคำเดียว แต่ซัดน้ำแข็งใสซะสมองเกือบแข็งตัว 5555
เบ็ดเสร็จสองอย่างนี้ประมาณ14000วอน(410 บาท)
เออใครไปอย่าลืมซื้อแยมชาเขียวมานะ อร่อยมากกกกกกกกก กินกับขนมปังคือเข้มข้นเว่อร์ ราคากระปุกละประมาณ 300 บาท
ป่ะ เดินเล่นต่อ ของขายเยอะ และถูกด้วยนะจะว่าไป อาจเพราะย่านนักศึกษา ของไม่แพง เสื้อผ้าก็แบบ 150-300 บาท ได้เสื้อผ้าน้องหมามา น่าร๊ากมากกกก เคยเห็นในไทยขายตัวละ 350++ ที่นี่ขาย 2 ตัว 300 บาท (2ตัว 10000 วอน) ถูกไปอีก
เดินไปเดินมาชักหนาวววว ผ่านร้านข้างทาง เค้าขายพวกโอเด้งร้อนๆอ้ะ เคยเห็นนางเอกเกาหลีเค้ากินละก็ทำหน้าแบบฟินๆน่ารักๆ อยากน่ารักบ้างเลยแวะกิน (การแวะกินอะไรมีเหตุผลตลอด 555) ป้าแกก็จะขายพวกโอเด้ง ของทอดต่างๆ ไส้กรอกเลือด ต็อกป็อกกี ราคาก็แบบโอเด้งไม้ละ 2500 วอน(73 บาท) ราคาอันอื่นจำไม่ได้แต่ไม่แพงอ้ะ
จะบอกว่ารสชาติอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ เจ้าโอเด้งอ้ะ คือปกติเป็นคนไม่กินลูกชิ้นปลา แต่อันนี้แบบ เหยยยอร่อยไม่เหม็นคาว แล้วซดน้ำซุปเค้าตามนะ โคตรฟินท่ามกลางอากาศ 4 องศา แม่มมมดีเว่อรรรร์ และนับตั้งแต่รู้จักป้าโอเด้งแล้ว ก็กินป้าเกือบทุกวัน 55555 ป้าแบบ อิพวกกะเหรี่ยงนี่มาอีกละ 555
.
.
กินเสร็จก็เข้าที่พัก แต่เอ๊ะๆๆๆ ก่อนเข้า หนาวมากก็หาเรื่องแวะซื้อโซจูจิบแพร๊บบบบบบ ราคาถูกเยี่ยงน้ำเปล่า ตกขวดละ 40-50 บาทเองคุณ ที่ไทยเคยแอบเห็นในเซเว่น 195 บาท แหนะ
ในวันแรกนี้เราซื้อรสองุ่นกับเกร็ปฟรุ๊ตมา อร่อยใช้ได้เลย กินเพลินๆเมาเหมือนกันนะ 55555
พูดเผื่อวันที่สองเลยละกัน เราซื้อรสทับทิมกับรสออริจินัลมา
ทับทิมอะมันก็กินง่ายเพราะมีรสผลไม้หวานๆหอมๆนิดๆ เหมือนเช่น 2 รสแรก แต่ออริจินัลนี่สิ แทบพุ่ง คือเหมือนกินว้อดก้าเพียว กินไม่ไหว 555ทิ้ง!
ใครชอบหนักๆก็ลองซื้อกินได้ 5555 แต่เราแนะนำว่าเอามาผสมน้ำผลไม้กินก็จะง่ายกว่า
จบวันแรกด้วยท้องที่ใกล้แตก !!!! อิ่มขนาดดดดดดดดด
(วันแรกเรามีเวลาเที่ยวนิดเดียวเพราะอย่างที่บอกกว่าจะถึงที่พักก็ค่ำแล้ว ก็เลยได้แค่กินและเดินเล่นช้อปปิ้งกรุบกริบ กลับเข้าที่พักอีกทีก็เกือบ ตี1)
ฝาก VLOG สำหรับวันแรกไว้ด้วยค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=ufR6TbcbE7k
เจอกันใหม่วันที่สอง คร๊ะ ><
https://ppantip.com/topic/37550695
[CR] เที่ยวSEOULครั้งแรก แบบ งงๆ เน้นกินตัวแตกแหลกลาน 5 วัน 4 คืน (วันที่1)
มาครั้งนี้เราไปหาโอปป้าที่เกาหลี ก็ตัวแตกเช่นเคย
ตามสไตล์ คือไม่ได้เน้นเที่ยวเท่าไหร่เล้ยยยย เน้นกิน กิน กิน อย่างเดียว!!!
เพราะการกิน คือการเที่ยวของเรา 55555+
เริ่มเลยนะ วันแรก !!
.
.
.
ทริปนี้เราไปตั้งแต่วันที่ 16-20 มีนาคม (ช่วงอากาศกำลังหนาววววววเลย) 5 วันก็จริง แต่ได้เที่ยวจริงๆแค่ 3 วัน
เดินทางไปกลับก็ล่อไป 2 วันละ วันแรกเราไปถึงประมาณบ่ายสาม กว่าจะนั่นโน้นนี่ มาถึงที่พักก็เย็นละ ทุ่มนึง
โชว์อาหารบนเครื่องนิดนึง สั่งล่วงหน้า 150 บาท ไก่เทอริยากิ ภาพไม่ตรงปกนิดหน่อย แต่รสชาติพอไปได้ ไม่ได้เริ่ดหรู แต่ก็พอได้
**เริ่มแรกจากการผ่าน ตม อันมีชื่อเสียงแสนโหดร้ายกัน
ด้วยความที่อ่านรีวิวมาเยอะมาก ก็เลยเตรียมเอกสารไปเยอะมากสำหรับการผ่านตม.โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นแผนการท่องเที่ยวในแต่ละวัน ใบรับรองการทำงาน สำเนาตั๋วเครื่องบินไปกลับ สำเนาเอกสารจองที่พัก ถ้าจะให้มากกว่าคงต้องสำเนาทะเบียนบ้านเกิดที่บ้านนอกแล้วล่ะ 555
โอเคตื่นเต้นใจเต้นตุ๊บๆ กลัวไม่ผ่าน ถ้าไม่ผ่านจะทำไงวะ กลับไทยเหรอ อับอายขายขี้หน้าประชาชีหมด พยายามทำหน้าตาให้ดูชิลที่สุด
โอเคถึงคิวละ เดินเข้าไปอย่างมุ่งมั่นและหน้าตาเป็นมิตรเบอร์สิบ ตุ๊ดๆๆๆๆๆติ๊ดๆๆๆๆ พิมพ์ด็อกแด็ก ก้มๆเงยๆมองๆ
และผ่านเฉย ไม่ถามไรเลย 5555 อ้าวๆๆๆๆ ทำไมบทจะง่ายก็ง่ายดาย นี่อิพกเอกสารมาเยอะมาก คือถ้าเจาะกระดูกงูมานึกว่าวิทยานิพนต์ ไม่ขอดูซักอย่าง หน้าตาคงแบบ Tourist จริงๆ นั่นแหละ
จากที่เราดูอะนะ ใครจะไปคือ อย่าแต่งตัวเวอร์วัง แต่งชิวๆ สบายๆ อย่าประโคมเยอะ กระเป๋าก็ธรรมดา อย่าแบรนด์เนมเยอะ จนแบบผิดสังเกต ทำสีหน้าสบายๆ เราไปแบบถูกต้อง อย่าไปกลัว สบตาอย่าหลบตา ถามอะไรก็ตอบไป มากี่คนก็บอกไป เค้าถามเพื่อนอยู่ไหนก็ชี้ไป เข้าไปถึงชิงพูดภาษาอังกฤษใส่เลยว่าแบบ เหยยย ไม่ไก่กานะเหวยยย แล้วยิ้มมมมมม (แต่นางก็จะหน้านิ่งๆหน่อยแบบ เหมือนโกรธอะไรฉัน) อย่าไปสน ยิ้มไปเพื่อความโปร่งสบาย
และคุณก็จะผ่านมาได้อย่างโปร่งสบายเหมือนไม่ได้ใส่อะไรเช่นกัน 5555+
อ่ะเข้ามาละ ก้ไปขึ้นรถไฟกันเพื่อเข้าเมือง เราซื้อบัตรรถไฟแบบนี้
ซื้อได้ตามMart ทั่วไป คือ .... จำราคาไม่ได้ คิดว่าประมาณ 4000 วอน ประมาณ 120 บาท เป็นค่าบัตร ละต้องไปเติมบัตรอีก ก็มีให้เลือกแบบ 1000 วอน 5000 วอน 10000 วอน ไรงี้ ก็เติมไปเลย 10000 วอน เพราะได้ใช้แน่นอน
เรานั่งรถไฟแบบที่จอดทุกสถานีอะ เดี๋ยวจะหารูปมาลงให้ คือเราพักที่ Hongik University Station ก็ยืนยาวๆไป ประมาณเกือบชั่วโมงเหมือนกันนะ
ไม่แน่ใจว่ารูปถูกรึเปล่า แต่ประมาณนี้แหละ ถ้าใครจะไปลง Seoul Station ก็จะมีแบบไม่จอดทุกสถานี แต่ไป Seoul Station ทีเดียวก็มี
คนเยอะมาก ไม่มีที่นั่ง ยืนไปยาวๆ ข้าวของพะรุงพะรัง หอบมาแต่เสื้อผ้า คงมีแต่คนไทยนี่แหละมั้งที่ซื้อเสื้อผ้าเพื่อไปถ่ายรูปต่างประเทศ เห็นฝรั่งมีแต่แบบเออตีกระเป๋าเปล่ามา ซื้อเสื้อผ้าในไทย "ฉันรักประเทศไทย" "ฉันรักถนนข้าวสาร" เพื่อใส่ในไทย 5555555
พอถึง Hongik ก็ขึ้นไปด้านบน หนาวมว๊ากกกกกกกกกก อ๊ากกก จากดินแดนอากาศร่วมเกือบ 40 มาเจอ 9 องศา นี่หนาวไปไม่ถูกเลยค่ะ กะเหรี่ยงตัวแข็ง
เดินหาที่พักกัน เดินวนไปวนมา กระเป๋าก็หนัก หลงอีก กว่าจะถึงร่วม 40 นาที แต่มาพบว่าคือมันไม่ได้ไกลจากสถานีรถไฟเลย วันอื่นแบบเดินชิวเลย วันแรกโคตรโง่ 5555555
เออเราไม่ได้ถ่ายรูปที่พักไว้เลยอะ ถ่ายได้แต่วีดีโอ Vlog คือที่พักที่เราไปพักชื่อว่า LEE & NO GUEST HOUSE
อยู่แถวสถานีรถไฟเลย ใกล้มหาลัย เดินนิดหน่อยชิวๆ ไปกัน 4 คน นอน 4 คืน หารกันตกคนละประมาณ 2906 บาท ซึ่งถือว่าไม่แพงเลย (เฉลี่ยคืนละ 727 บาท/คน เอง) ที่พักก็จะมี 2 ห้องนอน 1 ห้องโถงเล็กๆ มีโต๊ะ มีอ่างล้างจาน มีเครื่องทำน้ำดื่ม มีห้องน้ำ มีไดร์เป่าผม มีไมโครเวฟ มีตู้เย็น ก็ดูดีเชียวนะ เออละก็มีอาหารเช้าด้วย แบบลงมาทำกินกันเอง พวกปิ้งหนมปัง ทอดไข่ ไรงี้
กะเหรี่ยงเข้าที่พักก็เก็บของ แล้วรีบออกมาหาอะไรกิน เพราะหิวมากกกกกกกก
ร้านแรกที่เราจะไปกันเราเล็งไว้ตั้งแต่อยู่ไทย เห็นว่ามันเลื่องลือเหลือเกินนั่นคือ แกงกิมจิ "แซมาอึล ชิกตัง(새마을식당)"
ร้านอยู่ตรงย่านนั้นเลย ตรงพวกที่นักศึกษาเดินกันเยอะๆ ร้านอาหารเยอะๆ เยื้องๆตรงข้ามกับร้าน James Cheese ออกจาก Hongik University exit 8 ตรงมาเรื่อยๆๆๆๆตามถนน เจอวงเวียนเล็กๆ ละก็เลี้ยวซ้าย ร้านจะมีป้ายสีเหลืองๆใหญ่ๆ เมนูไฮไลท์คือหมูย่างหมักเนื้อนุ่มกับซุปกิมจิต้ม7นาที เสิร์ฟกับข้าวสวยร้อนๆ เจ้าแกงกิมจิดูเละๆนัวๆหน่อย แต่อร่อยเชียวนะ กินกับพวกหมูย่าง กับข้าว ตามด้วยผักดองต่างๆ (เค้าให้ตักผักได้เรื่อยๆด้วยนะ)
ละก็มีเสิร์ฟเหมือนแกงอะไรไม่รู้ แต่แบบเสิร์ฟเย็นอ้ะ เส้นเหมือนเส้นขนมจีน รสชาติก็เปรี้ยวๆเหมือนกิมจิซุป แต่เย็นๆนะมีน้ำแข็งลอยๆ ก็สดชื่นดีนะ ถ้ากินหน้าร้อนคงแบบคลายร้อนได้ดีเชียว
เบ็ดเสร็จแล้วมื้อนี้ตกคนละประมาณ 400 บาท (มื้ออาหารส่วนมากของเกาหลีจะตกราคาประมาณนี้) คือถ้าไป 4 คน เราต้องสั่งอาหารเซ็ทที่เพียงพอสำหรับ 4 คนนะ แบบจะมาสั่งเอาเซ็ทเดียวแบ่งกันกินไม่ได้
ท้องอิ่มแล้ว เดินช้อปปิ้งดีกว่า ที่เลือกพักตรงนี้เพราะมันเป็นย่านนักศึกษา มีของขายของกินเพียบ อีกอย่างเปิดดึกด้วย แบบ 5ทุ่มเที่ยงคืนยังคนเยอะอยู่เลย เดินไปเรื่อยๆ อาหารตาก็กรุบกริบ 55555 (ปล. อากาศหนาวสุดๆแม่คุณเอ้ยยยยยยย น่าจะแบบ5 องศาแล้วอ้ะตอนกลางคืน)
แว๊บมาเจอร้านนี้เป็น ชูโรส เป็นปาท่องโก๋สเปน สอดใส้ครีมต่างๆ ราคาก็ 2500-4000 วอน ก็ไม่แพงหรอก กินกรุบกริบ
เดินมาเจอร้านที่อยู่ในลิสเหมือนกัน นั่นคือร้าน O'sulloc Tea House สาขาฮงแด คือเป็นร้านที่ถ้าใครชอบชาเขียวไม่ควรพลาด!!! และเราก็ชอบชาเขียวมาก ก็เลยไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง 55555 (หาเรื่องกินนั่นเอง)
ช่องทางเข้าก็จะเล็กๆกิ่วๆหน่อย ขึ้นบันไดมาด้านบน เป็นร้านกระจกใหญ่ๆมองเห็นคนเดินตลาดด้านล่าง ชิวดีนะนี่นะ
เข้าไปก็สั่งเมนูที่เค้าแนะนำกันเล้ยยยยยยยยย น้ำแข็งใสชาเขียวใส่ถั่วแดงและโมจิ(ซึ่งหนาวมากแต่กินน้ำแข็งใส 5555) และแยมโรลชาเขียว
ส่วนตัวชอบน้ำแข็งใสมากกกกกกกกกกกก กอไก่อีกแปดล้านตัว คือแบบ ชาเขียวหอมมากๆๆๆๆ ไม่ขม ไม่หวานมาก คือดีอ้ะ ไม่รู้จะพูดอะไร กินได้เรื่อยๆไม่เลี่ยนเลย แต่ส่วนของแยมโรล ยังไม่ได้ขนาดนั้น แป้งมันแข็งไปหน่อยไม่ค่อยนิ่ม เรยแบบกินไปคำเดียว แต่ซัดน้ำแข็งใสซะสมองเกือบแข็งตัว 5555
เบ็ดเสร็จสองอย่างนี้ประมาณ14000วอน(410 บาท)
เออใครไปอย่าลืมซื้อแยมชาเขียวมานะ อร่อยมากกกกกกกกก กินกับขนมปังคือเข้มข้นเว่อร์ ราคากระปุกละประมาณ 300 บาท
ป่ะ เดินเล่นต่อ ของขายเยอะ และถูกด้วยนะจะว่าไป อาจเพราะย่านนักศึกษา ของไม่แพง เสื้อผ้าก็แบบ 150-300 บาท ได้เสื้อผ้าน้องหมามา น่าร๊ากมากกกก เคยเห็นในไทยขายตัวละ 350++ ที่นี่ขาย 2 ตัว 300 บาท (2ตัว 10000 วอน) ถูกไปอีก
เดินไปเดินมาชักหนาวววว ผ่านร้านข้างทาง เค้าขายพวกโอเด้งร้อนๆอ้ะ เคยเห็นนางเอกเกาหลีเค้ากินละก็ทำหน้าแบบฟินๆน่ารักๆ อยากน่ารักบ้างเลยแวะกิน (การแวะกินอะไรมีเหตุผลตลอด 555) ป้าแกก็จะขายพวกโอเด้ง ของทอดต่างๆ ไส้กรอกเลือด ต็อกป็อกกี ราคาก็แบบโอเด้งไม้ละ 2500 วอน(73 บาท) ราคาอันอื่นจำไม่ได้แต่ไม่แพงอ้ะ
จะบอกว่ารสชาติอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ เจ้าโอเด้งอ้ะ คือปกติเป็นคนไม่กินลูกชิ้นปลา แต่อันนี้แบบ เหยยยอร่อยไม่เหม็นคาว แล้วซดน้ำซุปเค้าตามนะ โคตรฟินท่ามกลางอากาศ 4 องศา แม่มมมดีเว่อรรรร์ และนับตั้งแต่รู้จักป้าโอเด้งแล้ว ก็กินป้าเกือบทุกวัน 55555 ป้าแบบ อิพวกกะเหรี่ยงนี่มาอีกละ 555
.
.
กินเสร็จก็เข้าที่พัก แต่เอ๊ะๆๆๆ ก่อนเข้า หนาวมากก็หาเรื่องแวะซื้อโซจูจิบแพร๊บบบบบบ ราคาถูกเยี่ยงน้ำเปล่า ตกขวดละ 40-50 บาทเองคุณ ที่ไทยเคยแอบเห็นในเซเว่น 195 บาท แหนะ
ในวันแรกนี้เราซื้อรสองุ่นกับเกร็ปฟรุ๊ตมา อร่อยใช้ได้เลย กินเพลินๆเมาเหมือนกันนะ 55555
พูดเผื่อวันที่สองเลยละกัน เราซื้อรสทับทิมกับรสออริจินัลมา
ทับทิมอะมันก็กินง่ายเพราะมีรสผลไม้หวานๆหอมๆนิดๆ เหมือนเช่น 2 รสแรก แต่ออริจินัลนี่สิ แทบพุ่ง คือเหมือนกินว้อดก้าเพียว กินไม่ไหว 555ทิ้ง!
ใครชอบหนักๆก็ลองซื้อกินได้ 5555 แต่เราแนะนำว่าเอามาผสมน้ำผลไม้กินก็จะง่ายกว่า
จบวันแรกด้วยท้องที่ใกล้แตก !!!! อิ่มขนาดดดดดดดดด
(วันแรกเรามีเวลาเที่ยวนิดเดียวเพราะอย่างที่บอกกว่าจะถึงที่พักก็ค่ำแล้ว ก็เลยได้แค่กินและเดินเล่นช้อปปิ้งกรุบกริบ กลับเข้าที่พักอีกทีก็เกือบ ตี1)
ฝาก VLOG สำหรับวันแรกไว้ด้วยค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=ufR6TbcbE7k
เจอกันใหม่วันที่สอง คร๊ะ ><
https://ppantip.com/topic/37550695