Part 1 >>> https://ppantip.com/topic/37548795
Part 3 >>> https://ppantip.com/topic/37549287

Day 2

หลังจากตะลุยโตเกียวในวันแรกไปแล้ว วันนี้เรามาเปลี่ยนบรรยากาศไปเมืองรอบนอกกันบ้าง การเดินทางในวันนี้จะเป็นแบบ One-day trip และเมืองที่เราจะไปกันก็คือ Hakone นั่นเอง

สำหรับการเดินทางจากโตเกียวไป Hakone รวมทั้งการเดินทางภายใน Hakone เราจะใช้ Hakone free pass ที่ได้ซื้อมาจาก H.I.S Thailand .. เป็น Pass ที่ให้เราขึ้นพาหนะได้แทบทุกชนิดใน Hakone ได้ฟรี (เพราะเสียค่า Pass ไปแล้วนั่นเอง) .. ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย

เดินทางจาก Shinjuku station โดยรถไฟ Odakyu ใช้ระยะเวลาเดินทาง 1 ชม. 40 นาที ไปถึง Odawara station เพื่อต่อรถไฟสาย Hakone tozan line เมื่อถึงสถานีรถไฟ Hakone-Yumoto station เราเริ่มต้น Route การเดินทางในวันนี้ด้วยการนั่งรถบัสไปยังท่าเรือ Motohakone-ko


บรรยากาศบริเวณโดยรอบท่าเรือ Motohakone-ko


หลังจากรถบัสพาเรามาถึงที่ Motohakone-ko เวลา 11.20น. เรามีเวลาประมาณ 30 นาที ก่อนที่เรือจะมา ใกล้ๆกับท่าเรือมีอีกหนึ่งจุดสนใจที่สามารถไปเดินเล่นได้ระหว่างรอเรือนั่นคือ ด่าน Hakone (Hakone Checkpoint) ในอดีตเคยเป็นด่านสำคัญในการควบคุมการจารจรทางหลวงโทไกโด ที่เชื่อมต่อระหว่างโตเกียวและเกียวโตในสมัยเอโดะ ตั้งอยู่ระหว่าง Motohakone-ko และ Hakone-machi ชายฝั่งทะเลสาบอาชิโนโกะ


11.50น. ได้เวลาขึ้นเรือกันแล้ว Hakone sightseeing cruise เรือโจรสลัดประจำน่านน้ำทะเลสาบอาชิ(Ashi lake) แน่นอนว่าขึ้นฟรีเพราะเรามี Hakone free pass นั่นเอง .. บรรยากาศการล่องเรือโจรสลัดในทะเลสาบฟินๆแบบนี้คงหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในญี่ปุ่น .. เรือโจรสลัดที่นี่จะมีด้วยกัน 3 ลำ คือ เรือโรไวยัล II, เรือเพอร์เซอร์ และเรือวิคโตรี ซึ่งแต่ละลำจะมีลักษณะและสีที่แตกต่างกัน สำหรับครั้งนี้เรือที่เราขึ้นคือ เรือเพอร์เซอร์ เป็นเรือโจรสลัดสีเขียว


ระหว่างออกมารับลมหนาวบนดาดฟ้าเรือเรายังสามารถมองเห็นทิวทัศน์สวยๆของทะเลสาบ Ashi ได้อย่างกว้างขวาง


หลังจากเดินทางผ่านเรือมาถึงปลายทางคือท่าเรือ Togendai-ko เป็นท่าเรือที่เป็นทางขึ้นของกระเช้า Hakone ropeway ที่จะพาเราไปสู่หุบเขาไข่ดำ Owakudani นั่นเอง ระหว่างทางขึ้นกระเช้ายังสามารถมองเห็นวิวสวยๆของ Hakone ได้อีกด้วย


เมื่อมาถึง Owakudani สิ่งแรกที่เรารู้สึกคือความสวยงามของหุบเขาสีเหลืองส้มที่มีไอของน้ำพุร้อนโพยพุ่งขึ้นมาจากบ่อกำมะถัน จึงเป็นที่มาของชื่อ Owakudani sulfur springs .. คนที่นี่จะนำไข่มาต้มในบ่อกำมะถันทำให้เปลือกไข่เปลี่ยนเป็นสีดำ และมีความเชื่อว่าหากได้ทานไข่ดำ 1 ฟอง จะมีอายุยืนเพิ่มขึ้นอีก 7 ปี ความเชื่อนี้ทำให้ Owakudani เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว Hakone ต้องไม่พลาด .. ไข่ดำจะขายเป็นแพ็คๆละ 5 ฟอง ราคา 500 เยน (ตกฟองละ 100 เยน)


มื้อเที่ยงวันนี้เป็นบุฟเฟต์ที่ Owakudani ตักไม่อั้น


หลังชมความงดงามกันไปพอสมควรก็ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้ว .. เราใช้เส้นทาง Hakone tozan cable car ไปลงที่ Hakone-Yumoto station และต่อรถไฟ Hakone tozan line ไปลงสถานี Odawara เพื่อขึ้นรถไฟ Odakyu กลับไปที่ชินจุกุ


หลังจากกลับถึงชินจุกุ วันนี้เรามาลองชิมราเมนชื่อดังในย่านชินจุกุนั่นคือ ราเมนข้อสอบ นั่นเอง


ราเมนข้อสอบหรือ Ichiran ramen เป็นร้านราเมนที่มีสไตล์ของร้านและการเสิร์ฟอาหารที่ให้บรรยากาศเหมือนการแจกข้อสอบ เราจะสั่งราเมนโดยยื่นกระดาษให้กับพนักงานผ่านโต๊ะที่มีแผ่นไม้คั่นทำให้ไม่สามารถเห็นหน้าพนักงานได้


ราเมนของที่นี่จะมีสูตรเดียวเท่านั้น แต่เราสามารถเลือกปรับความเข้มของน้ำซุป ความแข็งอ่อนของเส้น ระดับความเผ็ด และอีกหลายๆอย่างได้ตามใจชอบ